ตอนที่ 1714 : การมาถึงของเจี้ยนเฉิน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1714 : การมาถึงของเจี้ยนเฉิน

“ไม่ พลังงานดั้งเดิมของข้าไม่ได้หายไป มันถูกผนึกไว้โดยพลังลึกลับ มะ มันคือพลังอะไรกัน ? มันกลับมีพลังอันลึกลับเช่นนี้ได้ ขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงกลางกลับผนึกพลังงานดั้งเดิมของขั้นเทพเช่นข้าได้” ลู่เทียนคิด พลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ในตันเถียนของเขานั้นแปลกประหลาดอย่างมาก เขาเคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนแม้ว่าจะอยู่ในโลกนี้มานานแล้วก็ตาม

“ตราบใดที่พลังงานดั้งเดิมของข้าไม่ได้หายไป งั้นมันก็ไม่เป็นไร มันแค่น่ากลัว มันง่ายกว่าที่จะจัดการกับผนึกนี้” ลู่เทียนโล่งใจทันที ตอนที่เขาพบว่าพลังงานดั้งเดิมของเขาหายไป เขาก็กลัวขึ้นมาทันที

“รูปแบบทำลายล้าง ! ” เฉินเจี้ยนหน้าซีดไปแต่เจตจำนงค์ในการต่อสู้นั้นไม่ได้ลดลงไปเลย เขาเปิดฉากและพุ่งเข้าหาลู่เทียน พลังของเขาปะทุขึ้นมาก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นลำแสง

“ฮึ่ม เฉินเจี้ยน ข้าจะให้เจ้าได้เห็นพลังที่แท้จริงของข้า ! ” ลู่เทียนพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า กฎแห่งไฟนั้นเริ่มอัดแน่นขึ้นมาก่อตัวเป็นทะเลไฟเหนือหัวของเขา

“อุกกาบาตเมฆไฟ ! ” ลู่เทียนตะโกนออกมาและทะเลไฟก็ก่อตัวบนหัวเขา สุดท้ายมันก็ได้อัดแน่นเป็นลูกไฟขนาดเท่ากับหัวคน 5 ลูก แต่ละลูกนั้นมีพลังมากมายพร้อมกับแผ่พลังกดดันอันน่ากลัวออกมา

เฉินเจี้ยนไม่ได้กลัว กระบี่หมอกเมฆของเขานั้นได้แทงเข้าใส่ลูกไฟราวกับมันไม่อาจจะหยุดยั้งได้

ตูม !

ลูกไฟลูกหนึ่งระเบิดออกพร้อมกับเปลวไฟที่ย้อมท้องฟ้าจนเป็นสีแดง ความร้อนอันน่ากลัวแผ่ไปโดยรอบเผาพื้นดินโดยรอบ ม่านพลังรอบตระกูลโม่ที่อยู่ไกลออกไปก็ยังสั่นไหวอย่างรุนแรง

“ลู่เทียน ใช้ทักษะต่อสู้…”

“เฉินเจี้ยนนั้นแข็งแกร่งจริง ๆ ! เขากลับบังคับให้ลู่เทียนใช้ทักษะต่อสู้ออกมาได้…”

“ทรงพลังจริง ๆ นี่อย่างน้อยก็เท่ากับทักษะต่อสู้ระดับสัจจะขั้น 4 … ”

ผู้อาวุโสตระกูลโม่ได้ตะโกนออกมา ผู้นำตระกูลมองไปที่เฉินเจี้ยนอย่างกังวล เขากังวลขึ้นมาจนกลัว

เลือดได้พุ่งออกมาจากปากของเฉินเจี้ยน เขากระเด็นออกมาราวกับลูกบอล เสื้อผ้าของเขาเองก็ได้กลายเป็นเถ้าเช่นกัน

“เฉินเจี้ยน เจ้ามีสิทธิที่จะสู้กับข้าแต่มันก็แค่สิทธิ หากข้าใช้พลังทั้งหมดที่มี การฆ่าเจ้ามันก็เป็นเรื่องง่าย” ลูกไฟทั้งสี่ได้อยู่เหนือหัวของลู่เทียน แต่ละลูกนั้นแผ่พลังมากมายออกมา

“แต่เจ้าควรตายโดยไม่ต้องรู้สึกเสียใจที่เจ้าบังคับให้ข้าใช้ทักษะการต่อสู้ออกมาได้” ลู่เทียนพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาชี้นิ้วไปที่เฉินเจี้ยนที่อยู่ไกลออกไปและลูกไฟสองลูกบนหัวเขาก็ได้พุ่งออกไปทันที

เฉินเจี้ยนกลัวขึ้นมา เขาเผชิญหน้ากับลูกไฟ 2 ลูก มันคือทักษะต่อสู้ที่ขั้นเทพได้ใช้ออกมา ดังนั้นเขาคงต้องตายหากเขาประมาท

จู่ ๆ กระบี่เมฆหมอกก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง เขาได้ตะโกนออกมา “กระบี่สั่นสะเทือนและดวงดาวแตกสลาย ! ”

จากนั้นกระบี่ก็แผ่พลังออกมาหลายส่วนซึ่งได้ซ้อนทับกันและยืดตัวออกไปยังลูกไฟที่เข้ามา ไม่ว่าเส้นพลังนั้นจะผ่านส่วนไหน พลังงานดั้งเดิมในพื้นที่นั้นจะสลายไปเพราะเส้นพลังนี้

ตอนที่เส้นพลังและลูกไฟนั้นปะทะกัน ลูกไฟก็เริ่มช้าลงราวกับว่ากฎแห่งไฟที่มันมีนั้นอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว แต่ลูกไฟนั้นไม่ได้อ่อนแอลงมาหลังจากที่โดนเส้นพลังขัดขวางเอาไว้

ลูกไฟได้เข้าปะทะกับเฉินเจี้ยนแล้วระเบิดออก

เฉินเจี้ยนกระอักเลือดออกมา เขาได้กระเด็นออกไปอีกครั้ง อวัยวะภายในเขาเสียหาย ผิวหนังเขาถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำ เขาบาดเจ็บหนัก หากไม่ใช้ทักษะนี้เพื่อทำให้ลูกไฟอ่อนแอลง เขาก็อาจจะตายจากการโจมตีนี้แม้ว่าจะมีความเข้าใจต่อกฎขั้นเทพช่วงกลางและเกราะแสงของเขาถึงเขาจะถือว่าเป็นขั้นเทพช่วงกลางก็ตาม ยังไงซะมันก็คือทักษะต่อสู้ของขั้นเทพและมันก็เป็นทักษะขั้นสูง มันอยู่ที่ขั้น 4 ระดับสัจจะเป็นอย่างน้อย ดังนั้นพลังของมันจึงน่ากลัวเป็นธรรมดา

“หืม ? เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ ? แต่เจ้าจะตายในไม่ช้า ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ในวันนี้” ลู่เทียนพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาได้แผ่ความอาฆาตออกมาพร้อมกับลูกไฟอีกสองลูกที่พุ่งเข้าใส่เฉินเจี้ยน

โม่หลิงตะโกนอกมา เขาต้องการจะไปช่วยเฉินเจี้ยน แต่คู่ต่อสู้สองคนของเขากลับตรึงเขาไว้ เขาไม่อาจจะปลีกตัวออกไปได้เลย

ผู้อาวุโสตระกูลโม่ลนลานแต่พวกเขาก็หมดหนทางที่จะจัดการกับลูกไฟทั้งสอง พวกเขาคงโดนเผาเป็นเถ้าก่อนที่จะเข้าใกล้ลูกไฟนั้นได้ด้วยซ้ำ

เฉินเจี้ยนกัดฟันแน่พร้อมสายตาที่เด็ดเดี่ยว กระบวนท่าแรกของกระบี่สั่นสะเทือนและดวงดาวแตกสลายนั้นไม่เพียงพอที่จะหยุดทักษะต่อสู้ของลู่เทียนได้ แต่นั่นไม่ใช่ท่าเดียวที่เขารู้ เขายังมีกระบวนท่าที่สองแต่มันแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าจะขึ้นมาถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงกลางแต่เขาก็ยังไม่ได้เชี่ยวชาญมัน หากพลังของกระบวนท่าแรกนั้นเท่ากับดวงดาว งั้นกระบวนท่าที่สองก็เท่ากับจักรวาล เขาต้องจ่ายไปอย่างมากกับการใช้ท่าที่สองนี้

ตอนั้นเขาหมดทางเลือกเมื่อเผชิญหน้ากับทักษะต่อสู้ของลู่เทียน เขาคงได้แต่ใช้กระบวนท่าที่สอง เจตจำนงกระบี่และจักรวาลดับสูญ !

แต่ตอนที่เฉินเจี้ยนกำลังจะใช้กระบวนท่านี้ อุณหภูมิโดยรอบก็ลดลง ในพริบตามันก็ราวกับดินแดนลาวาที่มีน้ำแข็งเข้าปกคลุม หิมะได้กระจายไปทั่วท้องฟ้า

“มันคือกระบี่หิมะบิน ! ” สีหน้าของผู้นำตระกูลนั้นดูดีขึ้นมา ตอนนั้นเขาก็ได้หันไปมองที่ห้องโถงที่เจ็ด ตอนที่ผู้นำตระกูลมองไปที่นั่น มันก็ได้มีแสงหนึ่งพุ่งออกมาด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ มันได้พุ่งผ่านม่านพลังตระกูลโม่และมุ่งหน้าเข้าหาลูกไฟทั้งสองเหมือนกับพลังที่ไม่อาจจะมีอะไรหยุดยั้งได้

“เร็วจริง ๆ ! ” ผู้นำตระกูลเริ่มกลัวในใจ แม้ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามี เขาก็ไม่อาจจะมองเห็นแสงนั้นได้อย่างชัดเจน เขาแค่เห็นภาพกระบี่ภายในแสงนั้นด้วยการใช้วิญญาณของเขา มันเป็นกระบี่อันเดียวกันที่เขาได้ซื้อมาจากเมืองเฟิงเย่ซึ่งเขาได้มอบให้กับเจี้ยนเฉิน

ตูม !

กระบี่หิมะบินได้แทงทะลุลูกไฟทั้งสองและทำให้ลูกไฟทั้งสองระเบิดออก คลื่นพลังอันน่ากลัวได้แผ่ไปโดยรอบที่แม้แต่ผู้ที่อยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงต้นก็ยังได้รับบาดเจ็บหนักหากอยู่ในบริเวณนี้เมื่อไม่มีสมบัติป้องกันกับตัว

กระบี่หิมะบินนี้ยังคงเดินหน้าต่อโดยไม่อ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อย มันห่อหุ้มด้วยกฎแห่งกระบี่ที่สูงกว่าขั้นเทพช่วงต้นแทงทะลุทะเลไฟและไปถึงตรงหน้าลู่เทียนได้ในเสี้ยววินาที

สีหน้าของลู่เทียนเปลี่ยนไปและเขาก็ได้ถอยกลับมาเพื่อจะหลบ แต่ถึงแม้ว่าจะใช้พลังทั้งหมดที่มีแต่มันก็สายเกินไปแล้ว กระบี่หิมะบินพุ่งผ่านไหล่เขาไปพร้อมกับทำให้เลือดกระจายออกมา

ลู่เทียนรู้สึกเจ็บจนถึงขั้วหัวใจจากแขนขวาและแขนของขาก็ได้แยกออกจากตัวเขาไป

ลู่เทียนตะลึง เขายังไม่ทันได้เห็นอีกฝ่าย แค่กระบี่ที่พุ่งเข้ามานี้ก็ทำลายทักษะต่อสู้ของเขาและตัดแขนของเขาไปได้ พลังของเจ้าของกระบี่นี้จะเป็นแบบไหนกัน ?