บทที่ 2381 มาโดยไม่ได้รับเชิญ + ตอนที่ 2382 หมาไม่กินขี้ตั้งนานแล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2381 มาโดยไม่ได้รับเชิญ

“คุณปู่ครับ คุณย่าครับ พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ครับ นี่แฟนสาวของผมโม่เฉี่ยวหลิง”

พวกเหมยเหมยยังไม่ทันอ้าปากทักเหยียนหมิงต๋าก็ชิงแนะนำตัวก่อนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่โม่เฉี่ยวหลิงที่ยืนข้าง ๆเขากลับทำหน้าได้ใจหน่อย ๆ ยกยิ้มมุมปากมองมาทางเหมยเหมยด้วยสายตามีเลศนัย คล้ายกำลังโอ้อวดหรือบางทีกำลังท้าทายอยู่

ขณะเดียวกันผู้ที่มีสีหน้าไม่เป็นมิตรยังมีคุณย่าหยางและป้าฟาง แม้คุณย่าหยางจะไม่เคยเจอโม่เฉี่ยวหลิงแต่เธอรู้จักชื่อนี้ดี แค่ได้ยินก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร

พอได้เห็นหน้าตาท่าทางของโม่เฉี่ยวหลิง คุณย่าหยางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาในทันที หน้าตาเหมือนสุนัขจิ้งจอกแบบนี้ไม่ใช่คนดีเด่อะไรแน่นอน

“หมิงต๋า ก็บอกให้เลิกกับผู้หญิงคนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมหลานไม่ยอมฟังบ้างล่ะ?” คุณย่าหยางทำหน้าดุดัน

โม่เฉี่ยวหลิงสีหน้าเปลี่ยนไปแต่ลอบด่าอีกฝ่ายในใจ ภายนอกกลับทำหน้าตาน่าสงสารมองเหยียนหมิงต๋าด้วยสองดวงตาแดงก่ำ

เหมยเหมยรู้สึกขยะแขยงเหมือนกินขี้อย่างไรอย่างนั้น พยายามข่มใจไม่ให้แสดงอาการออกมาแต่กำลังแอบระแวงอยู่ในใจ

โม่เฉี่ยวหลิงดูฉลาดกว่าคราวก่อนมากนัก อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ก็เปลี่ยนรูปแบบการแต่งตัวดูดีมีรสนิยมมากขึ้นพอควร

หรือพูดให้ถูกก็คือเสื้อผ้าบนตัวโม่เฉี่ยวหลิงล้วนแต่เป็นแบรนด์เนมทั้งนั้นซึ่งอย่างน้อยราคาต้องหลายร้อยถึงหลักพันหยวนเลยทีเดียว!

เหมยเหมยแอบสงสัยในใจ ไหนว่าโม่เฉี่ยวหลิงกำลังทำงานชั่วคราวจนไม่มีเงินพอซื้ออาหารสามมื้อด้วยซ้ำไม่ใช่หรือ?

แล้วเธอเอาเงินจากไหนมาซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมกัน?

ไหนจะกระเป๋าที่เธอสะพายอยู่ก็เป็นของยี่ห้อชาแนล ไหนจะรองเท้ายี่ห้อเดียวกันอีก แถมสร้อยเพชรต่างหูเพชรที่แม้จะขนาดเล็กหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ของราคาถูก

โม่เฉี่ยวหลิงในตอนนี้ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนเขียนไว้ว่า–

คนมีเงิน

อีกทั้งไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง พอมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมรวมถึงเครื่องประดับเพชรพลอยคอยเสริมบารมี ทำให้โม่เฉี่ยวหลิงที่แต่เดิมดูดีแค่หน้าตากลับดูมีระดับขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ใช่เพียงผู้หญิงธรรมดาอย่างแต่ก่อนอีกต่อไป

หรือว่าเหยียนหมิงต๋าเป็นคนซื้อให้เธอหรือ?

เหยียนหมิงต๋าตีหน้านิ่งพูดเสียงขรึม “นั่งลงทานข้าวกันเถอะ”

เหมยเหมยถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง แล้วยังกระทืบเท้าเขาจากใต้โต๊ะแรง ๆทีหนึ่ง

แถมยังเลี้ยงข้าวนังแพศยานี่อีก หมายความว่าอย่างไร?

เหยียนหมิงซุ่นส่ายหน้าให้เธอเล็กน้อย เหมยเหมยจึงจำต้องข่มอารมณ์โกรธไว้ ต่อหน้าคนนอกเธอยังต้องไว้หน้าเหยียนหมิงซุ่นบ้าง

“คุณปู่คุณย่าครับ เมี่อก่อนเฉี่ยวหลิงยังเด็กเลยทำผิดไป เธอเล่าให้ผมฟังหมดแล้วและเธอเองก็รู้สึกเสียใจมาก หวังว่าท่านจะให้โอกาสเธอได้ปรับปรุงตัว” เหยียนหมิงต๋าบอก

“สวัสดีค่ะคุณปู่คุณย่า สวัสดีค่ะพี่ชายพี่สะใภ้ เมื่อก่อนฉันหลงผิดไป พวกพี่อย่าถือสาฉันเลยนะคะ ตอนนี้ฉันได้เจอหมิงต๋าถึงรู้ว่าคนที่ฉันรักที่สุดคือใครแล้ว…”

โม่เฉี่ยวหลิงทำหน้าเว้าวอนเหมือนกำลังสำนึกผิดจากใจจริง แต่ไม่มีใครเชื่อเธอสักคน

งูพิษหากได้ลองกัดใครหนึ่งครั้งก็ต้องมีครั้งที่สองครั้งที่สามไปเรื่อย ๆ…

เหมยเหมยรู้สึกอัดอั้นแทบแย่และขนลุกเกรียวไปทั้งตัว

สามเดือนก่อนยังจะเป็นจะตายบอกว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นรักแท้ หากไม่ใช่เขาจะไม่ยอมแต่งงานด้วย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเหยียนหมิงต๋า

เหอะ!

ความรักของเธอช่างไร้ค่านัก!

พอมีโม่เฉี่ยวหลิงอยู่ด้วยจึงทำให้มื้ออาหารนี้ดำเนินไปท่ามกลางความอึดอัด ต่อให้โม่เฉี่ยวหลิงพูดน้ำไหลไฟดับอย่างไร พยายามหาเรื่องคุยอย่างไรก็ไม่มีใครยอมสนใจเธอ

แม้แต่เหยียนหมิงต๋าเองก็ยังไม่ค่อยสนทนาอะไรกับเธอเลยแต่กลับคีบอาหารให้เธอหลายครั้ง ดูแล้วเป็นแฟนหนุ่มที่ช่างเอาใจใส่เสียจริง ๆ

แต่ทว่า–

เหมยเหมยกลับไม่รู้สึกถึงความรักระหว่างเหยียนหมิงต๋ากับโม่เฉี่ยวหลิง ไม่เหมือนคนรักกันแต่กลับเหมือนคนแปลกหน้ากันมากกว่า

ความรู้สึกพิลึกนี้มีมากเสียจนเหมยเหมยยังนึกสงสัยตัวเองว่าคิดมากไปหรือเปล่า ทว่าตั้งแต่เข้าประตูมาจนถึงตอนนี้ความรู้สึกนี้ก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

มื้ออาหารจบลงด้วยความอึดอัด โม่เฉี่ยวหลิงมีใจอยากอยู่ต่อแต่ไม่มีใครสนใจเธอ เธอจึงทำได้แค่รีบขอตัวกลับก่อน

เหยียนหมิงต๋าไปส่งเธอที่บ้านก็กลับมา คุณย่าหยางเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบตึงว่า “หลานพูดมาให้รู้เรื่องว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

……………………………..

ตอนที่ 2382 หมาไม่กินขี้ตั้งนานแล้ว

เหยียนหมิงต๋ามองเหมยเหมยแวบหนึ่งด้วยสายตาที่แฝงนัยยะบางอย่าง เหมยเหมยใจหล่นตุบ เธอมักรู้สึกว่าเหยียนหมิงต๋าที่รอดชีวิตผ่านความตายกลับมานั้นคาดเดาได้ยากและให้ความรู้สึกดูคล้ายคลึงเหยียนหมิงซุ่นไม่น้อย

“เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละครับ ผมกับโม่เฉี่ยวหลิงรู้จักกันโดยบังเอิญ คุยถูกคอกันดีเลยตกลงคบกัน” เหยียนหมิงต๋าพูดเสียงเรียบ

คุณย่าหยางตวาดใส่ “โม่เฉี่ยวหลิงเป็นคนแบบไหนหลานไม่รู้หรือไง? เมื่อก่อนกับพี่ใหญ่ของหลานหล่อนยัง…”

ประโยคหลังคุณย่าหยางไม่กล้าพูดต่อ ในเมื่ออยู่ต่อหน้าเหมยเหมยนี่นา

เหมยเหมยเอ่ยต่อ “เมื่อก่อนโม่เฉี่ยวหลิงคิดจะแต่งงานกับพี่ใหญ่ของนาย แถมยังบอกว่าถ้าไม่ใช่พี่ใหญ่ของนายเธอก็จะไม่ยอมแต่งงานกับใครทั้งนั้น ทำไมแป๊บเดียวก็มารักกับนายได้ล่ะ?”

“ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนดี หมิงต๋าแกรีบเลิกกับหล่อนซะ”

คุณปู่เหยียนทำหน้าถมึงทึงตั้งแต่โม่เฉี่ยวหลิงก้าวเข้าประตูบ้านมาแล้ว

ในอดีตแม้แต่เหมยเหมยเองคุณปู่ยังไม่ชอบใจเลย แต่บัดนี้คุณปู่รังเกียจผู้หญิงอย่างโม่เฉี่ยวหลิงที่สุด คุณปู่ถึงขนาดยกข้าวกลับไปทานในห้องไม่อยากเจอหน้าโม่เฉี่ยวหลิงด้วยซ้ำ

“คุณปู่ คุณย่า พวกท่านเข้าใจเฉี่ยวหลิงผิดไปแล้ว เมื่อก่อนเฉี่ยวหลิงทำผิดไปก็จริงแต่เธอปรับปรุงตัวแล้ว” เหยียนหมิงต๋ายังคงพูดด้วยสีหน้าราบเรียบไม่สะทกสะท้าน

“แก…แกมันสติเลอะเลือน หมาเปลี่ยนนิสัยกินขี้ได้เหรอ? ถ้าแกยังเห็นฉันเป็นปู่ก็ไปเลิกกับผู้หญิงคนนี้ซะ…”

คุณปู่โมโหจนตัวสั่นหน้าดำหน้าแดง คุณย่าหยางลูบหลังเขาด้วยความเป็นห่วงพลางส่งสายตาให้เหยียนหมิงต๋าไม่หยุดเพื่อสื่อว่าให้เขาหยุดเถียงคุณปู่ได้แล้ว

“ตอนนี้หมากินหรูกว่าคนอีก เลิกกินขี้มาตั้งนานแล้ว” เหยียนหมิงต๋าอดพึมพำประโยคหนึ่งไม่ได้

คุณปู่เหยียนโกรธจนสำลักแล้วไออย่างรุนแรง เส้นเลือดตรงหน้าผากปูดโปนดูท่าทางน่ากลัวอย่างมาก

“หมิงต๋า เข้าไปที่ห้องหนังสือกับฉัน” เหยียนหมิงซุ่นลุกขึ้นยืนเดินตรงไปทางห้องหนังสือ

เหยียนหมิงต๋าลูบจมูกแล้วเดินตามหลังอย่างเชื่อฟัง

“ไอ้คนอกตัญญู…หลานทรพี…เอาไม้เท้าของฉันมา!”

คุณปู่สุขภาพแข็งแรงดีไม่หยอก พอพักหายใจครู่หนึ่งก็หมายจะไปเอาไม้เท้าแต่ถูกคุณย่าหยางดึงตัวไว้

“คุณหยุดเลย หมิงซุ่นกำลังสั่งสอนเขาอยู่ไง”

“น่าโมโหจริง ๆ…น่าโมโหจริง ๆ…”

คุณปู่ได้แต่พูดซ้ำ ๆ สีหน้าดูย่ำแย่แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก เหมยเหมยเลยค่อยวางใจลงบ้าง

ความจริงเธอยังมีข้อสงสัยอยู่ ดูจากท่าทางของเหยียนหมิงต๋าก็ไม่ได้รักโม่เฉี่ยวหลิงมากขนาดนั้นนี่นา!

เมื่อครู่ตอนทานข้าวแม้เหยียนหมิงต๋าจะคีบกับข้าวให้โม่เฉี่ยวหลิงหลายครั้งแต่เหมือนทำเอาฉาบหน้า เธอไม่สัมผัสถึงความสนิมสนมระหว่างคู่รักเลยสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความผูกพันเลย

นึกถึงแรก ๆตอนที่เธอคบกับเหยียนหมิงซุ่น แม้แต่อากาศรอบตัวยังลอยฟุ้งไปด้วยฟองสีชมพูด้วยซ้ำ!

เจ้าเหยียนหมิงต๋าต้องมีบางอย่างปิดบังอยู่แน่นอน!

สองพี่น้องเหยียนหมิงซุ่นคุยกันในห้องหนังสือนานชั่วโมงกว่า เหยียนหมิงต๋าไม่ได้ค้างที่บ้านแต่เลือกกลับไปที่พักของตัวเอง

“เหยียนหมิงต๋ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่? ระหว่างเขากับโม่เฉี่ยวหลิงมีความลับอะไรกันเหรอ?”

ยามเข้านอนเหมยเหมยก็เอ่ยถามในที่สุดเพราะทนไม่ไหวจริง ๆ

ดวงตาของเหยียนหมิงซุ่นฉายแววแปลกใจขึ้นมาชั่ววูบ เขาไม่คิดว่าเหมยเหมยจะไหวพริบดีขนาดนี้ แต่เรื่องนี้เขารับปากหมิงต๋าไว้แล้วว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง

“ไม่มีอะไร เธอคิดมากไปแล้ว นอนเถอะ…”

เหยียนหมิงซุ่นพูดคลุมเครือกลบเกลื่อน ไฟในดวงตาลุกโชนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็วาดแขนรั้งเหมยเหมยเข้ามาในอ้อมอก

“เรื่องคนอื่นเราอย่าไปยุ่งมากนักเลย…เรื่องนอนสำคัญกว่า…”

“นั่นน้องชายแท้ ๆของพี่เชียวนะ ใช่คนนอกที่ไหน…อืม…เบา ๆหน่อย…”

……

ภายใต้การจู่โจมอย่างรุนแรงของเหยียนหมิงซุ่น เหมยเหมยตัวอ่อนยวบละลายเป็นกองน้ำ…ตัวอ่อนแรงปวกเปียกปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทำตามอำเภอใจ…

………………