หากมองเช่นนี้ล่ะก็ การตัดสินใจที่จะปิดบังเซียวชูหรันมาโดยตลอดของตนเอง ก็ยังคงฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะนำพาอันตรายมาให้กับเธอ
ในเวลานี้ สายตาที่เฉินตัวตัวมองดูเย่เฉิน มีความดุร้ายอยู่บ้างมาโดยตลอด ในสายตาของเธอ เย่เฉินก็คือผู้ชายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงที่ทำให้กู้ชิวอี๋ผิดหวัง ก็ต้องเป็นหนามยอกอกของเธอเป็นธรรมดา
เธอถึงขั้นมีความบุ่มบ่ามที่จะพูดความจริงออกมาบนโต๊ะอาหารไปเลย แต่พอนึกถึงว่ากู้ชิวอี๋กำชับตนเองเอาไว้ ก็เลยทำได้เพียงหยุดลงชั่วคราวเท่านั้น
บนโต๊ะอาหาร เซียวชูหรันนั่งลงข้างๆกู้ชิวอี๋ และเย่เฉินก็นั่งลงข้างๆเซียวชูหรัน
กู้ชิวอี๋มองดูเขาแวบหนึ่ง จงใจเอ่ยถามเซียวชูหรันด้วยรอยยิ้มว่า “นายหญิงเย่ อยากทราบว่าคุณกับคุณเย่แต่งงานกันมากี่ปีแล้วคะ?”
เซียวชูหรันรีบตอบกลับในทันที “สามปีกว่า จะสี่ปีแล้วค่ะ”
กู้ชิวอี๋พยักหน้าเบาๆ ถามขึ้นอีกว่า “มีลูกหรือยังคะ?”
เซียวชูหรันส่ายศีรษะพร้อมกับเอ่ย “ยังค่ะ…”
กู้ชิวอี๋แสร้งทำท่าทีตกใจมาก ถามเธอว่า “แต่งงานสี่ปียังไม่เอาลูก หรือว่าคุณกับคุณเย่คือกลุ่มคนที่ไม่ต้องการมีลูกคะ?”
เซียวชูหรันเอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างที่จะทำตัวไม่ถูก “ที่จริงก็ไม่ถือว่าไม่เอาลูกหรอกค่ะ…ก็คือ…จะว่ายังไงดีล่ะ…พวกเราทั้งสอง…พวกเราทั้งสอง…”
เย่เฉินเห็นเซียวชูหรันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ก็เลยรีบประชิดเข้าไปพร้อมเอ่ยขึ้นว่า “พวกเราสองคนตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมที่จะเอาลูกครับ”
กู้ชิวอี๋ฉลาดหลักแหลมมาแต่กำเนิด พอเห็นท่าทีที่อับอายนั่นของเซียวชูหรัน รวมไปถึงการกระทำที่รีบเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ของเย่เฉิน ก็รู้ว่าภายในนี้จะต้องมีเงื่อนงำอย่างอื่นอย่างแน่นอน
เธอก็เลยพยักหน้าเล็กน้อย เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เอาลูกที่จริงแล้วก็ดีมากเหมือนกันค่ะ”
อยู่ๆเย่เฉินก็นึกถึงการแสดงความคิดเห็นของกู้ชิวอี๋ที่บอกว่าไม่อยากอายุยังน้อยก็เป็นแม่เลี้ยงขึ้นมาอย่างกะทันหัน ในใจรู้สึกไม่รื่นหูขึ้นมาระลอกหนึ่ง แต่ว่าก็ไม่ถึงขั้นโกรธ ถึงอย่างไรก็เป็นตนเองที่ทำผิดต่อกู้ชิวอี๋ ไม่ใช่กู้ชิวอี๋ ที่ทำผิดต่อตนเอง
เซียวชูหรันเวลานี้เอ่ยถามขึ้นอย่างตกใจมากว่า “คุณกู้ คุณเป็นดาราใหญ่ ทั้งยังเติบโตที่เย่นจิงกับต่างประเทศมาโดยตลอด ทำไมถึงมาจินหลิงได้คะ? อีกทั้ง คุณรู้จักกับสามีของฉันได้ยังไงกันคะ?”
กู้ชิวอี๋หัวเราะพร้อมกับเอ่ย “ที่จริงแล้วฉันมาเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับประธานเว่ยค่ะ”
เว่ยเลี่ยงเวลานี้รีบแนะนำตัวในทันที “สวัสดีครับนายหญิงเย่ ผมคือเว่ยเลี่ยง ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทผลิตยาเว่ยซื่อ”
เซียวชูหรันพยักหน้าเล็กน้อยให้กับเว่ยเลี่ยงอย่างเกรงใจมาก หลังจากที่ทักทายเสร็จแล้ว ถึงได้เอ่ยถามเย่เฉินที่อยู่ด้านข้างเบาๆว่า “คุณดูฮวงจุ้ยให้กับเขาอีกแล้วใช่หรือเปล่าคะ?”
เย่เฉินหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “ใช่น่ะสิ!ประธานเว่ยให้ผมไปดูดวงฮวงจุ้ยที่โรงงานยาของเขา แล้วก็เชิญคุณกู้มาเป็นแอมบาสเดอร์พอดีอีก ผมรู้ว่าคุณชอบคุณกู้มากมาโดยตลอด ดังนั้นก็เลยพาคุณมาพบกับคุณกู้หน่อย”
เซียวชูหรันนี่ถึงได้เข้าใจขึ้นมาโดยทันที
ที่แท้ไม่ใช่สามีของตนเอง รู้จักกู้ชิวอี๋ดาราใหญ่คนนี้ แต่คือสามีของตนเองช่วยเว่ยเลี่ยงดูฮวงจุ้ย เว่ยเลี่ยงเชิญกู้ชิวอี๋มาเป็นแอมบาสเดอร์พอดีอีก
พอเป็นเช่นนี้ ความสัมพันธ์ทางตรรกะก็สมเหตุสมผลขึ้นมามากแล้ว
ในเวลานี้ กู้ชิวอี๋ที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยขึ้นอย่างจริงจังมากว่า “นายหญิงเย่ ทักษะการดูฮวงจุ้ยของคุณเย่มีความรอบรู้ถึงขั้นบรรลุมากจริงๆ ทำให้คนนับถือเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นฉันคิดจะเชิญเขา ผ่านไปอีกสองสามวันไปช่วยฉันดูฮวงจุ้ยในบ้านที่เย่นจิงหน่อย อาจจะต้องไปประมาณสามวันห้าวัน นายหญิงเย่ทางนี้ไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ?”
เซียวชูหรันรีบยิ้มพร้อมกับเอ่ยขึ้นในทันที “ไม่มีปัญหาค่ะ ไม่มีปัญหา ขอแค่คุณกู้ไม่รังเกียจความสามารถที่ธรรมดา ระดับที่มีขีดจำกัดของเขาก็พอแล้ว”
กู้ชิวอี๋ในใจรู้สึกโล่งอก บนริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย เอ่ยปากว่า “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ นายหญิงเย่ ฉันเชื่อว่าคุณเย่คือยอดชายในหมู่คน ความแข็งแกร่งจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!