หยางเฉินที่กำลังต่อสู้กับหลิวเหล่าก้วย เมื่อได้ยินเสียงของอวี๋เหวินปิงแล้ว สีหนาของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากทันที และขณะเดียวกัน ความโกรธที่ไร้ขอบเขตก็ผุดขึ้นจากหัวใจของเขา
เขากำลังจะปล่อยพลังฝ่ามือไปที่หลิวเหล่าก้วย และฝ่ามือนั้นกำลังจะไปถึงศีรษะของหลิวเหล่าก้วย แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินคำพูดของอวี๋เหวินปิง ทำให้เขาจำเป็นต้องหยุดการโจมตี
ฝ่ามือของเขาหยุดกะทันหันขณะที่อยู่ห่างศีรษะของหลิวเหล่าก้วยประมาณหนึ่งเซนติเมตร
ดวงตาของหลิวเหล่าก้วยเบิกกว้าง รูม่านตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และไม่นาน ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขหลังจากที่รอดชีวิตจากความตาย
การต่อสู้กับหยางเฉิน ทำให้พลังของเขาลดลงไปเรื่อย ๆ และตอนนี้เขาสามารถระเบิดพลังความแข็งแกร่งของระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าได้เท่านั้น ในขณะที่หยางเฉินสามารถรักษาสถานะของแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าได้อย่างเต็มที่
เมื่อสักครู่ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของอวี๋เหวินปิง การโจมตีของหยางเฉินนั้น ถึงแม้จะไม่สามารถฆ่าเขาได้ แต่ก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทุกอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตา และขณะที่หยางเฉินหยุดอย่างกะทันหัน เจตนาฆ่าอย่างบ้าคลั่งประกายอยู่ในดวงตาของหลิวเหล่าก้วย ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยพลังหมัดออกไปอย่างรุนแรง
“ปัง!”
เสียงอันสนั่น ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ ร่างของหยางเฉินกระเด็นออกไปราวกับว่าวที่เชือกขาด
หลังจากกระเด็นออกไปได้ไกลกว่าสิบเมตร หยางเฉินตกลงบนพื้นอย่างแรง พ่นเลือดออกมาเต็มปาก พลังในร่างกายของเขาลดลงทันที
“หยางเฉิน!”
เมื่อเห็นฉากนี้ อวี๋เหวินเกาหยางที่ถูกมัดไว้ คำรามขึ้นมาทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกตำหนิตนเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……”
อวี๋เหวินปิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะจนน้ำตาออกมา และตะโกนด้วยความตื่นเต้น “อวี๋เหวินเกาหยาง คุณเห็นหรือยัง?
“นี่คือทายาทสืบทอดตระกูลที่พ่อต้องการ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน แล้วยังไงล่ะ? แค่คำพูดของผมประโยคเดียว ก็ทำให้เขาเกือบตายโดยไร้ที่ฝังแล้ว?”
“อวี๋เหวินปิง”
ดวงตาของอวี๋เหวินเกาหยางเบิกกว้าง จ้องเขม็งไปที่อวี๋เหวินปิงและเสียงคำราม กัดฟันด้วยความแค้นและกล่าวว่า “แกมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน! เป็นสัตว์ร้าย!”
“ถ้ารู้แต่แรก พ่อไม่ควรให้กำเนิดสัตว์เดรัจฉานอย่างแก!”
อวี๋เหวินเกาหยางรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ถึงแม้อวี๋เหวินปิงจะเป็นลูกชายแท้ ๆ ของเขา และเขาอดทนต่อความผิดพลาดทุกอย่างที่ผ่านมาของอวี๋เหวินปิง
แต่คราวนี้ อวี๋เหวินปิงลักพาตัวเขาเพื่อข่มขู่หยางเฉิน
นี่เป็นการเย้ยหยันอย่างใหญ่หลวง ลูกชายแท้ ๆ ของเขาลักพาตัวเขา เพื่อไปข่มขู่ลูกชายบุญธรรมของเขา
“หุบปากซะ”
อวี๋เหวินปิงคำรามด้วยความโมโห ตอนนี้เขายังคงสะเทือนอารมณ์เป็นอย่างมาก ดวงตาของเขาเป็นสีแดง จ้องไปที่อวี๋เหวินเกาหยางและตะโกนว่า “พ่อมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาสั่งสอนผม?”
“ถึงแม้ผมจะเป็นสัตว์ร้าย แต่ก็คือทายาทสัตว์ร้ายของพ่อ นี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้!”
“แต่เพื่อคนนอกคนหนึ่งแล้ว พ่อกลับมอบรากฐานที่มีอายุนับร้อยปีของตระกูลอวี๋เหวินให้คนนอก พ่อเคยถือว่าผมเป็นลูกชายหรือไม่?”
“ไม่เลย! ไม่เคยเลย!”
“พ่ออย่าคิดว่าผมไม่รู้ ตอนที่หยางเฉินเพิ่งออกจากกองทัพและกลับมาที่เจียงโจว พ่อให้พ่อบ้านไปตามหาหยางเฉินที่เจียงโจว และต้องการให้เขากลับมาสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล”
“อวี๋เหวินเกาหยาง บางครั้งผมสงสัยจริง ๆ ว่าผมเป็นลูกแท้ ๆ ของพ่อ หรือว่าหยางเฉินเป็นลูกแท้ ๆ ของพ่อ?”
อวี๋เหวินเกาหยางสั่นด้วยความโกรธ จ้องไปที่อวี๋เหวินปิง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง
เย่หลินไม่สนใจเรื่องตระกูลอวี๋เหวิน สิ่งที่เขาสนใจคือความเป็นความตายของหยางเฉิน
ขณะนี้ หลังจากหยางเฉินถูกหลิวเหล่าก้วยโจมตีอย่างรุนแรง จนเขากระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตร พลังของเขานั้นอ่อนลงไปมาก
ถึงกระนั้น เย่หลินยังไม่กล้าเดินไปข้างหน้าง่าย ๆ ก่อนหน้านั้นเขาถูกหยางเฉินโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงแม้หยางเฉินจะถูกหลิวเหล่าก้วยโจมตีอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาสั่นคลอนได้
หลิวเหล่าก้วยมองหยางเฉินที่พลังอ่อนลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เขาหัวเราะและกล่าวว่า “หยางเฉิน เมื่อสักครู่คุณเก่งไม่ใช่หรือ? สู้ต่อสิ โจมตีผมต่อสิ!”
หยางเฉินพยายามลุกขึ้น หน้าอกของเขามีรอยเลือดอยู่ และมุมปากของเขามีเลือดไหลออกมา ซึ่งดูแล้วน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการบังคับใช้เทคนิคการหายใจขั้นหกของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยาน ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อร่างกายของเขา และผิวหนังที่สัมผัสอากาศเต็มไปด้วยรอยเลือด
และเมื่อสักครู่เขาถูกหลิวเหล่าก้วยโจมตีอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้ร่างกายของหยางเฉินเสียหายอย่างหนัก
แต่ถึงกระนั้น พลังบูโดบนร่างของหยางเฉินยังคงแข็งแกร่งมาก และเขาเพิกเฉยต่อการยั่วยุของหลิวเหล่าก้วย ดวงตาสีแดงจ้องมองเขม็งไปที่อวี๋เหวินปิง
“อวี๋เหวินปิง เพื่อเห็นแก่พ่อ ผมปล่อยคุณไปครั้งแล้วครั้งเล่า นึกไม่ถึงว่าคุณจะท้าทายผมครั้งแล้วครั้งเล่า คุณรู้ไหมว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
หยางเฉินกัดฟันด้วยความแค้นและกล่าว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างแรงกล้า
ดวงตาสีแดงของอวี๋เหวินปิง มองไปที่หยางเฉินด้วยเจตนาฆ่าที่แรงกล้าเช่นกัน และตะโกนเสียงดังว่า “หยางเฉิน หุบปากซะ! ตอนนี้คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะตะโกนต่อหน้าผม”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคนสารเลวอย่างคุณ ผมคงเป็นผู้นำตระกูลอวี๋เหวินไปนานแล้ว คนสารเลวอย่างคุณทำลายทุกอย่างของผม!”
หยางเฉินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามควบคุมเจตนาฆ่าของตนเอง
เมื่อได้ยินคำพูดของอวี๋เหวินปิงแล้ว เขารู้สึกขบขันเล็กน้อย ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา ตำแหน่งทายาทตระกูลมหาเศรษฐีแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู จะอยู่ในสายตาของเขาได้อย่างไร?
ไม่ต้องกล่าวถึงตอนนี้ แม้แต่ปีที่แล้วตอนที่เขาเพิ่งออกจากชายแดนเหนือแล้วกลับมายังเจียงโจว เขาก็ไม่เคยเห็นตำแหน่งทายาทตระกูลอวี๋เหวินอยู่ในสายตา
ถ้าเขาต้องการ หลังจากทำลายล้างราชวงศ์เย่แล้ว และเขาสามารถสร้างราชวงศ์หยางโดยลำพังได้
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
ไม่เพียงหยางเฉินเท่านั้นที่รู้สึกขบขัน แต่หลิวเหล่าก้วยและเย่หลินรู้สึกขบขันเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งที่สามารถระเบิดพลังความแข็งแกร่งของแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า หรือแม้แต่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้ แล้วจะเห็นตำแหน่งทายาทตระกูลมหาเศรษฐีแห่งเมืองเยี่ยนตูอยู่ในสายตาได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้รังเกียจที่จะคอยดูต่อไป เดิมทีพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉินแล้ว แต่พวกเขานึกไม่ถึงว่า มดในสายตาของพวกเขา จะสามารถคุกคามหยางเฉินได้
ถ้าพวกเขาสามารถฆ่าหยางเฉินได้โดยไม่ต้องเสียแรง จะทำให้พวกเขารู้สึกดีใจมาก
“อวี๋เหวินปิง ผมสามารถบอกคุณได้ชัดเจนว่าผมไม่มีความคิดที่จะครอบครองตระกูลอวี๋เหวิน คุณปล่อยพ่อเถอะ และผมจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
สีหน้าของหยางเฉินสงบ และกล่าวต่อไปว่า “และผมรับรองกับคุณว่าขอเพียงคุณปล่อยพ่อ แล้วพ่อจะปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน และเขาสามารถมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลอวี๋เหวินให้คุณได้ทันที”
ถึงแม้อวี๋เหวินเกาหยางจะไม่กลัวตาย แต่เขายังคงตระหนักถึงสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ถ้าอวี๋เหวินปิงต้องการใช้เขาข่มขู่หยางเฉินจริง ๆ เกรงว่าหยางเฉินคงต้องตายเท่านั้น
ดังนั้น อวี๋เหวินเกาหยางจึงกล่าวเสียงดังว่า “หยางเฉินพูดถูก ขอเพียงตอนนี้ลูกปล่อยพ่อไป พ่อจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ลูกทันที และต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องของตระกูลอวี๋เหวินอีก ทุกอย่างให้ลูกเป็นคนตัดสินใจ”
“หุบปาก! พวกคุณหุบปากซะ!”
อวี๋เหวินปิงคำราม “พ่อคิดว่าผมเป็นคนโง่จริง ๆหรือ? ถ้าผมปล่อยพ่อไปจริง ๆ พวกคุณจะปล่อยผมไปได้หรือ?”
หลังจากกล่าวจบ ดวงตาที่เต็มไปด้วยเจตนานั้นมองไปที่หยางเฉิน และคำราม “คุกเข่าลง! คุณคุกเข่าลงซะ! มิเช่นนั้น ผมจะฆ่าไอ้แก่คนนี้ทันที!”