ตอนที่ 2379 แกคือเจ้าหมาป่าน้องเล็ก
เหมยเหมยไม่ได้คัดค้านข้อเสนอของเฮ่อเหลียนเช่อแต่ก็ไม่ได้เห็นด้วย
แต่หากความสัมพันธ์ของเสี่ยวเป่าและเล่อเล่อสามารถพัฒนาไปเป็นคนรักได้ เหมยเหมยก็คาดหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
เสี่ยวเป่าทั้งหน้าตาดีและฉลาดหลักแหลม วันข้างหน้าจะต้องกลายเป็นคนที่มีความสามารถมากแน่ สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือเธอชอบเสี่ยวเป่ามาก เธออยากให้เสี่ยวเป่ามาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
เหยียนหมิงซุ่นกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เสี่ยวเป่าเป็นคนดีก็จริงแต่เขามีสายเลือดของหนิงเฉินเซวียน ความชั่วร้ายของตระกูลหนิงเธอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ ใครก็ไม่อาจจะรับประกันได้ว่ารุ่นลูกรุ่นหลานของเสี่ยวเป่าจะเป็นอย่างไร พี่ไม่กล้าให้เล่อเล่อเสี่ยงเรื่องแบบนี้ด้วย”
นอกจากสาเหตุนี้แล้ว แค่เหยียนหมิงซุ่นคิดว่าจะต้องไปเป็นครอบครัวเดียวกันกับไอ้แก่หนิงเฉินเซวียน เขาก็รู้สึกสะอิดสะเอียนใจมากจนทนไม่ไหว
สีหน้าของเหมยเหมยเปลี่ยนไปเล็กน้อย หากเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้เตือนเธอคงลืมนึกถึงภูมิหลังของครอบครัวเสี่ยวเป่าไปแล้ว พ่อคือหนิงเฉินเซวียน แม่คืออู่เยวี่ย
ทั้งคู่ต่างเป็นบุคคลที่เธอเกลียดชังที่สุด แต่กลับให้กำเนิดเสี่ยวเป่าที่เธอชอบมากเหลือเกิน…
สิ่งแวดล้อมรอบตัวช่างมีอิทธิพลเสียจริง
เธอสามารถมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้ ความแค้นความเกลียดชังของคนรุ่นก่อนเธอไม่เอามาลงกับคนรุ่นต่อไปอยู่แล้ว แต่ความกังวลของเหยียนหมิงซุ่นนั้นสมเหตุสมผล เลือดของตระกูลหนิงน่าขยะแขยงจริง ๆ
“เฮ้อ…ค่อยว่ากันเถอะ หนิงเฉินเซวียนสมควรตาย ทำร้ายคนอื่นแล้วยังทำร้ายตัวเองด้วย!” เหมยเหมยสาปส่ง
“แอ๊ะ…แอ๊ะ…”
เล่อเล่อที่อยู่ในอ้อมแขนของเหยียนหมิงซุ่นร้องเรียกด้วยความดีใจอีกครั้ง สายตากลับจับจ้องไปที่เจ้าหมาป่าตัวน้อยที่กำลังกระดิกหางไปมาซึ่งถูกเสี่ยวเป่าตั้งชื่อให้ว่าเสวี่ยเสวี่ย
“เล่อเล่อ…นี่เป็นของขวัญที่พี่เสี่ยวเป่ามอบให้หนู มันชื่อว่าเสวี่ยเสวี่ย หนูจำไว้ให้ดีล่ะ!” เธอบีบพวงแก้มอวบอ้วนของลูกสาวเธอด้วยรอยยิ้ม ทั้งนุ่มทั้งลื่น บีบวันละหลายสิบทีทุกวันยังไม่เบื่อเลย
“เอ๊ะ ฉันต้องดูหน่อยแล้วสิว่าเสวี่ยเสวี่ยเป็นเพศผู้หรือเพศเมีย ถ้าเป็นเพศผู้แล้วชื่อเสวี่ยเสวี่ยคงไม่ได้” เหมยเหมยไล่จับเจ้าหมาป่าตัวน้อยด้วยท่าทีกระตือรือร้นโดยที่เธอลืมความดุร้ายของเจ้าหมาป่าตัวน้อยไปชั่วขณะ เจ้าหมาป่าตัวน้อยคำรามเสียงต่ำ แผงขนของมันตั้งชันเหมือนกับเข็มเหล็กและแยกเขี้ยวโชว์ฟันซี่เล็กขาว ๆ เหมยเหมยตกใจจึงรีบดึงมือกลับ
“แอ๊ะ…”
เล่อเล่อส่งเสียงร้องออกมาด้วยความโกรธเคือง แล้วตวัดมือฟาดใส่อย่างแรงเพราะไม่พอใจต่อท่าทีที่ไม่รู้จักความหวังดีคนอื่นของเจ้าหมาป่าตัวน้อย นั่นเป็นแม่ของฉันนะ จะดุใส่ทำไมกัน!
“อู้…วู…”
หมาป่าตัวน้อยหดหางของมันแล้วนั่งลงอย่างเชื่อฟัง นิ่งเงียบราวกับนก
เจ้านายคนใหม่ของมันโกรธแล้ว มันไม่สามารถก่อเรื่องได้แล้ว!
“เล่อเล่อ บอกให้มันนอนหงายโชว์ท้องให้ดูหน่อย” เหมยเหมยรู้สึกพึงพอใจขึ้นมาทันที ยังกล้าไม่เชื่อฟังคำสั่งเธออีกเหรอ แค่ลูกสาวเธอขู่ใส่หน่อยก็หมอบลงแล้ว
มุมปากของเหยียนหมิงซุ่นกระตุกเล็กน้อย โรคโง่เขลาของภรรยาเขารักษาไม่หายสักที ไม่คิดสักหน่อยเหรอว่าลูกสาวของพวกเขายังอายุไม่ถึงสองเดือนด้วยซ้ำจะเข้าใจภาษามนุษย์ไหม?
แต่ทว่า
“แอ๊ะ…” เล่อเล่อร้องขึ้น ทันใดนั้นเจ้าหมาป่าตัวน้อยก็นอนหงายจนเผยให้เห็นหน้าท้องอันเนียนนุ่มอย่างเชื่อฟัง งออุ้งเท้าทั้งสี่ข้างดูท่าทางทรมานไม่น้อย
แววตาของเหยียนหมิงซุ่นลุกวาวด้วยความประหลาดใจ ท้องเป็นจุดสำคัญของหมาป่า ถ้าไม่โดนบังคับจริง ๆคงไม่มีทางโชว์หน้าท้องของมันเด็ดขาด แต่ตอนนี้เพียงแค่เล่อเล่อออกคำสั่งเจ้าหมาป่าตัวน้อยก็รีบเผยจุดสำคัญให้เห็นทันที
อีกทั้งยังไม่ต่อต้านเวลาอยู่กับเหมยเหมยแล้วด้วย
“หมาป่าคงเหมือนกับหมาแหละมั้ง ฉันส่องหน่อยซิว่ามีหรือเปล่า….”
เหมยเหมยย่อตัวลงและมองหาตำแหน่งสำคัญอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่เห็นแท่งน้อย ๆ…
“น่าจะเป็นเพศเมียนะ?” เหมยเหมยก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วมองไปที่เหยียนหมิงซุ่นอย่างสงสัย
หมาป่าตัวน้อยส่งเสียงคำรามอย่างไม่ชอบใจ ฉันเป็นถึงเจ้าหญิงหมาป่าผู้งดงาม แม่ของเจ้านายมีตาหามีแววไม่ สมองก็โง่เง่าเสียเหลือเกิน
“ใช่แล้ว เป็นเพศเมีย” เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้าพยายามกลั้นขำไว้
“ถ้าอย่างนั้นชื่อเสวี่ยเสวี่ยก็เหมาะแล้ว วันหลังก็เรียกเสวี่ยเสวี่ยแล้วกัน ในบ้านเรายังมีพี่ใหญ่ฉิว พี่รองฉาซึ่งอีกไม่นานก็จะกลับมาแล้ว ต่อไปแกก็จะกลายเป็นน้องคนเล็ก ต้องเชื่อฟังล่ะ!” เหมยเหมยสั่งสอน
เจ้าหมาป่าตัวน้อยร้องฮึด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง แววตาเหมือนไม่จำยอม มันเป็นถึงลูกหลานแห่งราชาหมาป่า แล้วจะให้มันเป็นน้องคนเล็กได้อย่างไรกัน?
รอเจ้าโง่สองตัวนั้นกลับมาแล้วค่อยเบ่งอำนาจใส่พวกเขาอีกทีแล้วกัน!
……………………………………….
ตอนที่ 2380 พวกเรากินน้อยลงหน่อยดีไหม
ในที่สุดก็รอจนครบสองเดือนเต็มสักที เหมยเหมยอาบน้ำอย่างมีความสุข เดิมทีในวันที่ครบหนึ่งเดือนเธอก็คิดอยากจะอาบน้ำให้สบายตัวสักหน่อย แต่คุณย่าหยางและป้าฟางกลับห้ามเธอไว้บอกว่าตอนเธอคลอดเสียแรงไปไม่น้อย จึงต้องค่อย ๆบำรุงปรับสภาพร่างกาย ทางที่ดีที่สุดจึงควรรอครบสองเดือนก่อนจะดีกว่า
ด้วยเหตุนี้ช่วงสองเดือนนี้เหมยเหมยจึงไม่กล้าอาบน้ำนาน ๆ เธอใช้แค่น้ำร้อนเช็ดร่างกายให้พอสะอาด ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่มีกลิ่นเหม็นแต่อย่างไรเสียก็รู้สึกไม่สบายตัวอยู่ดี
ตัวเหยียนหมิงซุ่นเองก็ใจร้อนเช่นกัน พอครบสองเดือน เขาก็จะสามารถ…ได้
อดทนมาตั้งครึ่งปี อัดอั้นมากจริง ๆ!
เหมยเหมยล้างทำความสะอาดตัวเองให้สะอาด อย่างน้อยก็กำจัดพวกขี้ไคลออกไปได้เป็นกิโล พอได้ทำความสะอาดตั้งแต่หัวจรดเท้าก็พลันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที
“ชั่งน้ำหนักเล่อเล่อดูหน่อยซิ หนักเพิ่มขึ้นมาเท่าไรแล้วนะ”
เหมยเหมยเลื่อนเอาตาชั่งออกมาเพื่อเตรียมชั่งน้ำหนักให้เล่อเล่อ ไม่ได้ชั่งมาตั้งเดือนหนึ่งแล้ว สาวน้อยอวบอ้วนจะต้องหนักเพิ่มขึ้นไม่น้อยแน่ ๆ
“11.2 กิโลกรัม…”
เหมยเหมยมองลูกสาวอย่างหมดคำพูด โชคดีที่สูงกว่าเด็กในวัยเดียวกันอยู่บ้างเลยมองดูแล้วตัวไม่กลมเหมือนลูกบอล แต่ก็ใกล้เคียงมากแล้วล่ะ
คุณย่าหยางกับป้าฟางมักจะอุ้มเล่อเล่อไปตากแดดที่สวนสาธารณะ คนอื่นจะชอบนึกว่าเล่อเล่ออายุหกเดือนแล้ว แต่หากรู้ว่าเล่อเล่อเพิ่งจะอายุได้แค่สองเดือน ไม่รู้ว่าจะตกใจขนาดไหน
“วันหลังพวกเรากินน้อยลงหน่อยดีไหม?”
เหมยเหมยปรึกษาด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่อ่อนโยน ความสูงของเล่อเล่อแน่นอนว่าไม่ถือว่าเตี้ยนัก แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเจ้าอ้วนสูง 1.8 เมตร มองแล้วจะเหมือนภูเขายักษ์ยิ่งกว่าไหมนะ
“แอ๊ะ…”
เล่อเล่อโบกมือไปมาด้วยท่าทีไม่ชอบใจ ใบหน้าอ้วนกลมของเธอดูจริงจังมาก ดวงตาของเธอประกายไฟแห่งโทสะ
อยู่ดี ๆจะให้เธอกินน้อยลงงั้นเหรอ?
แม่สติเลอะเลือนไปแล้วหรือไง!
เธอกำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโตนะ แล้วจะกินน้อยลงได้อย่างไรกัน?
คุณย่าหยางชอบใจเหลือเกินแล้วรีบเอ่ยขึ้นว่า “อย่าไปฟังแม่หนูนะ เล่อเล่อของเราต้องกินให้เยอะ ๆหน่อย อยากจะกินอะไร ย่าทวดจะทำให้กินนะ”
“คิก ๆ…” เล่อเล่อหัวเราะอย่างมีความสุข
เพราะเธอชอบกินมากที่สุดแล้ว!
เหมยเหมยหยิกแก้มยุ้ยของลูกเธออย่างนึกโมโห “รู้จักแต่กินนะเรา รอเรากินจนอ้วนเหมือนหมู ตอนนั้นจะมาร้องไห้ก็สายไปแล้ว!”
โดยเฉพาะเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อให้รูปร่างหน้าตาสะสวยราวกับนางฟ้าแต่ถ้าอ้วนจนกลายเป็นหมูอ้วน ถึงจะสวยดั่งดอกไม้ก็คงเป็นไปไม่ได้
“ไม่เป็นไรหรอก วันหลังรอเล่อเล่อโตแล้วค่อยให้ออกกำลังกายเยอะหน่อย กินเท่าไรก็ไม่อ้วนหรอก” คุณย่าหยางไม่เห็นด้วย เธอมองโลกในแง่ดีพอ ๆกับเหยียนหมิงซุ่น
เหมยเหมยลอบถอนหายใจ หวังว่าในอนาคตจะลดน้ำหนักได้ง่ายอย่างที่คิดไว้แล้วกัน!
“หมิงต๋าจะมาทานอาหารเย็นด้วย ย่าจะไปทำของโปรดเขาสักสองสามอย่างก่อน” คุณย่าหยางเล่นกับเล่อเล่อได้สักพักก็เตรียมจะไปทำอาหารในห้องครัวต่อ
เหมยเหมยวางเล่อเล่อลงบนพื้นเพื่อให้เธอได้เล่นสนุกกับเสวี่ยเสวี่ย เล่อเล่อที่มีอายุได้แค่สองเดือนไม่เพียงแต่ตัวสูงและตัวอ้วนกลมเท่านั้นแต่ยังพลิกตัวได้แล้วด้วย เด็กคนอื่นอายุสามเดือนแล้วยังพลิกตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ!
“ช่วงนี้หมิงต๋าเขาทำอะไรอยู่เหรอ? ยังติดต่อกับโม่เฉียวหลิงอยู่ไหม?” เหมยเหมยถามขึ้น
ลุงเหลาถ่ายรูปตอนที่เหยียนหมิงต๋ากับโม่เฉียวหลิงอยู่ด้วยกันไว้ได้ เนื่องจากเธอให้กำเนิดเล่อเล่อจึงปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน ต่อมาเหยียนหมิงซุ่นคิดขึ้นได้ในภายหลัง แต่เหยียนหมิงต๋าบอกว่าเขาแค่เป็นเพื่อนกับโม่เฉียวหลิงเฉย ๆเท่านั้น แล้วยังบอกว่าพวกเขาคิดมากเกินไปอีกด้วย
คุณย่าหยางรู้เรื่องนี้ที่ไหน “รอหมิงต๋ามาก็ค่อยถามสิ ผู้หญิงอย่างโม่เฉียวหลิงจะเอามาได้อย่างไร ฉันขอเป็นโสดดีกว่า!”
หญิงชรารู้เรื่องโม่เฉียวหลิงมาจากป้าฟาง เธอรู้สึกขยะแขยงสาวไร้ยางอายเช่นนี้ที่สุด สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือเธอเป็นผู้หญิงที่อยากได้ผู้ชายที่มีภรรยาแล้วเสียด้วย
อย่างเช่น ถานซูฟาง
หญิงชราไม่เคยให้อภัยผู้หญิงคนนี้เลยมาตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นจะไม่ยอมปล่อยให้หลานคนเล็กหาผู้หญิงที่เหมือนแม่ของเขาเด็ดขาด
ยามฟ้าเริ่มมืดลงเหยียนหมิงซุ่นกลับบ้านก่อน ไม่นานเหยียนหมิงต๋าก็มาถึง เพียงแต่ว่า…
เขาพาโม่เฉียวหลิงกลับมาด้วยจริง ๆ!
ทันใดนั้นเหมยเหมยพลันรู้สึกโกรธขึ้นมา และแสดงท่าทีไม่ค่อยดีต่อเหยียนหมิงต๋า
………………………