ตอนที่ 1773: สังหารขั้นเหนือเทพ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1773: สังหารขั้นเหนือเทพ

พระจันทร์เต็มดวงที่มีแสงส่องสว่างจ้าได้ห่อหุ้มนางฟ้าเฮายู่

นางฟ้าเฮายู่นั้นเต็มไปด้วยความงดงามอันศักดิ์สิทธิ์ภายใต้แสงจันทร์ที่บริสุทธิ์ที่อ่อนโยน นางดูราวกับนางฟ้าที่ลงมาจากดวงจันทร์ นั่นคือวิธีที่นางมักจะทำเมื่ออยู่ต่างโลก มีการปรากฏที่ไม่อาจรู้จักได้ ได้แทรกซึมเข้าไปบริเวณรอบ ๆ นาง

ทันใดนั้นจิตสังหารที่หนักหน่วงและเย็นชาก็เริ่มแผ่ออกมาจากฉากที่งดงามตรงหน้า ทันใดนั้นดวงจันทร์ที่อยู่เหนือหัวของนางก็เริ่มเปล่งประกายขณะที่มีปล่อยแสงที่หนามากไปทางขั้นเหนือเทพด้วยความเร็วสูง

ขั้นเหนือเทพที่พุ่งเข้าหานางฟ้าเฮายู่ไม่ได้โจมตีนางฟ้าเฮายู่อย่างจริงจัง ท้ายที่สุดนางฟ้าเฮายู่ก็เป็นเพียงแค่ขั้นเทพช่วงปลาย นางไม่อาจคุกคามพวกเขาได้ แม้ว่านางจะใช้ทักษะต่อสู้ที่ทรงพลัง มันก็ทำให้ขั้นเหนือเทพช่วงต้นกลายเป็นอากาศธาตุได้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามขั้นเหนือเทพนั้นไม่อาจสงบนิ่งได้อีกต่อไป เนื่องจากเสาแสงที่ห่อหุ้มพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงและตอนนี้พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ

อันที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังอยู่ในเสาแสงอย่างจริงจัง แต่มันก็มีกฏที่ที่ทรงพลังอย่างมากเช่นกัน

ในเวลานี้ทุกคนรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาหยุดลงชั่วคราวเมื่อแสงจันทร์ได้ห่อหุ้มพวกเขาไว้ พวกเขาถูกแช่แข็งในท่าทางนั้น ๆ ขณะที่แสงจันทร์ได้ห่อหุ้มพวกเขา ราวกับภาพถ่ายที่ได้หยุดพวกเขาเอาไว้และไม่อาจเคลื่อนไหวใด ๆ ได้

“ทั-ทักษะนี้คืออะไร?”

“ข้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้ ! นะ-นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ”

ขั้นเหนือเทพกว่าสามสิบคนตกตะลึงอย่างมาก พวกเขาโคจรพลังงานดั้งเดิมทันทีเพื่อทำให้พวกเขากลายเป็นอิสระ ในเวลาเดียวกันพลังของกฏได้กลายเป็นโซ่เข้ามาโจมตีเขาที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของแสงจันทร์

หลังจากนางฟ้าเฮายู่ใช้ทักษะนี้ นางก็เริ่มมีสีหน้าอ่อนเพลียทันที อย่างไรก็ตามนางไม่ลังเลเลย นางลอยไปถึงขั้นเหนือเทพช่วงปลายด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าและชี้นิ้วของนางจรดหน้าผากของขั้นเหนือเทพ

แม้ว่าขั้นเหนือเทพช่วงปลายจะถูกขังอยู่แต่เขาก็สามารถใช้พลังงานดั้งเดิมในตัวของพวกเขาได้ พลังงานเริ่มพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาและห่อหุ้มเขาไว้เป็นเกราะป้องกัน ในเวลาเดียวกันเขาก็ควบคุมพลังของกฏเพิ่มโจมตีนางฟ้าเฮายู่

อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะใช้พลังป้องกันแบบใดมันก็ไร้ผล เมื่อนิ้วของนางฟ้าเฮายู่ได้จรดลง พลังงานของกฏก็กระจายออกไปพร้อมกับพลังงานดั้งเดิมรอบ ๆ ตัวของเขาก็หายไป นิ้วของนางฟ้าเฮายู่เจาะทะลุหน้าผากของเขาโดยตรงพร้อมกับแสงจันทร์และทำลายวิญญาณของเขาทันที

อย่างไรก็ตามนางฟ้าเฮายู่ก็ยิ่งซีดเซียวมากขึ้นหลังจากที่เอาชีวิตเหนือเทพขั้นปลาย ดูเหมือนว่านางจะอ่อนแรงลงไปมาก แต่นางก็ยังไม่หยุด สายตาของนางเย็นชาขณะที่ชี้นิ้วไปยังขั้นเหนือเทพช่วงปลายคนที่สอง

พรวด !

นางฟ้าเฮายู่สังหารขั้นเหนือเทพช่วงปลายคนที่สองได้อย่างง่ายดายภายใต้สายตาของทุกคน แม้ว่านางฟ้าเฮายู่จะเป็นแค่ขั้นเทพช่วงปลาย แต่นางก็สามารถสังหารขั้นเหนือเทพช่วงปลายได้ราวกับบี้มด พวกเขาไม่อาจต้านทานอะไรนางได้เลย

สิ่งที่นางฟ้าเฮายู่ต้องทำคือแค่เคลื่อนไหวเท่านั้น มันดูเหมือนว่านางจะอ่อนแรงหลังจากที่สังหารขั้นเหนือเทพช่วงปลายคนที่สองและใบหน้าของนางก็ดูซีดเซียว

แม้จะเป็นอย่างนั้น เหล่าขั้นเหนือเทพที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาก็มองไปที่นางฟ้าเฮายู่ด้วยความหวาดกลัว แต่พวกเขาทั้งหมดติดกับดักและไม่อาจเคลื่อนไหวได้ พวกเขาทำได้แค่เพียงเฝ้ามองนางฟ้าเฮายู่เดินมาหาพวกเขาราวกับเทพแห่งความตาย พวกเขาเป็นดั่งเป็ดที่รอให้สังหาร

นางฟ้าเฮายู่กัดฟัน นางชี้นิ้วไปยังคนที่สาม เป้าหมายของนางคือหยางไคจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน

ดวงตาของหยางไคหรี่ลง ในขณะที่เขาเฝ้ามองนิ้วของนางฟ้าเฮายู่พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ยิ่งเป็นห่วงตัวเอง เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัวมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ร่างกายของเขาติดกับดักและเขาก็ไม่อาจขยับได้ ทำให้เขาไม่อาจตอบโต้และเขาก็ไม่อาจหลบได้

“ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจี้ยนเฉินจะตายแน่นอน ! ” หยางไคเอาเจี้ยนเฉินมาอ้างด้วยสถานการณ์ที่สิ้นหวัง แม้แต่หยางไคก็รู้ว่าเขากำลังพูดอะไรที่ไร้สาระ มันอาจอธิบายได้ว่าเป็นเรื่องตลกเล็ก ๆ ขณะที่เจี้ยนเฉินได้รับการช่วยชีวิตไปนานแล้วและไม่ปรากฏตัว ยิ่งไปกว่านั้นเขากลัวปราณกระบี่ลึกซึ้งสองเส้นของเจี้ยนเฉินมาก

อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่เขาทำได้ นอกจากโกหกเรื่องเจี้ยนเฉินออกไป

อย่างที่คาดไว้ นิ้วของนางฟ้าเฮายู่ชะงักเมื่อนางได้ยินคำพูดของหยางไค

ใจเวลาเดียวกันนี้ที่หยางไคตะโกนออกมา พลังงานดั้งเดิมของเขาก็พุ่งออกมาและในที่สุดเขาก็หลุดจากการพันธนาการพร้อมกับเหล่าขั้นเหนือเทพคนอื่น ๆ เขาต่อยหมัดใส่นางฟ้าเฮายู่ตรง ๆ

ในเวลาเดียวกัน ขั้นเหนือเทพคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างหลังก็โจมตีด้วยพลังเต็มที่ไปยังนางฟ้าเฮายู่

พวกเขาสามารถบอกได้จากใบหน้าของนางฟ้าเฮายู่ว่าตอนนี้นางอ่อนแรงมาก พวกเขามั่นใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่นางจะใช้ทักษะที่ทรงพลังอีกครั้ง

“เฮ้อ ตอนนี้วิญญาณข้าอ่อนแอมาก ข้าไม่อาจใช้ความเข้าใจกฏของโลกได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นข้าจึงไม่อาจอยู่นานได้ แม้ว่าจะใช้ทักษะที่ต่ำที่สุดของข้า” นางฟ้าเฮายู่ถอนหายใจ นางไม่ได้ต่อสู้กับขั้นเหนือเทพคนอื่น ๆ เพียงสะบัดมือของนาง นางก็หยินแหวนมิติของขั้นเหนือเทพช่วงปลาย 2 คนก่อนหน้านี้ก่อนที่จะบินออกไปยังทางออก

เหนือเทพกว่าครึ่งไล่ตามนางฟ้าเฮายู่อยู่ด้านหลัง พวกเขาส่งปราณกระบี่เข้าหานางตลอดเวลา ปราณกระบี่รายล้อมอยู่รอบ ๆ สุสานและส่งเสียงกึกก้องตลอดเวลา พวกเขาบอกได้เลยว่านางฟ้าเฮายู่ได้ใช้พลังไปหมดแล้ว นางไม่ได้ครอบครองพลังที่ทำให้นางสามารถสังหารขั้นเหนือเทพช่วงปลาย 2 คนได้อย่างง่าย ๆ อีก

ขั้นเหนือเทพที่เหลือทั้งหมดตกตะลึงจากการที่นางฟ้าเฮายู่สังหารขั้นเหนือเทพช่วงปลาย 2 คน พวกเขาไม่กล้าที่จะไล่ตาม

หยางไคเป็นหนึ่งในนั้น เขาจ้องมองผ่านซากศพของขั้นเหนือเทพช่วงปลาย 2 คนและมีเหงื่อเย็น ๆ ปกคลุมหน้าผากของเขา

“เกือบไป ข้ารอดตายได้ด้วยวิธีการนี้เท่านั้น” หยางไคกล่าว เขาจ้องมองไปยังทิศทางที่นางฟ้าเฮายู่บินหนีออกไปด้วยความกลัวที่เอ่อล้นอยู่และดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างหดหู่ เขาเลิกสนใจแหวนมิติของราชาเทพต้วนมู่ทันที

ในเวลานี้ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปเมื่อเขายืนอยู่ด้านนอกสุสาน ทันใกนั้นเขาก็มองไปในทิศทางของสุสาน

มีความวุ่นวายมากภายในบ้าน ไม่ใช่เพียงแต่เจี้ยนเฉินคนเดียว แม้แต่ขั้นเทพสองสามคนยังสัมผัสได้กับความวุ่นวายภายในสุสาน