บทที่ 2321 ปากเล็กหวานเจี๊ยบ + ตอนที่ 2322 ขึ้นเรือโจร

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2321 ปากเล็กหวานเจี๊ยบ

เหยียนหมิงซุ่นกลับถึงบ้านช่วงหัวค่ำ เขาไปเยี่ยมเหยียนหมิงต๋าที่โรงพยาบาลซึ่งร่างกายฟื้นฟูได้ไม่เลว ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าอีกหนึ่งเดือนก็จะสามารถออกจากแคปซูลสารอาหารได้แล้ว แน่นอนว่าภายหลังต้องไปทำกายภาพบำบัดอีก

ตอนเขากลับมาฉีฉีเก๋อก็เข้าห้องพักผ่อนไปแล้ว พอทานซุปไก่ไปถ้วยหนึ่งก็เริ่มง่วงเหมยเหมยเลยรีบให้เธอไปพักผ่อน เกรงว่าขนาดอยู่บ้านก็ยังพักผ่อนไม่ดีด้วยซ้ำ

ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงเพราะคุณแม่ฉางอายุมากแล้วจึงนอนหลับยาก ทุกคืนต้องเปิดโทรทัศน์จนถึงดึกดื่น แถมยังเปิดเสียงดังสุดอีกต่างหากเพราะบอกว่าเธอหูไม่ดีเสียงเบาเกินเลยไม่ได้ยิน

ฉีฉีเก๋อท้วงไปหลายทีก็เปล่าประโยชน์ ยายแก่ปีศาจมักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเสมอไม่เห็นฉีฉีเก๋ออยู่ในสายตา

หรือบางทีเธอคิดจะทรมานฉีฉีเก๋อจริง ๆเพื่อสนองความต้องการทางจิตใจที่บิดเบี้ยวนั่น!

เหมยเหมยเล่าเรื่องของฉีฉีเก๋อให้เหยียนหมิงซุ่นฟัง เหยียนหมิงซุ่นจึงเอ่ยเตือนว่า “เรื่องในครอบครัวคนอื่นแบบนี้อย่าสอดมือเข้าไปยุ่งมากจะดีกว่านะ”

“ฉันเข้าใจ แต่ยายแก่ปีศาจนั่นมันน่าโมโหเกินไปจริง ๆ ก็เหมือนใครคนนั้น…ฉันจำได้แล้ว พี่ยังจำคุณป้าฮวาเอาแต่ใจที่หมู่บ้านตระกูลโม่นั้นได้ไหม? ที่สามีเธอช่วยชีวิตคุณตาไว้แล้วคิดจะให้พี่แต่งงานกับลูกสาวของเธอนั่นน่ะ?”

เหมยเหมยตบหน้าผากทีหนึ่ง มิน่าเธอถึงรู้สึกว่าพฤติกรรมของคุณแม่ฉางดูคุ้น ๆ นี่เหมือนคุณป้าฮวาหมู่บ้านโม่ไม่มีผิดเลยไม่ใช่หรือ?

อีกอย่างคุณป้าฮวาคนนี้ยังหน้าด้านคิดจะแย่งสามีของเธอไปอีก!

เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้ว เขาจำได้อยู่แล้ว เมื่อหลายวันก่อนยังเจอลูกสาวของป้าฮวาคนนี้โดยบังเอิญอีกต่างหาก!

“เพื่อนของเธอแต่งงานกับคนแบบนี้ได้อย่างไร? สายตามีปัญหาเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นย่นคิ้วเล็กน้อยพร้อมแกะกุ้งให้เหมยเหมย กู้อี้หัวบอกว่าคนท้องต้องทานอาหารทะเลให้มาก เพราะจะช่วยให้สมองของเด็กมีการเจริญเติบโตที่ดี

เหมยเหมยยักไหล่ “ความรักทำให้คนตาบอดไง พี่คิดว่าจะตาดีเหมือนฉันทุกคนงั้นหรือ!”

พูดคำหวานเอาใจสามีสักหน่อยเพราะช่วงนี้ถูกเธอทรมานไปไม่น้อย

ซึ่งใช้ได้ผลกับเหยียนหมิงซุ่นพอสมควร เขาป้อนกุ้งให้เธออีกตัวแล้วกระซิบถามข้างหูเธอว่า “ปากหวานเชียว ทานน้ำผึ้งมาเหรอ?”

“เปล่า…ความจริงจากใจ…” เหมยเหมยทำหน้าจริงใจ

เหยียนหมิงซุ่นเผยยิ้มหน้าเบิกบาน ยื่นมือบีบจมูกเธอทีหนึ่งแล้วกระแซะหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม พ่นลมร้อนออกมา “เด็กดี…กลางคืนจะตบรางวัลให้นะ!”

“นิสัยไม่ดี…”

เหมยเหมยมองค้อนแวบหนึ่ง สายตาคาดโทษแต่ร่างกายกลับอ่อนแรงลง

หลังตั้งครรภ์ร่างกายของเธอก็อ่อนไหวมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่คำหยอกเย้ายังฟังไม่ได้ ถูกกระตุ้นสักนิดก็ทนไม่ไหวและยิ่งทำให้เหยียนหมิงซุ่นพอใจจนไม่อยากปล่อยมือ

ฉะนั้นตกดึกย่อมเกิดบทเพลงรักราวกับคลื่นทะเลซัดโหมกระหน่ำขึ้นอยู่แล้ว…

สองวันต่อมาฉางชิงซงก็รีบเดินทางกลับมาเมืองหลวง เขากลับบ้านมาก่อนแต่พบว่าฉีฉีเก๋อไม่อยู่บ้านมีเพียงแม่ของเขาคนเดียวเท่านั้น

“ลูกชาย ในที่สุดก็กลับมาสักที เมียของลูกหนีไปกับคนอื่นแล้ว…” คุณแม่ฉางเห็นหน้าปุ๊บก็ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลพราก

ฉางชิงซงขมวดคิ้วแน่นให้แม่ของเขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง คุณแม่ฉางเล่าคร่าว ๆแต่กลับไม่ได้บอกสิ่งที่เธอทำไป บอกเพียงว่าฉีฉีเก๋อทั้งขี้เกียจทั้งตะกละและหนีไปกับคนอื่นแล้ว

“ลูกว่าลูกแต่งงานกับผู้หญิงสำส่อนแบบนี้ได้อย่างไร? สินเดิมก็ไม่มีสักหยวนแล้วยังต้องให้ลูกเลี้ยงอีก รอดูว่าเธอคลอดลูกเพศไหน ถ้าเป็นผู้หญิงไม่มีประโยชน์ก็หย่าซะ แม่จะแนะนำคนที่ดีกว่านี้ให้”

คุณแม่ฉางพร่ำบ่นอีกยาวเหยียด ลุงปาเกินเด็ดขาดเกินไปทำให้แผนที่หวังจะร่ำรวยด้วยฉีฉีเก๋อต้องพังทลาย เธอจึงต้องเริ่มวางแผนใหม่

ลูกชายเป็นถึงนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังมีงานที่มั่นคงในเมืองหลวงแถมหน้าตาดูดีหล่อเหลา ผู้หญิงที่บ้านเกิดมีทุกประเภทแล้วทำไมต้องมาผูกคอตายอยู่กับฉีฉีเก๋อด้วย!

………………………

ตอนที่ 2322 ขึ้นเรือโจร

คุณแม่ฉางมั่นใจมาก เธอไม่กังวลสักนิดว่าฉางชิงซงจะหาคู่ครองที่ดีไม่ได้ เพราะเรื่องแต่งงานของฉางชิงซงกับฉีฉีเก๋อไม่มีคนที่บ้านเกิดรู้สักคน แม้แต่ญาติพี่น้องก็ไม่รู้เรื่องแถมยังหลงคิดว่าฉางชิงซงยังโสดอยู่

ฉะนั้นถึงมีคนมาแนะนำผู้หญิงให้เธอรู้จักอยู่บ่อย ๆซึ่งล้วนแต่เป็นหญิงสาวหน้าตาดีฐานะครอบครัวดีและมีการงานมั่นคงทั้งนั้น ครอบครัวธรรมดาไม่กล้ามาเสนอตัวอยู่แล้ว คิอว่าคู่ควรกับลูกชายเธอที่มีงานในเมืองหลวงหรือไง?

หญิงสาวที่ทำให้คุณแม่ฉางหวั่นไหวมากที่สุดเป็นนักศึกษาจบจากวิทยาลัยครูเมืองหลวงคนหนึ่งแต่เธอจบก่อนฉางชิงซงหนึ่งปี เป็นคุณครูที่โรงเรียนมัธยมอีจงในเมืองหลวงและทำงานมาได้หนึ่งปีแล้ว

แม้จะอายุมากกว่าฉางชิงซงสามปีแต่เขามีการงานที่มั่นคงและหน้าตาสะสวยด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือพ่อของหญิงสาวเป็นถึงรองผู้ว่าการระดับมณฑลของพวกเธออีกต่างหาก

ยศใหญ่เชียวล่ะ!

อีกอย่างเขายังมีเส้นสายที่คุยกับเธอไว้แล้วว่าหากแต่งงานเกี่ยวดองกัน หลังจากลูกสาวของเธอเรียนจบมหาวิทยาลัยก็จะสามารถเข้าไปทำงานสำนักงานว่าการระดับมณฑลของพวกเธอได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นงานที่มั่นคงและมีหน้ามีตา เล่าให้ใครฟังเธอก็ได้หน้าทั้งนั้น

อนาคตลูกชายเธอทำงานอยู่ในเมืองหลวงส่วนลูกสาวเข้าไปทำงานในสำนักงานว่าการระดับมณฑล ใครจะกล้าดูถูกเธออีก?

คุณแม่ฉางยิ่งคิดก็ยิ่งหวั่นไหว บ้านฉีฉีเก๋อมีเงินแล้วอย่างไร เธอไม่ได้สักหยวนเดียวแต่หญิงสาวที่เป็นคุณครูคนนี้กลับสร้างผลประโยชน์ให้เธอได้อย่างแท้จริง

ส่วนอายุไม่ใช่ปัญหา ดั่งสำนวนที่ว่าแก่กว่าหุ้มทองสามก้อนอิฐ[1]!

ฉางชิงซงขมวดคิ้ว ทั้งที่ก่อนเขาไปสัมมนางานทุกอย่างยังปกติดีแต่ทำไมเพิ่งไปได้ครึ่งเดือนกว่าฉีฉีเก๋อก็หนีออกจากบ้านไปได้ล่ะ?

เขายังไม่โง่ถึงขนาดสติเลอะเลือนถึงขั้นสุดพอจะรู้ว่าคำพูดของแม่เขานั้นเชื่อถือไม่ค่อยได้จึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แม่เพลา ๆลงหน่อยเถอะ ผมกับฉีฉีเก๋อมีความสุขดีจะหย่าทำไม? ผมจะลงไปโทรศัพท์ใต้ตึกก่อน”

ตอนนี้ฉีฉีเก๋อยังอยู่บ้านเหมยเหมยซึ่งเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็อยู่ด้วย เมื่อครู่ฉางชิงซงโทรหาเธอถามถึงเรื่องฉีฉีเก๋อ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่อยากด่าเลยให้เขาไปหาเหมยเหมยเอง เธอขับรถไวจึงมาถึงก่อน

“ฉันขอเตือนเธอก่อนนะ เดี๋ยวเธออย่าห้ามพูดแทรกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สนเรื่องวุ่นวายของเธออีก” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดึงหูฉีฉีเก๋อเตือน กลัวยายโง่นี้จะใจอ่อน

เหมยเหมยเอ่ยว่า “ฉีฉีเก๋อเธอลองคิดทบทวนให้ดีนะว่าหลังแต่งงานเธอมีความสุขไหม? ขาดเงินทองสิ่งของนอกกายชั่วคราวมันไม่เป็นไรหรอกเพราะมีความรักคอยเติมเต็มให้ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้มีปัญหาแค่กินไม่อิ่มท้องเท่านั้น แม้แต่ศักดิ์ศรียังไม่เหลือเลยนะ เธอคิดว่านี่เป็นชีวิตที่เธอต้องการหรือเปล่า?”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอ่ยอย่างไม่พอใจนัก “เธอเป็นถึงแก้วตาดวงใจของพ่อแม่เธอ ไม่ใช่คนรับใช้ต่ำต้อยให้พวกคนตระกูลฉางมาคอยย่ำยีเธอแบบนี้ ถ้าพ่อแม่เธอรู้เข้าจะรู้สึกแย่แค่ไหน? เธอเคยคิดถึงพ่อแม่เธอบ้างไหม?”

ฉีฉีเก๋อตาแดงก่ำทันที การมีชีวิตแบบนี้คนที่เธอรู้สึกผิดมากที่สุดก็คือพ่อกับแม่

“ฉันจะคิดให้ดี…พวกเธอวางใจได้!”

ฉีฉีเก๋อกัดปากด้วยสายตาแน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม

เพื่อนพูดไม่ผิดเลย เธอลำบากได้แต่จะปล่อยให้คนมาย่ำยีหยามเหยียดเธอไม่ได้!

ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมจำนนอีกต่อไป!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเบะปาก “หวังว่าเธอจะพูดได้ทำได้ ไม่ใช่ว่าถึงตอนนั้นพอคนสกุลฉางพูดเอาใจไม่กี่ประโยคก็ลืมไปว่าตัวเองสกุลอะไร…จะให้ฉันว่านะ…ผู้ชายแบบนี้ยังจะคิดไปทำไมอีก หย่าให้มันจบ ๆไปสิ้นเรื่อง!”

ประโยคสุดท้ายเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดเสียงเบามาก ความจริงเหมยเหมยเองก็คิดเช่นเดียวกัน ฉางชิงซงในตอนนี้ไม่ใช่คนที่คู่ควรนัก ทว่าแต่ไรมามักจะเกลี้ยกล่อมให้คืนดีกันไม่ใช่เกลี้ยกล่อมให้หย่ากันสักหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นฉีฉีเก๋อยังรักฉางชิงซงอยู่แถมตอนนี้ยังตั้งครรภ์อีกด้วยแล้วจะยอมทิ้งได้ง่าย ๆขนาดนั้นหรือ?

ฉีฉีเก๋อหัวเราะเย้ยตัวเอง ใช่ว่าเธอจะไม่เคยคิดหย่า แต่เธอในตอนนี้เหมือนขึ้นเรือโจรไปแล้วก็ไม่ปาน–

ขึ้นไม่ได้ ลงไม่ได้…

อีกอย่างเธออยากให้โอกาสฉางชิงซงอีกสักครั้ง!

………………………

[1] เป็นสำนวนแปลว่าฝ่ายหญิงอายุมากกว่าฝ่ายชายสามปี