ตอนที่ 2776 หนึ่งต่อหกสิบ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2776 หนึ่งต่อหกสิบ!
“คลื่นพลังนี้มันคืออะไรกัน?”

“ดูเหมือนจะเป็นคลื่นพลังของจักรพรรดิเซียนทั้งสิ้นเลย! นี่มันต้องมีจักรพรรดิเซียนอยู่กี่คนกันถึงจะปล่อยคลื่นพลังเช่นนี้ออกมาได้?”

“นี่มันทิศของพันธมิตรโอสถสาขายุทธมั่น ข้าว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่แล้ว!”

เงาร่างมากมายต่างพุ่งตัวเข้ามาล้อมคนพันธมิตรโอสถไว้รอบด้าน

ด้วยจักรพรรดิเซียนหกสิบคนมารวมตัวกันนี้คลื่นพลังของมันย่อมจะยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดที่เคยปรากฏขึ้นบนทวีปพิรุณใส!

ยิ่งใหญ่แค่ไหนแค่มองก็รู้ได้!

คลื่นพลังของคนทั้งหลายนั้นไม่มีการปิดบังใดๆ มันจึงแผ่ออกไปกว้างไกลจนทำให้คนทั้งหลายต้องตื่นตะลึง!

เหล่าคนพันธมิตรโอสถทุกคนนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้น

ทวีปพิรุณใสมันมีจักรพรรดิเซียนมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

“คิดใช้จำนวนเข้าสู้หรือ? หึๆ ข้าไม่กลัวที่จะใช้จำนวนเข้าสู้หรอกนะ!” เย่หยวนยิ้มเย้ยหลี่ฉางเซิงที่ยื่นตัวแข็งทื่ออยู่

หลี่ฉางเซิงนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกมองไปรอบๆ

เขานั้นแอบวางแผนบนทวีปพิรุณใสมากกว่าหมื่นปีและยังหาทรัพยากรมาช่วยบรรลุคนได้แค่นี้

ใครจะไปคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับใช้เวลาแค่ร้อยปีสร้างจักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้กว่าหกสิบคน!

กองทัพจักรพรรดิเซียน!

เจ้าหมอนี่มันยังเป็นคนอยู่หรือไม่?

สิ่งที่น่าคับแค้นใจที่สุดนั้นก็คือตัวเขานี้เพิ่งจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้!

เหล่าลูกน้องของหลี่ฉางเซิงนั้นได้แต่ต้องยืนหน้าซีดกลางวงล้อม

สีหน้าของพวกเขานั้นมันไม่ได้ต่างจากสีหน้าของคนนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเมื่อครานั้นเลย!

ต่อให้จะเป็นใครสักวันกรรมมันก็จะตามมาถึง เวลานี้มันถึงตาของพวกเขาที่ต้องสิ้นหวังแล้ว!

หากนับรวมเย่หยวนเข้าไปด้วยพวกเขาก็จะมีจำนวนจักรพรรดิเซียนถึงหกสิบเอ็ดคน มากกว่าฝ่ายพันธมิตรโอสถไปเกือบสี่เท่า!

“ต้าวหยุน เจ้าคิดต่อต้านข้าหรือ? สิ่งใดที่เย่หยวนมันให้เจ้าได้ข้าก็ย่อมจะให้เจ้าได้เช่นกัน! ถอนตัวไปเสียแล้วข้าจะสาบานต่อเต๋าสวรรค์เลยว่าข้าจะช่วยเจ้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นปลายในวันหน้า!” หลี่ฉางเซิงนั้นหันไปร้องต่อรองกับต้าวหยุน

เขานั้นรู้เลยว่าที่คนทั้งหลายมารวมตัวกันนี้มันย่อมจะมีความต้องการที่แตกต่างกัน

การรวมตัวกันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นหนึ่งเดียวกัน!

เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่เขาทำลายผลประโยชน์ร่วมของคนทั้งหลายลงได้แล้วตัวเขาก็อาจจะพาหาทางหนีรอดไปได้

ต้าวหยุนนั้นมองหน้าหลี่ฉางเซิงก่อนจะหัวเราะตอบกลับไป “หลี่ฉางเซิง สมองเจ้าพังไปหมดแล้วหรือ? หลายปีมานี้เจ้าทำอย่างกับพวกเราเหล่าจักรพรรดิเซียนเป็นหมูเป็นหมา เจ้าคิดว่าเรามองไม่ออกหรือ? ใช่แล้ว เจ้านั้นคือนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้า แต่ตอนนี้เย่หยวนเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาแล้ว เขานั้นก็เป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าเช่นกัน! ทำไมข้าถึงต้องไปช่วยเจ้าอีก?”

จื่อหยางนั้นกล่าวขึ้นมาตาม “หลี่ฉางเซิง เลิกคิดอะไรโง่ๆ เถอะ! เรานั้นมิใช่เด็กสามขวบให้เจ้ามาหลอกเล่น! ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าดูฟ้าที่เปี่ยมไปด้วยจักรพรรดิเซียนนี้เถอะ เจ้าคิดว่าตัวเองยังจะมีอะไรมาต่อรองเทียบเย่หยวนได้?”

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายย่อมจะไม่มีใครคิดเชื่อคำของหลี่ฉางเซิงเลย!

แต่ละคำพูดของคนทั้งหลายนี้มันช่างเฉียบคม

หลี่ฉางเซิงได้แต่ต้องทำหน้าดำหน้าแดงเมื่อได้ยินมัน

เรื่องนี้มันเหนือคาดจนเกินไป เขานั้นไม่ได้เตรียมอะไรติดตัวมาเพื่อรับมือเลย

ใครจะไปคิดว่าจักรพรรดิเซียนมากมายขนาดนี้จู่ๆ มันจะปรากฏขึ้นบนทวีปพิรุณใสที่ขาดแคลนทรัพยากรนี้ได้?

เย่หยวนมองหน้าหลี่ฉางเซิงด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “หลี่ฉางเซิง เลิกเปลืองน้ำลายได้แล้ว! ราชาที่ดีนั้นจะได้รับการสนับสนุนแม้ในยามคับคัน ส่วนราชาที่เลวร้ายนั้นจะถูกประชาชนกระทืบซ้ำในตอนที่เสียเปรียบ! เจ้านั้นมีพลังแต่กลับคิดจับทวีปพิรุณใสนี้ให้เป็นทาสของตน ถึงเวลานี้แล้วเจ้ายังคิดอยากให้พวกเขามายืนข้างตัวเจ้าอีกหรือ?

“ข้านั้นได้สัญญากับเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายไว้แล้วว่าหลังทำลายพันธมิตรโอสถลงนั้นข้าจะตั้งศาลาโอสถขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งสั่งสอนวิชาโอสถให้คนทั้งหลายได้เรียนรู้อย่างไม่มีกีดกัน! เต๋าโอสถนั้นคือเส้นทางราชัน มันควรจะเป็นประโยชน์ให้คนทั้งโลกมิใช่แค่ถูกใครบางคนเอาไปหาผลประโยชน์เช่นนี้! ที่สำคัญไปกว่านั้นเต๋าโอสถของข้านั้น…มันเหนือล้ำเจ้าไปแล้วด้วย!”

ตอนที่เขาผ่านเต๋าทุกข์นั้นหลี่ฉางเซิงเองก็ต้องกลืนโอสถสวรรค์ระดับห้าไปหลายเม็ดด้วยกัน เย่หยวนย่อมจะเห็นชัดเจนแก่สายตา

แม้ว่าโอสถสวรรค์พวกนั้นมันจะมีคุณภาพพอใช้งานแต่ว่าสำหรับมาตรฐานของเย่หยวนแล้วมันย่อมจะเป็นได้แค่ของเสีย

ตอนนี้เขาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาแล้ว แม้ว่าจะยังไม่อาจหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าระดับแท้ขึ้นมาได้แต่ระดับเก้านั้นก็มิใช่เรื่องยากเกินมือ!

ส่วนโอสถที่หลี่ฉางเซิงหยิบออกมาใช้นั้นมันเป็นเพียงแค่โอสถสวรรค์ระดับเจ็ดหรือแปดเท่านั้น

“ฮ่าๆๆ…”

หลี่ฉางเซิงหัวเราะลั่นขึ้นมา “เจ้าสัตว์ประหลาด เจ้าคิดหรือว่าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาแล้วเจ้าจะเอาชนะข้าได้? ข้านั้นมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่จนเจ้าไม่อาจจินตนาการได้! ต่อให้จะเป็นสิบเจ็ดต่อหกสิบเอ็ด เจ้าคิดว่าเข้านั้นจะต่อต้านเจ้าไม่ได้เลย?”

พูดไปหลี่ฉางเซิงก็ปลดปล่อยคลื่นพลังล้นฟ้าออกมา

รอบๆ ตัวเขานั้นมันปรากฏพลังสองกฎผสานเข้าเป็นหนึ่ง กลายร่างเป็นดาบสีทอง!

รูปร่างของดาบสีทองนี้มันเหมือนกับดาบแยกประสบไม่มีผิดเพี้ยน

แปลงยอดเต๋ารูปแบบสี่!

สีหน้าของเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันที

จักรพรรดิเซียนขั้นสุดนั้นมันกลับมีแปลงยอดเต๋ารูปแบบที่สี่ นี่มิใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว!

เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่คิดเกรงกลัว “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว มันมิใช่สิบเจ็ดต่อหกสิบเอ็ด แต่เป็นหนึ่งต่อหกสิบ! ต้าหวง ข้าฝากเจ้าจัดการมันด้วย คนที่เหลือนั้น…ข้าคนเดียวก็พอ!”

หลี่ฉางเซิงนั้นผงะไปทันทีเพราะเย่หยวนพูดไปก็ขยับร่างพุ่งตัวออกไปแล้ว!

ร่างของเขาหายวับไปก่อนจะเห็นปราณดาบที่พุ่งเข้าใส่จ้าวติง

จ้าวติงนั้นหน้าซีดขาวลงทันทีเพราะสัมผัสได้ชัดเจนว่ามันไม่มีที่จะหลบดาบนี้ได้!

แข็งแกร่ง!

เย่หยวนที่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมานี้แข็งแกร่งจนทำให้เขาต้องขนลุกทั้งร่าง!

ฉัวะ!

ร่างของจ้าวติงถูกตัดขาดเป็นสองท่อนอย่างไม่อาจป้องกัน!

จ้าวติงตาย!

หลี่ฉางเซิงนั้นกัดฟันแน่นแต่ก่อนจะทันได้ทำอะไรพวกต้าหวงก็เข้ามาประชิดตัวเขาแล้ว

หากคนทั้งหกสิบนั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียนขั้นต้นตัวหลี่ฉางเซิงอาจจะยังพอรับมือได้

แต่น่าเสียดายที่ต้าหวงและมารกระทิงนั้นอยู่ในกลุ่มคนทั้งหลายนี้ด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้าหวงนั้นเขาสามารถเอาชนะศิษย์พันอันดับแรกของห้องฝึกฝนแห่งวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

การจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ต้าหวงย่อมจะไม่ได้อ่อนแอกว่าศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างหลี่ฉางเซิงเลย!

ไม่สิ ควรจะบอกว่าต้าหวงนั้นเหนือล้ำกว่าหลี่ฉางเซิงถึงจะถูก!

เพราะว่าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะเอานิกายยาสุดล้ำไปเทียบ

เพราะฉะนั้นเขาจึงสามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ไม่ยาก!

นอกจากนั้นแล้วตัวหลี่ฉางเซิงยังถูกเต๋าทุกข์ที่เย่หยวนเรียกลงมาโจมตีไปกว่าสิบครั้ง แม้จะมีโอสถสวรรค์ช่วยแต่เขาก็ยังบาดเจ็บหนัก

หนึ่งต่อหกสิบนั้น…มันย่อมจะมิใช่การต่อสู้

วินาทีที่ต้าหวงเข้าโจมตีนั้น มารกระทิง ต้าวหยุนและพวกต่างก็เข้าโจมตีตามๆ กัน

พวกต้าวหยุนนั้นเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นกลางไปแล้วกอปรกับสมบัติยอดหมอกในมือพวกเขาย่อมจะไม่ได้อ่อนแอใดๆ เลย!

ด้วยการโจมตีของคนทั้งหกสิบแทบจะพร้อมๆ กันนั้น มันย่อมจะสร้างแรงสั่นสะเทือนที่น่ากลัว!

หลี่ฉางเซิงนั้นสัมผัสได้ว่ามันมีพลังหนักหน่วงราวขุนเขากำลังพุ่งเข้ามาใส่ตัว

เขานั้นคิดอยากหนีแต่ว่ากีบทุเรศไหวของต้าหวงนั้นมันก็อ่อนไหวอย่างมากตามติดเขาจนไม่มีที่ให้หนี!

ตูม!

หลี่ฉางเซิงได้แต่ต้องรับการโจมตีนี้เข้าจนปลิวออกไป

จากนั้นท่าไม้ตายอีกหลายวิชามันก็เข้าปะทะร่างเขาตาม

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นต่างต้องอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นพลังนี้บนท้องฟ้า

แข็งแกร่ง!

จักรพรรดิเซียนหกสิบคนจัดการคนผู้เดียวลง ต่อให้จะเก่งแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางตอบโต้ได้แล้ว

“ภาพนี้ข้าคงจำไปจนตาย!”

“หกสิบนักบุญสูง! ภาพนี้มันช่างสวยงามนัก ข้าไม่กล้าละสายตาเลย!”

“รุมได้สะใจนัก! ภาพนี้มันน่าดูเสียยิ่งกว่าการประลองฝีมือใดๆ ทั้งสิ้น!”

ได้เห็นสภาพของหลี่ฉางเซิงนั้นถูกเล่นงานรอบด้านเหล่าคนทั้งหลายต่างก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาสุดใจ

……………………..