ตอนที่ 2787 แผนที่ทะเล
เย่หยวนนั้นยังไม่มีเวลาจะมาสนใจจิงเฟยและหันกลับไปตอบคนทั้งหลาย
“หน้าของเย่ผู้นี้มันมีค่าบ้างหรือไม่?”
เขานั้นแสดงความเกรงใจออกมาแล้วด้วยการแค่ต่อยคนทั้งหลายให้ปลิว
เพราะหากเขาคิดสังหารจริงๆ แล้วมันก็ย่อมจะสังหารได้ในหมัดเดียวเช่นกัน
แม้ว่าเขานั้นจะมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นต้นแต่ทว่าตั้งแต่เขาก้าวเดินบนเส้นทางของผู้บ่มเพาะนอกรีตความเข้าใจต่อยอดเต๋าของเขามันก็พัฒนาขึ้นไปได้อย่างมากล้น
ทุกการกระทำของเขาในตอนนี้มันรุนแรงแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก!
แน่นอนว่าจิงเฟยนั้นย่อมจะชอบสร้างปัญหาแต่นางก็ไม่ได้โง่เง่า
เหล่าจักรพรรดิเซียนที่นางไปหาเรื่องมานี้มันไม่มีใครที่เป็นยอดฝีมือจริงๆ
หากพวกเขานั้นเก่งกาจจริงตัวจิงเฟยเองก็คงไม่อาจจะหนีมาจนถึงที่นี่ได้จากการตามล่าของคนนับสิบๆ
ปูใหญ่หันไปพูดกับเต่าใหญ่ด้วยท่าทางกลัวๆ “อู๋ต้วน เจ้าเด็กนี่มันเก่งไป!”
พวกเขาเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นต่างหวาดกลัวขึ้นมาตามๆ กัน
เย่หยวนนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป หากก่อนหน้านี้เขาคิดสังหารพวกเขาทั้งหลายก็คงไม่อาจรอดไปได้
เต่าใหญ่นั้นร้องกล่าวขึ้น “ไอ้หนู เจ้าคิดจะมายุ่งเรื่องของทะเลพันทานตะวันแล้วจริงๆ? เจ้าต้องรู้ไว้ด้วยนะว่าครั้งก่อนที่มีเด็กมนุษย์เดินทางลงมานั้นมันถูกเราไล่ล่าไปนับล้านๆ กิโลเมตรจนเกือบต้องตายในทะเลพันทานตะวันเรา!”
เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น
หรือว่าคนที่ถูกไล่ล่านี้จะเป็นโฉปู้ฉุน?
โฉปู้ฉุนผู้ที่เอาชนะทุกสิ่งอย่างบนทวีปพิรุณใสนั้นกลับเกือบต้องตายลง?
“หึๆ เกือบตาย? แต่ก็ยังไม่ตายมิใช่หรือ? ข้าไม่ลังเลแล้ว ข้าจะยุ่งเรื่องของเด็กน้อยนางนี้ หากพวกเจ้ามีอะไรไม่พอใจก็พอคุยกับข้าได้ทุกเมื่อ!” เย่หยวนประกาศออกไป
เขานั้นไว้หน้าคนทั้งหลายไปแล้ว แต่ในเมื่อคนทั้งหลายนั้นอยากได้ศัตรูเขาก็พร้อมลงมือให้ได้
เย่หยวนผู้นี้ไม่กลัวแม้แต่สวรรค์ มีหรือที่จะมากลัวชาวทะเลทั้งหลาย?
ที่สำคัญไปกว่านั้นโฉปู้ฉุนยังรอดออกไปได้ ทำไมเย่หยวนคนนี้จะรอดไปไม่ได้บ้าง?
อู๋ต้วนนั้นกัดฟันแน่นเมื่อได้ยิน “ดีมาก! ไอ้หนู เตรียมตัวรับความพิโรธของทะเลเสียเถอะ! ไปกัน!”
เหล่าคนทั้งหลายนั้นว่ายน้ำจากไป
เวลาเดียวกันนั้นเย่หยวนก็ยื่นมือออกมาดึงห้วงมิติไว้อย่างรุนแรง
จิงเฟยที่กำลังคิดจะหลบหนีไปนั้นถูกเย่หยวนจับคอไว้ได้ทันที
“ทำไมเล่า? สร้างเรื่องแล้วยังมีหน้าคิดจะหนี?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยใบหน้าราวยักษ์มาร
“ขะ ข้าจะหนีที่ไหน? ข้าแค่จะ… ออกไปสำรวจทางให้ ฮี่ๆ…” จิงเฟยนั้นยิ้มตอบกลับมาหน้าด้านๆ
“ต้าหวง ตีก้นมัน! ตีให้หนักอย่าได้ปรานี! นังเด็กคนนี้มันหนังหนานัก” เย่หยวนสั่ง
“อ่า ไม่นะ! พี่เย่หยวน อย่าตีข้านะ! ข้า… ข้าไปก่อเรื่องก็เพื่อพี่นะ! พี่ดูก่อน!”
พูดไปจิงเฟยก็หยิบแผ่นหนังออกมา
เย่หยวนรับมันไปอ่านดู ปรากฏว่าบนแผ่นหนังนั้นมันเขียนแผนที่ไว้
“นี่คือ?”
“ย่อมจะเป็นแผนที่ทะเลแล้ว! ท่านอยากจะเดินทางไปอีกฝั่งมิใช่หรือ? หากเดินทางไม่รู้เป้าหมายเช่นนี้ต่อไปมันคงไม่ถึงเสียที! เพราะพี่ต้องรู้ไว้ก่อนนะ ว่าในทะเลมันไม่ได้มีแต่ภูติแท้ระดับจักรพรรดิเที่ยง มันมีแม้แต่เหล่าภูติแท้ระดับมหาจักรพรรดิ! ไม่ว่าพี่จะเก่งแค่ไหนก็ตามมันก็คงไม่มีทางจะรับมือพวกเขาได้หรอกใช่ไหม? แต่หากมีแผนที่ทะเลนี้ด้วยแล้ว พี่ย่อมจะเดินทางหลบเลี่ยงแดนอันตรายทั้งหลายนั้นได้ เดินทางในทะเลได้อย่างปลอดภัยกว่า!”
เย่หยวนหันมามองจิงเฟยด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ!
แน่นอนว่าสิ่งที่เย่หยวนกังวลที่สุดในการเดินทางบนทะเลมันก็คือเรื่องนี้
ทะเลนั้นมันกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด ไม่รู้ได้เลยว่าแผ่นดินอยู่ที่ใด
หากไปบุกเข้าดินแดนของยอดฝีมือเข้าแล้วมันคงจะได้ตายอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่
บนแผ่นที่นี้มันมีเขียนไว้อย่างละเอียดว่าทะเลไหนมียอดฝีมือน้อยใหญ่อย่างไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลระดับมหาจักรพรรดิที่ถูกเขียนไว้ด้วยหมึกสีแดง
และจุดที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้มันก็คือทะเลพันทานตะวัน เป็นทะเลระดับจักรพรรดิเที่ยง
รอบๆ ทะเลพันทานตะวันนั้นมันมีทะเลระดับจักรพรรดิเที่ยงน้อยใหญ่อยู่อีกนับสิบๆ ดินแดน
หรือก็คือเหล่าจักรพรรดิเที่ยงในบริเวณนี้มันมีอยู่กว่าสิบตน!
จักรพรรดิเที่ยงยังมีมากมายขนาดนี้ ไม่ต้องถามถึงเลยว่ามันจะมีจักรพรรดิเซียนอยู่เท่าไหร่ในทะเลนี้
ทะเลนั้นมิใช่แผ่นดิน
ที่แห่งนี้มันยิ่งใหญ่อุดมสมบูรณ์หากเดินทางผ่านไปพวกเขาย่อมจะไม่อาจหลบรอดสายตาชาวทะเลได้
ไม่ว่าพวกเขานั้นจะเก่งกาจกันแค่ไหนมันก็ไม่มีทางหลบหูหลบตาของเหล่าเผ่าทะเลได้
ในทะเลนั้นมันมีภูติแท้อยู่นับไม่ถ้วน แล้วเย่หยวนนั้นจะสังหารภูติแท้นับไม่ถ้วนนั้นลงได้หมด?
นี่คือความอันตรายของทะเล
หากจักรพรรดิเซียนทั่วๆไปถูกเผ่าทะเลหมายหัวแล้วหากอีกฝ่ายเชิญกำลังจากทะเลใกล้เคียงมาเป็นจำนวน
นับร้อยๆ พันๆ พวกเขาจะยังรอดไปได้?
“เป็นยังไงเล่า? น้องคนนี้อุตส่าห์ลำบากเพื่อพี่เลยนะ คงซึ้งเลยสิ?” จิงเฟยยิ้มขึ้น
เย่หยวนเก็บแผนที่ลงก่อนจะดุออกมา
“ไม่ต้องเลย! เรื่องที่ไปขโมยไข่เต่าไปไว้รังอื่นนี้มันก็เพราะหาแผนที่ทะเลด้วย? หรือเรื่องที่ไปเผาวังคนอื่นจนมอดไหม้นั้น ก็เป็นเพื่อคิดหาแผนที่ทะเล?”
จิงเฟยที่ได้ยินนั้นต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “พี่รู้แล้ว?”
“ข้าไม่ได้หูหนวก จะยังไม่ได้ยินอีกหรือ?”
เย่หยวนกล่าวขึ้นต่อ “ช่างเถอะ ถือว่าเห็นแก่แผนที่ทะเลนี้ ข้าจะเว้นโทษเจ้าให้!”
“ฮี่ๆ พี่เย่หยวนดีที่สุดเลย!”
“แต่ทำไมเจ้าถึงออกมาอยู่นี่?” เย่หยวนถามขึ้น
“ก่อนนั้นตอนที่พี่มาเรียกเต๋าทุกข์ในทะเลข้าก็รู้ทันทีเลยว่าพี่คงคิดจะเดินทางแล้ว จากนั้นพี่ก็ไปสร้างศาลาโอสถบนทวีปพิรุณใสจนมันยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวี่วัน ข้ารู้เลยว่าอีกไม่นานพี่คงจะเดินทางออกมาแล้ว ข้าจึงได้ออกมารอก่อน หากเดินทางลงใต้มาเรื่อยๆ จนออกเจ็ดมหาสมุทรมันจะต้องมาถึงทะเลพันทานตะวันนี้ ใครจะไปรู้ว่าข้าต้องรอถึงสิบปี! สิบปีเลยนะ! ข้าเลยต้องหาอะไรทำแก้เบื่อ!”
เย่หยวนได้แต่ต้องยกมือขึ้นกุมขมับ
นังเด็กคนนี้…มันเป็นตัวปัญหาจริงๆ!
แต่ลองคิดดูดีๆ เย่หยวนก็เองซาบซึ้งไม่น้อย
เพราะแม้ว่าเด็กคนนี้จะก่อเรื่องไปทั่วแต่ว่าเรื่องที่ก่อนั้นมันก็คงจะเกิดขึ้นระหว่างที่ออกตามหาแผนที่ทะเลจริงๆ
“เจ้าอยากออกไปกับข้า?”
จิงเฟยพยักหน้ารับ “ข้านั้นบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมาตั้งนานแล้ว เจ็ดมหาสมุทรนั้นมันไม่มีอะไรให้ข้าเล่นอีก ต้องออกไปสู่โลกภายนอกเท่านั้น!”
“เจ้าออกมาแล้วทะเลหนามใต้จะทำอย่างไรเล่า?”
“ตอนที่พี่จากไปคราวนั้นพี่ได้ทิ้งโอสถสวรรค์ไว้มากมายมิใช่หรือ? ตอนนี้ลุงฉลามดำได้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวมาแล้ว พี่ข้าเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขึ้นมาได้ ต่อให้ข้าไม่อยู่พวกเขาก็จัดการเรื่องราวกันเองได้น่า!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เอาล่ะ งั้นก็ไปกับข้าแล้วกัน”
จิงเฟยวิ่งมาเกาะแขนเย่หยวนก่อนจะเขย่ามันอย่างแรง “ฮี่ๆ พี่เย่หยวนดีที่สุดเลย!”
เย่หยวนนั้นแต่ต้องหัวเราะตอบกลับไป “อย่าเพิ่งได้ใจไป! ทะเลพันทานตะวันมันคงไม่อ่อนแอพอจะปล่อยเราเดินผ่านไปง่ายๆ หรอก!”
…
และเรื่องราวมันก็ไม่ผิดคาดเย่หยวนนักเพราะหลังจากพวกอู๋ต้วนกลับมา
พวกเขาก็รีบมุ่งหน้ามายังโถงพันทานตะวันทันที
ผู้ปกครองของทะเลพันทานตะวันนั้นคือเฉียนกุย
“ท่านจิงหลาน ท่านต้องช่วยพวกเรานะ! ไอ้เด็กนั่นมันไร้เหตุผลจนเกินไป!” อู๋ต้วนกล่าวขึ้นมาพร้อมน้ำตา
“ท่านจิงหลาน วังข้าโดนเผาจนวอด ข้าไม่มีที่ให้ซุกหัวนอนแล้ว ท่านต้องช่วยทวงความยุติธรรมให้ข้าน้อย!”
…
เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นต่างพูดกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้าราวกับเสียพ่อแม่ไป
จิงหลานนั้นคือแม่ทัพใหญ่ใต้การปกครองของเฉียนกุย เป็นถึงจักรพรรดิเซียนขั้นสุดผู้มากฝีมือ
จิงหลานนั้นเดิมทีไม่คิดสนใจแต่เมื่อได้ยินถึงฝีมือของเย่หยวนเขาก็ต้องพยักหน้ารับ “เวลานี้ท่านเฉียนกุยกำลังเก็บตัวอยู่ แต่พวกเจ้าวางใจเถอะ ข้าและซิงเหยาจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ แน่นอน!”
……………