ตอนที่ 2867 กองทัพแสน!
“น้อง…อาจารย์ท่านทำได้อย่างไรกัน? การซ่อมแซมเช่นนี้ข้าไม่เคยได้เห็นได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย!” เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง แม้แต่คำเรียกตัวเย่หยวนเองก็ยังเปลี่ยนไป
เขานั้นอยู่ในมหานครฉีใต้นี้มากว่าสามพันปีแล้ว
ค่ายกลป้องกันเมืองนี้มันถูกโจมตีและซ่อมแซม ซ่อมแซมแล้วก็ถูกโจมตีวนซ้ำไปมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้าหลายต่อหลายคนที่มายังเมืองนี้ต่างก็ตายตกกันไปและมีคนใหม่เข้ามาแทนที่เรื่อยๆ
แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นกลับไม่เคยเห็นว่าใครทำได้เช่นนี้มาก่อน
หลิวอี้และพวกนั้นต้องหุบปากลงไปทันที
เขานั้นได้แต่ต้องยืนขนลุกทั้งตัว
‘ฉิบหาย ข้าทำอะไรลงไป?’
‘เกือบทำให้ผู้กอบกู้ต้องตายแล้ว!’
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านเจ้าเมืองไม่ต้องกล่าวเช่นนั้นหรอก เรื่องแค่นี้มันก็แค่ลูกไม้เท่านั้น ให้พูดตรงๆ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย”
คนทั้งหลายนั้นแทบอยากจะเดินไปตบหน้าเย่หยวน ‘เจ้าลงมืออย่างเหนือล้ำจนแม้แต่จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้ายังแทบฉี่ราดแต่เจ้ากลับบอกว่าแค่ลูกไม้ จะไม่โม้หน่อยไม่ได้เลยหรือ?’
แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นคือใคร?
เขานั้นฟังความหมายของคำพูดเย่หยวนนี้ออกได้ทันทีจนตัวสั่นถามขึ้นมา “ท่านจะบอกว่าวิธีการเหนือฟ้าเช่นนี้มันสามารถทำได้ไม่ยากเย็นหรือ?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “แน่นอนไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะบอกให้พวกเขาหยุดมือก่อนหรือ?”
เฟิงเสี่ยวเถียนสูดหายใจเข้าลึกด้วยความรู้สึกตื่นเต้นสุดใจ!
คนกว่าหนึ่งพันนั้นใช้วิชาเช่นนี้ออกมาพร้อมๆ กันมันจะต้องเป็นการซ่อมแซมที่รวดเร็วปานใด?
แค่คิดเขาก็ใจสั่นแล้ว!
เฟิงเสี่ยวเถียนก้มหัวลงต่ำต่อหน้าเย่หยวน “อาจารย์ ช่วยสั่งสอนวิชานี้ด้วยเถอะ! หากเราสามารถหยุดเผาเลือดไว้ได้จริงๆ แล้วท่านจะเป็นแม่ทัพทรงเกียรติของมหานครฉีใต้เราเลย!”
เย่หยวนรีบเข้าไปประคองเฟิงเสี่ยวเถียนขึ้นมาก่อนจะกล่าว “ท่านเจ้าเมืองไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก พี่น้องเรานั้นต่างต่อสู้กับเผ่าเลือดด้วยชีวิตกันทั้งสิ้น ทำไมเย่ผู้นี้ถึงจะยังมาหวงวิชาใดๆ อีกเล่า? วิชานี้แท้จริงแล้วมันมีนามว่าศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อย มันเป็นวิชาที่ใช้เพื่อซ่อมแซมมหาค่ายกลเช่นนี้โดยเฉพาะทีเดียว!”
“เดี๋ยวนะ! เจ้าบอกว่ามันคือศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อย?” ข้างๆ กายเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นมันมีจอมเทพค่ายกลสวรรค์รับเก้านามว่าเวิงฟานยืนอยู่ วินาทีที่ได้ยินคำพูดของเย่หยวนเขาก็ต้องร้องลั่นขึ้นมา
เย่หยวนพยักหน้าตอบกลับไป “เป็นวิชานั้น!”
เวิงฟานนั้นสูดหายใจเข้าลึกทันทีเมื่อได้ยิน “ตำนานว่ากันว่าศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยและใหญ่นั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยท่านเจ้าโลกหลัวเทียน จอมเทพค่ายกลสวรรค์อันดับหนึ่งของยุคก่อน! มันเป็นสิ่งที่สามารถซ่อมแซมทุกค่ายกลได้อย่างไม่มียกเว้น! แต่วิชานี้มันหายไปจากแผ่นดินอย่างนานจนเกินนับ น้องชายเจ้ากลับจะบอกว่าเจ้ามีวิชานี้อยู่ในมืออย่างนั้นหรือ?”
แท้จริงแล้วการพ่ายแพ้ของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันทำให้สามสิบสามสวรรค์ต้องสูญเสียอะไรไปมากมายเช่นกัน
เพราะวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นเติบโตขึ้นมาได้ด้วยการปล้นชิงยอดวิชานิกายต่างๆ มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นหนังสือบันทึกสมบัติล้ำค่าหรือวิชาใดๆ ต่างถูกวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเก็บไว้อย่างมากมาย
แต่ตอนที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตถูกบุกนั้นสมบัติมากมายมันได้ถูกทำลายลงไปพร้อมๆ กับวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต
ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยนี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น
หมี่เทียนกล่าวว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ มันคือศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดใหญ่
แต่ว่าศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดใหญ่นั้นมันย่อมจะอยู่ในส่วนลึกของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต เย่หยวนจึงได้เพียงแค่ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยกลับออกมา
แต่เป้าหมายของศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยนี้มันก็เพื่อใช้ในการซ่อมแซมมหาค่ายกลนี้เอง!
วิชาลับนี้มันไม่อาจใช้ประโยชน์ได้มากมายแต่หากมีที่ให้มันใช้งานแล้วมันย่อมจะเหนือล้ำกว่าวิชาใดๆ
สิ่งที่เรียกว่าศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยนี้แท้จริงแล้วมันเป็นสูตร
ไม่ว่าค่ายกลหนึ่งมันจะซับซ้อนไปแค่ไหนมันก็ไม่พ้นกฎแห่งค่ายกลและศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยนี้มันก็คือสิ่งที่ใช้แทนค่าในการหาสูตรสำเร็จของค่ายกล
ตราบเท่าที่ค่ายกลนั้นมันถูกสร้างขึ้นมาตามหลักการของค่ายกลทั่วไปแล้ว มันก็ย่อมจะสามารถซ่อมแซมจุดพลังงานต่างๆ ได้อย่างไม่เป็นปัญหาใด
แน่นอนว่าพูดมันง่ายแต่ทำนั้นมันยาก คนที่จะใช้สูตรนี้ได้ต้องมีความรู้ด้านเต๋าค่ายกลอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็จะไม่รู้ว่าต้องหยิบเอาส่วนไหนของค่ายกลมาแทนค่าในศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อย
แต่คนที่สร้างสูตรเช่นนี้ขึ้นมาได้นั้นมันย่อมจะต้องเป็นคนที่เข้าใจเต๋าค่ายกลอย่างลึกล้ำจนสามารถหาจุดร่วม ของค่ายกลทุกชนิดมาคิดเป็นสูตรได้!
เพราะฉะนั้นแม้มันจะง่ายแต่แท้จริงแล้วมันก็ยาก!
เหมือนอย่างเลขหนึ่งบวกหนึ่งนั้นใครๆ ก็รู้ว่าคำตอบคือสอง
แต่มีใครบ้างที่จะรู้ว่าทำไมต้องเป็นสอง
ต่อให้จะเป็นยอดคนแค่ไหนพวกเขาก็ต้องใช้เวลาในการหาคำอธิบายเรื่องนี้ออกมา
ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่เจ้าโลกหลัวเทียนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีเต๋าค่ายกลถึงระดับนั้น!
เพราะฉะนั้นตั้งแต่ที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตแตกสลายไป วิชานี้เองมันก็หายไปกับสงครามด้วย ตอนนี้วิชานี้มันจะได้เห็นแสงตะวันอีกครั้ง แน่นอนว่าเหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์จะต้องตื่นเต้นจนตัวสั่นอย่างไม่อาจห้ามได้
จากนั้นเย่หยวนก็ได้สั่งสอนศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยให้แก่คนทั้งหลาย
สิ่งนี้มันคือสูตรลับ ตราบเท่าที่จำได้มันก็ย่อมจะไม่ยากอะไรแล้ว
แน่นอนว่ามันยังจะมีความยากเรื่องการหาค่าแทนสูตรอยู่
การจะใช้สูตรนั้นมันก็ต้องมีความรู้
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเต๋าค่ายกลนั้นมันก็มิใช่คณิตศาสตร์เสียทีเดียว มันยุ่งยากเกินกว่ากันไปมาก
ต่อให้เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นจะเก่งกาจแต่พวกเขาก็ยังไม่อาจจะเรียนรู้มันได้ง่ายๆ
กระบวนการสั่งสอนนี้กินเวลาถึงสามวัน
แต่ว่าการได้อุปกรณ์ใหม่ที่ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้นร้อยเท่า ต่อให้จะใช้เวลาเรียนรู้สามวันมันก็คุ้ม
ตอนนี้มันไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนมาเพื่ออวดโม้ตัวใดๆ อีกต่อไปแล้ว
คนที่เคยด่าว่าเย่หยวนก่อนหน้านั้นต้องก้มหน้าเรียนไปด้วยความอับอาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลิวอี้ที่เกือบลงมือทำร้ายเย่หยวนนั้นเขาได้มาขอโทษขอโพยพร้อมตบปากตัวเองไม่หยุดมือ
เขานั้นแทบทำให้เกิดหายนะ!
หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองเฟิงนั้นตาดีแยกแยะคนออกแล้ว เขาก็คงเป็นคนร้ายที่ทำให้เผ่าเลือดได้รับชัยชนะเหนือทวีปสวรรค์แรกในครั้งนี้ไป
ถึงเวลานั้นเขาคงได้กลายเป็นคนบาปของทวีปสวรรค์แรกแล้ว!
…
ข่าวเรื่องการหยุดซ่อมแซมมหาค่ายกลนั้นมันก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งค่ายของเผ่าเลือดเช่นกัน
มหาจักรพรรดิล้ำเฉียนั้วนั้นถึงขั้นออกไปยืนมองหน้าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เพื่อดูสภาพมหานครฉีใต้อยู่ไกลๆ
แน่นอนว่าทุกสิ่งอย่างมันเงียบกริบไร้การเคลื่อนไหว
หนึ่งวัน สองวัน สามวัน!
ทั้งมหานครฉีใต้นั้นมันไม่มีใครออกมาซ่อมแซมกำแพงเมืองเลย
แต่ว่าเขานั้นก็ได้เห็นเช่นกันว่ามียอดฝีมือมากมายหลั่งไหลเข้ามหานครฉีใต้มา ดูท่าพวกเขาคงได้รับกำลังเสริมไม่น้อย
มหานครฉีใต้นั้นเตรียมตัวที่จะเข้าสู่สงครามครั้งใหญ่แล้ว!
แต่หากไม่มีมหาค่ายกลป้องกันเมืองแล้วเผ่าเลือดจะยังต้องกลัวอะไรอีก?
แต่เมื่อถึงวันที่สี่นั้นการซ่อมแซมกำแพงมันกลับเริ่มขึ้นอีกครั้ง!
ได้ยินเช่นนั้นเฉียนั้วก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้
“หรือว่าเฟิงเสี่ยวเถียนมันจะเสียสติไปแล้วจริงๆ? เวลาที่เหลือแค่ห้าวันนั้นมันกลับเสียเวลาสามวันไปเปล่าๆ และเพิ่งมาซ่อมแซมมหาค่ายกลตอนเหลือเวลาแค่สองวันเช่นนี้? สองวันมันจะทำอะไรได้บ้าง?”
เฉียนั้วนั้นย่อมจะเข้าใจถึงสภาพของมหาค่ายกลอย่างดี
อย่าว่าแต่สองวัน ต่อให้จะมีเวลาเป็นเดือนมันก็ไม่แน่ว่าจะทำอะไรได้มากมาย!
เพราะฉะนั้นเขาจึงเย้ยหยันว่าเฟิงเสี่ยวเถียนเสียสติไปแล้ว
ในที่สุดศัตรูร้ายของเขามันก็เสียท่าให้จิตใจตัวเอง!
ส่วนเรื่องที่ว่าการซ่อมแซมนั้นดำเนินไปเร็วช้าอย่างไรนั้นพวกเขาไม่อาจคาดเดาได้
เหตุผลหนึ่งนั้นมันก็เพราะว่าพวกเขานั้นได้แต่มองดูไกลๆ
ส่วนอีกเหตุผลนั้นก็คือค่ายกลป้องกันเช่นนี้หากไม่ถูกเปิดใช้งานมันก็ไม่อาจจะวัดเดาพลังได้เลย
เรื่องเช่นนั้นหากไม่เข้าไปใกล้เมืองเพื่อทดสอบแล้วมันย่อมจะไม่มีทางรู้ได้
เมื่อครบห้าวันเผ่าเลือดก็เตรียมกำลังเสร็จสิ้น!
ครั้งนี้พวกเขาจะส่งกำลังเข้าไปบุกถึงหนึ่งแสนคน!
จำนวนเท่านี้มันคือจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะผ่านรูของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นี้ไปได้แล้ว
มากกว่านี้แล้วเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์จะสังหารพวกเขาลงแทน!
แน่นอนว่าด้านนอกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นเหล่าเจ้าโลกต่างทำอะไรไม่ได้
ไม่เช่นนั้นต่อให้จะมีกองทัพนับแสนแต่หากเจ้าโลกลงมือมันก็คงไม่มีค่าอะไร
เฉียนั้วยืนนำหน้ากองทัพด้วยท่าทางสุดองอาจ!
“ลูกหลานทั้งหลาย! วันนี้มันจะเป็นวันที่เราได้ทำลายเขตแดนสวรรค์แรกลงอย่างแท้จริงแล้ว! ตราบเท่าที่เราตีมหานครฉีใต้แตกได้เราก็จะกลายเป็นวีรบุรุษของเผ่าเลือดทันที! ถึงตอนนั้นเราจะได้รับเกียรติเชิดชูอย่างสูงส่ง! ข้านั้นจะสามารถบรรลุระดับเจ้าโลกและพวกเจ้านั้นก็จะได้รับการขนานนามว่าเป็นวีรบุรุษเช่นกัน! การสำเร็จหรือล้มเหลวเราก็จะได้รู้กันวันนี้แล้ว!” เฉียนั้วร้องลั่นขึ้นมาปลุกใจ
“มหาจักรพรรดิล้ำจงเจริญ!”
“เผ่าเลือดจะต้องชนะแน่นอน!”
…
เสียงร้องโห่นั้นมันดังลั่นไปจนทำให้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์สั่นสะเทือน
“เอาล่ะ บุกไปทำลายมหานครฉีใต้มันให้ราบ!”
“บุกฉีใต้ให้ราบ!”
“บุกฉีใต้ให้ราบ!”
“บุกฉีใต้ให้ราบ!”
เผ่าเลือดนั้นเคลื่อนพลออกมา
พวกเขานั้นเข้าใจว่าเฟิงเสี่ยวเถียนยอมแพ้เรื่องมหาค่ายกลไปแล้ว!
มหานครฉีใต้ที่ไม่มีมหาค่ายกลป้องกันนั้นมันอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานพวกเขาได้!
กองทัพนับแสนนั้นเดินหน้าเข้าสู่เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ด้วยความฮึกเหิมอย่างมากล้ำ!
……………………………………………….