ณ โรงแรมสตาร์สกาย

ภายในห้องเพรสซิเดนเชียล สวีท

ชายจมูกใหญ่ที่สวมสูทและรองเท้าหนังคนหนึ่งยืนอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องทำงานระหว่างมองมาที่นักวิชาการหยางฉงผิงซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขายกแก้วไวน์ในมือขึ้นมานิดหนึ่งให้นักวิชาการหยางและพูดพร้อมกับยิ้มว่า “ผมขอดื่มอวยพรให้คุณ การออกแบบของคุณสมบูรณ์แบบมากจนผมไม่รู้ว่าจะขอบคุณคุณยังไง”

“คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ” นักวิชาการหยางฉงผิงกล่าวต่อไประหว่างมองมายังชายที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทำงานอย่างเฉยเมย “ถ้าคุณต้องขอบคุณผมก็ขอบคุณโดยการทำให้พิมพ์เขียวของผมกลายเป็นจริงสิ”

“โปรดอย่าได้กังวลเรื่องนี้ไปเลย! เราได้ติดต่ออู่ต่อยานและผู้จัดจำหน่ายที่สามารถจะสร้างชิ้นส่วนในแบบของคุณได้เอาไว้แล้ว ผมเชื่อว่ามันคงจะไม่นานหรอกก่อนที่คุณจะได้ยินข่าวดีจากผม” มิสเตอร์แกล็ดสโตนยิ้มนิดๆ และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ชื่นชมว่า “ผมเชื่อว่าเมื่อยานอาณานิคมระดับมหากาพย์เสร็จสมบูรณ์ ชื่อของคุณจะได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นวิศวกรด้านการบินและอวกาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษนี้!”

“แค่จากยานอวกาศงั้นเหรอครับ? มีคนอีกมากมายที่น่ายกย่องเพียงพอที่จะได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์” นักวิชาการหยางฉงผิงหรี่ตาลงนิดหนึ่งและพูดต่อไปว่า “เมื่อเทียบกับบันไดที่เชื่อมระหว่างสวรรค์กับโลก ยานอวกาศยังไม่มีค่าพอที่จะได้รับการกล่าวถึง”

“ไม่เสมอไปหรอกครับ อย่าดูถูกตัวเอง” แกล็ดสโตนพูดพร้อมกับยิ้ม “เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่สองฉายแสงขึ้นมาเหนืออารยธรรมของเรา เมื่อห้องโดยสารในยานอาณานิคมของเราลงจอดบนดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลจากโลกและไกลจากระบบสุริยะ ในฐานะผู้ออกแบบยานลำนี้ จะมีใครในประวัติศาสตร์ที่เหนือไปกว่าคุณอีกล่ะ? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณจะกลายเป็นผู้เริ่มจุดเปลวไฟแห่งอารยธรรมขึ้นมา ความยิ่งใหญ่ของคุณก็จะไม่ด้อยไปกว่าใครเลย แม้แต่นักวิชาการลู่”

แม้ว่าฉันจะรู้ว่าเขากำลังประจบฉันอยู่ แต่ก็ยังรู้สึกว่าเป็นการยกยอ

คิ้วของหยางฉงผิงคลายลงเล็กน้อย เขายังรู้สึกพอใจนิดๆ ด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามในฐานะผู้นำของโรงเรียนแห่งความคิด เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้ามีความสุขนี้ออกไป แต่เขากลับพูดด้วยท่าทีที่สุขุมเยือกเย็นว่า “ผมก็หวังไว้อย่างนั้น”

“ก่อนจะไปนอน ผมต้องคัดแยกบันทึกการประชุมสักหน่อย ไว้ค่อยคุยกัน”

“ได้ครับ” แกล็ดสโตนพยักหน้านิดๆ และพูดอย่างร่าเริงว่า “สุขภาพของคุณคือเสาหลักของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อย่าลืมพักผ่อนแต่หัวค่ำและอย่านอนดึกเกินไป…

“อ้อ อีกอย่าง ผมขอให้คุณมีชีวิตที่ดี”

ลำแสงโฮโลแกรมที่ฉายอยู่บนโต๊ะทำงานค่อยๆ หายไป และภาพบุคคลที่ยืนอยู่ในลำแสงโฮโลแกรมก็หายไปพร้อมกันด้วย

ระบบการฉายโฮโลแกรมไม่สามารถแยกออกจากบุคคลจริงๆ ได้เลย

หลังจากผู้จัดการของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีออกไปแล้ว นักวิชาการหยางฉงผิงก็ยื่นนิ้วชี้ของเขาออกไปและแตะลงบนโต๊ะทำงาน เขาเรียกบันทึกการประชุมเมื่อกลางวันขึ้นมา

แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ขมวดคิ้ว

เขาอยากจะเห็นข้อเสนอของนักวิชาการลู่

อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องประหลาดใจ…

เขาไม่ได้ออกข้อเสนองั้นเหรอ?

ด้วยเหตุผลบางอย่าง นักวิชาการลู่ ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่มองดูการประชุมนับตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย…

“ลู่โจวดูเหมือนจะอยู่บนดาวอังคาร”

แกล็ดสโตนวางแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะกลาง เขาปิดระบบการโทรแบบโฮโลแกรมและหันไปจ้องลอว์เรนซ์ซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างเขา

“เขาอยู่ที่โรงแรมสตาร์สกาย ผมคิดว่าพวกเขากำลังเข้าร่วมการสัมมนาเรื่องแผนการพัฒนาดวงจันทร์ยูโรปา”

แกล็ดสโตนกำลังคาดหวังที่จะได้เห็นสีหน้าที่หวาดกลัวของลอว์เรนซ์ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นพันธมิตรกัน แต่ชายผู้นั้นก็น่ารำคาญจริงๆ

แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่ลอว์เรนซ์เพียงแต่พยักหน้า สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ราวกับว่าพวกเขาเพิ่งจะสนทนากันแบบสบายๆ เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “ผมได้ยินแล้ว”

“แค่นั้นเหรอ?”

“จะมีอะไรอีกล่ะ?”

“ผมหมายความว่า… ตอนนี้คนที่ทำให้คุณเปลี่ยนไปแบบตรงกันข้ามกำลังยืนอยู่ใต้จมูกคุณนี่เอง คุณไม่ได้วางแผนจะทำอะไรสักอย่างเลยเหรอ?”

“ถ้าเขาไม่เข้ามาแทรกแซงแผนของผม ทำไมผมจะต้องเริ่มยั่วยุเขาและปล่อยให้แผนของผมหลุดออกไปนอกลู่นอกทางด้วยล่ะ?” ลอว์เรนซ์เหลือบมองมาที่มิสเตอร์แกล็ดสโตนและพูดเบาๆ ว่า “พวกคุณยังไม่เจอเหตุผลในการล้มเหลวที่แท้จริงของคุณอีกเหรอ?”

จะเป็นใครไปได้ล่ะ?

มันไม่ใช่เพราะแกหรอกเหรอ?

คิ้วของแกล็ดสโตนกระตุก ร่องรอยของความไม่พอใจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาแวบหนึ่ง แต่สุดท้ายความไม่พอใจนั้นก็ถูกระงับเอาไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและพูดว่า “ผมคิดเสมอว่าเรื่องนี้แปลกนิดๆ คุณคิดว่าเขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างไหม?”

ลอว์เรนซ์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ความเป็นไปได้นี้ยังมีอยู่ คุณสามารถจะคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของเขาได้ แต่จะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ยั่วยุเขาอย่างจริงจัง จำไว้ว่าภารกิจของเราคือการทำให้เรือโนอาห์มุ่งหน้าไปเพื่อโลกใหม่อย่างสมบูรณ์ อย่าสร้างปัญหาใดๆ โดยไม่จำเป็น”

“แน่นอน ผมจะระวัง” แกล็ดสโตนพยักหน้า หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ เขาก็พูดว่า “จริงๆ แล้วมีเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ”

ลอว์เรนซ์ถามว่า “เรื่องอะไร?”

แกล็ดสโตนตอบว่า “ปัจจุบันวาร์ปไดรฟ์มีการติดตั้งอยู่บนฉินหลิ่งเท่านั้น คุณวางแผนจะติดตั้งเจ้านั่นบน… ยานอาณานิคมของเรายังไง?”

“โอ้ เรื่องนี้เหรอ? ไม่ยาก…” ลอว์เรนซ์ยิ้มจางๆ ระหว่างที่พูดต่อไปว่า “ดาวอังคารเป็นกระเพาะอาหารของอารยธรรมมนุษย์ สินแร่ทั้งหมดถูกถลุงอยู่ในโลหะผสมที่นั่นจากนั้นก็หล่ออยู่ในเครื่องจักรที่กลืนพลังงานเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นอีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์ สเปซ-เอ็กซ์ของกลุ่มพันธมิตรอเมริกาเหนือหรือโบอิ้ง พวกเขาทั้งหมดล้วนมีสายการผลิตอยู่ที่นี่ ตอนนี้เรากำลังยืนอยู่ในกระเพาะอาหารของอารยธรรมมนุษย์ คุณยังกังวลเรื่องที่จะไม่ได้วาร์ปไดรฟ์อยู่ไหม?”

“คุณหมายความว่า… จะขโมยพิมพ์เขียวมาจากมือของอีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์โดยตรงเหรอ?” แกล็ดสโตนจ้องมาที่เขาราวกับว่าเขากำลังจ้องมองสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง เขาพูดด้วยท่าทีแปลกๆ “ความล้มเหลวบนดาวซีรีสไม่ได้ให้บทเรียนกับคุณเลยเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จในการเผชิญหน้ากันโดยตรง”

“เผชิญหน้ากันโดยตรง? ผมไม่เคยคิดไปในทางนั้นเลย” ลอว์เรนซ์พูดต่ออย่างช้าๆ “ถึงแม้ว่าผมจะเป็น AI ตัวหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่เรียนรู้จากความล้มเหลว ตอนนี้ผมตั้งใจจะใช้วิธีแบบมีอารยธรรมในการแก้ปัญหานี้”

แกล็ดสโตนยักไหล่

“สหการพาน-เอเชียนจะไม่ทนให้การรั่วไหล่ของความลับระดับนี้เข้าไปสู่มือของกองกำลังนิรนาม วันหนึ่งที่พวกเขาค้นพบว่าพิมพ์เขียวรั่วไหลออกไป เราจะไม่มีวันได้มีโอกาสติดตั้งวาร์ปไดรฟ์บนเรือโนอาห์ สงครามอาจจะใกล้จะอุบัติขึ้น!”

“มันอาจจะมีสงคราม แต่ที่แน่ๆ คือไม่ใช่พวกเราที่จะถูกลากเข้าไปอยู่ในวังวน คุณจะเข้าใจว่าทำไม นี่ก็เป็นการแลกเปลี่ยนความสนใจอีกอย่างหนึ่ง” ลอว์เรนซ์ยิ้มจางๆ และพูดต่อไปว่า “ตอนนี้มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่คุณจำเป็นต้องทำ นั่นคือหาคนมาเข้าร่วมในแผนเรือโนอาห์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ระหว่างที่จ้องมองภาพโฮโลแกรมตรงหน้า แกล็ดสโตนดูกระวนกระวาย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็อดจะพูดออกมาไม่ได้ว่า “ผมหวังว่าแผนการบ้าๆ ของคุณจะไม่พาพวกเราทั้งหมดไปตกม้าตายนะ”

“จะบ้าหรือไม่บ้า แล้วคุณมีทางเลือกอื่นไหมล่ะ?”

แกล็ดสโตนพูดไม่ออก

ลอว์เรนซ์ยิ้มนิดๆ โดยเอามือไว้ข้างหลัง แล้วเขาก็หายไปอย่างเงียบๆ

………………….