ตอนที่ 2806 ข้อโต้แย้ง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2806 ข้อโต้แย้ง
เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดกดดันพลังกัดกร่อนนั้นแม้แต่น้อย แต่ใช้พลังของสายเลือดเข้ารับทำให้ไม่อาจถูกกัดกร่อนได้แทน

สายเลือดโกลาหลนั้นมันเป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดของสามสิบสามสวรรค์

ไร้เทียมทาน!

เมื่อลองสัมผัสดูถึงพลังเลือดกัดกร่อนนี้เย่หยวนก็ต้องขมวดคิ้วแน่น

มันซับซ้อนยิ่ง!

เลือดกัดกร่อนนี้มันผสานเข้าเป็นหนึ่งกับเลือดของซ่งเหมียวจนไม่อาจจะแยกจากกันได้

ต่อให้เย่หยวนจะควบคุมปราณเทวะได้แม่นยำแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะแยกออกมาได้เช่นกัน

การผสานเช่นนี้มันรวมกันเป็นหนึ่ง ไม่อาจจะแยกจากกันได้เลย

หลังจากเย่หยวนหยุดตรวจซ่งเหมียวก็ยิ้มแห้งๆ กล่าวขึ้น “ซ่งผู้นี้ขอบคุณความหวังดีของน้องเย่ แต่ว่าซ่งผู้นี้รู้จักเลือดกัดกร่อนนี้ดีและคงไม่มีทางรักษาหายได้แน่”

เย่หยวนนั้นไม่คิดตอบกลับไปแต่ถามขึ้นมาแทน “ผู้อาวุโส คนที่ถูกพิษเลือดนี้เข้ามันคงมิใช่แค่ท่านหรอกใช่ไหม?”

ซ่งเหมียวพยักหน้ารับ “ดินแดนเหนือนั้นมันสงบสุขแต่ว่าคนส่วนใหญ่ก็เคยผ่านศึกกับเผ่าเลือดมาก่อน ทำให้คนส่วนมากติดพิษเลือดกัดกร่อนนี้สิ้น”

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้าขอไปดูหน่อย”

ซ่งเหมียวยิ้มตอบและพาเย่หยวนออกไปอย่างไม่คิดปฏิเสธ

เหล่าอัจฉริยะนั้นล้วนเย่อหยิ่งเกินห้ามได้ หลังจากปล่อยให้เย่หยวนไปเจอความเป็นจริงเข้าแล้วสุดท้ายเขาก็คงยอมแพ้ไปเอง

พิษกัดกร่อนของเผ่าเลือดนั้นมันถูกคนมากมายศึกษาหาทางรักษา มิใช่แค่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้า แต่แม้แต่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหก เจ็ด แปดหรือแม้แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าเองก็ล้วนต่างเคยลองมาทั้งสิ้น

แต่มันไม่มีใครหาทางรักษาจริงๆ ได้

หากเลือดกัดกร่อนนั้นมันเข้าสู่ร่างกายแล้ว มันจะไม่มีทางแยกออกจากกันได้อีก

เว้นเสียแต่ว่าคนที่ถูกกัดกร่อนนั้นจะตายลง มันก็ไม่มีทางแยกเอาเลือดกัดกร่อนนั้นออกมาได้เลย

เวลานี้ในเมืองทัศน์เหนือนั้นมันมีกองทัพจักรพรรดิเซียนประจำอยู่ถึงสองพันคน

แต่เมื่อเย่หยวนเดินเข้ามาถึงที่ตั้งกองเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้น

เพราะกองทัพสองพันนั้นมันเหลือจำนวนแค่ราวพันสี่ร้อยคน ที่สำคัญไปกว่านั้นคนส่วนมากยังบาดเจ็บ

บาดแผลมากมายนี้มันเกิดขึ้นจากพิษเลือดกัดกร่อน

“น้องเต้าเฉิน นี่มันสุดยอดมาก! หลังจากการรักษาของเจ้านั้นอาการพิษกัดกร่อนของข้ามันก็รู้สึกโล่งขึ้นมากเลยทีเดียว!”

“ฮ่าๆ แค่ลูกไม้นิดหน่อย! พวกท่านต้องทนกันอีกสักหน่อย สักวันข้าจะลบล้างพิษกัดกร่อนนี้และฟื้นคืนพวกท่านให้กลับมาแข็งแกร่งเช่นเดิมได้แน่!” ชายหนุ่มคนหนึ่งหัวเราะขึ้นอย่างมั่นใจ

“พี่เต้าเฉินนี่สมชื่อว่าเป็นยอดคนรุ่นใหม่ของนิกายยาสุดล้ำจริงๆ!”

“สุดยอดมาก! อนาคตของทวีปสวรรค์แรกมันคงอยู่ในมือพี่เต้าเฉินแล้ว!”

“พี่เต้าเฉินนั้นเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเสียจริง! ในเต๋าโอสถนั้นจะมีใครในรุ่นเดียวกันเทียบเขาได้?”

คนทั้งหลายนั้นต่างกล่าวเยินยอขึ้นมาไม่ขาดสาย

เพราะว่าพิษเลือดนี้มันเหมือนแมลงร้ายที่ไม่อาจจะถูกทำลายลงได้สิ้นเชิง

เต้าเฉินนั้นทำให้คนทั้งหลายได้มีความหวัง

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายที่ติดพิษกัดกร่อนเลือดนั้นต่างรุมล้อมกล่าวชมเต้าเฉิน

พวกเขานั้นต่างปล่อยคำพูดเยินยอออกมาด้วยความหวังที่ว่าเต้าเฉินจะรักษาพวกเขาได้จริงๆ ในสักวัน

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าโอกาสนั้นมันแทบจะเป็นศูนย์ก็ตาม

สิ่งที่แม้แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้ายังทำไม่ได้ นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าจะทำได้?

แต่ว่าการรักษาของเต้าเฉินนี้มันก็ทำให้คนทั้งหลายรู้สึกสบายตัวขึ้นมากจริงๆ

เพราะฉะนั้นเมื่อเย่หยวนมาขอตรวจเลือดคนทั้งหลายพวกเขาจึงแสดงท่าทีดูถูกออกมา

“นี่ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นพี่เต้าเฉินหรือ? เลิกวางท่าใหญ่โตเถอะ หากมีเวลาก็ไปฝึกฝนเสียไม่ดีกว่าหรือ ฝีมือเช่นเจ้าน่าจะช่วยสังหารเผ่าเลือดเพิ่มได้อีกไม่น้อย!”

คนที่กล่าวขึ้นมานั้นคือจ่าวเฉิน เขานั้นเป็นผู้นำของกองทัพนี้

ไม่นานมานี้เขาได้รับการรักษาจากเต้าเฉินทำให้อาการของเขาทุเลาลงมาก

เพราะฉะนั้นเขาจึงดูถูกท่าทางนี้ของเย่หยวนสุดใจ

ในความคิดของเขานั้นเจ้าหมอนี่ก็แค่คิดอยากจะเพิ่มชื่อเสียงของตนด้วยคนที่ติดพิษเลือดกัดกร่อน

แต่ว่าเจ้าไม่เคยส่องกระจกบ้างหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองจะเทียบเต้าเฉินได้?

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจคำพูดของเขาและนั่งขมวดคิ้วแน่นหลังตรวจดูสภาพ

ได้เห็นเช่นนั้นจ่าวเฉินก็ยิ่งกล่าวขึ้นมาด้วยความดูถูก “ไอ้หนู เจ้าอย่าได้คิดมากไปเลย! พิษเลือดกัดกร่อนนี้แม้แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้ายังหาทางรักษาไม่ได้ เจ้าคิดว่าตัวเองจะทำได้?”

เย่หยวนไม่คิดสนใจคำพูดนั้นและหันไปหาซ่งเหมียว “ผู้อาวุโส ข้าอยากจะไปดูเพิ่มอีกหน่อย”

ซ่งเหมียวย่อมจะไม่คิดปฏิเสธและพาเย่หยวนไปตรวจดูจักรพรรดิเซียนคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ติดพิษเลือดกัดกร่อนนี้

แต่คิ้วของเย่หยวนมันยิ่งขมวดแน่นขึ้นทุกครั้ง

จ่าวเฉินนั้นเป็นผู้นำกอง เขาย่อมจะเย้ยหยันท่าทางของเย่หยวนอยู่ในใจ

“ไอ้เด็กที่หิวชื่อเสียง โอหังนัก! แค่เด็กบ้านนอกจากทวีปเล็กๆ คิดหรือว่าเต๋าโอสถของแผ่นดินใหญ่มันจะด้อยอย่างบ้านเกิดมัน?” จ่าวเฉินกล่าวขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน

แต่เย่หยวนนั้นก็ไม่คิดสนใจคำพูดที่ตามหลังมาและหันไปบอกซ่งเหมียว

“ผู้อาวุโส มันมีปัญหากับการใช้เลือดต้านพิษกัดกร่อนเลือดเช่นนี้!”

ซ่งเหมียวนั้นอดผงะไม่ได้เมื่อได้ยิน นี่เขาคิดจะพูดจาเหลวไหลให้คนแตกตื่นหรือ?

นี่มันมิใช่วิธีการที่เต้าเฉินคิดค้นขึ้นแต่อย่างใด มันเป็นสิ่งที่อาจารย์ของเขา ยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิสร้างขึ้น

จักรพรรดิเซียนขั้นกลางอย่างเจ้านั้นอย่างมากก็คงเป็นได้แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้า กลับจะมาโต้แย้งวิธีการที่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเจ็ดสร้างขึ้น?

แต่เย่หยวนนั้นได้สร้างคุณใหญ่หลวงไว้ซ่งเหมียวย่อมจะไม่อาจปฏิเสธออกไปได้และต้องถามขึ้นมาแทน

“หืม? แล้วเป็นปัญหาเช่นใด?”

เขานั้นย่อมจะไม่เข้าใจเย่หยวนมากมายเพราะความคิดของเขานั้นมันก็ไม่ได้ต่างจากจ่าวเฉินมากมาย คิดว่าเย่หยวนนั้นแค่คิดอยากจะสร้างชื่อเสียงเท่านั้น

เย่หยวนนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “การควบคุมด้วยเลือดของภูติแท้เช่นนี้มันอาจจะสามารถหยุดการกำเริบของเลือดกัดกร่อนได้แต่ว่าวิธีการเช่นนี้มันก็มีภัยร้ายที่มองไม่เห็นอยู่ด้วย! เพราะว่าสายเลือดของภูติแท้นั้นมันดุร้ายแค่ไหน ร้ายเสียยิ่งกว่าเลือดของเผ่าเลือดด้วยซ้ำ คิดใช้เลือดภูติแท้มาเลือดกัดกร่อนมันย่อมจะทำให้เกิดผลในระยะสั้นแต่หากเริ่มทำการต่อสู้แล้วมันก็เป็นเรื่องง่ายมากที่

เลือดภูติแท้จะหลุดการควบคุมและทำร้ายเจ้าของร่างแทน! ถึงเวลานั้นแล้วมันจะมีแต่ความเสียดายเกิดขึ้นกับฝ่ายเรา!”

เย่หยวนนั้นมองถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้กับการรักษาด้วยวิธีเอาเลือดภูติแท้โกลาหลมากดดันเลือดกัดกร่อนนี้ได้อย่างทันที

วิธีการนี้มันอาจจะดูไร้ช่องโหว่

แต่ว่าเมื่อเกิดศึกขึ้นมาจริงๆ แล้วฝ่ายทวีปสวรรค์แรกนั้นอาจจะแตกสลายลงได้ในทันที!

เพียงแค่ว่าเหมือนเรื่องนี้มันจะไม่มีใครสนใจ!

เมื่อซ่งเหมียวได้ยินเขาก็ยิ้มตอบกลับไป “น้องเย่กังวลเกินไปแล้ว! การกดเลือดกัดกร่อนด้วยสายเลือดภูติแท้โกลาหลนั้นมันเป็นสิ่งที่ทางนิกายยาสุดล้ำสร้างขึ้นและได้รับการยอมรับจากแนวหน้าทางใต้แล้ว มันย่อมจะไม่มีปัญหาแน่นอน”

จ่าวเฉินเองก็อดกล่าวขึ้นมาแทรกตามไม่ได้ “ท่านเจ้าเมืองซ่ง เจ้าเด็กนี่มันมาจากไหนกัน? ช่างพูดจาได้ใหญ่โตนัก! นิกายยาสุดล้ำนั้นเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ้าโลก ของที่พวกเขาคิดขึ้นมามันยังจะถูกชาวบ้านมาโต้แย้งได้? ในความคิดข้า ข้าว่าเจ้าเด็กนี่มันคงเหลิงที่ถูกยกย่อง! มันคิดจะสร้างชื่อเสียงสร้างความยิ่งใหญ่ให้ได้มากกว่าเดิม!”

“ฮ่าๆ มีความรู้แค่หางอึ่งแต่กลับมาอวดรู้! ไอ้หนู การใช้เลือดภูติแท้สู้นี้ของนิกายยาสุดล้ำข้ามันถูกยืนยันจากทางใต้มาแล้ว มันย่อมจะไม่เกิดปัญหาแน่ๆ! แต่นี่เจ้ากลับมาบอกว่าวิธีการรักษาของนิกายยาสุดล้ำเรามีช่องโหว่หรือ? เจ้าไปเอาความกล้าโง่ๆ นี่มาจากไหนกัน?” พูดไปเสียงของเต้าเฉินก็แทรกเข้ามาจากอีกฝั่งก่อนที่จะเดินเข้ามาหากลุ่มคนทั้งหลาย

เต้าเฉินนั้นมองดูหน้าเย่หยวนด้วยความเย้ยหยันที่สุด

เขานั้นรู้เรื่องของเย่หยวนและรู้ว่าเย่หยวนสร้างคุณไว้มากแค่ไหน

แต่ในความคิดของเขานั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่ไม่รู้จักแผ่นดินใหญ่ มีหรือที่จะเข้าใจวิธีการยุ่งยากซับซ้อนอย่างการใช้เลือดภูติแท้มาต่อสู้เลือดกัดกร่อนเช่นนี้?

………………………