แท้ที่จริง หม่าหลันไม่อยากเป็นคนที่เลียแข้งเลียขาเย่เฉินเลย

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของเธออึดอัดเกินไปแล้วจริงๆ

ไม่มีสิทธิยิ่งใหญ่ในการเงินของครอบครัว ในมือของตนเองก็ยากจนแทบจะจนสิ้นเนื้อประดาตัว อีกทั้งคฤหาสน์ใหญ่Tomson Rivieraที่โออ่าหรูหรานี้ ยังอยู่ภายใต้ชื่อของเย่เฉินอีก ไม่เกี่ยวข้องกับตนเองสักนิดเลย

ยิ่งสำคัญกว่านี้คือ ตั้งแต่ครั้งก่อนหลังจากถูกเฉียนหงเย่นวางกับดักเสียพนันไปมากกว่า 2 ล้าน หม่าหลันก็รู้ว่า ตอนนี้ฐานะในครอบครัวของตัวเองอยู่ต่ำกว่า แม้แต่เซียวฉางควนที่ตลอดเวลาถูกตนเองสั่งให้ทำได้ตามใจก็โกรธแตกคอกันกับตนเองแล้วเช่นกัน ยังซ้อมตนเองอีก อยู่ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ตนเองไม่มีต้นทุนที่จะโอหังอะไรแล้วจริงๆ

ดังนั้นหม่าหลันรู้ว่า ตอนนี้ตนเองได้แต่เป็นคนที่หนีบหางไว้ ยิ่งต้องเอาใจต่อเย่เฉินหลายต่อหลายรอบ มิฉะนั้นถ้าหากวันไหนเย่เฉินโกรธแตกคอกันกับตนเอง ไล่ตนเองออกไป งั้นก็จบเห่แล้ว

อีกทั้งเย่เฉินนี่ยังยอมสืบถามเครื่องสำอางราคาแพงให้กับเธออีก ดังนั้นเธอก็เลยเยินยอด้วยความประจบทันที

เซียวชูหรันนึกไม่ถึง เรื่องที่เย่เฉินถึงขนาดเป็นฝ่ายแสดงให้เห็นว่าจะสืบถามเครื่องสำอางให้กับแม่เอง ในใจก็จนใจเหลือเกิน ดังนั้นก็เลยถามเย่เฉินว่า “สามีจ๋า ทำไมฉันไม่เคยได้ยินว่าคุณมีเพื่อนที่ทำธุรกิจเครื่องสำอางล่ะ?”

เย่เฉินยิ้มพูดว่า “ตั้งแต่หลังจากเริ่มดูฮวงจุ้ยให้กับคนอื่น วงการคบค้าสมาคมของระดับนี้ เป็นวงกว้างยิ่งขึ้นไปทุกที ถ้าไม่เป็นไปได้ยังไงที่ผมจะรู้จักเว่ยเลี่ยงผู้จัดการใหญ่ของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนล่ะ? ถ้าไม่ใช่เนื่องเพราะผมรู้จักเว่ยเลี่ยงคุณก็ไม่มีโอกาสที่จะกินข้าวด้วยกันกับดาราใหญ่อย่างกู้ชิวอี๋แบบนี้ ใช่หรือไม่ล่ะ?”

เซียวชูหรัน พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างเบาๆ ทอดถอนใจพูดว่า “ไอ้ ถ้าไม่ติดหนี้คนอื่นได้ดีที่สุดก็อย่าไปติด เครื่องสำอางคาเวียร์ต่อต้านริ้วรอยอันนั้น ไม่ทันไรก็เป็นแสน สำหรับครอบครัวอย่างเราแบบนี้มากล่าวแล้ว ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้วจริงๆ ไม่จำเป็น…..”

หม่าหลันร้อนใจแล้ว รีบพูดว่า “ไอ้หยะลูกสาว! ใครบอกว่าไม่จำเป็นล่ะ? เย่เฉินลูกเขยที่ดีของฉันก็ไม่ได้บอกว่าไม่จำเป็น แกอย่าพูดลวกๆอยู่ที่นี่เลย!”

พูดจบ ก็รีบมองไปยังเย่เฉินอีก ยิ้มตาหยีพูดว่า “เย่เฉินล่ะ! หน้าแก่ของแม่ใบนี้ล้วนต้องพึ่งพาอาศัยแกแล้วนะ มิฉะนั้นถ้าหากอนาคตพ่อแกคนนี้พอเกี้ยวพาสำเร็จแล้วก็มาทิ้งขว้างกัน อยากจะหย่าร้างกับฉันจริงๆ ถึงเวลานั้นฉันแก่ตัวลงแล้วไม่มีใครอยากได้เหมือนไข่มุกเก่าเหลืองจนไร้ค่า ความสุขของฉันในชาตินี้ล้วนหมดสิ้นแล้ว!”

ในเวลานี้เย่เฉินพูดกับเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน คุณก็อย่าใส่ใจราคาเกินไปเช่นกัน ถึงยังไงผมก็สามารถทำจากเรื่องดูฮวงจุ้ย เปลี่ยนราคากลายเป็นบริการ ไม่จำเป็นต้องให้เราใช้เงินจริงๆ”

“ก็ใช่ๆ!” หม่าหลันยิ้มพูดทันทีว่า “ยังคงเป็นลูกเขยของฉันที่มีฝีมือ วันนี้แม่แกสามารถพักอยู่ใน Tomson Riviera งั้นล้วนพึ่งพาอาศัยบุญวาสนาของแกล่ะ! ฉันเห็นว่าครึ่งหลังชีวิตของแม่นี้ ล้วนต้องพึ่งพาอาศัยแกแล้ว”

พูดจบ ยังไม่ลืมทอดถอนใจด้วยความหดหู่ประโยคหนึ่งว่า “คนอื่นเขาพูดว่าได้ลูกเขยคนหนึ่งก็เหมือนได้ลูกชาย แต่ก่อนฉันยังไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้วจริงๆล่ะ!”

เซียวชูหรันมองจนตกตะลึงอ้าปากค้างอยู่ข้างๆ

แม้แต่ฝันก็นึกไม่ถึง แม่ที่โหดร้ายกับเย่เฉินอย่างยิ่งตลอดเวลา ถึงขนาดประคับประคองเขาไว้เหมือนดั่งดอกไม้

ดังนั้นเธอได้แต่พูดกับเย่เฉินว่า “งั้นคุณจัดการเองเถอะ ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีเช่นกัน”

เย่เฉินยิ้มอยู่พูดว่า “งั้นวันนี้ผมก็ไปหาเขาสักหน่อย”

แท้ที่จริงเย่เฉินไม่มีเพื่อนที่ทำเครื่องสำอางอะไร ตอนที่เขาพูดคำพูดเหล่านั้นเมื่อกี้ก็ตัดสินใจไว้แล้ว รอวันนี้จัดการเรื่องสำคัญเสร็จก็จะไปซื้อเครื่องสำอางสองชุดอย่างที่หม่าหลันพูดแบบนั้น ชุดหนึ่งให้แม่ยายของตนเองอีกชุดหนึ่ง ย่อมให้ภรรยาของตนเองอยู่แล้ว

สาเหตุที่จะให้หม่าหลัน ก็เป็นเพราะว่าท่าทีของหม่าหลันในตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกสติแจ่มใส

สิ่งที่ผู้ชายต้องการคืออะไรล่ะ?

นอกจากผู้หญิงที่มีใจรัก จะไม่ใช่ฐานะกับหน้าตาหรือ?

เขาเย่เฉินดีเลวก็เป็นอาจารย์เย่ที่อยู่ในสังคมชนชั้นสูงจินหลิงที่ทุกๆคนเคารพยกย่อง แต่ตลอดเวลามา อยู่ในบ้านกลับต้องถูกหม่าหลันโอหังอวดดี

และเย่เฉินเห็นแก่หน้าของเซียวชูหรันภรรยา ก็ได้แต่อดทนเธอไว้ตลอด แต่ว่าตอนนี้กลับดีแล้ว ในที่สุดหม่าหลันก็ยอมอ่อนคุกเข่าต่อตนเองแล้ว

ถึงยังไงสิ่งที่ดีของตนเองในตอนนี้คือเงิน วันหลังถ้าทุกวันหม่าหลันเคารพนบนอบประจบประแจงอย่างไม่รู้สึกละอายกับตนเอง ตนเองก็ไม่แคร์ที่จะให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่เธอเช่นกัน

เหมือนอย่างที่คิดจริงๆ!