เย่เฉินพยักหน้ายิ้มๆ พลางถามว่า “คุณน้าหานอยู่ไหมครับ?”
“อยู่อยู่แล้วสิ!” เซียวฉางควนหัวเราะร่วน พูดเสียงต่ำว่า “คุณน้าหานของลูกน่ะนั่งข้างพ่อนี่เอง พ่อกำลังสอนเธอให้รู้จักตัวอักษรของเหยนเจินชิงน่ะ!”
“โอเคครับพ่อ!” เย่เฉินหัวเราะบอก “นี่พ่อศึกษาเหยนเจินชิงด้วยหรอ?”
“เฮ้อ” เซียวฉางควนหัวเราะร่วนบอก “พ่อมีศึกษาแค่เหยนเจินชิงที่ไหนกันล่ะ? ไม่ว่าจะหวางซีจือ หวงถิงเจียน หลิ่วกงเฉวียน โอวหยังสวิ๋น พ่อน่ะศึกษาหมดเลย!” (เหยนเจินชิง หวงถิงเจียน หลิ่วกงเฉวียน โอวหยังสวิ๋นคือปรมาจารย์เชี่ยวชาญการเขียนพู่กันจีนโบราณของประเทศจีน)
เย่เฉินหัวเราะบอก “ครับ วันหลังผมจะต้องเรียนกับพ่อเยอะๆแล้วสิเนี่ย”
จากนั้นพูดอีกว่า “จริงสิครับพ่อ สกินแคร์ที่พ่ออยากได้ผมได้มาแล้วนะ ให้ผมส่งไปให้พ่อเลยละกัน ถ้าเอากลับบ้าน เดี๋ยวแม่เห็นว่าเพิ่มมาอีกชุดหนึ่ง จะตอบยาก”
ที่เย่เฉินให้เฉินจื๋อข่ายเตรียมไว้สามชุด เพราะรู้สึกว่า นอกจากชุดที่ให้หม่าหลันแล้ว ต้องเตรียมให้เซียวชูหรันเมียของตนด้วยหนึ่งชุด อีกชุดเป็นเพราะเซียวฉางควนอยากให้หานเหม่ยฉิง
แต่ว่าถ้าตนเอาทั้งสามชุดกลับบ้าน เกิดหม่าหลันเห็นเข้า ว่า นอกจากชุดของเซียวชูหรันแล้ว ที่เหลืออีกสองชุดหล่อนต้องอยากฮุบไว้คนเดียวแน่
ดังนั้น เลยเอาชุดที่พ่อตาคิดจะให้หานเหม่ยฉิงออกมาก่อนดีกว่า จะได้ไม่ทำให้แม่ยายคิดหวังเข้าข้างตัวเองไป
พอดีพ่อตาอยู่กับหานเหม่ยฉิง โอกาสนี้ดีมากเลย
พอเซียวฉางควนได้ยินแบบนี้ ก็พูดอย่างดีใจว่า “ไอ้หยา ลูกเขยพ่อ เก่งจริงๆเลยนะ! พ่อพึ่งพูดเมื่อเช้าเอง เราก็จัดการได้เร็วขนาดนี้แล้ว เก่งมากเลยนะเนี่ย!”
เย่เฉินยิ้มว่า “เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ ไม่เท่าไหร่หรอก พ่อรอผมแป๊บนะ เดี๋ยวผมไปหา”
เซียวฉางควนรีบบอก “เดี๋ยวพอมาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ โทรหาพ่อนะ พ่อลงไปรับ”
“OK!”
สิบนาทีผ่านไป เย่เฉินมาที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุของจินหลิง
เขาจอดรถเข้าข้างทาง และโทรหาเซียวฉางควนซึ่งเป็นพ่อตา
ไม่นาน เซียวฉางควนก็วิ่งออกมา เขายื่นหน้าเข้าหากระจกพลางหัวเราะถามว่า “ลูกเขย สกินแคร์อยู่ไหนล่ะ?”
เย่เฉินลงรถมาเปิดประตูท้ายรถ หยิบกล่องสกินแคร์ชุดนั้นออกมายื่นให้เขา “พ่อครับ นี่ไง พ่อเอาไปเถอะ”
เซียวฉางควนรับกล่องมาพลางอุทานอย่างตกใจว่า “โอ้โห ใหญ่และหนักขนาดนี้เลยหรอ? ข้างในมีเยอะมากเลยสิ?”
เย่เฉินบอก “น่าจะมีสิบกว่าอย่างนะครับ มีครบหมดทุกอย่างเลย”
เซียวฉางควนพยักหน้าบอก “มีครบหมดแบบนี้ เอาไปขายหลายแสนก็ไม่ถือว่าแพงหรอก”
เย่เฉินหัวเราะบอก “นี่ไม่ใช่แค่หลายแสนครับ นี่เป็นชุดที่แพงที่สุดของเขา ราคา388,888ครับพ่อ!”
“พระเจ้า!” เซียวฉางควนเบิกตากว้างแทบถลน “กล่องแค่นี้ ราคาเกือบสี่แสน? พอซื้อรถคันหนึ่งได้เลยนะ แถมยังเป็นรถBMW5ซีรีย์ด้วย!เอาไปซื้อAudyA6ยังได้เลย!”
เย่เฉินพยักหน้าเออออตาม “พอจริงๆครับ”
เซียวฉางควนเบ้ปากบ่น “โถ สกินแคร์ราคาแพงขนาดนี้ ให้ยัยหม่าหลันใช้จะคู่ควรหรือไง! ลูกเขย พ่อว่าเอาชุดนี้ไปแลกชุดราคาแสนกว่าให้หล่อนเถอะ ยังช่วยลูกประหยัดไปได้ตั้งสองแสนกว่าแหน่ะ!”
ชะงักเล็กน้อย เซียวฉางควนบอกอีกว่า “สองแสนกว่านี่เอามาทำอะไรก็ได้ ยังดีกว่าใช้ไปเพื่อยัยหม่าหลันเลยนะ? สองแสนกว่าพอซื้อภาพวาดโบราณหลายภาพแขวนไว้ที่บ้านแล้ว ในเมื่อสามารถทำให้บ้านเราดูมีระดับขึ้นมา ตัวภาพยังเพิ่มมูลค่าได้ไม่หยุดด้วย ไม่ดีหรือไง?”
เย่เฉินกระเซ้าเล่นว่า “งั้นคืนชุดนี้ดีกว่า แล้วเอาเงินหลายพันไปซื้อแบบของปลอมเกรดเอมา อย่างน้อยก็ประหยัดไปสามแสนแปดเลยนะ”
เซียวฉางควนได้ยินอย่างนั้น ตบขาผ่างโพล่งออกมาว่า “พ่อลูกเขย วิธีนี้ดีเลย! เอาชุดนี้ไปคืน แล้วซื้อของปลอมเกรดเอให้หล่อนน่ะดีแล้ว เหมาะสมแล้วล่ะ!”