โคบายา ชิจิโร่รู้สึกด้านหลังลำคอเย็นวูบขึ้นมา รีบโพล่งออกไปว่า “คุณนานาโกะ คุณจะต้องอยู่ห่างจากเย่เฉินคนนั้นหน่อย คนๆนี้อันตรายถึงขีดสุด จะใกล้ชิดกับเขามากจนเกินไปไม่ได้โดยเด็ดขาด…”
ในขณะที่พูดเขาก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “อีกอย่าง คุณก็อย่าเชื่อฟังคำแนะนำของคุณยามาโตะ ไปคารวะเย่เฉินคนนั้นเป็นอาจารย์เด็ดขาด เท่าที่ผมรู้ เย่เฉินคนนี้ไม่ญาติดีกับคนญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่ทำร้ายเขาทิ้งอย่างโหดเหี้ยม เพียงแค่เพราะว่าคุณยามาโมโตะพขี้โรคแห่งเอเชียห้าตัวอักษรนี้ออกมา!”
อิโตะนานาโกะพยักหน้า “ฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถรับฉันเป็นศิษย์ได้ ฉันเพียงแค่หวังว่า เขาจะสามารถยื่นมือออกมารักษาอาจารย์ให้หาย หรือว่าช่วยพูดจาดีๆ ให้หมอเทพท่านนี้ยื่นมือออกมารักษาอาจารย์”
โคบายา ชิจิโร่รีบเอ่ยถาม “งั้นคุณเตรียมตัวที่จะไปหาเย่เฉินคนนี้วันหลังหรอครับ?”
“ไม่วันหลังค่ะ วันนี้”
“วันนี้?!ดึกมากแล้ว หรือว่าคุณจะไปหาเย่เฉินตอนนี้?”
“ใช่ค่ะ ถูกต้อง ไปเดี๋ยวนี้เลย!”
อิโตะนานาโกะใบหน้าเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว เอ่ยขึ้นกับโคบายา ชิจิโร่ว่า “ฉันเคยไหว้วานคนไปสอบถาม เขาดูเหมือนจะพักอยู่ที่เขตวิลล่าที่ดีที่สุดในจินหลิงTomson Riviera รบกวนคุณชิจิโร่ ไปส่งฉันตอนนี้ด้วยเถอะค่ะ”
“หา? คุณจะไปหาเย่เฉินที่บ้านของเขา? นี่ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!”
โคบายา ชิจิโร่รีบโบกไม้โบกมือ
เขาเข้าใจสถานการณ์ของเย่เฉินดี รู้ว่าเย่เฉินรับมือยากถึงขีดสุด ดื้อรั้นเป็นอย่างยิ่ง อิโตะนานาโกะหากไปหาเขา ไม่เพียงแต่ไม่มีทางได้รับผลดีใดๆ ถึงขั้นมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะยั่วเย่เฉินให้เกิดความโมโห ถึงขั้นถูกเย่เฉินทำร้าย
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรีบเอ่ยปากขึ้นในทันทีว่า “คุณนานาโกะ คุณไม่รู้จักโฉมหน้าที่แท้จริงของเย่เฉิน ก็จะไปหาเขาเช่นนี้ จะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน!”
อิโตะนานาโกะเอ่ย “ฉันไม่ได้จะไปประลองกับเขา และฉันก็รู้ว่ากำลังของตนเองอยู่ต่อหน้าของเขาแม้แต่มดและจิ้งหรีดตัวตุ่นก็ยังเทียบไม่ได้ ฉันเพียงแค่อยากจะขอร้องให้เขายื่นมือช่วยเหลือด้วยความจริงใจ แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่มากขึ้นไปอีก ฉันก็ต้องรักษาอาจารย์ให้หาย”
โคบายา ชิจิโร่ยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่อิโตะนานาโกะไม่เปิดโอกาสให้กับเขา เอ่ยถามขึ้นอย่างจริงจังว่า “คุณชิจิโร่ คุณสามารถขับรถพาฉันไปส่งที่Tomson Rivieraได้หรือไม่คะ? หากได้ งั้นพวกเราก็ออกเดินทางตอนนี้ หากไม่ได้ งั้นตอนนี้ฉันก็จะไปเรียกรถ”
โคบายา ชิจิโร่ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา เอ่ยว่า “ก็ได้ครับ ในเมื่อคุณนานาโกะยืนกราน งั้นผมก็จะส่งคุณไป…”
เย่เฉินระหว่างทางกลับบ้าน ได้รับโทรศัพท์จากซือเทียนฉี
ซือเทียนฉีบอกเขาว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งมาร้องขอให้เขาช่วยเหลือ รักษาผู้ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งที่เส้นลมปราณขาดทั่วทั้งร่างกาย สอบถามว่าใช่เย่เฉินที่เป็นผู้ลงมือหรือเปล่า
เย่เฉินยอมรับอย่างตรงไปตรงมา เอ่ยว่า “หากผมเดาไม่ผิด คนๆนั้นที่ไปขอความช่วยเหลือจากคุณน่าจะเป็นอิโตะนานาโกะ เด็กสาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ถูกผมทำลายทิ้งคนนั้น ชื่อยามาโมโตะ คาซึกิ เป็นอาจารย์ของเธอ ยามาโมโตะ คาซึกินั่น คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเอ่ยถึงขี้โรคแห่งเอเชียห้าคำนี้ขึ้นมาต่อหน้าของผม ผมไม่มีทางปล่อยเขาไปเป็นธรรมดา”
“ที่แท้คือคนญี่ปุ่น!” ซือเทียนฉีเอ่ยขึ้นอย่างโมโหสุดขีด “คราวก่อนคนที่คิดจะขโมยยาวิเศษของท่าน จากที่ของผมแห่งนี้ ก็คือคนญี่ปุ่น!ก่อเรื่องสร้างปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นพวกป่าเถื่อนที่ไม่มีอารยธรรมจริงๆ!”
เย่เฉินยิ้มขึ้นอย่างสงบเยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน “พวกมันคุกเข่าตามตูดอยู่ที่ด้านหลังของเรามากว่าพันปี สองสามร้อยปีนี้พัฒนาได้ไวขึ้นหน่อย ก็คิดไปเอง เข้าใจผิดว่าตนเองนั้นใหญ่ ป่าเถื่อนคำนี้ของท่านซือ ใช้ได้อย่างพอเหมาะพอดีจริงๆ”
ซือเทียนฉีรีบเอ่ย “อาจารย์เย่ ท่านวางใจ ต่อไปผมไม่มีทางให้ผู้หญิงคนนั้น เข้ามาที่จี้ซื่อถังของผมแม้แต่ครึ่งก้าวเป็นอันขาด!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย เอ่ยว่า “แม้ว่าอาจารย์ของเธอจะเย่อหยิ่งไร้มารยาท แต่เด็กสาวคนนี้ยังไงก็เข้าใจมารยาทเป็นอย่างยิ่ง หากเธอไปขอความช่วยเหลือจากคุณอีก คุณปฏิเสธก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้เธอลำบากใจ พวกเราคนจีนมีเหตุผลมาโดยตลอด แยกแยะทีละเรื่อง ไม่มีการไม่แยกแยะถูกผิดตีตายเรียบ”