ตอนที่ 3271

War sovereign Soaring The Heavens

WSSTH ตอนที่ 3,271 : ปะทะหลิวเจี้ยน

 

 

“สมแล้วที่เป็นศิษย์ที่จักรพรรดิอมตะทุ่งขจี ฉือหล่าง ไปเชื้อเชิญด้วยตัวเอง…อย่างน้อยๆในแง่กำลังขวัญแล้ว เจ้านับว่ากล้าหาญจริงๆ”

 

บนสังเวียนอัจฉริยะ หลิวเจี้ยนมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงเฉยเมย วางตัวเหนือกว่า

 

ทว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจอะไรหลิวเจี้ยนมากนัก ดวงตาเขายังคงความสงบดั่งผิวน้ำในบ่อโบราณ สีหน้านิ่งเฉยไร้แยแส ทำราวกับไม่ได้ให้ค่าหลิวเจี้ยนเบื้องหน้าแม้แต่นิดเดียว

 

จะว่าไป…เขาก็ไม่ได้ยึดถือหลิวเจี้ยนเป็นตัวอะไรจริงๆ!

 

“เริ่มประลองได้!”

 

ท่ามกลางสายตาคาดหวังของทุกคน อาวุโสตำหนักลองกระบี่ก็เอ่ยคำให้สัญญาณเริ่มการประลอง ขณะเดียวกันมันก็ไม่ลืมเตือนต้วนหลิงเทียนผ่านพลัง ให้เร่งกล่าวยอมแพ้ออกมาเร็วๆถ้าเห็นท่าไม่ดี!

 

“ขอบคุณสำหรับคำเตือน ผู้อาวุโส”

 

ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายที่กล่าวเตือนเขาซ้ำหลายรอบ ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าอีกฝ่ายทำไปเพราะเห็นแก่หน้าฮ่วนเอ๋อก็ตามที…

 

สำหรับคำเตือนของศิษย์พี่ 6 อย่างหงเฟยนั้น ย่อมทำให้เขาซาบซึ้งจากใจ เพราะในสายตาอีกฝ่ายแล้ว ตัวเขาที่มีอายุไม่ถึง 300 ปี เว้นเสียแต่จะเผยพลังฝีมือให้อีกฝ่ายประจักษ์ เช่นนั้นอีกฝ่ายก็ต้องเข้าใจว่าเขาสู้หลิวเจี้ยนไม่ได้เป็นธรรมดา

 

เพราะกล่าวไป พลังฝีมือของหลิวเจี้ยนก็สมควรเหนือกว่าหงเฟยในระดับหนึ่ง

 

หาไม่แล้วหลิวเจี้ยนคงไม่มีอันดับศิษย์อัจฉริยะช่วงอายุ 600-700 ปีเหนือหงเฟย

 

กล่าวให้ชัด เพราะเขารู้ดีว่าหงเฟยไม่น่าจะเชื่อคำพูดเขาแน่ เช่นนั้นหลังจากกล่าวให้อีกฝ่ายวางใจในตอนแรกแล้ว หลังจากนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรมาเขาก็ทำเป็นไม่ได้ยินทั้งหมด

 

กระทั่งภายหลัง ยังจงใจปิดกั้นเสียงผ่านพลังของหงเฟยด้วย…

 

“ต้วนหลิงเทียน ข้าไม่คิดจะรังแกเจ้า…เชิญเจ้าป้อนกระบวนท่ามาก่อนเถอะ”

 

ถึงแม้จะไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้ แต่หลิวเจี้ยนก็โคจรพลังเซียนอมตะเตรียมพร้อมไว้อย่างดี คนทั้งคนถูกแสงพลังสีทองปกคลุมเอาไว้ เรียกว่าประหนึ่งมันกลับกลายเป็นมนุษย์ทองคำส่องแสงสีทองไปแล้วจริงๆ!

 

หากอยู่ไกลๆ มองไปยังคิดว่าเป็นรัศมีธรรมของพุทธองค์

 

ได้ยินวาจาดังกล่าวของหลิวเจี้ยน ต้วนหรี่ตาลงเบาๆ จากนั้นรอยยิ้มบางๆก็ปรากฏให้เห็นที่มุมปาก

 

ดูเหมือนหลิวเจี้ยนผู้นี้ จะไม่เห็นเขาเป็นตัวอะไรจริงๆ

 

วูบ!

 

สิ้นคำกล่าวของหลิวเจี้ยน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง คนอันตรธานหายไปจากจุดเดิมในบัดดล!

 

วู้มม!!

 

ปรากฏตัวอีกครั้ง ร่างต้วนหลิงเทียนก็ยืนอยู่เบื้องหน้าหลิวเจี้ยนแล้ว และเพียงหนึ่งคิด ห้วงมิติรอบกายหลิวเจี้ยนก็ถูกความลึกซึ้งกักกัน สร้างกรงมิติหนึ่งล้อมกักเอาไว้ทันที!

 

และการใช้ความลึกซึ้งกักกันครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียน มันต่างจากตอนที่เขาใช้ความลึกซึ้งกักกันขังร่างหวงลู่หนานมากนัก

 

ตอนเล่นงานหวงลู่หนาน เขาใช้แค่ความลึกซึ้งกักกันหวงลู่หนานเอาไว้แค่คนเดียว

 

แต่การใช้ความลึกซึ้งกักกันกับหลิวเจี้ยน เขากลับขังร่างตัวเองไว้กับหลิวเจี้ยน และตอนนี้ร่างเขาก็เบื้องหน้าห่างกับหลิวเจี้ยนแค่ 10 หมี่เท่านั้น!

 

ที่สำคัญหลังใช้ความลึกซึ้งกักกันขังตัวเองกับหลิวเจี้ยนไว้แล้ว เขาก็ไม่รีบร้อนลงมืออะไร เพียงมองหลิวเจี้ยนที่ยืนเปล่งแสงสีทองเรืองรองห่างออกไป 10 หมี่ด้วยสายตาสงบ

 

“เอ่อ…เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นมันคิดจะทำอะไรของมันกันแน่?”

 

“มันคิดหยามหน้าศิษย์พี่หลิวเจี้ยนหรืออย่างไร ถึงใช้เคลื่อนมิติไปอยู่ใกล้ๆศิษย์พี่หลิวเจี้ยนเช่นนั้น?”

 

“ตอนนี้จากสำนึกเทวะ ข้าสัมผัสได้ว่าพื้นที่รอบตัวต้วนหลิงเทียนกับหลิวเจี้ยนเต็มไปด้วยความแปรปรวนของห้วงมิติ…ดูท่าเป็นต้วนหลิงเทียนใช้ความลึกซึ้งกักกันไม่ผิดแน่ แต่ที่ผิดปกติคือไฉนมันถึงใช้ขังตัวเองไว้กับหลิวเจี้ยนเล่า?”

 

“มันบ้าไปแล้วรึไง? ขังตัวเองไว้กับหลิวเจี้ยนเช่นนั้น ไยมิใช่รนหาที่ตาย?”

 

“หลิวเจี้ยนจะอย่างไรก็เป็นจอมราชันอมตะ 8 ชะตาที่เชี่ยวชาญกฏแห่งทอง จึงกล่าวได้ว่าเก่งในเรื่องการโจมตีเป็นที่สุด สำหรับต้วนหลิงเทียนนั่น ข้อได้เปรียบหนึ่งเดียวคือความสามารถในการเคลื่อนร่างฉับพลันดั่งใจนึก การส่งตัวมาใกล้ๆหลิวเจี้ยนแบบนี้ ยังต่างอะไรกับพาตัวเข้าจุดอับกัน?”

 

“มันคิดจะทำอะไรกันแน่?”

 

 

เหล่าศิษย์วังเทียนฉือที่ชมดูเรื่องราวโดยรอบอดไม่ได้ที่จะงุนงงสงสัย

 

อันที่จริงก็ไม่ได้มีแต่พวกมันเท่านั้นที่งุนงงสงสัย

 

กระทั่งตัวอาวุโสตำหนักลองกระบี่ ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการประลองเป็นตายของสองศิษย์อัจฉริยะก็งงงวยไม่ต่างกัน ด้วยไม่ทราบว่าต้วนหลิงเทียนคิดอ่านประการใดอยู่ ไฉนไม่เพียงแต่จะไม่ใช้จุดเด่นของตัวเอง แต่ยังเผยจุดด้อยของตัวเองต่อหน้าอีกฝ่ายเสียอย่างนั้น!

 

“ต้วนหลิงเทียนนั่นมันเบื่อชีวิตนักรึไง!? หรือมันฝันละเมอไปว่าศิษย์พี่หลิวเจี้ยนแข็งแกร่งพอๆกับข้า?”

 

หวงลู่หนานที่ไม่เพียงแพ้ต้วนหลิงเทียนมายับเยิน แต่ยังโดนกระทำดั่งของเล่นให้ทรมาณจนตกอยู่ในสภาพน่าอนาถ ใจย่อมเคียดแค้นต้วนหลิงเทียนเป็นทุน มาตอนนี้พอเห็นต้วนหลิงเทียนถือดีโง่ๆมั่นใจในตัวเองอย่างผิดๆ มันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ!

 

“ศิษย์น้องหญิง 3 พี่หลิงเทียนของเจ้า วู่วามจนทำอะไรไม่คิดแล้ว…”

 

เหลยจวิ้นหันไปมองกล่าวกับฮ่วนเอ๋อด้วยรอยยิ้ม

 

ถึงแม้ฮ่วนเอ๋อจะไม่ได้สนใจเหลยจวิ้นอีกต่อไป แต่เหลยจวิ้นก็ยังเลือกที่จะอดทนพูดกับฮ่วนเอ๋อ และถึงฮ่วนเอ๋อจะไม่ตอบอะไรกลับมา เหลยจวิ้นก็ยังมีความสุขที่ได้พูดกับนางอยู่ดี

 

เป็นธรรมดาว่าแม้ปากเหลยจวิ้นจะบอกว่าต้วนหลิงเทียนวู่วามทำอะไรไม่คิดด้วยน้ำเสียงช่วยไม่ได้ แต่ในใจมันกลับหัวเราะร่าด้วยความถูกใจ

 

เพราะมันหวังว่าต้วนหลิงเทียนจะไร้หัวคิดและโง่งงมเช่นนี้ต่อไป!

 

เพราะสิ่งนี้ช่วยเพิ่มโอกาสที่ต้วนหลิงเทียนจะตกตายคามือหลิวเจี้ยนมากขึ้น!

 

“หลิวเจี้ยน”

 

อย่างไรก็ตามพอเห็นว่าจนแล้วจนรอดฮ่วนเอ๋อก็ยังเมินเฉยไม่สนใจตัวเอง เหลยจวิ้นก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่มันไม่ได้เอาความไม่พอใจไปลงกับฮ่วนเอ๋อ เพียงนำไปลงกับต้วนหลิงเทียนแทน! ด้วยเหตุนี้มันจึงเลือกหันไปส่งเสียงผ่านพลังถึงหูหลิวเจี้ยน ที่กำลังเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนทันที

 

“ข้าเหลยจวิ้น”

 

ไม่ทันที่หลิวเจี้ยนจะได้ตอบอะไร เหลยจวิ้นก็ชิงกล่าวออกมาสืบต่อว่า “อย่าได้พลาดโอกาสประเสริฐตรงหน้า รีบลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนนั่นให้ตายๆไปเสีย…หากเจ้าฆ่ามันได้ ข้าจะมอบเกราะอมตะระดับจักรพรรดิให้เจ้า!”

 

ชุดเกราะอมตะระดับจักรพรรดิ ต่อให้เป็นภายในขุมกำลังระดับสวรรค์เอง ก็ยังจัดเป็นสมบัติหายาก

 

ในวังเทียนฉือแห่งนี้ ด่านพลังของท่านมีแต่ต้องทะลวงไปให้ถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะเท่านั้น ถึงจะได้รับชุดเกราะอมตะระดับจักรพรรดิจากวังเทียนฉือเป็นของรางวัล…หาไม่แล้วก็ทำได้แค่พึ่งพาพลังสามารถตัวเองสรรหาชุดเกราะอมตะระดับจักรพรรดิมาด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่ว่าจะใช้คะแนนอุทิศแลกเปลี่ยน หรือได้รับเป็นของรางวัลจากบททดสอบต่างๆ

 

แน่นอนว่ายังมีอีกวิธีที่สามารถได้ชุดเกราะอมตะระดับจักรรพรดิมาครอง โดยไม่ต้องทะลวงถึงด่านพลังจักรพรรดิอมตะ ไม่ต้องใช้คะแนนอุทิศที่เก็บสะสมจากภารกิจ กระทั่งไม่ต้องผ่านการทดสอบใดๆ

 

นั่นก็คือเป็นลูกของจักรพรรดิอมตะสมญานามของวังเทียนฉืออย่างเหลยจวิ้น!

 

สำหรับจักรพรรดิอมตะสมญานามทั้ง 9 ของวังเทียนฉือ แม้ชุดเกราะอมตะระดับจักพรรดิจะมีค่าไม่น้อย แต่พวกมันก็มีไว้ครอบครองอยู่จำนวนหนึ่ง เพื่อบุตรหลานแล้ว พวกมันย่อมไม่ตระหนี่ถี่เหนียว

 

อย่างเช่นเหลยจวิ้นเอง ในเมื่อมารดาของมันเป็นถึงจักรพรรดิอมตะไร้ใจ เหลยอิง จ้าวตำหนักลองกระบี่ มันก็เลยได้รับชุดเกราะอมตะระดับจักรพรรดิมาป้องกันตัวตั้งแต่ยังเล็กเป็นเด็กน้อยแล้ว…

 

ต่อมาพอตัวมันทะลวงด่านพลังถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะ วังเทียนฉือก็มอบชุดเกราะอมตะระดับจักรพรรดิให้มันอีกตัว

 

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อราวๆร้อยกว่าปีก่อน ตัวมันก็ได้ผ่านบททดสอบบางอย่างของวังเทียนฉือ ทำให้ได้รับเกราะอมตะระดับจักรรพรดิมาเพิ่มอีกตัว…

 

เช่นนั้นสำหรับเหลยจวิ้นแล้ว ชุดเกราะอมตะระดับจักรพรรดิอมตะตัวเดียว ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดมากเกินจ่าย ก็แค่ในแหวนพื้นที่มันมีเก็บไว้ไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง

 

อย่างไรก็ตามสำหรับหลิวเจี้ยนที่เป็นเพียงศิษย์อัจฉริยยะอันดับท้ายๆในช่วงอายุ 600-700 ปีและด่านพลังยังเป็นแค่จอมราชันอมตะ ชุดเกราะอมตะระดับจักรพรรดินั้น…เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าที่อาจช่วยชีวิตมันในห้วงเวลาคับขันได้! สองตามันก็เลยลุกวาวสว่างจ้าดั่งดาราประกายทันทีเมื่อได้ยินคำพูดผ่านพลังของเหลยจวิ้น!!

 

มันเองก็ไม่คิดจะไว้ชีวิตต้วนหลิงเทียนอยู่แล้ว

 

ขอเพียงสบโอกาสเหมาะๆมันก็จะฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย!

 

ตอนนี้พอได้ยินวาจาเร่งรัดของเหลยจวิ้น ถึงแม้มันจะไม่ทราบว่าต้วนหลิงเทียนไปล่วงเกินเหลยจวิ้นตรงที่ใด แต่อาศัยสัญญาปากเปล่านี้ของเหลยจวิ้น ก็มากพอทำให้มันคลั่ง!

 

เกราะอมตะระดับจักรพรรดิ! นั่นเป็นอะไรที่มันฝันใฝ่!!

 

“ต้วนหลิงเทียนดูเหมือนว่าเจ้าจักมั่นใจในพลังของตัวเองมาก…ถึงขั้นละทิ้งความได้เปรียบจากความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ และเลือกจะขังตัวเองอยู่กับข้าใกล้ๆแบบนี้..”

 

หลิวเจี้ยนยิ้มกล่าวกับต้วนหลิงเทียน รอยยิ้มที่ว่ายังเต็มไปด้วยความเย้ยหยันนัก

 

ถึงแม้ตัวต้วนหลิงเทียนที่เป็นคนใช้ความลึกซึ้งกักกันออกมาเอง จะสามารถเพิกเฉยพลังกักกันของห้วงมิติได้ในระดับหนึ่ง…แต่กระนั้นห้วงมิติกักกันดังกล่าวก็ยังส่งผลอยู่ดี

 

ในพื้นที่กรงมิติแห่งนี้ หากต้วนหลิงเทียนคิดจะใช้ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติหลบหนีออกไปด้านนอก ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่บ้าง!

 

ดุจเดียวกับในปัจจุบัน หากต้วนหลิงเทียนคิดจะใช้ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติหลบหนีออกไป อย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองลมหายใจ…และเวลาสองลมหายใจที่ว่า สำหรับหลิวเจี้ยนแล้วมันมากพอให้ทำอะไรหลายๆอย่าง

 

“สมแล้วที่พวกเจ้าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน…”

 

ได้ยินคำพูดของหลิวเจี้ยน ต้วนหลิงเทียนเพียงเหลือบมองมันด้วยสายตาเฉยเมย “ก่อนหน้าหวงลู่หนานศิษย์น้องเจ้าก็คิดว่าจะเอาชนะข้าได้…แล้วตอนจบผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไรเล่า?”

 

“อันใด? นี่เจ้าคิดว่า ข้า หลิวเจี้ยน จักเจริญรอยตามศิษย์น้องของข้าหรือไร?”

 

หลิวเจี้ยนกล่าวเคล้าเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “เหอะๆ หากมิใช่ว่าศิษย์น้องของข้าเป็นฝ่ายประมาทเจ้า และเจ้าชิงลงมือก่อน ก็มิใช่เรื่องง่ายที่เจ้าจะเอาชนะศิษย์น้องข้าได้!”

 

ถึงแม้การต่อสู้ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหวงลู่หนานก่อนหน้า จะเป็นต้วนหลิงเทียนเลือกยืดเยื้อเพราะคิดขัดเกลาความลึกซึ้งของกฏมิติต่างๆที่เข้าใจ แต่ในสายตาของหลิวเจี้ยน…เป็นต้วนหลิงเทียนไม่อาจเอาชนะหวงลู่หนานได้ในเวลาอันสั้น! ทำให้มันมองว่าพลังของต้วนหลิงเทียนก็ใช่ว่าจะเหนือกว่าหวงลู่หนานมากมายอะไร!!

 

“แค่พูดไม่รู้ฝีมือสูงต่ำ ลงมือเถอะ…”

 

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกเสียงเรียบ

 

“ตามคำขอ!”

 

ทันใดนั้นร่างหลิวเจี้ยนพลันเปล่งแสงสว่างสีทองออกมาเจิดจ้า แยงลูกนัยยน์ตาผู้ชมมองนัก จากนั้นคนพลันวูบไหวกลับกลายเป็นประกายแสงสีทองสายหนึ่ง เข่นฆ่าเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูง!!

 

ซู่มม!!

 

และเมื่อประกายแสงสีทองดังกล่าวจี้ทะลวงผ่านระยะจนเข้าใกล้ร่างต้วนหลิงเทียน มันก็กลับกลับกลายเป็นแสงกระบี่สี่ทองเปี่ยมล้นไปด้วยพลังสภาวะคมกล้าหาใดเปรียบ!

 

ม่านตาต้วนหลิงเทียนควบแน่นโดยพลัน ทั่วร่างคล้ายสั่นไหวเบาๆ จากนั้นก็อุบัติพลังมิติเกรี้ยวกราดกำจายออกไปเป็นวง พร้อมกันนั้น ความว่างเปล่าโดยรอบยังปรากฏรอยแยกมิติ 9 รอย คมมีดมิติสีเทาก็พุ่งออกมาห้อมล้อมวนเวียนรอบกายเร็วไว คล้ายรอต้านรับแสงกระบี่สีทอง!

 

และรอบๆกายต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน ก็ยังมีรอยแยกมิติขนาดเล็กมากมายผุดโผล่จางหายไม่หยุด มองไปคล้ายอสรพิษตัวเล็กๆนับหมื่นพันวูบวาบ ต้านทานรับแสงกระบี่สีทองเอาไว้อย่างไร้ครั่นคร้าม!

 

ทำให้ฉากเรื่องราว การจู่โจมเข้ามาของแสงกระบี่สีทอง เป็นดั่งเคียวยมทูตที่มาเก็บเกี่ยววิญญาณของอสรพิษน้อยโดยเฉพาะ มันพุ่งผ่านลบเลือนอสรพิษน้อยดังกล่าวอย่างไร้หยุดยั้ง!

 

‘ความลึกซึ้ง พายุแม่เหล็ก!’

 

เพียงหนึ่งห้วงคิด รอยแยกมิติยิบย่อยแต่เดิมที่คล้ายอสรพิษสีมืดตัวเล็กๆ อยู่ๆก็พองตัวใหญ่ขึ้นราวงูหลามตัวเขื่อง! และเพียงงูหลามตัวเขื่องไม่กี่ตัว ก็ทำให้แสงกระบี่สีทองสิ้นสูญพลังสภาวะ อ่อนโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด!

 

ต้องทราบว่าเมื่อครู่แสงกระบี่สีทองประหนึ่งแสงกระบี่ไร้เทียมทาน สุดที่อสรพิษน้อยจะต่อต้านได้ไหว มากเท่าไหร่ก็ไม่พอให้ฆ่า!

 

‘คิดไม่ถึงจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้ที่แท้จะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติได้หลายประการแล้วเช่นนี้…แต่มันก็เท่านั้น!’

 

หลิวเจี้ยนที่พุ่งทะยานเข้ามาโดยมีแสงกระบี่สีทองปกคลุม อดหยีตาลงด้วยความประหลาดใจไม่ได้

 

อย่างไรก็ตามจนถึงบัดนี้ มันพึ่งใช้พลังออกมาเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น…และเหตุไฉนที่มีออมรั้งพลังไว้กว่าครึ่ง เพราะมันเตรียมปะทุพลังทั้งหมดเพื่อพิฆาตอัศจรรย์ สังหารต้วนหลิงเทียนในคราเดียว!