ตอนที่ 2807 เริ่มศึกใหญ่

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2807 เริ่มศึกใหญ่!
เต้าเฉินนั้นเดินเข้ามาหาก่อนจะหันมองหน้าเย่หยวนอย่างเย้ยหยัน

“เจ้าคือเด็กที่เรียกทัณฑ์สวรรค์ลงมา? หึๆ แค่ขยะที่ถูกเต๋าสวรรค์ทอดทิ้งก็กล้ามาสั่งสอนคน? ความหมายของเจ้านั้นคือนิกายยาสุดล้ำของพวกข้านั้นวางแผนตลบหลังคนทั้ง? ช่างเป็นคำกล่าวที่ร้ายนัก!”

เย่หยวนหันไปมองเต้าเฉินอย่างมึนงงไม่อาจพูดตอบอะไรไปได้

เขานั้นไม่นึกฝันว่าตัวเองจะได้มาเจอนิกายยาสุดล้ำอย่างรวดเร็วเช่นนี้!

เขานั้นรู้ดีว่าหลี่ฉางเซิงนั้นก็เป็นคนจากนิกายยาสุดล้ำนี้เช่นกัน

แต่แน่นอนว่าในนิกายระดับเจ้าโลกอย่างนั้นจักรพรรดิเซียนมันคงเป็นแค่ศิษย์ระดับต่ำคนหนึ่ง

“ไอ้พวกบ้านนอกก็กล้ามาตั้งคำถามกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ้าโลก โอหังเสียจริง!”

“หึๆ ไอ้เด็กนี่มันคงคิดว่าตัวเองเป็นผู้กอบกู้ล่ะมั้ง! น่าขัน!”

“นิกายยาสุดล้ำนั้นเป็นนิกายที่มีวิชาโอสถยิ่งใหญ่ที่สุดของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด ไอ้เด็กนี่มันกลับกล้ามาทักท้วงวิธีการของพวกเขาหรือ?”

เสียงเย้ยหยันนั้นมันดังขึ้นมาจากรอบด้าน สำหรับคนทั้งหลายนั้นแล้วนิกายยาสุดล้ำย่อมจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจตั้งคำถามด้วยได้

สองฝ่ายนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แม้แต่ซ่งเหมียวเองก็ยังไม่พอใจกับการโต้แย้งของเย่หยวนนี้เช่นกัน

ก็จริงว่าเจ้านั้นสร้างคุณไว้ยิ่งใหญ่แต่ว่าเรื่องนั้นมันไม่ได้สร้างความชอบธรรมให้เจ้าโต้แย้ง

“ผู้อาวุโสซ่ง ท่านเองก็ไม่เชื่อ?” เย่หยวนหันไปหาซ่งเหมียว

ซ่งเหมียวยิ้มตอบกลับไป “สหายหนุ่มเย่นั้นเพิ่งมาถึงคงยังไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของนิกายยาสุดล้ำนัก วิธีการบรรเทานี้มันย่อมจะไม่มีปัญหาแน่!”

เต้าเฉินนั้นหัวเราะลั่นขึ้นเมื่อได้ยิน “ได้ยินไหมเล่า? ในทวีปสวรรค์แรกนี้นิกายยาสุดล้ำของข้านั้นคือเจ้าการโอสถ! คิดโต้แย้งตั้งคำถามกับเรา? ไร้สาระ!”

“เจ้าสิไร้สาระ! หากอาจารย์เย่ท่านบอกว่ามันมีปัญหามันก็ต้องมีปัญหา! พวกเจ้ามันโง่มองคำเตือนด้วยความหวังดีไม่ออก กลับมาด่าว่าอาจารย์เย่ท่าน โง่เง่าเสียจริง!”

ก่อนที่เย่หยวนจะทันได้ตอบอะไรไปเสียงของต้าหวงก็ดังลั่นขึ้นมา

เขานั้นได้ยินว่าเย่หยวนได้สติแล้วจึงรีบมุ่งหน้ามาหาทันทีแต่กลับมาพบว่าคนทั้งหลายนั้นรุมเย้ยหยันเย่หยวนจนไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป

ในหัวใจของเขานั้นเย่หยวนเป็นดั่งเทพเจ้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาการโอสถแล้วด้วย

คนอื่นนั้นอาจจะคิดว่าเย่หยวนเป็นนักยุทธที่มากฝีมือแต่ไม่รู้เลยว่าเขามีวิชาโอสถแค่ไหน

แต่ต้าหวงนั้นรู้ดีว่าฝีมือที่แท้จริงของเย่หยวนมันอยู่ที่วิชาการโอสถนั้นต่างหาก!

“ใช่แล้ว! พี่เย่หยวนนั้นมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำกว่านิกายยาสุดล้ำอะไรของเจ้านั้นสิ้นเชิง!” จิงเฟยเสริม

เมื่อเต้าเฉินได้ยินเขาก็อดหัวเราะตอบกลับไปไม่ได้ “แค่พวกกบในกะลา หน้าโง่!”

ต้าหวงนั้นกำลังคิดจะตอบกลับไปแต่เย่หยวนนั้นกลับยกมือขึ้นมาห้าม “เอาน่าๆ ไม่ต้องพูดเถียงแล้ว ไปเถอะ”

พูดไปเขาก็ลากตัวคนทั้งสองเดินจากไป

ได้เห็นคนทั้งสามนั้นเดินหายไปเต้าเฉินก็หัวเราะกล่าวขึ้นมา “มีฝีมือแค่ขี้เล็บกลับกล้ามาแย่งแสงอวดอำนาจพูดจาใหญ่โต! โดนข้าตอกกลับไปมันก็ต้องหนีหางจุกตูด! เจ้าเมืองซ่ง เจ้าพวกบ้านี่มันกระหายชื่อเสียงไม่แน่ว่าจะเป็นคนดีนักหนา!”

ซ่งเหมียวขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พูดกล่าว

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเรื่องที่เย่หยวนทำไว้มันก็สร้างคุณให้คนทั้งแผ่นดิน แต่การ ‘อวดดี’ ของเย่หยวนนี้มันย่อมจะทำให้เขาไม่ชอบอยู่ลึกๆ

เต้าเฉินนั้นกล่าวขึ้นเปลี่ยนเรื่อง “ฮ่าๆ ไม่ต้องไปสนใจขยะเช่นนั้นให้มากหรอก! เวลานี้ยอดฝีมือจากทั่วทิศได้มารวมตัวกันแล้ว พวกเราจะเข้าโจมตีเส้นทางมิตินั้นกัน! เรื่องนี้ต่างหากคือสิ่งที่ควรคิดถึงในตอนนี้”

สำหรับยอดอัจฉริยะอย่างเต้าเฉินนั้น เย่หยวนย่อมจะเป็นแค่มดปลวกตัวหนึ่ง

ในตอนนี้การโจมตีเส้นทางมิติของเผ่าเลือดนั้นต่างหากคือสิ่งที่ต้องสนใจมากที่สุด

ซ่งเหมียวพยักหน้ารับ “น้องเต้าเฉินวางใจเถอะ ตอนนี้เมืองทางเหนือได้รวบรวมกำลังจักรพรรดิเซียนมาแล้วกว่าห้าหมื่นคน ครั้งนี้เผ่าเลือดมันคงไม่อาจจะเอาชนะเราไปได้แน่!”

“อาจารย์เย่ เจ้าโง่พวกนั้นมันไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีกับตัวมันเอง! หรือว่าท่านจะปล่อยมันไปเช่นนั้น?” ต้าหวงถามขึ้น

ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนคนที่เอายาไปป้อนให้สุนัขแล้วกลับถูกมันกัดมือเอา

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “สำหรับพวกเขานั้นเราคือคนนอก ทวีปสวรรค์แรกนั้นเป็นหนึ่งในทวีปหลักนับถือนิกายยาสุดล้ำเป็นผู้ปกครองด้านโอสถ สำหรับพวกเขาเรามันก็แค่มดปลวก! หากมิใช่เพราะสงครามกับเผ่าเลือดเราคงไม่อาจจะเข้าถึงตัวเจ้าเมืองได้ด้วยซ้ำ เวลานี้ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะไปเถียงโต้แย้งกับการตัดสินใจของนิกายยาสุดล้ำได้เช่นกัน มันย่อมจะไม่มีทางทำอะไรได้”

เย่หยวนนั้นมีจิตใจที่สงบเขาย่อมจะเข้าใจว่าพวกเต้าเฉินนั้นคิดอะไรอยู่

เขานั้นรู้ดีว่าตัวเองนี้ต่อให้จะพูดเท่าไหร่มันก็คงไม่อาจจะเถียงสู้ได้

มีแต่ต้องให้สูญเสียกันไปบ้างเท่านั้นที่คนทั้งหลายจะเชื่อ

“ฮี่ๆ พรุ่งนี้มันจะไปทำศึกกับเผ่าเลือดกันแล้ว ถึงเวลานั้นมันคงได้รู้ว่าคำเตือนของพี่จริงหรือไม่!” จิงเฟยหัวเราะขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “มันกลับจะมีศึกพรุ่งนี้ด้วยหรือ?”

ต้าหวงพยักหน้ารับ “ทวีปสวรรค์แรกนั้นเตรียมกำลังจักรพรรดิเซียนมากว่าห้าหมื่นคน พรุ่งนี้พวกเขาวางแผนว่าจะบุกเจ้าไปทำลายเส้นทางมิติ”

เย่หยวนนั้นเพิ่งฟื้นสติขึ้นมาย่อมจะยังไม่ได้ฟังเรื่องศึกในวันพรุ่ง

เขานั้นกล่าวขึ้น “หากมองดูแล้วศึกครั้งนี้มันคงรุนแรงกว่าศึกทางใต้ด้วยซ้ำ ศึกในวันพรุ่งมันคงดุเดือดมากแน่ วิธีการของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันอาจจะใช้เลือดภูติแท้กดดันเลือดกัดกร่อนได้ แต่มันเป็นการรักษาปลายเหตุ ไม่อาจช่วยอะไรต้นเหตุได้เลย หากเกิดศึกใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาแล้ววิธีการของนิกายยาสุดล้ำมันคงทำให้เกิดหายนะขึ้นมาแน่!”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งสองเองก็ต้องทำหน้าเครียดขึ้น

พวกเขานั้นอยากจะให้พวกเต้าเฉินทั้งหลายได้รู้ซึ้งแต่หากปล่อยให้เผ่าเลือดเข้ามายึดครองแผ่นดินแล้วผลที่ตามมามันคงเป็นหายนะ

“แต่พวกมันไม่ฟังคำอาจารย์เย่เลย เราจะทำอะไรได้?” ต้าหวงส่ายหัวออกมา

หลังจากเงียบไปพักใหญ่เย่หยวนก็กล่าวขึ้น “มันเหลืออีกแค่คืนเดียวแล้ว หวังว่าข้าจะทัน!”

วันต่อมากองทัพห้าหมื่นนั้นก็เดินมารวมตัวตั้งแถวอยู่บนหาดทิศเหนือด้วยท่าทางทรงพลัง

แม่ทัพของทัพนี้เป็นถึงมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ครึ่งก้าว โย่วหมิง

สงครามกับเผ่าเลือดนั้นมันแบ่งออกเป็นสามระดับ

ระดับแรกย่อมเป็นการต่อสู้ของเหล่าเจ้าโลกทั้งหลาย

การต่อสู้ในระดับนั้นวินาทีที่พวกเขาลงมือมันจะเปลี่ยนฟ้าดินไปจนทำให้โลกหล้าแทบแตกสลายลง

ระดับที่สองนั้นคือระดับของเหล่ามหาจักรพรรดิ

การต่อสู้ของคนระดับนั้นมันก็สร้างความหายนะขึ้นมาได้เช่นกัน

แต่ว่าทั้งสองระดับนั้นมันเป็นศึกที่เกิดน้อยแต่สร้างความเสียหายมาก

แต่ระดับที่สามนั้นมันคือศึกของเหล่าคนต่ำกว่าระดับมหาจักรพรรดิลงมา มันเป็นระดับที่มีความตายเกิดขึ้นมากที่สุด

ทหารปะทะทหาร แม่ทัพปะทะแม่ทัพ

ศึกของจักรพรรดิเซียนและจักรพรรดิเที่ยงนั้นต่างจะต่อสู้กันจนตายหมดสิ้นกันไปข้างหนึ่ง

และการต่อสู้เพื่อเส้นทางมิตินี้ต่างฝ่ายต่างต้องสู้กันจนตายไปข้าง

“พี่น้อง ศึกครั้งนี้มันเกี่ยวพันถึงความเป็นความตายของทวีปสวรรค์แรก! หากเส้นทางมิตินั้นมันเสถียรแล้วเราคงฉิบหายกันแน่นอน! เพราะฉะนั้นเราจึงต้องชนะ ห้ามแพ้! พร้อมกันหรือยัง?” โย่วหมิงถามขึ้น

“เป็นตายไปพร้อมทวีปสวรรค์แรก!”

“เป็นตายไปพร้อมทวีปสวรรค์แรก!”

“เป็นตายไปพร้อมทวีปสวรรค์แรก!”

เสียงคำรามศึกนั้นมันทำให้ผิวน้ำสั่นสะเทือน!

“บุก!”

ภายใต้เสียงคำสั่งของโย่วหมิงนั้นทหารทั้งห้าหมื่นก็พุ่งตัวออกไป!

บนท้องทะเลนั้นมันมีห้วงมิติสีดำสนิทตั้งอยู่

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีกองทัพเผ่าเลือดตั้งค่ายกลอยู่รอบๆ เส้นทางมิติราวสองหมื่นคน

นี่มันคือการเข้าปะทะอย่างไม่มีกลยุทธ์ใดๆ

สองฝ่ายนั้นเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง!

“ฆ่ามัน!”

“ฆ่ามัน!”

“ฆ่ามัน!”

กองทัพทั้งสองฝ่ายนั้นเข้าปะทะกันในระยะใกล้อย่างรวดเร็ว!

……………………..