ตอนที่ 1672 สมบัติทางประวัติศาสตร์พิเศษ

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

หลังจากที่ลู่เสี่ยวเฉียวออกจากห้องรับรอง เธอรู้สึกมึนงง

ไม่ใช่เพราะว่าเธอดื่มแอลกอฮอล์หรือว่าอะไร มันเป็นเพราะว่าทุกอย่างที่เธอประสบในวันนี้ได้เปลี่ยนโลกที่เธอรู้จักไปทั้งหมด

หยางฟางฟางเห็นลู่เสี่ยวเฉียวเดินออกมาจากโรงแรม เธอรีบเดินไปจับแขนเพื่อนและถามว่า “เธอ… เธอโอเคไหม?”

ลู่เสี่ยวเฉียวไม่ได้พูดอะไรตอบ เธอเพียงแค่พยักหน้าด้วยความเหนื่อย

เมื่อเห็นเพื่อนสนิทมีสภาพแบบนี้ หยางฟางฟางอดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย เธอรีบถามว่า “เขาทำอะไรเธอหรือ?”

“ฟางฟาง” ลู่เสี่ยวเฉียวพูดระหว่างที่เธอมองดูเลขาและเพื่อนที่ดี หลังจากนิ่งอยู่นาน เธอพูดว่า “จริงๆ แล้ว… ฉันเป็นทายาทของนักวิชาการลู่”

หยางฟางฟางรู้สึกอึ้งและถามว่า “เธอไม่ได้เป็นอยู่แล้วเหรอ?”

ลู่เสี่ยวเฉียวส่ายหน้า เมื่อลังเลอยู่นาน เธอก็สารภาพออกมา

“ฉันหมายถึงไม่ใช่แค่เป็นทายาท แต่เป็นทายาสืบสายเลือด…”

หยางฟางฟาง “???”

ไม่นานมานี้เหตุการณ์ใหญ่หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นรอบโลก มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นต่อกันไม่หยุดทำให้มีข่าวและการซุบซิบเต็มไปหมด

สิ่งแรกคือความก้าวหน้าของเทคโนโลยีความเร็ววาร์ป ตามมาด้วยการประกาศโครงการร่วมมือระหว่างพันธมิตรระดับภูมิภาค จากนั้นก็เป็นความสำเร็จของกองพลังงานปฏิสสาร…

เมื่อเทียบกันแล้ว สิ่งที่ทายาทของนักวิชาการลู่ทำดูไม่ใช่ข่าวใหญ่

แต่มีเรื่องหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของตลาดการเงินระหว่างประเทศ

นั่นคือการซื้อขายของกองทุนสำรวจอาณานิคมอัลฟ่าเซนทอรี่โดยสตาร์สกายเทคโนโลยีเมื่อไม่นานมานี้ รวมไปถึงผู้นำองค์กรคนใหม่และการปรับธุรกิจ

หลังจากการปรับธุรกิจของสตาร์สกายเทคโนโลยี บริษัทจะถูกบริหารโดยลู่เสี่ยวเฉียว กิจกรรมธุรกิจเปลี่ยนจากการบริหารสิทธิบัตรเป็นการคมนาคมอวกาศและมุ่งเน้นการค้าขายด้านอวกาศเป็นหลัก แล้วก็มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

เมื่อมองดูผิวเผินมันไม่ได้ดูมีอะไรน่าสนใจ คนจำนวนมากรู้ว่าลู่โจวเป็นชื่อโนอาห์อาร์กเป็นมิลกี้เวย์และวางแผนเดินทางไปเทาเซติ ผู้คนค่อยๆ รู้สึกถึงความไม่ปกติของการกระทำเหล่านี้

เส้นทางสู่โลกใหม่ดูเหมือนจะปรากฏต่อหน้าทุกคน

ยุคใหม่ดูจะเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด

“หนึ่งเซิร์ฟเวอร์… ผมไม่เคยเห็นออร์เดอร์แปลกแบบนี้มาก่อน!”

อู๋เจี๋ย กัปตันยานอวกาศ นกนางนวล มองดูลิสต์คำสั่งในมือ เขาลูบคางตัวเองด้วยนิ้วชี้ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้

เหว่ยหยวนฟางซึ่งเป็นต้นหนเรือที่นั่งอยู่ข้างเขา ฉีกยิ้มให้และพูดว่า

“มันมีอะไรแปลกไปเหรอ? เดินทางในอวกาศมาหลายปีแล้ว มีอะไรที่ยังไม่เคยเห็นอีกเหรอ?”

“ในทางเทคนิคมันก็มี แต่การส่งเซิร์ฟเวอร์เก่าไปดาวอังคารและเหมายานโดยสาร มันเป็นครั้งแรกที่ผมเจอกับอะไรแบบนี้” อู๋เจี๋ยถอนหายใจเบาๆ เขามองดูลิสต์ออร์เดอร์และพูดด้วยความงง “เขาไม่อยากส่งอะไรไปอีกเหรอ? อย่างเช่นน้ำดื่ม อาหาร หรือเครื่องบริโภคอื่นๆ… ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอย่างเซิร์ฟเวอร์น่าจะมีราคาถูกมากที่ดาวอังคาร ค่าขนส่งอย่างเดียวก็มากพอที่จะซื้อเซิร์ฟเวอร์ใหม่ได้เลย”

“ใครจะไปรู้ล่ะ?” เหว่ยหยวนฟางยักไหล่และพูดต่อ “มันอาจจะมีข้อมูลสำคัญอยู่ในเซิร์ฟเวอร์นั้นก็ได้”

อู๋เจี๋ยปัดนิ้วชี้เพื่อปิดหน้าจอโฮโลแกรม เขาตัดสินใจว่าจะไม่คิดถึงปัญหานี้อีก เขาถอนหายใจระหว่างที่พูด

“อาจจะ”

นับตั้งแต่การปล่อยยาน นกนางนวล ทั้งสองก็ทำงานด้วยกันมาในอุตสาหกรรมนี้ พวกเขาเป็นคู่หูเก่าแก่ อู๋เจี๋ยคิดมาตลอดว่าเขาจะใช้ชีวิตเหมือนกันและทำงานกับคู่หูเก่าแก่จนเกษียณ

แต่ห้าปีก่อนเขาได้เกษียณ คู่หูเก่ายื่นจดหมายลาออกต่อหน้าเขา…

ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้ทำงานด้วยกัน

หลังการเดินทางครั้งนี้เสร็จสิ้น เหว่ยหยวนฟางจะลงจากยานที่ดาวอังคาร และเข้าโปรแกรมฝึกของสตาร์สกายเทคโนโลยี แล้วเขาจะเดินทางไปโลกนอกระบบสุริยะด้วยยานอวกาศมิลกี้เวย์

เขาเล่าทั้งหมดนี้ให้คู่หูฟังระหว่างที่ออกไปดื่มกัน

หลังจากจ่ายค่าทางด่วนระหว่างดาว อู๋เจี๋ยคิดอยู่สักพักระหว่างที่เขามองดูสตาร์เกทที่ใกล้เข้ามา จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า

“ผมจำได้ว่าคุณเคยพูดเมื่อนานมาแล้วว่าคุณเบื่อที่จะใช้ชีวิตซ้ำซากไปมา และเมื่อคุณเกษียณ คุณจะไปหาเกาะที่มีชายหาดสวยงาม แล้วใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับทะเล ดื่มเบียร์และฟังเสียงคลื่น”

เมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้ เหว่ยหยวนฟางยิ้มและพูดว่า “ผมเคยพูดไว้… แต่ไม่คิดว่าคุณจะจำได้”

“น่าจะเป็นเพราะว่าชีวิตในอวกาศมันน่าเบื่อ ผมจำทุกอย่างที่คุณพูดไว้ได้” อู๋เจี๋ยยักไหล่ ผ่านไปสักพัก เขาพูดต่อ “ผมคิดว่าหลังจากคุณลงยานลำนี้ไป คุณน่าจะเกษียณแน่นอน ผมไม่นึกว่าคุณจะเลือกงานที่มั่นคงน้อยกว่างานของเรา”

เหว่ยหยวนฟางยักไหล่

“ผมอาจจะเป็นคนที่ชอบทำตัวยุ่ง”

“เทาเซติ…” อู๋เจี๋ยถอนหายใจด้วยอารมณ์ท่วมท้นระหว่างที่เขาวางแขนไว้บนคอนโซลควบคุม “ผมสงสัยว่ามันมีดาวเคราะห์ที่อาศัยอยู่ได้ตรงนั้นไหม”

เหว่ยหยวนฟางไม่ได้กังวลกับปัญหานี้มากนัก เขายิ้มอย่างเป็นมิตร

“เราจะรู้เมื่อเราไปถึงที่นั่น”

อู๋เจี๋ยรู้สึกได้กำลังใจจากรอยยิ้มของเพื่อน เขาเองก็ยิ้มเล็กน้อยในตอนที่เขายื่นมือไปแตะไหล่เหว่ยหยวนฟาง

“ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น ผมจะไม่ได้ฝันคุณ… ผมจะรอโปสการ์ดคุณจากโลกใหม่นะ”

เหว่ยหยวนฟางตอบว่า “ดีล!”

ระหว่างที่สองคนนี้คุยกัน ยานนกนางนวลผ่านสตาร์เกทและเข้าช่องทางไฮเปอร์สเปซ

แสงดวงดาวในอวกาศถูกยืดออกเป็นเส้นแคบสีเงิน

อู๋เจี๋ยสัมผัสได้ถึงแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้น เขานั่งลงที่เบาะที่นั่ง หลับตา และพักผ่อนอยู่สักพัก

ผ่านไปไม่นานความรู้สึกไม่สบายก็หายไป เมื่อเขากลับสู่โลกความเป็นจริง ท่ายานอวกาศที่ลอยอยู่ในวงโคจรดาวอังคารก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาแล้ว

“ยุคนี้มันช่างไร้เหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆ…”

อู๋เจี๋ยเปิดโปรแกรมนำทางอัตโนมัติ เขาได้เทียบท่ายานนกนางนวลที่ท่ายานอวกาศในวงโคจรดาวอังคารด้วยการนำทางโดยหอควบคุม

เขาลงจากยานผ่านทางเลื่อนและยืนตรงหน้าท่าเทียบยานอยู่สักพัก เขามองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือแล้วกำลังจะโทรถามลูกค้าว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนในการรับพัสดุ แต่คนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นปรากฏขึ้นที่พื้นที่จอดยานแล้วกำลังเดินตรงมาหาเขา

“คุณคือ…” อู๋เจี๋ยมองดูชายตรงหน้าด้วยตาเบิกกว้าง เขาอ้าปากค้าง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เขาไม่คาดคิดว่าชายคนที่มารับของจากเขาเป็นคนที่ใหญ่โตขนาดนี้

“ผมลู่โจวครับ” ลู่โจวแนะนำตัวสั้นๆ เขาหยิบลิสต์ออร์เดอร์มาจากเทอร์มินัลส่วนตัว แล้วกดมันเบาๆ และถามว่า “ของที่ผมสั่งอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”

“มันถูกส่งแล้วครับ…” อู๋เจี๋ยที่เพิ่งได้สติรีบพยักหน้า เขายื่นนิ้วชี้ไปแตะลิสต์ออร์เดอร์เพื่อยืนยันการส่งของ

เมื่อเขาเห็นว่าหนึ่งล้านเครดิตถูกโอนเข้าบัญชี เขาลังเลแต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า

“แค่สงสัยนะครับ เซิร์ฟเวอร์นั้น… มีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ? เอ่อ ถ้ามันเป็นความลับก็ถือว่าผมไม่ได้ถามแล้วกัน…”

“ไม่มีอะไรพิเศษหรอกครับ” ลู่โจวยิ้มให้ระหว่างที่เขามองกัปตันที่สับสน เขาพูดอย่างสบายๆ “คิดเสียว่ามันเป็นซอฟต์แวร์ที่พิเศษมากๆ “

“หรือสมบัติทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญก็ว่าได้”