ตอนที่ 2786 ลูกพี่ข้ามาแล้ว!
บนท้องทะเลนั้นมันช่างสงบ
เวลานี้มันมีหนึ่งคนหนึ่งกระทิงกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำด้วยท่าทางไม่รีบร้อน
“อาจารย์เย่ ออกมาเช่นนี้มันจะไม่เป็นไรจริงๆ หรือ?”
“เวลานี้ศาลาโอสถนั้นมีรากฐานที่หนักแน่นแล้ว กำลังของพี่หลัวเองก็เหนือล้ำกว่าคนทั้งหลายจนไม่เห็นฝุ่น ก่อนข้าจะออกมานั้นข้าก็ได้ให้ปราณดาบรักษาชิตพวกลี่เอ๋อไว้ถึงสามดาบ มันคงไม่เป็นปัญหาหรอก”
“ก็จริง ตอนนี้ศาลาโอสถนั้นใหญ่โตเหนือล้ำฟ้าแต่ละนิกายนั้นต่างต้องพึ่งพาศาลาโอสถสิ้น อย่างน้อยๆ ในอีกไม่กี่ร้อยปีมันก็ไม่มีทางที่ขั้วอำนาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่ว่าตั้งแต่ที่ศาลาโอสถถูกตั้งขึ้นมาอีกครั้งนี้วรยุทธของทวีปพิรุณใสมันก็พัฒนาขึ้นไปอย่างมากด้วย อาจารย์เย่นั้นสร้างคุณไว้มหาศาลจริงๆ! อาจารย์เย่คงลำบากเรื่องการก่อตั้งศาลาโอสถมาหลายปีแล้ว!”
“สิ่งนั้นข้าได้ให้คำมั่นกับคนทั้งหลายไว้ ข้าย่อมจะต้องทำตามที่พูด”
“โชคร้ายที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายของพันธมิตรโอสถมันนั้นเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายทิศเดียว ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ต้องเดินทางผ่านทะเลไป ในทะเลนั้นมันมากด้วยอันตรายแถมไม่รู้ด้วยว่าจะต้องมุ่งหน้าไปทิศใด”
“หึๆ โฉปู้ฉุนยังไปได้ข้าเย่หยวนนี้จะไปไม่ได้หรือ? ข้ามั่นใจว่าโฉปู้ฉุนนั้นจะต้องเดินทางไปถึงอีกฝั่งแน่ๆ!”
…
หนึ่งคนหนึ่งกระทิงนั้นย่อมจะเป็นเย่หยวนและต้าหวงแล้ว
เวลานี้มันผ่านมากว่าห้าสิบปีแล้วตั้งแต่ที่เย่หยวนจัดการปรับสมดุลเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลาย
ห้าสิบปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนใช้เวลาทั้งหมดไปกับการศึกษาและก่อตั้งศาลาโอสถขึ้นมาอีกครั้ง
เวลานี้ศาลาโอสถนั้นมันยิ่งใหญ่ขยายตัวไปทั่วทวีปพิรุณใสมียอดฝีมือมากมายเข้ามาอยู่ภายใน
การได้ทรัพยากรจากพันธมิตรโอสถและนิกายสวรรค์ทั้งหลายมานั้นมันทำให้เย่หยวนสามารถช่วยหลอมโอสถ
สวรรค์ส่งพวกลี่เอ๋อทั้งหลายขึ้นถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้ไม่ยาก
แต่ตอนที่เขาออกเดินทางมานั้นเย่หยวนก็พาแค่ต้าหวงติดตามออกมา
เพราะว่าทะเลนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยอันตราย มันคงมีแม้แต่จักรพรรดิเที่ยงอยู่
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนแต่หากต้องไปเจอกับจักรพรรดิเที่ยงตัวเป็นๆ แล้วเขาก็ย่อมจะทำได้แค่หนีเอาตัวรอดไม่มีเวลามาห่วงคนอื่น
“ต้าหวง เรานั้นผ่านเจ็ดมหาสมุทรมาแล้ว ในทะเลด้านหน้านี้มันคงมีจักรพรรดิเซียนอยู่มากมายไม่น้อย เรามาปกปิดพลังและค่อยๆ เดินทางไปอย่างเงียบๆ เถอะ” เย่หยวนเสนอ
“ขอรับ!”
ทะเลนั้นกว้างใหญ่คนทั้งสองนั้นมุ่งหน้าตรงลงใต้แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาคน
แต่ว่าที่แห่งนี้มันอยู่ชายขอบของเจ็ดมหาสมุทรแล้ว ถึงเขตน่านน้ำเปิดในที่สุด
สิ่งที่เรียกๆ กันว่าเจ็ดมหาสมุทรนั้นแท้จริงแล้วมันก็มีสภาพไม่ต่างจากทวีปพิรุณใส เป็นได้แค่บ้านนอกหลังเขาในทะเล
ทะเลลึกตรงหน้านี้ต่างหากที่มีอันตรายอยู่ทุกมุม
ตูม!
ตูม!
ตูม!
จู่ๆ มันก็ปรากฏเงาร่างสี่เงาด้านหน้าพร้อมด้วยคลื่นพลังปราณที่กระแทกออกมา ดูอย่างไรก็มีการต่อสู้อยู่
ที่สำคัญไปกว่านั้นคลื่นพลังของคนทั้งหลายนั้นยังสุดแสนแข็งแกร่งและมีจำนวนไม่น้อย
“นังเด็กนี่! ครั้งนี้เจ้าอย่าได้หวังจะหนีออกไปได้เลย!”
“เต่าใหญ่นี่ ทำไมต้องตามข้ามาด้วย? มันก็แค่ไข่มิใช่หรือ? จำเป็นต้องคับแค้นอะไรกันด้วย?”
“นังสารเลว! เจ้าขโมยไข่ข้าไปทิ้งไว้ในรังของเทียนคุยเวลานี้ลูกข้าลืมตาดูโลกแล้วแต่กลับไม่รับข้าเป็นแม่อีก! หากวันนี้ข้าไม่สังหารเจ้าลงความคับแค้นในใจข้านี้มันคงไม่มีวันดับหายไปได้!”
“นังตัวแสบ เจ้าเชื่อมไฟจากแก่นโลกเผาทำลายวังมังกรของข้าลงสิ้น! อ้าก! ข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!”
“นี่ ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนั้นมันเชื่อมลงแก่นโลก?”
…
ภาพตรงหน้านี้มันช่างวุ่นวายอย่างถึงที่สุด
เวลานี้มันมีจักรพรรดิเซียนราวสามสิบถึงสี่สิบคนกำลังไล่ล่าคนผู้เดียวมา
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นแต่พอเงาร่างที่หนีนั้นเข้ามาใกล้ตัวเย่หยวนก็อดหรี่ตามอง
กล่าวขึ้นไม่ได้
“หืม? ทำไมคนผู้นี้ที่โดนไล่ล่ามันถึงได้มีหน้าตาเหมือนจิงเฟยมันเลยเล่า?”
และไม่ต้องรอให้ได้คำตอบอะไรคนที่หนีมานั้นพอเห็นหน้าเย่หยวนนางก็ร้องลั่นโบกมือขึ้น
“อ่า พี่เย่หยวน พี่มาแล้ว! หากพี่ไม่มาจิงเฟยน้อยนี้คงถูกคนฆ่าสังหารแล้ว! เร็วเข้า! รีบๆ มาช่วยข้าหน่อยเร็ว!”
แน่นอนว่าคนที่ถูกตามล่ามานั้นมันย่อมจะเป็นจิงเฟยจริงๆ!
เมื่อเย่หยวนได้เห็นกองทัพที่วิ่งตามหลังนางมานั้นเขาก็อดอ้าปากค้างไม่ได้
นังเด็กคนนี้มันต้องไปก่อเรื่องไว้มากมายแค่ไหนถึงทำให้จักรพรรดิเซียนนับสิบๆ ออกมาไล่ล่าเช่นนี้?
เหล่าคนทั้งหลายนั้นต่างเป็นจักรพรรดิเซียนสิ้นความเร็วของพวกเขาย่อมจะรวดเร็วกว่า
ไม่กี่วินาทีต่อมาจิงเฟยก็พุ่งเข้ามาถึงจุดที่เย่หยวนยืน
ฟุบ!
จิงเฟยรีบม้วนตัวเข้าหลบหลังเย่หยวนพร้อมทำหน้าล้อเลียนเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลาย “หึ! ลูกพี่ข้ามาแล้ว ขอดูหน่อยเถอะว่าพวกเจ้าจะยังกล้าไล่ล่าข้าไหม! หากยังคิดไล่ล่าข้าอีกพี่เย่หยวนจะสั่งสอนพวกเจ้าให้สิ้น!”
จากนั้นนางก็หันไปกล่าวกับเย่หยวน “พี่เย่หยวน ทำไมพี่เพิ่งมาเล่า? ฮือๆ… ข้าออกมารอพี่ตั้งสิบปีแล้วนะ! พี่ไม่เห็นหรือว่าคนทั้งหลายนี้กลั่นแกล้งข้าแค่ไหน? ข้าเกือบตายแล้ว!”
“ไอ้หนูมนุษย์ ส่งนังเด็กนั่นมา! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้ตายไปกับมัน!”
“พูดกับมันไปทำไมอีก? แค่มนุษย์คนเดียว ฆ่ามันเสียเถอะ!”
“หึๆ นังเด็กคนนี้บอกว่ามนุษย์นี่เป็นลูกพี่มัน! มันคิดว่าเราจะกลัวจักรพรรดิเซียนขั้นต้นคนเดียวหรือ?”
“ฮ่าๆ…”
…
เมื่อเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องหัวเราะกันขึ้นมา
เย่หยวนมองหน้าจิงเฟยก่อนจะเหลือกตามองตวาดไป
“นังเด็กนี่ เจ้าไปทำเรื่องอะไรไว้ถึงทำให้ทั้งสวรรค์และผู้คนเขาโกรธแค้นเจ้าปานนี้?”
จิงเฟยในเวลานี้เองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมาแล้วเช่นกัน
แต่ว่าหลังจากบรรลุขึ้นมาได้แล้วความสามารถในการสร้างปัญหาของนางกลับเพิ่มมากขึ้นด้วย
แต่ที่เย่หยวนนั้นตกใจที่สุดก็คือนางนั้นกลับออกมารอเขาถึงสิบปีแล้ว!
ถามจริง?
จิงเฟยนั้นตอบกลับไปด้วยท่าทางใสซื่อ “ข้ารอพี่จนเบื่อเลยออกไปหาอะไรทำ”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องกัดฟันขึ้นมาทันที
นี่มันมิใช่ ‘หาอะไรทำ’ แต่มันเป็นการหาเรื่องคนทั้งทะเลต่างหาก!
ดูหน้าเหล่าชาวทะเลที่จ้องมองมาอย่างสัตว์ร้ายนั้นเย่หยวนก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องวันนี้มันคงไม่จบง่ายๆ แล้ว
เย่หยวนหันไปหาเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายก่อนจะยกมือขึ้นคารวะ
“ข้าต้องขออภัยด้วยจริงๆ ที่น้องข้ามันไปสร้างปัญหาให้ท่านทั้งหลาย เย่ผู้นี้ขออภัยแทนตัวนางด้วย! ถือว่าเห็นแก่หน้าเย่ผู้นี้พวกท่านจะช่วยแสดงความเมตตาไว้ชีวิตนางได้หรือไม่?”
“แค่จักรพรรดิเซียนขั้นต้นมันก็คิดมาใช้หน้าตัวเองช่วยคนผิด? เจ้าไม่รู้หรือว่าความตายมันคืออะไร?”
เต่าใหญ่ที่ด้านหน้านั้นกล่าวขึ้น “เห็นแก่หน้าเจ้า? มันจะมีค่าแค่ไหนกันเล่าหน้าเจ้านี้?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หน้าเย่ผู้นี้มันยังมีค่าอยู่บ้าง”
เต่าใหญ่นั้นหัวเราะตอบกลับไป “ไอ้เจ้าโง่โอหัง ในเมื่อเจ้าคิดรนหาที่ตายแล้วข้าก็จะส่งเจ้าไปเอง!”
เต่าใหญ่นั้นพุ่งตัวเข้าใส่เย่หยวนอย่างรวดเร็วไม่สมเป็นเต่าแม้แต่น้อย
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและเพียงแค่ชี้นิ้วตอบกลับไป
ปัง!
เต่าใหญ่นั้นถูกกระแทกจนลอยลิ่วออกไปนับพันเมตร!
คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างขึ้นมา!
พวกเขานั้นรู้ว่าเต่าตัวนี้คือเต่าดำศักดิ์สิทธิ์ นางนั้นมีพลังบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นปลาย
ยอดฝีมือระดับนี้กลับถูกดัชนีของเย่หยวนซัดจนปลิว?
“อ่า คิดท้าทายข้าแล้ว! ไอ้เด็กนี่มันไม่ธรรมดา พวกเรา โจมตีพร้อมๆ กันจัดการมันลงให้ได้ เราค่อยไปสังหารนังเด็กเวรนั่น!” เต่าใหญ่ร้องสั่งก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ร่างของเย่หยวนกลับหายไปจากจุดที่ยืน
ปัง ปัง ปัง…
ในเวลาแค่ไม่กี่อึดใจนั้นเย่หยวนก็ค่อยหมัดออกไปนับสิบๆ
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
เงาร่างมากมายนั้นถูกส่งปลิวลอยขึ้นเหนือน้ำราวกับดอกไม้ไฟ
แต่ละคนนั้นต่างถูกต่อยปลิวด้วยหมัดเดียว!
แม้แต่จิงเฟยนั้นก็ยังต้องอ้าปากค้าง
“พี่เย่หยวน พี่เก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ฮี่ๆ วันหน้าข้าคงไม่ต้องกลัวใครแล้ว! คุณหนูผู้นี้อยากจะเห็นนักว่ามันจะยังมีใครกล้าขัดใจข้าอีกไหม!” หลังจากหายตะลึงแล้วจิงเฟยก็ยิ่งได้ใจไปกันใหญ่
……