ดังนั้น เธอรีบนำสองมือวางพื้น ก้มหัวโค้งคำนับพูดว่า “ คุณเย่ นานาโกะเป็นตัวแทนคนญี่ปุ่นทั้งหลายที่เคยทำร้ายประชาชนของประเทศจีนมาก่อน กล่าวขอโทษท่านกับประชาชนหัวเซี่ย ขอโทษ! ช่วงชีวิตที่เหลือนานาโกะจะทุ่มสุดกำลังชดใช้หนี้แทนคนประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน!”

เย่เฉินโบกมือแล้วโบกมืออีก “เอาล่ะ บัญชีนี้ก็อาจจะนับไม่ชัดเจนตลอดกาล คุณมีใจเช่นนี้ ผมก็รู้สึกปลื้มใจอย่างมากแล้ว”

พูดจบ เขายื่นมือพยุงอิโตะนานาโกะขึ้นมาพูดว่า “ต่อจากนี้ไปคุณยังมีการแข่งขันสองรอบที่ต้องแข่ง รีบกลับไปเตรียมแข่งให้ดีๆเถอะ ผมเป็นครูฝึกของฉินเอ้าเสวี่ยน ยังคงเฝ้ารอคอยอยากเห็นพวกคุณทั้งสองเจอกันอยู่ในรอบชิงชนะเลิศอย่างมาก ดังนั้นรอบรองชนะเลิศรอบถัดมา คุณจะต้องแสดงความสามารถออกมาให้ดีๆอย่างแน่นอน ประสบความสำเร็จในการเข้ารอบชิงชนะเลิศ จึงจะสามารถเจอกันกับฉินเอ้าเสวี่ยนในรอบชิงชนะเลิศ”

อิโตะนานาโกะพูดอย่างแน่วแน่มั่นคงว่า “คุณเย่โปรดวางใจ นานาโกะจะทุ่มพลังทั้งหมดอย่างแน่นอน เจอกันกับฉินเอ้าเสวี่ยนในรอบชิงชนะเลิศ!”

“ดี” เย่เฉินพยักหน้าต่อๆกันอย่างพอใจ “งั้นก็เจอกันที่รอบชิงชนะเลิศ”

พูดจบ เย่เฉินหมุนตัวกลับไปในรถBMW ขับรถBMWเข้าไปในคฤหาสน์Tomson Rivieraของบ้านตนเอง

อิโตะนานาโกะจ้องมองอยู่ตามทิศทางหลังรถนานมาก ตลอดจนเย่เฉินหายไป เธอยังยืนอยู่กับที่ ประมาณสิบนาที

ในเวลานี้ ในใจลึกๆของเธอ อยู่ดีๆปรากฏความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธากับเย่เฉินที่เด่นชัดออกมา

ที่แท้ ผู้ชายอย่างเย่เฉินแบบนี้ จึงจะเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง

อยู่ในใจลึกๆของเธอ เอาสองคนมาทำการเปรียบเทียบ

ภายใต้การเปรียบเทียบ แม้ว่าจิตใจของอาจารย์ตนเองเด็ดเดี่ยวหนักแน่นพอ แต่พลังความสามารถกับนิสัย กลับห่างกันกับเย่เฉินมากเกินไปแล้ว

โดยเฉพาะความหัวแข็งดื้อรั้นและอวดดีถือดีของอาจารย์แต่ก่อน ตนเองคิดว่าตนเองเป็นยอดฝีมือที่สุดยอดแล้ว เป็นฝ่ายเอ่ยคำพูดยั่วยุเย่เฉินเอง จากจุดนี้แล้ว ก็สามารถมองออกว่า สภาวะจิตของอาจารย์เทียบกับเย่เฉินที่ไหนจะพ่ายแพ้แค่สิบหมื่นแปดพันลี้ล่ะ

พลังความสามารถของเย่เฉินยิ่งใหญ่แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ แต่ว่าก่อนที่จะลงมือจริงๆ กลับมองไม่ออกว่าคนคนนี้มีความอวดดีและโอหังใดๆเลยสักนิด

มองวิเคราะห์จากสภาพความจริง ในตอนนั้นอาจารย์ผู้มีพระคุณที่แขวนคำว่าขี้โรคแห่งเอเชียไว้บนปาก เหมือนดั่งคนไม่เอาไหนสร้างแต่ปัญหาจริงๆเลย

และคำพูดของเย่เฉินนั้นพูดไม่ผิดเลยแม้แต่นิด สาเหตุที่อาจารย์มีสภาพเช่นนี้ ก็คือขอหลักฐานได้หลักฐาน

ในชั่วพริบตาเดียวนี้ ความเลื่อมใสศรัทธาและเคารพเลื่อมใสที่เธอมีต่อเย่เฉิน ดั่งอาวุธนิวเคลียร์ที่ระเบิดในชั่วพริบตาเดียว ทันทีนั้น อยู่ในใจลึกๆของเธอเกิดผลกระทบที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งสุดขีด

ก็เลยทำให้สมองของเธอล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยเงากายของเย่เฉิน ไม่ลบเลือนหายไปไหน

สิ่งที่อยู่ข้างหูก็เต็มไปด้วยการตำหนิที่ดังกังวานมีพลังนั้นของเย่เฉินเช่นกัน สำหรับเธอมากล่าวแล้วเป็นดั่งหยาดทิพย์ชโลมใจจริงๆเลย

โคบายา ชิจิโร่รออยู่นอกประตูของTomson Rivieraนานมาก จึงได้เห็นอิโตะนานาโกะที่อกสั่นขวัญหายค่อยๆเดินมา

เขารีบลงจากรถไล่ถามว่า “คุณนานาโกะ คุณเจอกับเย่เฉินหรือยัง?”

อิโตะนานาโกะพยักหน้าต่อๆกัน ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเล็กน้อยพูดเสียงเบาๆว่า “เจอ…….เจอกันแล้ว”

โคบายา ชิจิโร่รีบไล่ถามอีกว่า “งั้นเขารับปากจะยื่นมือช่วยรักษาคุณยามาโมโตะหรือยัง?”

อิโตะนานาโกะส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก เหมือนดั่งพูดกับตัวเองบ่นเสียงเบาๆว่า “เรื่องนี้ฉันคิดผิดแล้ว คิดมากไปแล้ว ฉันไม่ควรละทิ้งวิญญาณของนักต่อสู้ มาขอคุณเย่ช่วยคน…….อาจารย์ผู้เฒ่าเขา เป็นนักต่อสู้ที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง นักต่อสู้ที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง ต้องมีความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมของตนเองโดยตรง …….”

“แต่ฉัน…..ในเมื่อคิดอยากจะเป็นนักต่อสู้ที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง ก็ต้องมีความกล้าหาญที่เผชิญหน้ากับชะตากรรมของคนอื่นโดยตรง…..