ตอนที่ 2835 คำพูดที่สะท้านหูผู้ฟัง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2835 คำพูดที่สะท้านหูผู้ฟัง!
“ข้ามาวันนี้เพื่อจะรับศิษย์แทนท่านอาจารย์!”

คำแรกที่โจวซ่งฉวนกล่าวขึ้นมานั้นมันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

สายตาของเขานั้นมันจ้องมองไปยังเย่หยวนอย่างชัดเจน!

มันไม่ต้องอธิบายกันแล้วว่ารับใคร!

โจวซ่งฉวนนั้นไม่ได้ออกมารับศิษย์ แต่เป็นตัวอาจารย์ของโจวซ่งฉวนที่รับศิษย์!

นี่มัน…จะเกินความคาดหมายไปแล้ว!

เหล่าคนที่อยู่ในห้องโถงตอนนี้ต่างเป็นยอดคนของทวีปสวรรค์แรกพวกเขานั้นย่อมรู้ดีว่าอาจารย์ของโจวซ่งฉวนนั้นคือใคร

เจ้าโลกนั้นกลับลงมาเพื่อรับศิษย์แทนอาจารย์!

หรือก็คือเขามาเพื่อรับเย่หยวนไปเป็นศิษย์น้อง!

เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นแทบต้องกระอักเลือดขึ้นมาตามๆ กัน

นี่มันจะเกินไปหรือไม่?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจั่วเฉินนั้นเขาแทบจะร้องไห้ออกมา

‘นี่มันศิษย์ข้านะ? พวกเจ้าคิดรับศิษย์นี้เคยถามข้าสักคำหรือไม่?’

‘ไม่กี่วินาทีก่อนข้ายังเป็นอาจารย์เย่หยวนแต่พริบตาต่อมาข้ากลับกลายเป็นเหลนศิษย์ไป!’

‘ข้านั้นเขียนไปชัดเจนแล้วว่าข้ารับเย่หยวนเข้าเป็นศิษย์มิใช่หรือ?’

‘แบบนี้มันได้หรือ?’

หากเป็นก่อนหน้าที่เขาไม่ได้คิดสั่งสอนอะไรเย่หยวนมันยังพอว่าแต่หลังสงครามนั้นเขาคิดจะสั่งสอนทุกอย่างที่รู้ให้แก่เย่หยวนจริงๆ แล้ว

แต่เมื่อตัดสินใจรับศิษย์จริงๆ ได้ตัวเขานั้นกลับไม่มีโอกาสรับเสียอย่างนั้น

สำหรับเหล่าเจ้าโลกแล้วพวกเขานั้นย่อมจะเป็นแค่มดปลวก

ไม่เข้าไปถึงระดับเจ้าโลกมันย่อมจะไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปเทียบเคียงกับเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจั่วเฉินที่เป็นแค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นี้แล้ว

โจวซ่งฉวนนั้นหันมามองเย่หยวนก่อนจะถามขึ้น “เย่หยวน อาจารย์ของข้านั้นคือยอดคนในวิชาการโอสถเป็นอันดับหนึ่งแห่งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด เจ้าโลกหยุนซาน! ท่านนั้นเห็นถึงพรสวรรค์ด้านโอสถของเจ้าและคิดอยากรับเจ้าเข้าเป็นศิษย์ เจ้าจะยอมรับหรือไม่?”

เย่หยวนเองก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน

พวกเจ้าโลกมันจะใจง่ายกันเกินไปหรือไม่?

แต่เขานั้นกลับส่ายหัวตอบกลับไป “ไม่ยอมรับ!”

“หือ!”

เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนไม่มีใครตั้งตัวทัน

ทำให้มันเกิดเสียงร้องลั่นขึ้นพร้อมๆ กันทั้งห้องโถง แม้แต่โจวซ่งฉวนนั้นเองก็ยังต้องหรี่ตามองเย่หยวนอย่างประหลาดใจ เจ้าเด็กคนนี้มันกลับทำอะไรที่ไม่ธรรมดา!

การได้กราบเจ้าโลกหยุนซานเป็นอาจารย์นั้นมันคือความฝันของนักหลอมโอสถสวรรค์ทุกคน แม้แต่ตัวจั่วเฉินนี้เองก็ยังหวังแต่ไม่กล้าฝันถึงได้เช่นกัน

เพราะว่าเจ้าโลกหยุนซานนั้นเลิกรับศิษย์คนใหม่มานานแสนนานแล้ว!

หากมิใช่ยอดอัจฉริยะที่สั่นสะท้านทั้งทวีปสวรรค์แรกนี้ปรากฏขึ้นมาเขานั้นก็ไม่คิดจะหันมาสนใจใดๆ เลย

แต่โอกาสเช่นนี้เย่หยวนกลับปฏิเสธอย่างไม่คิดด้วยซ้ำ

นี่มันจะเกินคาดไปแล้ว!

เขาจึงถามขึ้นมาด้วยใบหน้าเครียด “เย่หยวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาจารย์หยุนซานนั้นคือใคร? หากเจ้าพลาดโอกาสนี้ไปเจ้าคงต้องเสียดายภายหลังไปทั้งชีวิตแน่แล้ว!”

เย่หยวนเองก็พยักหน้าตอบกลับไปอย่างเคร่งเครียดเช่นกัน “ข้ารู้! แต่ข้าต้องขอปฏิเสธ!”

เขานั้นมิใช่คนโง่ อาจารย์ของเจ้าโลกมันจะเป็นคนธรรมดาไปได้หรือ?

มีวิชาโอสถเป็นอันดับหนึ่งของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันย่อมจะมีตัวตนที่สูงส่งแม้จะเอาไปเทียบกับยอดคนของทั้งสามสิบสามสวรรค์ตาม!

แต่เย่หยวนนั้นก็มีวิถีทางชีวิตของตัวเอง

ตานเฟยกล่าวขึ้นมา “เย่หยวน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เจ้าจะปฏิเสธทำไม?”

ตอนนี้แม้แต่จั่วเฉินเองก็ยังกล่าวขึ้นมาตาม “เย่หยวน เจ้าอย่าได้พูดเล่นไป! นี่มันเป็นโอกาสจากสวรรค์โดยแท้ เจ้านั้นเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตแต่ด้วยฝีมือของท่านปรมาจารย์แล้วท่านย่อมจะช่วยให้เจ้าไปถึงระดับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้แน่!”

พูดไปเขาก็หันไปก้มหัวให้โจวซ่งฉวน “อาจารย์โจวซ่งฉวน อย่าได้ไปถือสาเด็กหนุ่มมันเลยนะท่าน!”

เหล่ามหาจักรพรรดิคนอื่นๆ เองก็ได้กล่าวขึ้นมาพยายามโน้มน้าวเย่หยวนทุกวิถีทางให้เขายอมรับ

โอกาสเช่นนี้มีใครบ้างที่จะไม่อิจฉา?

แต่เย่หยวนนั้นกลับปฏิเสธมันไปหน้าตาเฉย มันจะเกินรับได้ไปหน่อย!

โจวซ่งฉวนนั้นมองหน้าเย่หยวนก่อนจะยิ้มขึ้น

“น่าสนใจ! น่าสนใจไม่น้อย! เจ้าบอกเหตุผลที่ปฏิเสธมาได้หรือไม่?”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “อย่างแรกเลยข้านั้นได้กราบอาจารย์จั่วเฉินเป็นอาจารย์แล้ว คำพูดของข้านั้นคือความเป็นจริงเสมอมา! หากมาเปลี่ยนอาจารย์ตอนนี้มันคงเท่ากับการหักหลังท่านอาจารย์แล้ว!”

ได้ยินเช่นนั้นจั่วเฉินก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งใจทันที

ก็จริงที่ว่าเขานั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิแต่ต่อหน้าเจ้าโลกแล้วตัวเขาย่อมไร้ค่าใด

เจ้าโลกนั้นไม่สนใจตัวตนเบื้องล่าง

แต่เย่หยวนนั้นกลับเห็นแก่หน้าเขาจนกล้าปฏิเสธโอกาสสวรรค์ส่งเช่นนี้มา

มีหรือที่เขาจะไม่ซาบซึ้ง?

เพราะตอนแรกนั้นเขาแค่คิดยืมใช้ชื่อเสียงของเย่หยวนกู้หน้านิกายยาสุดล้ำกลับมาเท่านั้น เรื่องนี้เย่หยวนเองก็คงรู้

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับทำเช่นนี้ให้แก่เขา มันย่อมจะทำให้เขาต้องซาบซึ้งอย่างไม่มีทางเลือก

จั่วเฉินนั้นรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ ได้แต่คิดว่าศิษย์คนนี้มันเป็นทางเลือกที่ถูกจริงๆ!

แต่ยิ่งคิดได้เช่นนั้นเขาก็ยิ่งเสียดายเย่หยวนมากขึ้นกว่าเก่า!

“อาจารย์…”

จั่วเฉินนั้นกำลังคิดจะพูดขึ้นมาแต่กลับถูกโจวซ่งฉวนนั้นยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อนจะหันมาพูดกับเย่หยวนต่อ “ว่าต่อเถอะ”

เย่หยวนกล่าวขึ้น “อย่างที่สองนั้นข้ารู้ดีว่าเหล่าเจ้าโลกต้องการให้รางวัลแก่ข้าแต่ความดีความชอบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยมือข้าแค่คนเดียว! หากไม่มีพี่น้องทั้งหลายต่อสู้กันอย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแล้วข้าย่อมจะไม่มีทางฝ่าทัพเผ่าเลือดเข้าไปได้อย่างเด็ดขาด! ข้านั้นเข้าใจว่าในสายตาเหล่าเจ้าโลกอย่างท่านนั้นไม่ว่าจะจักรพรรดิเที่ยงหรือจักรพรรดิเซียนมันก็คงเป็นได้แค่มดปลวก แม้แต่เหล่ามหาจักรพรรดิเองก็ยังเป็นแค่แมลงไม่ต่างกัน! แต่หากไม่มีพวกเขาแล้วทวีปสวรรค์แรกมันก็คงแตกสลายลงไปนานแสนนานแล้ว! แค่พวกท่านเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นย่อมไม่มีทางหยุดเผ่าเลือดไว้ได้ด้วยกำลังของตัวเอง! เพราะฉะนั้นคุณงามในครั้งนี้เย่หยวนจึงไม่อาจจะขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียวได้!”

คำพูดนี้มันทำให้หลายคนเริ่มสั่นสะท้านไปทั้งกาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหมิงยี่และแม่ทัพสูงทั้งหลายนั้นที่พวกเขาต่างแทบอยากจะคุกเข่าลงกราบขอบคุณวิญญาณของสหายร่วมรบ

คำพูดของเย่หยวนนี้มันแทงลึกเข้าดวงใจของพวกเขา!

ตลอดมาพวกเขานั้นเป็นได้แค่โล่มนุษย์ แต่โล่มนุษย์นั้นมันก็มีประโยชน์ตามแบบโล่มนุษย์เช่นกัน!

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าโลกหรือจักรพรรดิเซียน พวกเขานั้นต่างก็มุ่งหวังความสงบสุขให้คืนกลับมาสู่ทวีปสวรรค์แรกทั้งสิ้น!

หลังจบศึกนี้คนทั้งหลายต่างเฉลิมฉลอง

แต่นอกจากเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายแล้วมันก็คงไม่มีใครจดจำเหล่าผู้กล้าที่ตายลงไปมากมายในสนามรบได้อีก แต่เย่หยวนนั้นกลับจดจำมันไว้!

เจ้าเด็กคนนี้มันช่างน่านับถือ!

ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบหลั่งน้ำตา!

แต่เย่หยวนนั้นยังไม่หยุดกล่าว “อย่างที่สามนั้นข้าเข้านิกายยาสุดล้ำไปเพื่อศึกษาวิชาพื้นฐานของนิกายเท่านั้น ข้ามีเต๋าของตัวเองในเส้นทางโอสถ! เพราะฉะนั้นจะกราบใครในนิกายเป็นอาจารย์สำหรับข้ามันก็ไม่ต่างกัน”

“ซีด…”

ภายในโถงใหญ่นั้นมันมีเสียงสูดอากาศดังขึ้นมาเป็นแถบๆ

เพราะเหตุผลที่สามนี้มันช่างโอหัง!

โอหังอย่างเหลือเชื่อ!

สองข้อแรกนั้นมันทำให้คนต่างแทบหลั่งน้ำตา

แต่เหตุผลที่สามนั้นมันทำให้เอาพวกเขาแทบหยุดหายใจ!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจั่วเฉินในตอนนี้ที่แทบต้องร้องไห้แห้งๆ ออกมา

‘ข้าเพิ่งจะซาบซึ้งไปได้ไม่นานแต่เจ้ากลับมาตบหน้าข้าในเวลาไม่กี่อึดใจ?’

‘ที่แท้เจ้านั้นกลับไม่ได้คิดจะยึดถือข้าเป็นอาจารย์เลย!’

แต่คิดๆ ไปมันก็ไม่แปลก เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดพึ่งพาอาจารย์ระดับเขาตั้งแต่ต้นจนจบ

“เย่หยวน เจ้าพูดบ้าอะไรออกมา? เช่นนั้นก็ไม่ต้องเป็นศิษย์ข้าแล้วหรือ!” จั่วเฉินนั้นตวาดออกมา

ฟังอย่างไรมันก็คือการขับไล่ออกจากสำนักแต่แท้จริงแล้วมันก็เพื่อปกป้องเย่หยวน

เพราะคำพูดนี้มันโอหังอวดดีจนเกินไป!

คนตรงหน้านี้เป็นถึงเจ้าโลก!

นี่เขาอยากจะตายเสียให้ได้หรือ?

เย่หยวนหันไปมองจั่วเฉินด้วยความรู้สึกอบอุ่นในใจ

“ฮ่าๆๆ…”

โจวซ่งฉวนนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาจนทำให้จั่วเฉินใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มได้แต่คิดว่าฉิบหายแล้ว!

เวลานี้เจ้าโลกเกิดไม่พอใจขึ้นมาแล้ว

หากเจ้าปฏิเสธก็ปฏิเสธไป ทำไมต้องให้เหตุผลโอหังเช่นนั้นออกมาด้วย!

“พูดได้ดี!”

โจวซ่งฉวนหัวเราะขึ้น “เย่หยวน เจ้ามันทำให้ข้าชอบใจเข้ามากเข้าไปทุกทีแล้ว! เส้นทางแห่งเต๋านั้นมันลึกลับและซับซ้อน มีแต่คนที่สร้างเต๋าของตัวเองเท่านั้นที่จะขึ้นไปถึงยอดได้! แม้ว่าเจ้านั้นจะมีพลังบ่มเพาะที่ยังต่ำแต่ว่าจิตใจของเจ้านั้นกลับแจ่มใสนัก! น่าเสียดาย น่าเสียดายนักที่เจ้าเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีต ไม่เช่นนั้นมันจะดีแค่ไหนกัน!”

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไป “ข้าเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตแล้วทำไมหรือ? เส้นทางที่คนอื่นไม่เคยผ่านได้นั้นข้า เย่หยวนอาจจะสามารถผ่านมันไปได้ก็ได้!”

……………….