ตอนที่ 1753: โอกาส
ขั้นเหนือเทพทุกคนที่โจมตีพลังของกฏที่ปกป้องราชาเทพต้วนมู่หยุดมือ พวกเขาจ้องไปที่กระบี่ทองคำที่โฉบเฉี่ยวอย่างแหลมคมใส่พวกเขาและกลายเป็นจริงจัง
เพียงกระบี่บินเคลื่อนไหวทีเดียวมันก็ได้เอาชีวิตขั้นเหนือเทพช่วงต้นและมันปะทะกับขั้นเหนือเทพคนที่สองกระเด็นออกไปพร้อมกับกระอักเลือด แม้แต่ขั้นเหนือเทพช่วงปลายก็ยังหวาดกลัวกับพลังเหล่านี้
ที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาไม่รู้ว่ากระบี่บินนี้มาจากที่ไหน
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่กระบี่บินและขมวดคิ้ว เขาสงสัยและคิดว่า “ทำไมกระบี่บินเล่มนี้ถึงดูคุ้น ๆ ? ”
“ใครเป็นคนโจมตี ? เผยตัวออกมาซะ” หยางไคตะโกนออกมา
“ฮึ่ม ลอบโจมตีงั้นหรือ ? นั่นดูน่ากลัว เปาเป่าจะสังหารเจ้าในที่โล่ง” มีเสียงที่ดังออกมาจากจากที่ไกล ๆ
เสียงนั้นทำให้ขั้นเหนือเทพตะลึง พวกเขาหันไปมองรอบ ๆ และจ้องมองกระบี่บินทองคำด้วยความประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าเสียงมาจากกระบี่
ในขณะนี้เองเด็กหญิงคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเหนือกระบี่ นางดูอายุ 4-5 ขวบ ผิวของนางขาวและน่ารักเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามนางกำลังจ้องมองไปที่ขั้นเหนือเทพอย่างดุดัน
“มันเป็นจิตวิญญาณกระบี่ ! กระบี่เล่มนี้เป็นสมบัติของราชาเทพต้วนมู่งั้นหรือ ? ” ปิงเหลาพูดด้วยความประหลาดใจ
เจี้ยนเฉินก็ตระหนักเช่นกัน เหตุผลที่เขาพบว่ากระบี่นั้นค่อนข้างคุ้น ๆ เพราะเคยเห็นกระบี่ที่ราชาเทพต้วนมู่ใช้
“เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ถูกต้อง ราชาเทพต้วนมู่เป็นเจ้านายของเปาเป่า เนื่องจากเจ้าไม่ทำตามกฏของเขา เจ้าก็สูญเสียสิทธิ์ในการได้รับมรดกของเจ้านายไปแล้ว ออกไปซะ เปาเป่าจะไม่แสดงความเมตตาใด ๆ ต่อผู้ที่มารบกวนการนอนหลับของเจ้านาย เปาเป่าจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด” จิตวิญญาณกระบี่พูดอย่างเย็นชา แม้ว่านางจะดูไม่แก่ แต่เสียงเด็ก ๆ ของนางก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร
เห็นได้ชัดว่ากระบี่ได้ติดตามราชาเทพต้วนมู่มาหลายปีแล้ว มันต้องผ่านการต่อสู้ทุกที่กับเขาและเติบโตขึ้นพร้อมกับเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า กระบี่บินกำลังคุกคามเรา นี่เป็นเรื่องน่าชวนหัว” ขั้นเหนือเทพช่วงปลายแค่นเสียงก่อนที่จะพุ่งตรงเข้าหากระบี่ทองคำ เขาคว้ามันและพยายามสยบกระบี่
เหนือเทพคนอื่น ๆ ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน ทุกคนพุ่งเข้ากระบี่บิน มันเป็นสมบัติของราชาเทพต้วนมู่ ดังนั้นสำหรับพวกเขา มันเป็นสิ่งที่สามารถรักษาและปกป้องตระกูลทั้งหมดของพวกเขาได้
“เจี้ยนเฉิน เป็นไปได้อย่างมากที่มรดกของราชาเทพต้วนมู่เกี่ยวข้องกับกระบี่บิน มันอาจอยู่ในมือของวัตถุจิตวิญญาณ หากเจ้าต้องการ ข้าสามารถช่วยให้เจ้าได้รับมัน เมื่อข้าฟื้นฟูร่างกายของข้า” นางฟ้าเฮายู่กล่าว
“นางฟ้าเฮายู่ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ลองคิดดูว่าเราจะทำให้เจ้าเข้าใกล้กับศพของราชาเทพต้วนมู่ได้อย่างไร” เจี้ยนเฉินกล่าว เขาไม่สนใจเลย เขามาที่สุสานราชาเทพต้วนมู่ในครั้งนี้ส่วนใหญ่เพราะนางฟ้าเฮายู่ รวมถึงค้นหาสมบัติบางอย่างในการบ่มเพาะของเขา เพื่อที่จะทะลวงร่างบรรพกาลของเขาให้ได้เร็วที่สุด มรดกของราชาเทพต้วนมู่มีเพียงวิธีบ่มเพาะและทักษะการต่อสู้
สำหรับวิธีการบ่มเพาะ เขามีร่างบรรพกาล ปล่อยวิธีการบ่มเพาะของราชาเทพต้วนมู่ทิ้งไป แม้ว่ามันจะสามารถทำให้เข้าใกล้ขอบเขตตั้งต้นได้ แต่เขาก็ไม่สนใจ
สำหรับทักษะการต่อสู้ เขามีสิ่งที่มาจากวัตถุจิตวิญญาณ ทักษะการต่อสู้จำนวนมากถูกสร้างมาจากเจ้านายคนก่อนของจิตวิญญาณกระบี่ เขาได้เข้าใจถึงทักษะกระบี่ระดับสูง, ปราณกระบี่ลึกซึ้ง เขาไม่รู้สึกสนใจทักษะกระบี่ของราชาเทพต้วนมู่เลย
ขั้นเหนือเทพหลายสิบคนเริ่มต่อสู้กับกระบี่ทองคำอยู่อีกด้านหนึ่ง ไม่ใช่ขั้นเหนือเทพทั้งหมดที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ตอนนี้ผู้ที่เข้าร่วมเกือบสามสิบคนแล้วมันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด
หลังจากที่จิตวิญญาณกระบี่ควบคุมกระบี่บิน นางก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใคร ถ้านางต้องต่อสู้กับพวกเขาทีละคน แต่นางก็สามารถหนีไปได้เมื่อเข้าใกล้ขั้นเหนือเทพทั้ง 30 คน กระบี่บินเปลี่ยนเป็นแสงขณะที่มันหลบหนีหลีกเลี่ยงการโจมตีของทุกคนและต่อสู้กลับในบางครั้ง
อย่างไรก็ตามผู้ที่มีความเข้าใจสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียวว่ากระบี่บินได้ไม่ได้ถูกมือควบคุม มันอาศัยความเร็วและการหลบหนีระหว่างรอยต่อของขั้นเหนือเทพอย่างสมบูรณ์
“คลื่นกระแทกจากการต่อสู้นั้นรุนแรงเกินไป ข้าไม่อาจทนได้ในฐานะวิญญาณ ดังนั้นเจ้าต้องการวิธีหยุดการต่อสู้ของพวกเขา ข้าถึงจะออกมาได้” นางฟ้าเฮายู่พูดอย่างเกรี้ยวกราด
“แต่มีพลังของกฎขวางไว้รอบ ๆ ศพราชาเทพต้วนมู่ เจ้าจะผ่านมันไปได้อย่างไร ? ” เจี้ยนเฉินถามพลางขมวดคิ้ว
“ข้าต้องจ่ายเพื่อระงับพลังของมันชั่วคราว อย่างไรก็ตามข้าทำได้เพียงครึ่งนาที”
เจี้ยนเฉินจริงขังเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขารู้ว่านางฟ้าเฮายู่ต้องการให้เขาซื้อเวลาให้นางครึ่งนาที ในเวลานี้นางไม่อาจได้รับบาดเจ็บใด ๆ สุดท้ายนางก็เปราะบางเกินไปในฐานะวิญญาณ แม้แต่จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมก็สามารถทำให้นางบาดเจ็บได้ นับประสาอะไรกับขั้นเหนือเทพ
แม้ครึ่งนาทีจะสั้น แต่เขาก็ต้องอดทนต่อการโจมตีของเหนือเทพทั้งหมด ไม่ให้มีสิ่งใด ๆ จากขั้นเหนือเทพทำร้ายนางฟ้าเฮายู่ขณะเข้าหาศพของต้วนมู่
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ และพบว่ามีเหนือเทพหลายคนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการต่อสู้กับกระบี่บิน ในเวลาเดียวกันพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวกระจายไปรอบ ๆ ระหว่างการต่อสู้กับกระบี่ทองคำ แม้แต่ขั้นเทพก็ยังพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะยืนได้ตรง ๆ สำหรับนางฟ้าเฮายู่ที่จะเคลื่อนไหวในสถานการณ์เช่นนี้
ในเวลานี้กระบี่บินได้กลายเป็นแสงสีทองและหายไปจากมิติ มันหนีออกไปด้านนอกเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้กับขั้นเหนือเทพทั้ง 30 คน
ขั้นเหนือเทพยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาทั้งหมดไล่ตามมันไป พลังของกฏยังคงครอบคลุมร่างของราชาเทพต้วนมู่อยู่ จึงไม่มีใครเข้าไปได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่กังวลว่าจะมีใครขโมยแหวนมิติของราชาเทพต้วนมู่ไปในเวลานี้
พริบตามีเพียงเจี้ยนเฉินและขั้นเหนือเทพคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้เท่านั้น พวกเขาบางคนเป็นขั้นเหนือเทพช่วงต้นหรือแม้แต่ขั้นเหนือเทพช่วงปลาย มันยากมากสำหรับพวกเขาที่จะได้รับกระบี่บิน เป็นผลทำให้พวกเขาประหยัดพลังงานและสะสมพลังงานที่จะต่อสู้ขั้นสุดท้าย
“นี่เป็นโอกาสที่ดี ! ” ดวงตาของเจี้ยนเฉินเบิกกว้าง เขารู้ว่าโอกาสอยู่ตรงหน้า อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เคลื่อนไหวทันที เขาพูดกับขั้นเหนือเทพแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนว่า “กู่หานเซี่ย, ปิงเหลา, เฟิงปูเล่อ มีบางอย่างที่ข้าจะพูดกับเจ้า”
กู่หานเซี่ย, ปิงเหลาและเฟิงปูเล่อล้วนแต่เป็นขั้นเหนือเทพช่วงต้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเอากระบี่บิน