บทที่ 2261 คำขอร้องของเฮ่อเหลียนเช่อ + ตอนที่ 2262 นายจะต้องรอดชีวิตกลับมาได้แน่นอน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2261 คำขอร้องของเฮ่อเหลียนเช่อ

เหยียนหมิงซุ่นยิ่งคิดก็รู้สึกละอายใจมากขึ้นจึงหันหน้าหนีไม่กล้ามองเหมยเหมย แกล้งทำเป็นพูดท่าทีผ่อนคลายว่า “ชื่อของลูกก็เอาตามที่พ่อบุญธรรมตั้งก็แล้วกัน ผู้ชายชื่อเฮ่อเหลียนซู่ ส่วนผู้หญิงก็ให้ชื่อเหยียนเล่อเล่อ…”

เหมยเหมยรีบตัดบท “ฉันเพิ่งท้องได้ยังไม่ถึงสี่เดือนเลย อีกตั้งครึ่งปีกว่าจะคลอด จะรีบร้อนตั้งชื่อไปทำไม?”

เธอไม่ชอบที่เหยียนหมิงซุ่นพูดจาเหมือนสั่งเสียอะไรแบบนี้เลยแม้แต่น้อย ฉิวฉิวก็บอกแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร เหยียนหมิงซุ่นจะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ก่อนออกเดินทางพูดจาแบบนี้ไม่เป็นมงคลเลย!

เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้ม “ก็ได้ ๆ ไม่รีบร้อน ช่วงนี้เธอก็ออกจากบ้านให้น้อยลงหน่อย ต่อให้ไปบ้านคุณปู่คุณย่าก็ต้องมีคนติดตามไปด้วย เข้าใจไหม?”

“อืม…พี่วางใจเถอะ…ฉันจะไม่อยู่ห่างจากลุงเหลากับป้าฟางเลยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง พี่ไม่ต้องมากังวลแทนฉันหรอก!” ขอบตาเหมยเหมยร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง เธอพยายามฝืนยิ้มเพราะเธอไม่ชอบการจากลาแบบนี้เลยจริง ๆ มันเหมือนกับว่าจากลากันแล้วยากที่จะได้พบเจออีก

ถึงแม้ว่าบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำจะเต็มไปด้วยกับข้าวมากมาย แต่ทั้งสองคนไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด แต่ไม่นานเหยียนหมิงซุ่นก็กลับสู่ความสงบได้อย่างรวดเร็ว แล้วค่อย ๆทานมันอย่างช้า ๆ เปิดปากชมบ้างเป็นครั้งคราว แถมทานไปไม่น้อยเหมือนกัน

……

พักผ่อนหย่อนใจมาหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆก็ถึงเวลาที่นัดกับเฮ่อเหลียนเช่อไว้แล้ว เหยียนหมิงซุ่นลุกขึ้นอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็เขาไปกอดและประทับจูบเหมยเหมย…

ริมฝีปากประทับจูบกันอย่างดูดดื่มราวกับฉันอยู่ในตัวคุณและคุณก็อยู่ในตัวฉัน ทั้งสองจูบกันอย่างมีความสุข ลืมเรื่องกวนใจทั้งหมดจนสิ้น บนโลกนี้เหลือแค่เพียงพวกเขาสองคน…

แต่สุดท้ายก็ต้องกลับสู่ความเป็นจริง พวกเขาผละออกจากกัน เหยียนหมิงซุ่นกระชับกอดเหมยเหมยที่เหนื่อยหอบเล็กน้อยไว้แน่นแล้วกระซิบข้างหูว่า “พี่รักเธอนะ…”

“ฉันก็รักพี่เหมือนกัน ฉันจะรอพี่กลับมานะ!”

เหมยเหมยพยายามเก็บความเศร้าเอาไว้แล้วฉีกยิ้ม

เหยียนหมิงซุ่นประทับจูบหน้าผากของเธออีกครั้ง ตัดความอาลัยอาวรณ์ทิ้งไป “พี่ไปแล้วนะ…”

เขาหันหลังและเดินจากไป หากยังช้ากว่านี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะยังใจแข็งต่อไปได้ไหม เรื่องที่ควรทำเขาจำเป็นต้องทำ!

“…พาฉิวฉิวและฉาฉาไปด้วย!”

เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งขึ้นรถ เหมยเหมยก็วิ่งตามมาเอาฉิวฉิวและฉาฉาห่อแล้วโยนเข้าไปในรถของเหยียนหมิงซุ่น เธอหันไปส่งยิ้มหวานให้เขา เธอจงใจเลือกที่จะส่งเจ้าหนูน้อยสองตัวออกไปในนาทีสุดท้าย แบบนี้เหยียนหมิงซุ่นก็จะได้ไม่มีเวลาปฏิเสธ

ถ้าไม่อย่างนั้นเหยียนหมิงซุ่นคงไม่ยอมเอาไปด้วยแน่นอน เพราะเขารู้สึกว่าฉิวฉิวและฉาฉาอยู่ข้างกายเธอจะดีกว่า เพราะพวกมันสามารถปกป้องเธอได้!

“เหมยเหมย…เอากลับไป!”

เป็นไปตามคาดเหยียนหมิงซุ่นคิดจะคว้าฉิวฉิวโยนกลับไปให้เหมยเหมย แต่ฉิวฉิวเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก มันพาฉาฉากระโดดขึ้นไปบนหลังคารถ ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นมือไม้ว่องไวแค่ไหนก็จนปัญญาจะจับมันลงมาได้ในช่วงเวลาอันสั้น

“คุณชายหมิง เหลืออีกห้านาที!” คนขับรถรีบเตือน

เหมยเหมยยิ้มหวานหันไปโบกมือให้เหยียนหมิงซุ่น ตะโกนเสียงดังว่า “ฉันกับลูกจะรอพี่กลับบ้านนะ!”

เหยียนหมิงซุ่นมองฉิวฉิวที่เกาะอยู่บนหลังรถอย่างจนใจ และทำได้แค่ให้คนขับรถออกรถไป “ขับให้เร็วที่สุด!”

ความตรงต่อเวลาเป็นพื้นฐานของทหาร

เหลืออีกสามวินาทีจะครบห้านาทีเหยียนหมิงซุ่นก็มาถึงสนามบิน เฮ่อเหลียนเช่อก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน เขาดูรีบร้อนมาก เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ผ่านการบอกลาแสนอาลัยอาวรณ์ก่อนจะมาที่นี่เช่นกัน!

“ไปกันเถอะ…”

เหยียนหมิงซุ่นโบกมือ ตรวจสอบเครื่องบินรบด้วยตัวเองก่อนจะให้เฮ่อเหลียนเช่อขึ้นไปก่อน ส่วนเขาเป็นคนขับ

เฮ่อเหลียนเช่อนั่งอยู่ข้างหลังอย่างเงียบ ๆ ห้องโดยสารเงียบไร้ซึ่งเสียงใด ๆ มีเพียงเสียงลมหายใจหนัก ๆของพวกเขาสองคนเท่านั้น

เพราะเหยียนหมิงซุ่นขับขึ้นไปถึงขีดจำกัดสูงสุดของเครื่องบินรบที่มีระดับความสูงเกือบหนึ่งหมื่นแปดพันซึ่งใกล้กับชั้นบรรยากาศ ออกซิเจนในชั้นบรรยากาศด้านบนเบาบางมาก แม้แต่เหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อที่มีคุณสมบัติทางร่างกายที่แข็งแกร่งยังต้องสวมหน้ากากออกซิเจนเลย

“ถ้าหาก…ฉันทำลายชนวนระเบิดได้ นายปล่อยพ่อของฉันไปเถอะ ให้เขาพาเป่าเป่าไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนะ” จู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อก็พูดขึ้นมากะทันหัน เสียงนั้นส่งผ่านเครื่องรับสัญญาณวิทยุไปถึงหูของเหยียนหมิงซุ่นอย่างชัดเจน

…………………………………………..

ตอนที่ 2262 นายจะต้องรอดชีวิตกลับมาได้แน่นอน

เหยียนหมิงซุ่นตั้งใจขับเครื่องบินรบอยู่ ถึงแม้ว่าจะได้ยินคำพูดของเฮ่อเหลียนเช่ออย่างชัดเจนแต่เขาไม่อยากตอบ ในเมื่อบินอยู่บนชั้นบรรยากาศสูงเกือบหนึ่งหมื่นแปดพันฟุต เขาไม่อยากคุยกับเฮ่อเหลียนเช่อเลยสักนิด

“ลงไปค่อยว่ากัน!”

เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเย็นชา เฮ่อเหลียนเช่อถึงตระหนักได้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไม่ถูกกาลเทศะเอาเสียเลย เขาจึงรีบหุบปากทันที ไม่กล้ารบกวนเหยียนหมิงซุ่นอีกต่อไป

เครื่องบินรบที่พวกเขาขับเป็นเครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ความเร็วอยู่ในระดับที่ดีมาก ทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ไกลแสนไกลยังใช้เวลาขับไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เหยียนหมิงซุ่นควบคุมเครื่องลงจอดอย่างชำนาญ ลงได้นิ่งและสวยงามภายในครั้งเดียว

“ฝีมือไม่เลวนี่แต่แย่กว่าฉันนิดหน่อย!”

เฮ้อเหลียนเช่อพูดด้วยเสียงหงุดหงิด เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง อันที่จริงเขาไม่อยากคุยกับเจ้าหมอนี่มากนัก ระยะนี้สติปัญญาไม่ค่อยดีเลย

“นายคิดว่าหนิงเฉินเซวียนจะใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศอย่างสงบเสงี่ยมเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดถึงประเด็นก่อนหน้านั้น

พอได้ฟังคำพูดที่เฮ่อเหลียนเช่อเอ่ยบนเครื่องบิน เหยียนหมิงซุ่นก็รู้ทันทีว่าเขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดกลับมาถึงได้สั่งเสียไว้

สีหน้าท่าทางของเฮ่อเหลียนเช่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็กลับมาสงบเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว เหยียนหมิงซุ่นพูดถูก เพราะความจริงพ่อของเขาคงไม่มีทางยอมไปจากฮวาเซี่ยง่าย ๆ เขาบ้าและหมกมุ่นมาก ตอนนี้ในใจคิดเพียงแต่จะเป็นฮ่องเต้

อันที่จริงสิ่งที่เฮ่อเหลียนเช่อไม่รู้ก็คือหนิงเฉินเซวียนต้องการทำให้แม่ของเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมา——หนิงเสี่ยวซี

หนิงเฉินเซวียนก็ไม่รู้ว่าได้ยินวิธีบ้า ๆแบบนี้มาจากไหน ว่ากันว่าให้เก็บรักษาศพไว้ดี ๆไม่ให้มีร่องรอยความเสียหายใด ๆ จากนั้นก็วางไว้ตรงกลางหลงม่าย[1]เป็นเวลาสี่สิบเก้าวัน สูดกลิ่นอายมังกรเข้าไปจะช่วยทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้

นี่คือเหตุผลหลักที่หนิงเฉินเซวียนอยากจะยึดครองโลก แน่นอนว่าเขาย่อมมีความทะเยอทะยานที่ปรารถนาจะเป็นฮ่องเต้ด้วยอยู่แล้ว

เฮ่อเหลียนเช่อยิ่งไม่รู้เลยว่าศพของแม่ตนอยู่ในถ้ำด้วย ศพอยู่ในโลงที่ทำจากหยกเย็นพันปีซึ่งได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ศพนั้นราวกับยังมีชีวิตอยู่ หนิงเฉินเซวียนมักจะเข้าไปในถ้ำเพื่อพูดคุยความในใจกับหญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขาเสมอ

นี่เป็นแรงจูงใจที่ผลักดันให้เขายืนหยัดต่อไป!

ช่างน่ารังเกียจสะอิดสะเอียนเสียจริง!

“ถ้าเขาไม่ยอมไปก็ช่างเถอะ ฉันแค่หวังว่าพอถึงตอนนั้นนายจะยอมปล่อยเขาไปก็แค่นั้น!” เฮ่อเหลียนเช่อถอนหายใจ แล้วมองไปที่เหยียนหมิงซุ่นด้วยความเว้าวอน

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะตัดสินใจได้เพราะต้องให้นายใหญ่เป็นคนตัดสิน มาขอร้องฉันก็ไม่มีประโยชน์หรอก!” เหยียนหมิงซุ่นพูดความจริงด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เหมยซูหานและเสี่ยวเป่าเขาปล่อยไปได้ การลงโทษไม่รวมถึงคนในครอบครัว นายใหญ่คงไม่ถึงขนาดฆ่าแกงกันหมดหรอก และเขาก็ไม่คิดจะทำแบบนั้นเช่นกัน แต่หนิงเฉินเซวียน…ต่อให้นายใหญ่จะยอมปล่อยเขาไป แต่เกรงว่าเฮ่อเหลียนชิงจะไม่เห็นด้วยเนี่ยสิ!

เรื่องที่เฮ่อเหลียนชิงถูกวางยาพิษในปีนั้นก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาหลายต่อหลายครั้ง สิ่งเดียวที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็คือการแก้แค้น

การฆ่าหนิงเฉินเซวียนกลายเป็นความยึดติดในชั่วชีวิตนี้ของเฮ่อเหลียนชิงไปแล้ว เขาไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆแน่!

เฮ่อเหลียนเช่อก็คิดถึงจุดนี้เหมือนกัน สีหน้าก็ยิ่งเศร้าสร้อย ไร้ซึ่งชีวิตชีวาและจิตใจอันฮึกเหิมเหมือนที่เห็นในทุก ๆวันความโหดเหี้ยมอำมหิตในอดีตบนใบหน้าเวลานี้หายมลายไปแทบไม่เหลือ ถือว่าดูไม่ขัดตาขึ้นเยอะเลย

เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยว่า “เหมยซูหานและเสี่ยวเป่าฉันรับปากนายได้ว่าจะปกป้องพวกเขาให้อยู่ดีมีสุข คนอื่นฉันจนปัญญาที่จะรับปากได้จริง ๆ แน่นอนว่าเงื่อนไขข้อแรกคือฉันต้องมีชีวิตรอดให้ได้เสียก่อนนะ”

ดวงตาของเฮ่อเหลียนเช่อไหววูบ พูดเสียงแผ่วเบาว่า ’ขอบคุณนะ’ แต่ก็ลอยพัดหายไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เหยียนหมิงซุ่นหูดีไม่อย่างนั้นคงจะไม่ได้ยินแน่ เขาหัวเราะในใจ เจ้าหมอนี่คงไม่เคยเอ่ยขอบคุณใครมาก่อนเลยสินะ?

แม้กระทั่งพูดขอบคุณยังพูดได้ไม่เป็นธรรมชาติเสียขนาดนี้!

ทั้งสองขึ้นรถแล้วไม่พูดอะไรกันอีก และยังคงเป็นเหยียนหมิงซุ่นขับอีกเช่นเคย เขาเหยียบคันเร่งจนสุดขับไปตามเส้นทางบนท้องถนน

“นายจะต้องมีชีวิตรอดกลับไปได้แน่!” อยู่ดี ๆเฮ่อเหลียนเช่อก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็ไม่ปริปากพูดอะไรอีก จากนั้นเขาก็หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าสงบเรียบนิ่งแต่สายตากลับเจ็บปวดจับใจ

[1] เป็นสถานที่ที่มีพลังอันศักดิ์สิทธิ์ ฮวงจุ้ยดี

………………………………………..