บทที่ 2263 เรื่องในอดีตเมื่อสิบปีก่อน + ตอนที่ 2264 สวรรค์ของงูพิษ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2263 เรื่องในอดีตเมื่อสิบปีก่อน

เหยียนหมิงซุ่นหันไปสำรวจเฮ่อเหลียนเช่อที่กำลังเศร้าสร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า เลิกคิ้วเอ่ยถาม “นายกำลังคิดจะเสียสละตัวเองหันมาสร้างคุณธรรมหรือไง?”

เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงหึ “ในพจนานุกรมของฉันไม่มีคำว่าคุณธรรมอยู่หรอก ทุกคนทางตะวันตกเฉียงใต้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน ฉันแค่หวังว่าซูหานและเสี่ยวเป่าจะมีชีวิตที่ดีก็เท่านั้น”

และหนิงเฉินเซวียนพ่อของเขาด้วย เขาหวังว่าพ่อจะมีชีวิตที่เป็นสุขเช่นกัน

ในเมื่อหนิงเฉินเซวียนให้ชีวิตเขา งั้นก็ถือว่า…เขาชดใช้คืนให้ก็แล้วกัน!

“นายยังไร้เดียงสาเกินไป ด้วยความบ้าคลั่งของพ่อนาย นายคิดว่าแค่กำลังของนายเพียงลำพังจะทำลายได้หมดงั้นเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงหัวเราะเยาะ

“แก้ไปทีละขั้นเถอะ ถ้าฉันจัดการคนเดียวไม่ได้ งั้นคงทำได้แค่ให้นายตายไปพร้อมกับฉันแล้วล่ะ…” เฮ่อเหลียนเช่อพูดล้อเล่นหน้านิ่ง

ชนวนระเบิดจะต้องถูกทำลาย ถ้าเขาจัดการคนเดียวไม่ได้ งั้นก็ต้องสองคน!

ถึงอย่างไรเสียก็เลือกจะรับภารกิจนี้แล้ว ฉะนั้นก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดกลับไป เตรียมตัวตายได้เลย!

ในรถเงียบลงอีกครั้ง พร้อมบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความเศร้าสร้อย…

หางตาของเฮ่อเหลียนเช่อเหลือบไปเห็นฉิวฉิวและฉาฉาอีกมุมหนึ่งของรถ เขาเลิกคิ้วด้วยความสนใจ ความทรงจำเกี่ยวกับเจ้าสองแสบนี้ยังคงเด่นชัดอยู่ในความทรงจำของเขา!

สิบปีก่อนที่สโมสรอันดับหนึ่ง ตอนนั้นเขายังไม่รู้จักเหมยซูหานและไม่กลัวใครหน้าไหนเรียกลมเรียกฟ้าได้ด้วยซ้ำ พอตอนนี้คิดย้อนกลับไปในช่วงหลายปีนั้นเขายังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่เลย คน ๆนั้นจะเป็นเขาไปได้อย่างไรกัน?

ตอนแรกเขารู้สึกชอบลูกสาวของเฝิงไห่ถังเพื่อนของจ้าวเหมย ผู้หญิงที่แยกแยะเพศไม่ออกคนนั้น ตอนนั้นเขารู้สึกถูกใจมากและคิดจะรวดพาตัวจ้าวเหมยไปด้วย เพียงแต่ว่าคืนนั้นแผนของเขาพลาดล้มไม่เป็นท่า

แต่ดันเสียเปรียบโดนสัตว์ร้ายตัวแสบสองตัวตรงหน้ากัดเข้าให้จนตัวแข็งทื่ออยู่สองชั่วโมง

รสชาตินั้นช่างสุดยอดไปเลย…แม้กระทั่งฉี่ยังไม่มีแรงจะปล่อยออกมาด้วยซ้ำ กระเพาะปัสสาวะแทบแตกอยู่แล้ว!

พอนึกถึงอดีตอันขมขื่นเฮ่อเหลียนเช่อก็สีหน้าหม่นลงในชั่วขณะ จ้องฉิวฉิวและฉาฉาซึ่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอย่างเย็นชา เขาอยากจะบีบเจ้าพวกนี้ให้ตายเสียเดี๋ยวนี้เลย!

เฮ่อเหลียนเช่อเหลือบมองเหยียนหมิงซุ่นที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ ทันใดนั้นก็พบว่าหน้าด้านข้างของเจ้าหมอนี่คุ้นตานัก เมื่อก่อนเคยเห็นแต่ด้านหน้าของเจ้าหมอนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นใบหน้าด้านข้าง!

แต่ทำไมเขาถึงจำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ!

มีภาพปรากฏขึ้นมาในหัวของเฮ่อเหลียนเช่อแวบหนึ่ง เขานึกถึงคนลึกลับที่ช่วยจ้าวเหมยและเซียวเซ่อในกลางดึกเมื่อสิบปีก่อน ถึงแม้จะเป็นยามท้องฟ้ามืดมิดแต่เขากลับมองเห็นอย่างชัดเจน เหยียนหมิงซุ่นก็คือชายลึกลับคนนั้นไม่ใช่หรือไง!

โธ่เอ้ย!

สมองหมูอย่างเขาต้องใช้เวลาถึงสิบปีถึงจะนึกออก!

“เหยียนหมิงซุ่น…สิบปีก่อนที่สโมสรอันดับหนึ่งคนที่เตะเป้ากางเกงฉันก็คือนายใช่ไหม?” เฮ่อเหลียนเช่อถามขึ้นมาลอย ๆ แต่ทว่าน้ำเสียงกลับมั่นใจเป็นอย่างมาก

พอนึกขึ้นมาได้เขาก็หัวเสียทันที อย่างมากช่วงเวลานั้นเหยียนหมิงซุ่นก็น่าจะอายุสิบแปดสิบเก้าเองมั้ง แต่ลงมือเตะได้เหี้ยมโหดและรุนแรงมาก แถมยังจงใจเตะเข้ากลางเป้าของเขาอีก แต่ในเวลานั้นเขาถูกพิษของเจ้าสัตว์สองตัวนี้เข้าให้จนขยับตัวไม่ได้จึงทำได้แค่ทนไป!

เหยียนหมิงซุ่นตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าจู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อจะพูดถึงเรื่องในอดีตขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธ “ใช่ ตอนนั้นนายสมควรโดนเตะ!”

กล้าคิดมิดีมิร้ายกับเหมยเหมย ไม่เตะจนสูญพันธุ์ก็ถือเฮ่อเหลียนเช่อโชคดีมากแล้ว!

เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงใส่ พลันรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาจึงไม่กล้าโต้แย้งอะไร

รถแล่นเข้าสู่ชายแดนภูเขาสือว่านอย่างรวดเร็ว ต้นไม้หนาแน่นเขียวชอุ่ม อากาศสดชื่นเป็นอย่างมาก ไม่มีผู้คนเหยียบย่างเข้ามามากนัก แถมยังได้ยินเสียงนกร้องเป็นครั้งคราวอีกด้วย

“จะเข้าไปจากตรงไหน?” เฮ่อเหลียนเช่อหยิบกระเป๋าเตรียมจะขึ้นเขา

“ตรงนี้คือทางเข้า และยังต้องเดินต่ออีกหกชั่วโมง”

เหยียนหมิงซุ่นแบกกระเป๋าขึ้นสะพายหลัง เพราะขับรถเข้าไปข้างในไม่ได้จึงทำได้แค่เดินเข้าไปเท่านั้น ใช้เวลาเดินหกชั่วโมงในระยะเส้นทางภูเขาสำหรับพวกเขาแล้วง่ายยิ่งกว่าการเดินเล่นเสียอีก

ฉิวฉิวก็พาฉาฉาลงจากรถเช่นกัน พวกมันปีนขึ้นต้นไม้อย่างรวดเร็วแล้วเรียกกระรอกทั้งหมดที่อยู่ในละแวกนั้น

…………………………………………..

ตอนที่ 2264 สวรรค์ของงูพิษ

อันที่จริงภูเขาสือว่านไม่นับว่าเป็นภูเขาแต่เป็นยอดเขานับไม่ถ้วนเชื่อมต่อกันก่อตัวเรียงเป็นยาวหลายพันไมล์ ภูเขาสือว่านเป็นเพียงคำเรียกรวม ๆหมายถึงยอดเขาที่มีมากมายหลายแสนลูกและมีพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

ภูเขาสูงชันแทรกตัวเต็มพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ในภูเขาปกคลุมด้วยต้นไม้สูงใหญ่หนาแน่นจนบดบังผืนป่าจนมืดมิด เดินเล่นบนภูเขาในตอนกลางวันกลับเหมือนเดินเล่นในยามค่ำคืนมองเห็นทางไม่ค่อยชัดนัก

ถึงแม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็มีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนแต่พวกเขาก็ยังคงเปิดไฟฉาย หมวกบนหัวมีแสงไฟเจิดจ้าแถมยังสะดวกมากด้วย

ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันแล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่ และใช้มีดพกพาตัดเถาวัลย์ที่ขวางทางเป็นครั้งคราว รวมถึงสัตว์แมลงมีพิษที่มาเกะกะขวางทางมากขึ้นอีกด้วย…

“โธ่เอ้ย…หากยังเข้ามาอีกฉันจะย่างพวกแกซะ…”

เฮ่อเหลียนเช่อไล่งูพิษที่ต้องการโจมตีเขานับครั้งไม่ถ้วนออกไป เหมือนว่าบนภูเขาอันกว้างใหญ่แห่งนี้กำลังทดสอบความกล้าหาญและฝีมือของเขา แต่เขาไม่กล้าฆ่างูพิษซี้ซั้วเพราะงูเป็นสัตว์ที่มีความพยาบาทมาก และภูเขาก็เป็นอาณาเขตของพวกมัน ใครจะรู้ว่างูที่เขาฆ่ามีภูมิหลังเป็นมาเช่นไรบ้าง หากเพื่อนฝูงของพวกมันมาแก้แค้นเอาคืนเขาคงไม่มีเวลามาจัดการพวกมันหรอก!

ทางด้านเหยียนหมิงซุ่นกลับผ่อนคลายสบายมากเพราะเขาแค่ตัดเถาวัลย์ที่ขวางทางเท่านั้น งูและแมลงที่น่าขยะแขยงเหล่านั้นได้แต่มองเขาจากที่ไกล ๆสามเมตร ดังนั้นพวกมันจึงพุ่งเป้าไปทางเฮ่อเหลียนเช่อที่อยู่ด้านหลังเหยียนหมิงซุ่นแทน

ไม่เพียงแต่งูพิษหลากสีหลายชนิด แต่ยังมีแมลงมีพิษหลายชนิดที่ระคายเคืองต่อผิว เฮ่อเหลียนเช่อปัดจนมือไม้พันกันเป็นระวิง รำคาญใจแทบแย่

“…แปลกจัง ทำไมแมลงพวกนี้ไม่ไปรุมนายเลยล่ะ? ทั้ง ๆที่นายก็อยู่ด้านหน้า…เหยียนหมิงซุ่น นายแอบซ่อนยาไล่แมลงเอาไว้ใช่ไหม…”

ในที่สุดเฮ่อเหลียนเช่อก็ค้นพบถึงสิ่งผิดปกติ แถมยังนึกว่าเหยียนหมิงซุ่นแอบทำอะไรลับหลังจึงรู้สึกขุ่นเคืองใจ

เหยียนหมิงซุ่นหันกลับมาและหัวเราะเบา ๆ “เมื่อกี้พวกเราก็ทายาอยู่ด้วยกัน ตาข้างไหนของนายที่เห็นฉันซ่อนยาเอาไว้ล่ะ ทั้ง ๆที่นายไม่ได้เรื่องแท้ ๆ ขนาดแมลงยังตอมนายไม่หยุดเลย!”

“ฉันจะฆ่าพวกมัน…”

ฉับพลันเฮ่อเหลียนเช่อก็นึกขึ้นมาได้ ก่อนเข้ามาพวกเขาทายาด้วยกันแถมยังเป็นยาตัวเดียวกันทุกประการ ผ่านไปครึ่งทางแล้วก็ไม่เห็นเหยียนหมิงซุ่นจะใช้ยาตัวอื่น ฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะแอบซ่อนยาเอาไว้ หรือว่าเขาจะเป็นที่โปรดปรานของพวกแมลงจริง ๆนะ?

ความโมโหพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เฮ่อเหลียนเช่อฟาดฟันพวกมันด้วยมือเดียว เขาคิดจะฟันงูพิษออกเป็นสองท่อนแต่เหยียนหมิงซุ่นมาห้ามไว้ก่อน “งูพิษมีมากขนาดนี้นายฆ่าทิ้งได้หมดเหรอ? ถึงอย่างไรเสียพวกมันก็กัดนายไม่ได้แล้วจะไปสนใจพวกมันทำไม!”

เหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจเลยจริง ๆ พวกเขาห่อตัวมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้แต่ปลิงยังเข้าไปไม่ได้เลย งูพิษก็แค่ดูแล้วน่ารังเกียจเท่านั้น กัดก็กัดไม่ได้แล้วจะจริงจังไปทำไม

“ไม่ล่ะ…ฉันเห็นพวกมันแล้วรู้สึกรำคาญ…”

“ตอนนี้พวกเราเป็นฝ่ายบุกเข้ามาในอาณาเขตของพวกมันถือว่าเป็นแขกนะ นายมีสติหน่อย อย่าทำตัวเป็นเจ้าบ้านเสียเองสิ!”

เหยียนหมิงซุ่นถลึงตาใส่เขา เวลาแบบนี้ยังจะทำตัวงอแงไร้สาระอีก ไม่ใช่ผู้หญิงเสียหน่อย!

เฮ่อเหลียนเช่อมีสีหน้าละอายใจอยู่บ้างแต่อดกลั้นเอาไว้อยู่ ผู้ชายตัวใหญ่กลัวแมลงมันดูอ้อนแอ้นไปหน่อยจริง ๆแหละ

แต่เขาไม่กลัววิญญาณชั่วร้าย ไม่กลัวสัตว์ร้าย ยกเว้นก็แต่พวกสัตว์จำพวกนี้เท่านั้น หนึ่งหรือสองตัวยังพอไหวแต่ถ้ามากกว่านี้เขาทนไม่ไหวหรอก

ภายใต้การพูดโน้มน้าวของเหยียนหมิงซุ่น สุดท้ายเฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่ได้ฆ่างูพิษและปล่อยพวกมันไป เขาแค่ปัดไล่พวกมันเท่านั้น จนหลัง ๆมีงูพิษน้อยลงมาก น่าจะเห็นว่าเฮ่อเหลียนเช่อไม่มีรังสีอาฆาตแล้วจึงแค่แลบลิ้นและมองดูจากบนต้นไม้ ไม่โจมตีเขาอีกต่อไป

ตอนนี้เป็นฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่งูพิษและแมลงในป่าฝนเขตร้อนชุกชุมมากที่สุด เพราะว่าที่นี่ไม่ค่อยมีผู้คนเหยียบย่างเข้ามามากนัก งูพิษมีศัตรูทางธรรมชาติน้อยลง ป่าฝนที่หนาแน่นแห่งนี้ได้กลายเป็นสวรรค์ของพวกงูพิษ ต้นไม้ทุกต้นเต็มไปด้วยงูพิษซึ่งมันชวนให้ขนหัวลุกเหลือเกิน

พอไม่มีงูพิษโจมตีเฮ่อเหลียนเช่อก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย เวลานี้เขาค้นพบว่าฉิวฉิวและฉาฉาไม่อยู่แล้วจึงเตือนด้วยความหวังดีว่า “เจ้าสัตว์สองตัวของเมียนายหนีหายไปแล้ว!”

………………………………………