ตอนที่ 1677 อนาคตที่เขาหวังไว้

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

พันธมิตรมนุษย์ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ!

เสียงกังวานที่ตามมาด้วยเสียงเชียร์แผ่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกอินเทอร์เน็ตของมนุษย์

บนเว็บไซต์วิดีโอชื่อดัง ชาวเน็ตที่ดูพิธีถ่ายทอดสดผ่านเทคโนโลยีล้ำยุคได้แสดงความยินดีอย่างมากระหว่างที่พวกเขาแบ่งปันความปลื้มใจและความตื่นเต้นในใจโดยมีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์นั่งอยู่รอบพวกเขา

“พันธมิตรมนุษย์จงเจริญ!”

“น้ำตาไหลนองเต็มหน้าเลย… ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นความรุ่งเรืองของสหพันธ์สัมพันธมิตรมนุษย์ในชีวิตนี้”

“ผมรู้สึกว่านักวิชาการลู่ได้พลิกประวัติศาสตร์มาตลอด ตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมา…”

“เรื่องนี้เกี่ยวกับนักวิชาการลู่ยังไงนะ? เขาไม่ใช่สมาชิกอาวุโสของพันธมิตรมนุษย์”

“ขอเถอะ ถ้าไม่มีเทคโนโลยีสตาร์เกทและเครื่องยนต์ความเร็วกว่าแสง คุณคิดว่าการเกิดข้อตกลงร่วมกันระหว่างหลายพันธมิตรภูมิภาคทั้งหลายจะเกิดขึ้นง่ายๆ เหรอ?”

“ตอนนี้ทั้งโลกถูกรวมกันและทุกคนจะอยู่ในชุมชนของโชคชะตามนุษยชาติ คุณคิดว่าเรายังต้องการทหารอีกเหรอ?”

“แน่นอน! ความขัดแย้งในระบบสุริยะถูกแก้ไขแล้ว แต่มันยังมีความขัดแย้งอยู่นอกระบบสุริยะ ถ้ายานอวกาศของเราบินได้ไกลพอ เราก็จะเจอศัตรูในที่สุด!”

ไม่ว่าจะเป็นสหการพาน-เอเชียนหรือพันธมิตรระดับภูมิภาคอื่นๆ เมื่ออยู่ในจุดยืนของมนุษยชาติ พวกเขาทุกคนรู้สึกถึงความมุ่งมั่นเดียวกันจากการปราศรัยสร้างแรงบันดาลใจ

การกำจัดความยากจนและสงคราม การกดขี่และการจองจำทั้งหมด มันไม่ใช่อุดมการณ์ทั้งชีวิตของสาธารณชนและประชาชนทั่วโลกงั้นเหรอ?

ไม่ว่าสิ่งนี้จะทำได้สำเร็จในที่สุดหรือไม่ในท้ายที่สุด อย่างน้อยๆ พวกเขาเริ่มเห็นความหวังแล้ว

นอกเหนือจากในโซเชียลมีเดีย แม้แต่ผู้เล่นในเครือข่ายโลกเสมือนได้เฉลิมฉลองช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ด้วยวิธีของตัวเอง

ในเกมอาณาจักรคาลาน ผู้เล่นมารวมตัวกันรอบโลกโดยไม่ได้นัดหมายและใช้ยานอวกาศเพื่อแสดงธงของพันธมิตรมนุษย์บนแผนที่

ตัวละคร NPC ในเกมสับสนกับการกระทำที่อธิบายไม่ได้ของผู้เล่นกลุ่มนี้และขับเคลื่อนยานทั้งหมดในพื้นที่ใกล้เคียงและรอคอยรอบดาววงแหวน เนื่องจากกลัวว่าผู้เล่นจะทำเรื่องขาดสติ

และผู้คนนอกโลกออนไลน์ก็ทำสิ่งเดียวกัน

ด้านบนโดมที่เมืองเทียนกง แสงโฮโลแกรมสวยงามถูกฉายขึ้นมา และอนุภาคแสงเปล่งประกายเหมือนดอกไม้ไฟ สะท้อนแผนที่โลกที่ครอบคลุมไปทุกเขตแดนโลก ดวงจันทร์ และดาวอังคาร

บนแผนที่นี้ ทุกจุดประกายแสงสะท้อนแต่ละเมืองด้วยอนุภาคแสงแสดงถึงคนที่อาศัยอยู่ในเมือง

ในอีกที่หนึ่ง ภายในบ้านที่กลุ่มเมืองปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย

ชายชรานั่งอยู่นั่งหน้าทีวีโฮโลแกรมในขณะที่มองดูริบบิ้นลอยอยู่ทั่วพื้นที่และมีธงนานาชาติของหลายประเทศห้อยอยู่ เขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความประทับใจและมีความโหยหาอดีตแว่วขึ้นในดวงตา

“พันธมิตรมนุษย์… รู้สึกเหมือนกับแนวคิดที่เก่าเก็บ”

หลานที่นอนเล่นบนพรมกำลังเล่นกับของเล่นสมาร์ทและเงยหน้าขึ้นมามองปู่ด้วยสายตาอยากรู้

“ปู่ๆ ปู่เคยมีพันธมิตรมาก่อนเหรอ?”

“ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว เราเคยมีมาก่อน มันนานก่อนสหการพาน-เอเชียนมากเลย… ถ้าปู่จำไม่ผิด กองกำลังป้องกันโลกอยู่ภายใต้พันธมิตรมนุษย์ แต่ช่วงปี 2050-2060 มันน่าจะล่มสลายจากปัญหาเงินทุน”

ในความเป็นจริงเมื่อชายชรายังเด็ก พันธมิตรมนุษย์ก็ใกล้ถึงจุดล่มสลายแล้ว จากที่ปู่ของเขาบอก เขาได้เห็นจุดสิ้นสุดของยุครุ่งเรือง

แต่ชายชราไม่รู้สึกว่ายุครุ่งเรืองจบลงแล้ว

หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจสิ้นสุดลงในปี 2050 สหการพาน-เอเชียนที่ฟื้นขึ้นมาได้แก้ปัญหาจากยุคก่อนและยังได้รวบรวมและสร้างอารยธรรมที่รุ่งเรืองมากขึ้น

เขายังจำได้ว่าเมื่อเขายังเด็ก ผู้ใหญ่มักกังวลเกี่ยวกับค่าแรงและประเด็นที่อยู่อาศัย

แต่ตอนนี้พวกเขาเข้าขั้นตอนระดับกลางของการปกครองสังคม และดูเหมือนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุนิยม พวกเขาไม่ได้ไล่ตามเงินทองและอำนาจอย่างขาดสติ แต่พวกเขาค่อยๆ เริ่มเล่นตามจิตวิญญาณและเรียนรู้ที่จะปฏิบัติกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ด้วยความใจดี

“ถูกยุบ?” สีหน้าของหลานดูครุ่นคิดระหว่างที่เขาเอียงหัวและพูดว่า “น่าเสียดายจัง”

“มันไม่น่าเสียดายหรอก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกมีจุดประสงค์ของตัวเอง และเมื่อทำตามจุดประสงค์สำเร็จ ก็จะไปพักผ่อนในสถานที่สงบและเฝ้ามองดูการเติบโตของทายาท”

“แม้ว่าพันธมิตรมนุษย์ก่อนหน้าจะถูกยุบไป ตำนานที่มันทิ้งไว้ทำให้เราได้สร้างกลุ่มที่เป็นหนึ่งมากกว่าแต่ก่อน หลานยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจเรื่องนี้ เมื่อหลานโตขึ้น หลานอาจจะเข้าใจมัน”

อยู่ดีๆ รอยยิ้มอิจฉาปรากฏขึ้นบนหน้าชายชรา เขายื่นมือไปลูบหัวหลานชายเบาๆ

“เด็กน้อย เจ้าเกิดมาในยุคมหัศจรรย์”

หลานชายกลอกตา เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมจะพาปู่ไปทุกที่ที่ไปแน่นอน!”

ชายชราหัวเราะและพูดแซว “เมื่อหลานวิ่งเล่นในโลกได้เองแล้ว ปู่คงจะลุกออกจากเตียงไม่ไหวแล้ว”

การพูดปราศรัยที่หัวใจแห่งเอเชียนจบลง ที่อีกฟากหนึ่งของสตาร์เกท ยานทรงลูกบาศก์ขนาดใหญ่ในวงโคจรดาวอังคารเต็มไปด้วยผู้คน

วิทยุสะท้อนเสียงที่ประธานพูดจากหัวใจแห่งเอเชีย และจากการนำของทีมงาน คนที่สวมชุดอวกาศในห้องเคบินแล้วได้เดินตามฝูงชนไปตามทางเดินพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นและกังวล

นี่คือยานมิลกี้เวย์ ถึงแม้ว่าชาวตะวันตกหลายคนเรียกมันว่าโคลัมบัสหรือมาแจลแลน

ความหมายของการมีอยู่ของโลกนี้เป็นเหมือนประโยคที่เขียนบนตั๋ว เพื่อออกเดินทางสู่ฝันที่ใหญ่กว่า

หลังจากการปรับแต่งหลายวันหลายคืน ยานมิลกี้เวย์ถูกติดตั้งด้วยยูนิตการสร้างอาณานิคม วาร์ปไดร์ฟ และกองพลังงานปฏิสสารพร้อมไปเทาเซติที่ห่างออกไปสิบปีแสง

ชาวอาณานิคมหนึ่งแสนคนจะถูกแบ่งเป็นสิบกลุ่ม และพวกเขาจะถูกส่งจากท่ายานไปยานมิลกี้เวย์ที่จอดรอผ่านการใช้อุปกรณ์ขนส่งพิเศษ

ที่นั่น พวกเขาจะได้รับการฝึกฝนทักษะและเรียนรู้เป็นเวลาสองเดือน จากนั้นก็ฝึกการปรับตัวอีกสามเดือน

หลังจากฝึกเสร็จ พวกเขาจะเริ่มการผจญภัยครั้งแรกของมนุษยชาติสู่โลกนอกระบบสุริยะในฐานะชาวอาณานิคมจากพันธมิตรมนุษย์ ส่งต่อคบเพลิงแห่งอารยธรรมไปยังที่ห่างไกลมากขึ้น…

แต่ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนี้ ลู่โจวที่ทำให้ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ยังอยู่ในห้องทดลองในขณะที่เขามองดูหลอดทดลองบนโต๊ะเงียบๆ

มันเป็นเหมือนว่าเสียงทั้งหมดจากโลกภายนอกไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว

ในความเป็นจริง มันเป็นสภาวะจิตใจของเราในตอนนี้ หลังจากทำงานยิ่งใหญ่เสร็จ เขาแทบไม่สนใจกับเรื่องอย่างชื่อเสียงและความร่ำรวย

ตอนนี้เขาเข้าใกล้ความจริงที่ไล่ตามอยู่เกือบถึงที่สุดแล้ว

หลอดทดลองตรงหน้าเป็นภารกิจสุดท้ายที่ระบบมอบให้เขา

มันยังเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ลู่โจวตั้งใจจะทิ้งให้บ้านเกิดก่อนที่จะเดินทางไปยังโลกที่ห่างไกล…

“เลเวลเต็ม 10 สามารถปลดล็อกตัวเลือกสำหรับยุคอนาคตได้ไหม…”

เมื่อลู่โจวนึกถึงคำอธิบายที่เขาอ่านครั้งแรกบนหน้าจอโฮโลแกรมได้ เขายิ้มเล็กน้อยและกดปุ่มสวิตช์บนโต๊ะ

พูดตรงๆ เขาไม่ได้หวังอะไรมากมายนัก

เพราะเขาเห็นอนาคตของตัวเองเมื่อนานมาแล้ว…

……………………………………………………………………………