ตอนที่ 2834 ระดับอาวุโสล้ำ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2834 ระดับอาวุโสล้ำ!
เรื่องเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีใครเอามาล้อเล่นกัน

ได้ยินเช่นนั้นจางเฟยหงจึงค่อยๆ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางเหนืออย่างละเอียดจนทำให้เหล่าเจ้าโลกต้องอ้าปากค้าง

แน่นอนว่าศึกทางเหนือนั้นมันมีขนาดเล็กกว่าทางใต้มาก แต่ความสำคัญของมันนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย! ที่สำคัญไปกว่านั้นศึกทางเหนือนั้นยังสุดแสนอันตราย แต่ให้จะชนะได้มันก็คงเป็นชัยชนะที่ต้องแลกด้วยเลือด แต่ว่าพวกเขานั้นกลับไม่คิดฝันว่าทางเหนือกลับจะเอาชนะได้อย่างราบคาบเช่นนี้

เสียงร้องหนึ่งดังขึ้นมา “ไอ้เด็กคนนี้มันดวงดาวชัดๆ!”

เสียงของเจ้าโลกหญิงอีกคนกล่าวขึ้นมาขัด “เจ้าบ้านี่จะยังพูดอะไรไร้สาระอยู่อีก? เย่หยวนนั้นสุดยอด! สุดยอดจนเกินไป!”

“มีคุณงามความดีอย่างไร้ที่เปรียบได้! ต้องมีรางวัลใหญ่! ต้องให้รางวัลใหญ่แก่เขา! ส่งคำสั่งเจ้าโลกออกไปว่าคุณงามความดีของเย่หยวนนั้นยิ่งใหญ่ ช่วยสวรรค์แรกไว้จากภัยร้ายทำให้ความสิ้นหวังกลับมาเป็นความหวัง! เขานั้นจะถูกรับมายังหอสุดแสงและเป็นศิษย์ของข้า!” เสียงแหบๆ หนึ่งดังขึ้นมา

แต่มันกลับมีเสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นขัด “เหอะ! เฒ่าหยุนซาน เจ้ามันหัวดีจริงๆ! เรื่องราวก่อนหน้าเรายังไม่ได้สะสางกับเจ้าเลยนะ!”

ในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันมีเสียงแหบๆ ตอบกลับมาด้วยท่าทางอับอาย “แค่กๆ คนเรามันย่อมผิดพลาดกันได้ ม้ามันก็ต้องมีสะดุดบ้าง! แม้ว่าข้านั้นจะเก่งกาจด้านโอสถแค่ไหนแต่ช่างไม่มีไขควงมันก็ทำงานได้ไม่ถนัด! เย่หยวนนั้นเดิมทีก็เป็นคนของนิกายยาสุดล้ำข้าอยู่แล้ว เวลานี้แค่ให้เขาเลื่อนขึ้นมาเป็นศิษย์ส่วนตัวของข้ามันย่อมจะไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไรมิใช่หรือ?”

“ตอแหล! อย่าคิดว่าแม่เจ้านี่ไม่รู้นะว่านิกายยาสุดล้ำเจ้านั้นวางตัวเช่นไรตั้งแต่คิดเรื่องใช้เลือดภูตแท้มาได้ เย่หยวนนั้นอุตส่าห์ไปเตือนศิษย์ของเจ้า แต่พวกเจ้ากลับไม่มีใครสนใจฟังเขา สุดท้ายทำให้เกิดความฉิบหายขึ้นมา! เวลานี้กลับยังจะหน้าด้านเช่นนี้อีก?” แต่เจ้าโลกหญิงคนนั้นกลับไม่คิดยอมถอยง่ายๆ

สิ่งที่พวกเขาพูดถึงนั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องการใช้เลือดภูตแท้หยุดพิษเลือดกัดกร่อนแล้ว

เรื่องราวนั้นทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง

มิใช่แค่สงครามทางเหนือเท่านั้นที่เผชิญหายนะ ทางใต้เองก็เสียคนไปมากเช่นกัน

โชคยังดีที่ข่าวจากแดนเหนือนั้นมันส่งมาถึงก่อนจะเกิดสงครามใหญ่ทำให้พวกเขาหลบเลี่ยงหายนะไปได้

เรื่องนี้คือความดีความชอบของเย่หยวน เพราะฉะนั้นเฒ่าหยุนซานคนนี้จึงมีความคิดไม่ต่างไปจากจั่วเฉิน

การแต่งตั้งเย่หยวนให้ขึ้นสูงส่งนั้นมันจะทำให้นิกายยาสุดล้ำดูดีขึ้นมาบ้าง

แต่ว่าการให้เย่หยวนขึ้นมาเป็นศิษย์ของเจ้าโลกเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เขามีระดับอาวุโสที่สูงล้ำเกินตัวไปมาก

ตอนนั้นเองที่ตัวเทพศักดิ์สิทธิ์ทนไม่ไหวต้องกล่าวขึ้นห้าม “เอาล่ะๆ เลิกเถียงกันก่อนเถอะ เรื่องนี้ผู้อาวุโสหยุนซานท่านเองก็ผิดแต่ท่านเองก็ทำเพื่อพันธมิตรเราทั้งสิ้น พี่จือหยุนเองก็อย่าได้เอามันมาซ้ำเดิมกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเลย”

“เฮอะ!”

เมื่อตัวเทพศักดิ์สิทธิ์กล่าวขึ้นมาเช่นนี้แล้วเจ้าโลกหญิงคนนั้นจึงไม่คิดกล่าวอะไรต่อไปอีก

“ผู้อาวุโสหยุนซาน ข้าเองก็ไม่ขัดเรื่องท่านจะเอาเย่หยวนเข้าเป็นศิษย์หรอกนะ แต่เรื่องนี้มันต้องทำอย่างเงียบๆ ไม่เช่นนั้นแล้วท่านจะกลายเป็นที่ว่ากล่าวของยอดคนทั้งหลายและทำให้พวกเขายิ่งไม่เชื่อท่านไปใหญ่! ที่สำคัญเจ้าหนุ่มคนนี้มันมีพรสวรรค์จริง วันหน้าหากเขาขึ้นมาถึงระดับมหาจักรพรรดิได้เขาคงได้กลายเป็นกำลังรบสำคัญแน่! เพราะฉะนั้นแม้เขาจะเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตแต่เราก็ไม่ต้องทำเหมือนเขาเป็นหมากใช้แล้วทิ้ง!” เทพศักดิ์สิทธิ์หันไปกล่าวกับหยุนซาน

แม้ว่าพันธมิตรสวรรค์แรกนั้นจะหยุดการรุกรานของเผ่าเลือดไว้ได้แต่ว่าต่างฝ่ายนั้นก็ต่างต่อสู้กันมาหลายพันปีแน่นอนว่าในทวีปสวรรค์แรกเองมันก็ย่อมจะมีเผ่าเลือดที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดบ้าง

และในหมู่คนที่หลบซ่อนอยู่นั้นมันก็มียอดฝีมือมากมาย

หากเรื่องที่ว่าเย่หยวนได้กลายเป็นดาวเด่นฟ้านี้แพร่กระจายออกไปแล้ว มันคงทำให้เผ่าเลือดที่ซ่อนตัวอยู่ทั้งหลายหันหน้าไปหมายหัวเย่หยวนแน่!

“เรื่องนั้น มันยังเป็นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่คิดการอย่างระมัดระวัง ข้าจะทำตามท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ว่าแล้วกัน! ซ่งฉวน เรื่องนี้ข้าฝากเจ้าจัดการต่อด้วย” หยุนซานนั้นกล่าวขึ้นสั่ง

“ขอรับท่านอาจารย์!” เสียงหนึ่งในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นตอบกลับมา

และในเมื่อมันตอบกลับมาจากภายในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ ศิษย์คนนี้ก็ย่อมจะเป็นเจ้าโลกเช่นกันแล้ว!

แต่คนผู้นี้กลับเรียนหยุนซานว่าเป็นอาจารย์ ลำดับอาวุโสของเขานั้นมันสูงส่งแค่ไหนคงไม่ต้องพูดถึง!

เพราะแม้แต่เทพศักดิ์สิทธิ์คนนี้เองก็ยังต้องเรียกเขาว่าเป็นผู้อาวุโส!

สัตว์ประหลาดเฒ่าเช่นนี้กลับคิดจะรับเย่หยวนเข้าเป็นศิษย์ มันย่อมจะหมายความว่าเย่หยวนจะก้าวขึ้นมามีอาวุโสเทียบเคียงกับเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายไปทันที!

นี่มันเป็นระดับอาวุโสที่สูงล้ำ!

แท้จริงแล้วทางนิกายยาสุดล้ำนั้นก็มีเจ้าโลกอยู่ถึงสองคน

หนึ่งนั้นย่อมเป็นหยุนซาน ส่วนอีกคนนั้นคือศิษย์ของเขานามโจวซ่งฉวน

คนทั้งสองนั้นวางตัวเหนือโลกหล้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในนิกายมากมาย

เย่หยวนนั้นขึ้นมาเป็นศิษย์ของหยุนซานมันย่อมจะหมายความว่าในนิกายยาสุดล้ำนั้นต่อให้จะเป็นเจ้านิกายคนปัจจุบันก็คงต้องเรียกเย่หยวนว่าเป็นอาจารย์ลุงด้วย!

สภาพของเมืองทัศน์เหนือในตอนนี้มันเปี่ยมไปด้วยความยินดีและการเฉลิมฉลอง!

เมื่อยอดฝีมืออย่างเหลียนยี่และหลี่เหอตายลงไปมหาจักรพรรดิคนอื่นๆ ของเผ่าเลือดก็ย่อมจะไม่เป็นปัญหาอีก

หลังจากที่ตานเฟยและจั่วเฉินฟื้นฟูกลับมาได้ในระดับหนึ่งแล้วพวกเขาก็สามารถจัดการมหาจักรพรรดิเผ่าเลือดทั้งหลายลงได้ไม่ยาก

เหล่ามหาจักรพรรดินั้นเอาชนะได้ ย่อมจะหมายความว่าศึกกองทัพจักรพรรดิเองก็จบสิ้นลงด้วยเช่นกัน

เพราะไม่ว่าจะมีจักรพรรดิมากแค่ไหนมันก็ไม่มีทางต้านมหาจักรพรรดิได้!

เพราะฉะนั้นชัยชนะของแดนเหนือมันจึงเป็นชัยชนะที่ท่วมท้น และทั้งหมดมันก็เกิดขึ้นได้เพราะเย่หยวน!

ตอนนี้ชื่อเสียงของเย่หยวนนั้นมันกลายเป็นดั่งดวงตะวันที่ไม่อาจจะเอาอะไรมาเทียบแสงได้ แม้แต่ตัวตานเฟยเองก็ยังไม่อาจเทียบ!

เพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าสิ่งนี้มันคือสิ่งที่แม้แต่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ตานเฟยยังทำไม่ได้!

แต่เย่หยวนนั้นกลับทำมันได้

แม้ว่าจะเป็นชัยชนะที่ท่วมท้นแค่ไหนแต่สุดท้ายทัพสวรรค์แรกก็เสียทหารไปมากเช่นกัน

คนที่เย่หยวนเห็นหน้าเห็นตา มาก่อนอย่างเสียวอี้ผิงนั้นได้ตายลงไปมากมาย

เจ้าเมืองทิศเหนืออย่างซ่งเหมียวเองก็ตายลงไปในศึกนี้เช่นกันด้วยน้ำมือของจักรพรรดิเที่ยงเผ่าเลือด

ซ่งเหมียวคนนี้คือผู้ช่วยชีวิตเย่หยวนไว้

ความตายของเขามันทำให้จิตใจของเย่หยวนปวดร้าวอย่างมาก

ตอนที่อยู่ในภพเบื้องล่างนั้นเย่หยวนได้ผ่านศึกเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกๆ ครั้งนั้นเขาจะพอมีพลังเปลี่ยนแปลงกระแสของสงครามได้บ้าง

แต่ตอนนี้เขาเป็นได้แค่มด

มดที่ไม่อาจเปลี่ยนกระแสสงครามได้เลย

ครั้งนี้ที่ชนะมาได้มันก็คงเรียกได้ว่าเพราะโชคช่วยโดยแท้

เขานั้นรู้ดีว่าสงครามมันโหดร้ายแต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสมันอย่างใกล้ชิดปานนี้

เพื่อที่จะปกป้องตัวเขานั้น เหล่าทหารต่างต่อสู้อย่างเสี่ยงชีวิตจนมีคนตายตกลงไปรอบกายเขาเรื่อยๆ

ภาพเหล่านั้นมันยังตามหลอกหลอนอยู่ในสมองของเขา

คนทั้งหลายนั้นกล่าวบอกว่าเขานั้นคือคนที่เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสทำให้เกิดชัยชนะครั้งนี้มา แต่เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าเขาไม่ได้สู้คนเดียว!

หากไม่มีเหล่าวีรบุรุษทั้งหลายที่ตายลงนั้น เขาจะยังฝ่าวงล้อมเผ่าเลือดไปได้หรือ?

ไม่มีทาง!

เพราะฉะนั้นหลังจากสงครามจบลงเย่หยวนจึงไม่ได้ออกมาเฉลิมฉลองใดๆ

เขานั้นใช้แก่นเลือดเผ่าเลือดชุดใหม่ที่เก็บมาในศึกนี้ทำการหลอมผลึกเพลิงโลหิตขึ้นมาอีกชุดใหญ่และเข้าไปรักษาทหารที่บาดเจ็บทั้งหลาย

นอกจากนั้นเขายังส่งผลึกเพลิงโลหิตอีกชุดใหญ่ให้ตานเฟยส่งลงไปยังแดนใต้ด้วย

เพราะทหารฝั่งนั้นมันคือคนที่ต้องรับศึกหนักอย่างแท้จริง!

เวลาที่เหลือจากนั้นเย่หยวนก็สั่งสอนหยกมุกเก้าใบฉบับสมบูรณ์ให้แก่พวกเซียวชานทั้งหลาย

เขานั้นตั้งใจไว้ว่าหลังจบเรื่องราวนี้แล้วเขาจะออกเดินทางไปยังนิกายยาสุดล้ำ

เย่หยวนนั้นคิดอยากจะเพิ่มพลังของตัวเองให้ได้รวดเร็วที่สุดเพราะในสงครามเช่นนี้มันมีแต่ยอดฝีมือเท่านั้นที่จะพอเปลี่ยนแปลงอะไรได้!

เขานั้นรู้ดีว่าชัยชนะครั้งนี้มันได้มาเพราะความประมาทของศัตรูด้วย

เขามีแต่ต้องกลายเป็นยอดฝีมือเท่านั้นที่จะสามารถเอาชัยมาได้อย่างมีคนตายน้อยที่สุด

และเป็นเวลาเดียวกันนั้นเองที่โจวซ่งฉวนมาถึง!

แน่นอนว่าที่มาย่อมจะมิใช่ตัวจริงของเขาเป็นแค่ร่างแยกเท่านั้น

แต่ว่าแม้จะเป็นแค่ร่างแยกมันก็แข็งแกร่งพอทำลายมหาจักรพรรดิลงได้ง่ายๆ!

เขานั้นไม่ได้แสดงตัวต่อหน้าคนมากมาย เขาแค่เข้าไปคุยกับเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายและแม่ทัพสูงต่างๆ

เรื่องการมาถึงของโจวซ่งฉวนนั้นพวกตานเฟยเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เพราะเวลานี้ด้วยชัยชนะของทางเหนือมันทำให้ทางใต้นั้นต้องกลับมารับศึกหนักอีกครั้งหนึ่ง

แต่เวลาเช่นนี้โจวซ่งฉวนนั้นกลับยังส่งร่างแยกออกมายังแดนเหนือเพื่อชื่นชมทหาร มันย่อมจะชัดเจนแล้วว่าเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นให้ความสำคัญกับชัยชนะครั้งนี้มากแค่ไหน!

…………………..