ตอนที่ 2843 ช่วยมันโม้

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2843 ช่วยมันโม้!
“ศิษย์น้องนั้นมีเต๋าโอสถที่สูงส่งนัก ดูท่าจะเหนือล้ำกว่าข้าด้วยซ้ำ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์ท่านถึงได้เน้นย้ำนักว่าให้ดูแลศิษย์น้องคนนี้ให้ดี! นี่เขาเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าแท้ๆ หากเขาก้าวมาถึงระดับของข้าได้แล้วฝีมือของเขานั้นมันคงเทียบเคียงกับท่านโจวซ่งฉวนสมัยหนุ่มๆ ได้เลย!”

ได้เห็นวิชาการฝังเข็มของเย่หยวนนั้นมันก็ทำให้จิตใจของฮั่วจงสั่นสะท้านขึ้นมาทันที

เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้รู้เลยว่าในจิตใจของบรรพบุรุษหยุนซานนั้น ตัวเย่หยวนได้ก้าวล้ำกว่าโจวซ่งฉวนไปแล้ว!

คำสั่งของอาจารย์เขานี้ฮั่วจงนั้นตอนแรกยังคงรู้สึกขัดๆ อยู่ในใจ

เพราะน้ำเสียงนั้นมันเหมือนว่า…ศิษย์ของของเขาคนนี้มันสำคัญกว่าใครๆ!

ก่อนหน้านั้นเขาย่อมจะไม่ยอมรับและรู้สึกขัดใจ

แต่ตอนนี้ความรู้สึกเช่นนั้นมันหายไปสิ้นเชิง!

คนทั้งสองนั้นเก่งกาจอย่างมากเมื่อพวกเขาช่วยกันลงมือคนเจ็บหนักทั้งหลายต่างก็ค่อยๆ หายจากอาการไปตามๆ กัน

แต่ว่าคนเจ็บนั้นมันมีไม่น้อย แม้ว่าจะมีหมอสองคนแต่ว่ามันก็ต้องใช้เวลาไปทั้งวันกว่าที่จะรักษาคนเจ็บหนักทั้งหลายนั้นได้หมด

อีกด้านพวกหวู่เจียงนั้นได้แต่ต้องนั่งคุกเข่าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

หลังจากรักษาคนเจ็บหนักจนหมดแล้วเย่หยวนก็ลุกขึ้นมากล่าวประกาศ “พวกท่านทั้งหลาย นิกายยาสุดล้ำของเรานั้นจะไม่มีทางยืนมองคนตายไปต่อหน้าแน่! พวกท่านนั้นเป็นวีรบุรุษที่กลับมาจากสนามรบ ย่อมรู้ดีว่าสงครามมันโหดร้ายแค่ไหน คนเจ็บมากมายปานใดที่ถูกส่งกลับมาทำให้มันกลายเป็นสภาพคนล้นเตียงรักษาเช่นนี้ แต่ว่าพวกท่านทั้งหลายวางใจเถอะ ตอนนี้รอกันไปอย่างสงบก่อน ข้าจะเข้าไปส่งกำลังคนออกมาดูอาการให้ตามระดับแน่นอน ตอนนี้ทุกท่านโปรดใจเย็นและอยู่กันอย่างสงบเรียบร้อย หากทำเช่นนั้นได้มันก็จะทำให้คนได้รับการรักษามากขึ้นไปด้วย”

“ได้ขอรับ! ขอบพระคุณอาจารย์เย่มาก!”

“อาจารย์เย่วางใจเถอะ เรานั้นมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ได้มาเพื่อหาเรื่องใคร!”

“เราเชื่อในชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำ เราจะรอกันอย่างมีระเบียบแน่นอน!”

เมื่อเย่หยวนพูดจบแล้วเหล่าคนเจ็บทั้งหลายก็ร้องตอบรับมาทันที

คนทั้งหลายนั้นซาบซึ้งในพระคุณของเย่หยวน

เดิมทีนั้นด้วยตัวตนระดับเย่หยวนเขาย่อมจะไม่ต้องมาสนใจพวกเขาเลย

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มองข้ามคนลำบากและลงมือรักษาคนเป็นร้อยๆ

เหล่าคนเจ็บย่อมจะเชื่อคำสัญญาของเย่หยวนโดยไม่คิดสงสัย

แต่ว่าฮั่วจงที่ได้ยินนั้นก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะรีบตีหน้าปกติไป เพราะบางอย่างนั้นมันก็ไม่ควรเอามาพูดต่อหน้าคน

เย่หยวนนั้นยังไม่ได้เข้าไปดูสภาพในนิกายว่ามันยุ่งวุ่นวายแค่ไหน เขาย่อมจะไม่รู้เลยว่านิกายระดับเจ้าโลกนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบใดบ้าง!

พูดจบเย่หยวนก็เดินมาหาพวกหวู่เจียงที่คุกเข่าอยู่

หวู่เจียงนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกกล่าวขึ้นมา “ศ…ศิษย์คารวะอาจารย์ลุง!”

เย่หยวนกล่าวขึ้น “ตอนนี้ข้ามีสิทธิ์จะสั่งสอนเจ้าหรือยัง?”

แม้ว่าหวู่เจียงนั้นจะยังคับแค้นอยู่ในใจแต่เขาก็พยักหน้ารับ “อาจารย์ลุงย่อมสามารถสั่งสอนศิษย์ได้แน่นอน!”

กำลังของเขานั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งมากมายในนิกายและตำแหน่งก็ไม่ได้สูงส่งไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้มาเป็นแค่ยามเฝ้าประตูนิกายเช่นนี้

เพราะฉะนั้นเขาย่อมจะไม่มีทางไปลบหลู่คนระดับเย่หยวนได้

“ก็ดีที่ข้านั้นมีสิทธิ์! เจ้าจงฟัง! ทวีปสวรรค์แรกนั้นมันต้องต่อต้านการรุกรานจากภายนอก ย่อมจะไม่มีเวลามาแบ่งแยกกันแล้ว! คนทั้งหลายตรงหน้าพวกเจ้านั้นคือพี่น้องร่วมศึก! ในฐานะนิกายระดับเจ้าโลกอันดับหนึ่งแล้วนิกายยาสุดล้ำเราย่อมจะต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ด้วย! ชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันค่อยๆ เกิดขึ้นมาทีละน้อยจากเหล่าเจ้าโลกบรรพบุรุษทั้งหลายรวมไปถึงเหล่าผู้อาวุโสมหาจักรพรรดิ! พวกเจ้าตอนนี้มันทำได้แค่นอนกินผลบุญคนอื่นเท่านั้น!”

“เจ้าทั้งหลายที่ได้อยู่แนวหลังนี้ย่อมจะไม่รู้ถึงความโหดร้ายของแนวหน้าเลย! หากพวกเจ้านั้นได้ผ่านสนามรบที่ความเป็นความตายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแล้วพวกเจ้าก็คงไม่อาจจะทำตัวเช่นนี้ได้อีก! วันนี้เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำทั้งหลายที่อยู่หน้าข้านี้ข้าจะไปรายงานให้หอสุดแสงส่งพวกเจ้าไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เพื่อให้ได้รู้ว่าอะไรมันคือความโหดร้ายของสงคราม อะไรมันคือคำว่าพี่น้องร่วมรบ!”

ฮั่วจงนั้นต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเมื่อได้ยิน

ศิษย์น้องของเขานี้มันอ่อนโลกเกินไปหรือว่าโอหังเกินไป?

จักรพรรดิเซียนเป็นร้อยๆ และยังมีจักรพรรดิเที่ยงอีกเป็นสิบคน แต่เจ้ากลับบอกว่าจะส่งไปแนวหน้าแล้วพวกเขาก็ต้องไปแนวหน้าหรือ?

ในนิกายยักษ์ใหญ่เช่นนี้มันย่อมจะมีความซับซ้อนในเรื่องสมดุลอำนาจอย่างมาก!

จักรพรรดิเซียนนั้นยังพอว่าแต่เหล่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายนั้นต่างมีมหาจักรพรรดิหนุนหลังอยู่ทั้งสิ้น

หากแค่คนสองคนนั้นยังพอว่า ด้วยชื่อเสียงของจั่วเฉินแล้วอีกฝ่ายย่อมจะไม่กล้าออกมาขัดใดๆ

แต่คนนับร้อยๆ พร้อมๆ กันนี่แม้แต่จั่วเฉินเองก็คงไม่อาจทำได้!

รายงานยังหอสุดแสง…ใครมันกล้าพูดอะไรเช่นนั้น!

เจ้าคิดว่านิกายยาสุดล้ำนั้นเป็นของตระกูลเจ้าหรือ?

ฮั่วจงนั้นรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เพราะศิษย์น้องของเขาคนนี้มันยังไม่ทันได้เหยียบเข้านิกายก็สร้างเรื่องใหญ่ไว้เสียแล้ว

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะทำได้

แต่พูดออกไปแล้ว ถึงตอนนั้นหากยังทำไม่ได้อาจารย์จั่วเฉินของเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

แต่ว่าคำพูดนี้มันได้ทำให้เหล่าคนเจ็บทั้งหลายต่างโห่ร้องขึ้นมาอย่างสุดเสียง

“อาจารย์เย่ช่างยิ่งใหญ่!”

“อาจารย์เย่สุดยอดไปเลย!”

คนทั้งหลายนั้นเกลียดชังเฉียนหนานอย่างมาก

เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินคำของเย่หยวนพวกเขาจึงโห่ร้องขึ้นมาอย่างสะใจ

แต่พวกหวู่เจียงนั้นกลับก้มหน้าลงยิ้มเย้ยขึ้นในใจ

ไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่มันมาจากที่ไหน มันคิดว่าแค่ได้กราบมหาจักรพรรดิจั่วเฉินเป็นอาจารย์แล้วก็จะสามารถทำทุกอย่างในนิกายยาสุดล้ำได้อย่างต้องการ?

ในนิกายยาสุดล้ำนั้นมันมีศิษย์อยู่นับแสน

ศิษย์มากมายขนาดนี้ ตระกูลมหาอำนาจต่างๆ เองมันก็ย่อมจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายด้วย

นิกายยักษ์ใหญ่มันย่อมจะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนอย่างไม่อาจห้าม

หากเป็นมหาจักรพรรดินั้นยังพอว่าคำพูดมันน่าเชื่อถือบ้าง

แต่เจ้านั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียน นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าตัวน้อยคนหนึ่ง!

ไม่ว่าจะมากพรสวรรค์แค่ไหนมันก็จะยังโน้มน้าวใจของเหล่าคนเบื้องบนได้?

โอหังอย่างโง่เง่า!

คนหนุ่มนั้นมันหิวกระหายความสำเร็จและชื่อเสียงจนลืมตัว!

เพียงแค่ว่าเจ้าเคยนึกถึงใจอาจารย์ตนบ้างไหม?

หวู่เจียงนั้นคุกเข่าก้มหน้ากล่าวทั้งๆ ที่มุมปากยังไม่อาจหุบยิ้มเย้ยหยันลง “เช่นนั้นศิษย์คงได้แต่ต้องทำตามคำสั่งอาจารย์ลุงแล้ว!”

ฮั่วจงนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะโบกมือไล่คนทั้งหลายไป “พวกเจ้าไปให้พ้นแล้วส่งกำลังชุดอื่นลงมารักษาการแทน!”

หวู่เจียงนั้นก้มหน้าลงคารวะฮั่วจงก่อนจะลุกพาคนทั้งหลายไป

ระหว่างทางกลับนั้นหวู่เจียงก็ได้กล่าวขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน “หึๆ มันช่างเป็นเด็กที่โง่เสียจริง! มันคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นหงส์ได้เพียงแค่เพราะได้กราบท่านจั่วเฉินเป็นอาจารย์หรือ? มันไม่รู้หรือว่าโลกนี้นั้นยังมีมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และเจ้าโลกทั้งหลายอยู่ด้วย?”

เฉียนหนานเองก็ยิ้มขึ้นมาตาม “คำโม้ของมันนั้นเกินตัวไปมาก เราต้องไปช่วยมันโม้หลังกลับไปถึงที่พักหน่อยแล้ว! ไม่เช่นนั้นคนจะไม่ได้รู้จักอาจารย์ปู่ท่านนี้!”

เมื่อหวู่เจียงได้ยินเขาก็ยิ้มขึ้นมาทันที

ใช่แล้ว ไอ้เด็กคนนี้มันทำให้เขาเสียหน้าอย่างหนัก หากไม่เอาคืนบ้างมันคงจะไม่สาใจ!

แม้ว่าเบื้องหน้านั้นพวกเขาจะไม่อาจลบหลู่เย่หยวนได้แต่เขาก็ยังสามารถเล่นลูกไม้เล็กๆ น้อยออกมาได้

อย่างเช่นเอาคำของเย่หยวนไปป่าวประกาศให้คนทั้งหลายได้ยิน!

ถึงตอนนั้นต่อให้อยากจะปิดข่าวมันก็คงไม่ง่ายแล้ว!

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลังจั่วเฉินรู้เรื่องเขาก็คงต้องมองเย่หยวนด้วยมุมใหม่แน่ๆ

เรื่องชื่อเสียงของจั่วเฉินนั้นเขาย่อมจะไม่คิดสนใจว่ามันจะเสียหายอย่างไร

เพราะหวู่เจียงคนนี้ไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับจั่วเฉิน!

หลังจากพวกหวู่เจียงกลับไปแล้วฮั่วจงก็นำพาเย่หยวนเดินขึ้นเขามา

เขานั้นเห็นได้ชัดเจนว่าแม้จะไม่มีใครดูแลแต่เหล่าคนเจ็บนับหมื่นนั้นก็ยังคงรอกับอย่างมีระเบียบ

ที่สำคัญไปกว่านั้นตอนนี้มันก็ยังมีคนเจ็บมากมายเดินทางมาจากทางใต้ไม่ขาดสาย

ในหมู่พวกเขามันได้มีคนที่เจ็บไม่มากหลายคนอาสาตัวออกมาดูแลความเรียบร้อยกันเองด้วย

ได้เห็นเช่นนั้นฮั่วจงก็ต้องถอนหายใจยาว

เขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนทำถูก แต่บางเรื่องต่อให้ถูกแต่หากมันเกินอำนาจตัวเองแล้วมันก็มิใช่เรื่องดี!

………………………………………..