ตอนที่ 1715 : บดขยี้ลู่เทียน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1715 : บดขยี้ลู่เทียน

ในอีกด้าน อันโดฟูและดาทูร่าเองก็ตะลึงอย่างมากเมื่อเห็นลู่เทียนเสียแขนซ้ายไปจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว พวกเขาอึ้งและหยุดยื้อโม่หลิงไว้ พวกเขาพากันระวังตัวจากชายลึกลับที่มีพลังอันน่าตกใจนี้

“ฮ่าฮ่า น้องเจี้ยนเฉิน ข้าจะปล่อยลู่เทียนให้เจ้าจัดการ ข้าจะยื้อสองคนนี้ไว้ มาช่วยข้าหลังจากที่เจ้าฆ่าลู่เทียน แล้ว” โม่หลิงหัวเราะออกมาทั้ง ๆ ที่เลือดยังไหลออกมาจากมุมปาก เขาไม่ได้สนใจบาดแผลของตัวเองและคอยตรึงดาทูร่าและอันโดฟูเอาไว้

ใบหน้าของอันโดฟูหม่นลง เขาได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อสลัดหนีโม่หลิง แต่เขาก็รู้สึกขมขื่นในใจ ก่อนหน้านี้เขากับดาทูร่าตรึงโม่หลิงเอาไว้เพื่อให้พวกเขาจะได้มีเวลาให้ลู่เทียนฆ่าเฉินเจี้ยนได้ แต่ในพริบตา สถานการณ์กลับพลิกผัน แต่เดิมแล้วพวกเขาต้องยื้อโม่หลิงเอาไว้ แต่ตอนนี้กลับเป็นโม่หลิงที่ยื้อพวกเขาไว้แทน

ใบหน้าของดาทูร่าก็หม่นลงเช่นกัน ตาของนางสั่นไหวด้วยความไม่มั่นใจ นางเริ่มคิดที่จะถอย คำสัญญาของลู่เทียนนั้นน่าสนใจซึ่งทำให้นางตกลงที่จะช่วยลู่เทียนในการจัดการตระกูลโม่ นางก็ได้รู้จากลู่เทียนว่ามันมีจอมยุทธลึกลับอีกคนที่เป็นเหมือนกับขั้นเทพในตระกูลโม่นอกจากโม่หลิง ลู่เทียนและอันโดฟูจะไปจัดการกับโม่หลิง ส่วนนางจะไปจัดการกับชายลึกลับผู้นั้น

แต่เดิมแล้ว ดาทูร่าเชื่อว่าเมื่อขั้นเทพ 3 คนร่วมมือกัน มันไม่ได้มีความกดดันอะไรในการจัดการกับตระกูลโม่ แม้ว่าตระกูลโม่จะมีขั้นเทพ 2 คนแต่พวกเขาก็ต้องแพ้ และนางก็จะได้รับสมบัติครึ่งหนึ่งของตระกูลโม่ไปอย่างง่ายดาย มันเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงได้ตกลง

แต่นางรู้สึกได้ว่าตระกูลโม่นั้นอาจจะต่างจากเคย ผลก็คือนางจึงคอยระวังตัวอยู่ตลอดพร้อมกับกลัวว่าจะหลงกล ลู่เทียน ตอนที่พวกเขาเริ่มสู้ มันต่างจากที่พวกเขาตกลงกันไว้แต่แรก ลู่เทียนได้ไปสู้กับชายลึกลับที่นางควรจะไปสู้ ส่วนนางกับอันโดฟูได้สู้กับโม่หลิง นางรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงได้ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีในตอนที่นางสู้กับโม่หลิง

แต่เมื่อลู่เทียนได้เสียแขนไปในการโจมตีครั้งเดียวรวมกับคำพูดของโม่หลิง นางก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมา มันกลับเป็นว่าชายลึกลับที่นางควรจะสู้ด้วยนั้นไม่ใช่เฉินเจี้ยน แต่กลับเป็นเจี้ยนเฉินที่น่ากลัว

“เข้าใจแล้ว ลู่เทียน เจ้าคิดร้ายต่อข้าจริง ๆ ดูเหมือน่าเจ้ายังคงแค้นเคืองเรื่องในอดีต เจ้าไม่มั่นใจว่าจะจัดการข้าได้ ดังนั้นเจ้าจึงจะให้คนอื่นจัดการข้า ฮ่าฮ่า ลู่เทียน แต่ทำไมข้าถึงได้รู้สึกว่าชายลึกลับที่เจ้าพูดถึงนั้นเก่งกว่าที่เจ้าได้อธิบายเอาไว้ ? แม้แต่เจ้าก็อาจจะไม่รู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนหากดูจากสีหน้าของเจ้า” ดาทูร่าฮึดฮัดในใจพร้อมกับสายตาที่เย็นชาราวกับงูพิษ

ชายหนุ่มชุดขาวยืนอยู่ด้านหน้าห้องโถงที่เจ็ดในตระกูลโม่ ภายใต้สายตาตะลึงของผู้อาวุโสทุกคน เขาค่อย ๆ บินผ่านม่านพลังออกมาพร้อมกับถือกระบี่หิมะบินที่ตัดแขนของลู่เทียนไว้ในมือ

“ กะ เกิดอะไรขึ้น ? เจี้ยนเฉินแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไง ? ”

“ไม่ใช่ว่าเจี้ยนเฉินอยู่ขอบเขตดั้งเดิมหรือ ? เขาแข็งแกร่งแบบนี้ในพริบตาได้ยังไง…”

“เขาตัดแขนของลู่เทียนได้ในการโจมตีครั้งเดียว สวรรค์ ลู่เทียนนั้นเป็นขั้นเทพ เจี้ยนเฉินทำให้ขั้นเทพบาดเจ็บสาหัสได้ง่ายดายถึงเพียงนี้…”

ผู้อาวุโสตระกูลโม่ต่างก็มองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยตาที่เบิกกว้าง ตอนนั้นพวกเขายากที่จะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เจี้ยนเฉินไม่เคยได้รับความสนใจจากคนในตระกูล ผู้อาวุโสถึงกับดูถูกเจี้ยนเฉิน หากไม่ใช่เพราะเฉินเจี้ยน พวกนั้นอาจจะลืมว่ามีคนที่ชื่อเจี้ยนเฉินอยู่ในตระกูลโม่ แต่พวกเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเจี้ยนเฉินผู้นี้ที่มาพร้อมความแข็งแกร่งที่น่ากลัว

ลู่เทียนมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตะลึง เขาอึ้ง ตามที่เขาเข้าใจมาแล้ว เจี้ยนเฉินนั้นไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้

“ลู่เทียน ข้าปล่อยให้เจ้าหนีไปได้ในครั้งที่แล้ว ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะหนียังไงในครั้งนี้” เจี้ยนเฉินมองไปที่ลู่เทียน อย่างเย็นชา เสียงของเขาเย็นชาและเต็มไปด้วยความอาฆาต

“อันโดฟู เจ้ายื้อโม่หลิงเอาไว้ ดาทูร่ามาร่วมมือกันจัดการเขา” ลู่เทียนตะโกนบอกดาทูร่าที่ยืนอยู่ไกลออกไป

“ลู่เทียน ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ในวันนี้” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นอย่างเย็นชาพร้อมกับแทงกระบี่เข้าใส่ลู่เทียน

การโจมตีนี้ดูเรียบง่ายและธรรมดาโดยไม่มีอะไรพิเศษแต่เมื่อเขาแทงมันออกมา การโจมตีนั้นกลับเหมือนซ่อนความลึกลับของโลกไว้ภายในซึ่งทั้งโลกนั้นเหมือนกับไร้สีสันไปต่อหน้าการโจมตีนี้และทำให้มันเหมือนเป็นตัวตนเพียงอย่างเดียวในที่นั่น

นี่คือพลังของกฎแห่งกระบี่ กฎแห่งกระบี่ของเจี้ยนเฉินในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสำเร็จขั้นกลางของต้นกำเนิดกระบี่แล้ว แต่มันกลับถึงขั้นสมบูรณ์แบบ !

ความสำเร็จขั้นกลางของต้นกำเนิดกระบี่นั้นเท่ากับขั้นเทพช่วงกลาง การทะลวงผ่านในความเข้าใจของเจี้ยนเฉิน ได้ยกระดับกฎของเขาขึ้นเป็นขั้นเทพช่วงปลาย

ลู่เทียนเครียดอย่างมาก พลังงานดั้งเดิมได้ปะทุออกมาจากร่างของเขาผสมรวมกับเข้ากฎแห่งไฟ เขาได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีตอนนี้เข้าไปในกระบี่จนทำให้มันเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมา เขาเหวี่ยงแรงที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อรับการโจมตีของเจี้ยนเฉิน

ติ๊ง !

กระบี่ทั้งสองได้ปะทะกันพร้อมกับเกิดเสียงเหล็กเสียดสีกัน กระบี่หิมะบินนั้นเริ่มส่องประกายและมีปราณกระบี่ระเบิดออกมา ปราณกระบี่นั้นได้สลายกฎแห่งไฟของลู่เทียน แม้แต่พลังงานดั้งเดิมขั้นเทพของเขานั้นก็ได้สลายไปต่อหน้ากฎแห่งกระบี่นี้ กระบี่หิมะบินได้ปัดกระบี่ของลู่เทียนหลุดออกจากมือโดยไม่อ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อยก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปที่อกของลู่เทียน

อึก ! ลู่เทียน กระอักเลือดออกมาพร้อมใบหน้าที่ซีดอย่างมาก เขาถอยกลับมาในสภาพน่าอดสู แต่ตอนที่เขาถอยนั้นมือเขาก็ทำท่าผนึกก่อนจะตะโกนออกมา “เผาสวรรค์ ! ” กฎแห่งไฟโดยรอบอัดแน่นอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นทะเลไฟครอบคลุมไปทั่วท้องฟ้าเปลี่ยนที่นั่นเป็นโลกแห่งไฟ อุณหภูมิที่นั่นเพิ่มขึ้นราวกับติดจรวด

เจี้ยนเฉินยังคงใจเย็นเช่นเดิม เขากวาดกระบี่ตัดผ่านมิติแล้วทำให้เกิดแสงระเบิดขึ้นมา แสงนั้นได้พุ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วแสงออกไป

ครืน ! ปราณกระบี่ได้ตัดผ่านเปลวไฟจนเกิดเสียงระเบิดราวกับฟ้าผ่าขึ้นมา ทะเลไฟเริ่มสลายไป แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวของเจี้ยนเฉินก็สามารถทำลายทักษะต่อสู้ของลู่เทียนได้

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าด้วยซ้ำ มันเป็นไปไม่ได้ที่ความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นแบบนี้ได้ในเวลาอันสั้น” ลู่เทียนตะโกนขึ้นมา เจี้ยนเฉินแข็งแกร่งขึ้นมาจนเขาไม่ใช่คู่มือ ลู่เทียนไม่อาจยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้