ตอนที่ 2866 ซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว!
“เจ้าหมายความว่าพวกเราทั้งหนึ่งพันกว่าคนนี้รวมถึงเหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับแปดระดับเก้านั้นเก่งกาจไม่เท่าเจ้า จักรพรรดิเซียนแค่คนเดียว?” หลิวอี้มองหน้าเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นมา
‘หากเจ้าไม่โม้แล้วหมายความว่าเป็นพวกข้าที่โม้?’
เด็กน้อยที่เพิ่งมาถึงมันกลับมาพูดจาอวดดี ช่างโอหังเสียจริง!
หลิวอี้นั้นเตรียมยกมือสังหารเย่หยวนขึ้นมาแล้ว
เย่หยวนที่เห็นต้องขมวดคิ้วแน่นคิดอยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงขึ้นมาทันที
แต่ทำเช่นนั้นเรื่องทั้งหมดมันก็คงไร้ความหมายแล้ว
เขานั้นคงไม่อาจจะอยู่ในมหานครฉีใต้ได้อีกหากคนรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา
แต่วินาทีนั้นเองที่เขาเหลือบไปเห็นเฟิงเสี่ยวเถียนกำลังหันมามองและนึกอะไรขึ้นมาได้ “เจ้าพูดถูกแล้ว! ข้านั้นไม่ใช่คนชอบดูถูกคนหรอกแต่ว่าพวกเจ้าทั้งหลายในที่นี้มันมีแต่ขยะทั้งสิ้น! วิธีไม่ต้องให้คนตายก็มีมากมายแต่เจ้ากลับเอาชีวิตคนมาใช้เล่น หากไม่ใช่ขยะแล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไร?”
คำพูดเดียวนี้มันทำให้ทั้งเมืองต้องสั่นคลอน!
คนทั้งหลายนั้นต่างหยุดมือและหันมามองเป็นตาเดียว
แน่นอนว่าตัวเฟิงเสี่ยวเถียนเองก็เช่นกัน
ได้ยินเช่นนั้นตัวเขาก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงทันที
เจ้าเด็กนี่มันมาจากที่ไหนทำไมถึงได้โอหังปานนี้?
หลิวอี้เองก็ผงะไปเช่นกัน เจ้าเด็กนี่มันช่างกล้า!
“ฮ่าๆๆ ไอ้คนโอหังหลงตัวเอง เจ้าคงมาเพื่อสร้างปัญหาเท่านั้นแล้ว! การซ่อมแซมมหาค่ายกลนี้มันต้องมาเสียเวลาเพราะเจ้าโดยแท้! ตายเสียเถอะ!”
หลิวอี้ร้องขึ้นมาอย่างคับแค้นใจคิดโจมตีเข้าใส่เย่หยวนทันที
“หยุด!”
ในตอนนั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
คนที่พูดนั้นย่อมจะเป็นเฟิงเสี่ยวเถียนแล้ว
หลิวอี้หันกลับไปกล่าวรายงาน “ท่านเจ้าเมืองเฟิง ไอ้เด็กคนนี้มันมาขวางการซ่อมแซมขอรับท่าน ข้าน้อยแค่จะจัดการสังหารมันเพื่อลงโทษตามกฎกองทัพเท่านั้น!”
เฟิงเสี่ยวเถียนยกมือขึ้นมาห้ามตัวหลิวอี้ไว้และหันมาถามเย่หยวน “น้องชาย ที่แห่งนี้มันคือสนามรบเจ้าจะพูดอะไรที่ไม่รู้ไม่ได้! หากเจ้าทำไม่ได้มันมิใช่แค่เจ้าที่จะลำบากแต่นิกายที่ส่งเจ้ามานั้นก็จะเสียชื่อไปด้วย!”
เมื่อเย่หยวนเห็นเฟิงเสี่ยวเถียนเดินเข้ามาเขาก็ต้องลอบถอนหายใจยาวทันที
เขามองไม่ผิดจริงๆ!
คำพูดโอ้อวดก่อนหน้านั้นมันก็เพื่อจะทำให้คนทั้งหลายหันมาสนใจ
และคำพูดสุดท้ายของเขานั้นมันก็เพื่อจะเรียกให้เฟิงเสี่ยวเถียนมาหา
เขานั้นรักลูกน้องอย่างมาก ย่อมจะไม่ยอมปล่อยคนในกองทัพไปตายอย่างไร้ค่าได้!
หากมันมีวิธีใดที่จะลดอัตราการตายลงได้และยังพอสามารถซ่อมแซมกำแพง เขาก็ย่อมจะเข้ามาฟังมันอย่างตั้งใจแน่นอน
แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้
ในความเป็นจริงนั้นเฟิงเสี่ยวเถียนเองก็รู้ดีกว่าใครว่าห้าวันมันไม่พอทำอะไรเลย
ต่อให้คนทั้งพันนี้จะตายตกลงไปมันก็คงไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงผลของศึกครั้งนี้ได้
แต่หากมหาค่ายกลมันแข็งแกร่งขึ้นมาได้บ้างพวกเขาก็จะสังหารเผ่าเลือดได้เพิ่มมากขึ้น ถามว่าใช้ชีวิตทหารหนึ่งพันและเผ่าเลือดสองพันมันคุ้มค่าหรือไม่?
แน่นอนว่ามันคุ้ม!
นี่มันคือทางเลือกสุดท้ายที่เขาไม่เลือกไม่ได้แล้ว!
เย่หยวนพยักหน้ารับเมื่อได้ยิน “ข้าพร้อมจะลงนามในสัญญากองทัพ! ให้เวลาข้าหนึ่งชั่วโมงแล้วข้าจะซ่อมกำแพงในระยะนี้ให้! หากข้าทำไม่ได้ข้าก็ยอมจะรับผิดด้วยชีวิตนี้!”
“ท่านเจ้าเมือง เจ้าเด็กนี่มันแค่มาเพื่อสร้างเรื่องให้ทหารลำบากใจเท่านั้น! มีหรือที่จักรพรรดิเซียนน้อยคนหนึ่งจะทำเรื่องเช่นนั้นได้?”
“ใช่แล้ว ท่านเจ้าเมือง เลิกพูดจาไร้สาระกับมันเถอะ เวลามันจะเสียไปเปล่าๆ!”
“ไอ้เด็กนี่มันอาจจะเป็นสายลับจากเผ่าเลือดก็ได้!”
…
ไม่มีใครคิดเชื่อคำของเย่หยวน
เพราะมันบ้าเกินไป!
คนคนเดียวนั้นกลับจะทำงานแทนที่คนรับร้อยได้ในเวลาแค่ชั่วโมงเดียว?
มันไม่มีใครกล้าโม้เช่นนี้!
แต่ว่าเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นกลับยกมือขึ้นมาห้ามคนทั้งหลาย “เพื่อความปลอดภัยของทุกคนแล้วเจ้าเมืองคนนี้ยอมที่จะเสี่ยงเดิมพัน! ต่อให้จะถูกหลอกมันก็ไม่มีปัญหา!”
ใช่แล้ว เขาแค่เดิมพันเท่านั้น!
เพราะเขาเองก็ไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะทำได้เช่นกัน
แต่เขานั้นพร้อมที่จะเดิมพัน! เพราะแม้โอกาสเพียงหนึ่งในล้านมันก็ดีกว่าส่งคนนับพันไปตายเปล่าๆ เช่นนี้
ผลลัพธ์นั้นต่อให้ตายน้อยลงแค่คนเดียวมันก็ถือว่าดีเลิศแล้ว!
แต่ก็เพราะว่าความห่วงใยต่อทหารของเขานี้ที่มันทำให้ชื่อเสียงของเขาในมหานครฉีใต้ได้รับการยกย่องสูงล้ำ
มหานครฉีใต้นั้นมันเป็นเมืองที่มีจิตใจเป็นหนึ่งและพร้อมต่อสู้แลกชีวิต
เฟิงเสี่ยวเถียนมองหน้าเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่ต้องเขียนอะไรทั้งนั้นแหละ หากเจ้าหลอกลวงคนแล้วเจ้าเมืองผู้นี้จะลงมือส่งเจ้าไปนรกเอง!”
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปมองดูค่ายกลที่เสียหายตรงหน้า
มหาค่ายกลเชื่อมต่อนั้นมันเป็นอะไรที่สุดแสนยุ่งเหยิง!
อย่าว่าแต่จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับห้า ต่อให้จะเป็นจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับแปดเองก็คงไม่อาจจะเข้าใจมันได้แน่นอน
การซ่อมแซมของมันนั้นต้องใช้จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้ามาจัดแจงงานให้ไม่เช่นนั้นมันก็คงไม่มีทางซ่อมแซมอะไรได้
เพราะไม่ว่าจะเป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ซับซ้อนแค่ไหนมันก็เกิดขึ้นมาจากพลังงานน้อยๆ หลายจุด
เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับต่ำทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเข้าใจมันทั้งหมดได้แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาไม่อาจซ่อมแซมมันกลับมาได้
เพราะว่ามหาค่ายกลนี้มันถูกวิเคราะห์มาอย่างดีและทำการแจกแจงว่าส่วนไหนใช้ค่ายกลระดับใดในการก่อสร้างซ่อมแซมได้
มันไม่ต่างอะไรจากงานก่อสร้าง แต่ละคนนั้นก็วางอิฐหล่อปูนไปในจุดต่างๆ กัน
แต่หากทำไปตามแผนเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายบ้านมันก็จะตั้งเป็นหลังขึ้นมาได้
เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ทั้งหลายนั้นไม่อาจเข้าใจมหาค่ายกลได้ แต่มันก็เหมือนที่คนงานก่อสร้างไม่ต้องอ่านแบบแปลนออกแต่ก็ยังสามารถทำงานให้สำเร็จไปได้
คนที่เข้าใจและวางแผนมาจริงๆ นั้นมันคือเหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้าทั้งหลายต่างหาก!
การซ่อมแซมจุดที่เย่หยวนบอกนั้นมันไม่ใช่แค่การทำงานของคนร้อยคนแต่มันยังต้องเป็นการทำงานด้วยความเข้าใจต่อมหาค่ายกลในพื้นที่นี้ทั้งบริเวณ!
แต่เขานั้นเป็นแค่ระดับห้า!
เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ทั้งหลายนั้นเป็นคนใน พวกเขาย่อมจะไม่มีใครเลือกเข้าข้างคิดว่าเย่หยวนจะทำได้จริง
เย่หยวนเองก็ไม่ลงมือซ่อมแซมทันทีแต่ว่าค่อยๆ เดินมองดูมหาค่ายกลในบริเวณนี้ ทำหน้าตาเหมือนผู้เชี่ยวชาญที่ลงมาตรวจงาน
ภาพนี้มันย่อมจะทำให้เกิดเสียงเย้ยหยันขึ้นรอบด้าน
หลิวอี้นั้นยิ้มกว้างขึ้น “วางท่าเสียจริง! อย่าว่าแต่งานของร้อยคน หากมันทำงานของคนเดียวให้สำเร็จได้ข้าก็จะบุกไปยังค่ายเผ่าเลือดเพื่อสังหารศัตรูให้ดู!”
ฉีลี่กล่าวขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน “ท่านเจ้าเมืองเรานั้นห่วงชีวิตของเราจนเกินไป ช่างน่านับถือนัก! เพียงแค่ว่าไอ้เด็กนี่มันคงทำให้คนต้องเสียเวลาเปล่าแล้ว!”
“หึๆ นี่มันก็เอาแต่ดูมาสิบห้านาทีแล้วแต่กลับยังเดินดูไปไม่ถึงไหน! ข้าอยากจะรู้นักว่ามันจะซ่อมแซมอย่างไรด้วยเวลาแค่ชั่วโมงเดียว!”
เย่หยวนนั้นมองดูอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ หลังจากมองดูไปอีกนานสองนานเขาก็ยังไม่คิดจะลงมือใดๆ
หากให้พูดแล้วการซ่อมแซมเช่นนี้มันย่อมจะไม่ต้องมีความเข้าใจอะไรเลย
การกระทำของเย่หยวนนั้นมันช่างไร้ค่าในสายตาของคนทั้งหลาย
ที่สำคัญไปกว่านั้นการซ่อมแซมมันต้องใช้เวลาด้วย!
มหาค่ายกลที่ซับซ้อนเช่นนี้ต่อให้มันจะเป็นส่วนของระดับห้าแต่มันก็ยังต้องใช้เวลามหาศาลในการซ่อมแซม!
ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่คนทั้งหลายก็ยิ่งคิดว่าเย่หยวนนั้นพูดจาไร้สาระ!
เฟิงเสี่ยวเถียนมองดูพร้อมส่ายหัวออกมา
สุดท้ายมันก็พลาดหรือ?
เจ้าเด็กคนนี้มันคงคิดว่าตัวเองเก่งกาจถึงได้พูดจาโม้เกินตัวเพื่อหาทางแก้ไขทีหลังแล้ว?
คงเป็นเช่นนั้นแน่!
แต่ว่ามันจะไร้หวังได้ปานนี้เลยหรือ?
…
ด้านนอกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นกองทัพเผ่าเลือดกำลังเข้าแถวประชุมกันอยู่!
ครั้งนี้เผ่าเลือดคิดที่จะบุกเข้าไปทำลายมหานครฉีใต้ลงให้สิ้นซาก!
เฉียนั้วนั้นคือแม่ทัพครั้งนี้ของเผ่าเลือดและเป็นถึงยอดฝีมือคลื่นกำเนิด มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์
เขานั้นต่อสู้กับเฟิงเสี่ยวเถียนมานับร้อยๆ ปีได้แล้ว
ในศึกที่เพิ่งจบไปนั้นพวกเขาต้องเสียมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปถึงสิบสามคนและสุดท้ายก็พังทลายกำแพงลงได้ครึ่งหนึ่ง
เพราะฉะนั้นตอนนี้กองทัพเผ่าเลือดจึงได้วางแผนว่าจะบุกเข้าไปทำลายให้เมืองนี้มันแตกราบ!
เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันมีช่องว่างที่ไม่ใหญ่มาก ต่อให้จะเป็นช่องว่างที่ใหญ่ที่สุดก็ตามพวกเขาจึงไม่อาจส่งกำลังเข้าไปได้มากมายนัก
แต่หลังจากต่อสู้กันมาอย่างยาวนานในที่สุดมหานครฉีใต้นั้นมันก็สิ้นพลังมหาค่ายกลที่ปกป้องไปแล้ว
“ครั้งนี้ข้าจะทำเรื่องที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน! ตราบเท่าที่เราทลายมหานครฉีใต้ลงไปได้นั้น เผ่าเลือดของเราย่อมจะเข้าไปบุกในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน! ถึงเวลานั้นอีกไม่นานมันก็คงกลายเป็นชัยชนะของเรา!” เฉียนั้วนั้นรู้สึกเลือดพล่านขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
พวกเขานั้นต่อสู้กับทวีปสวรรค์แรกมานับพันๆ ปีและนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นแววของชัยชนะ และศึกที่สำคัญเช่นนี้มันจะเป็นเขาที่นำทัพไป มีหรือที่เขาจะไม่ตื่นเต้นได้?
“ยินดีด้วยท่านมหาจักรพรรดิ! เป็นเกียรติที่ได้รับใช้ท่านมหาจักรพรรดิล้ำนัก!”
เหล่าลูกน้องของเขานั้นต่างพูดแสดงความยินดีออกมาเรื่อยๆ
ในเวลานั้นเองที่มันมีเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
เฉียนั้วยิ้มกว้างถามขึ้นมา “ทางมหานครฉีใต้มีการเคลื่อนไหวใดบ้าง?”
ลูกน้องคนนั้นตอบกลับ “ท่านเฉียนั้ว มหานครฉีใต้นั้นหยุดการซ่อมแซมมหาค่ายกลลงแล้ว!”
เฉียนั้วนั้นต้องผงะไปเมื่อได้ยิน “มหาค่ายกลป้องกันนั้นคือชีวิตของพวกมัน มีหรือที่พวกมันจะหยุดมือลงได้?”
ลูกน้องคนนั้นตอบกลับไป “มันเป็นความจริงท่าน! หากนายท่านไม่เชื่อท่านจะออกไปดูเองก็ยังได้! มันหยุดมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว!”
เฉียนั้วหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “นี่เฟิงเสี่ยวเถียนมันยอมแพ้แล้วหรือ? ดูท่ามันจะได้สติแล้วสินะ! มหาค่ายกลป้องกันเมืองนั้นมันไม่มีหวังจะซ่อมแซมได้แล้ว! แต่ข้าไม่เปิดโอกาสให้มันหรอก! อีกห้าวัน! ข้าขอแค่อีกห้าวันเท่านั้นข้าก็จะสามารถฟื้นฟูกลับไปสู่สภาพสมบูรณ์พร้อมได้! เพื่อที่จะบุกเมืองนี้ข้าคงต้องใช้ประคำโลหิตสวรรค์แล้ว!”
…
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เย่หยวนเหลือเวลาในมือแค่สิบห้านาทีเท่านั้น
เหล่าคนรอบๆ นั้นต่างกล่าวเย้ยหยันออกมาอย่างไม่ขาดปาก เวลาหนึ่งชั่วโมงนั้นมันเสียไปเปล่าๆ แล้ว!
ไม่ตายๆ ไปเสียเล่า?
ท่ามกลางเสียงด่าว่าทั้งหลายนั้นเย่หยวนก็ได้ลงมือ!
ปราณเทวะเส้นแล้วเส้นเล่ามันได้ถูกยิงออกมาใส่มหาค่ายกลที่เสียหายอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดมือ
คนที่มีสายตาไม่ดีนั้นแทบมองตามเย่หยวนไม่ทัน
เร็วเกินไป!
ทุกคนต่างต้องผงะไป
“นี่เจ้ามาเล่นตลก?”
“ใครมันซ่อมมหาค่ายกลด้วยวิธีเช่นนี้?”
“การซ่อมแซมมหาค่ายกลนั้นมันต้องทำการอย่างระมัดระวังดูพลังงานแต่ละจุด งานใหญ่นั้นมันล้วนต้องใช้เวลา แต่เจ้านั้นไม่แม้แต่จะมอง?”
ในเวลาแค่ร้อยอึดใจต่อมาเย่หยวนก็ได้ยิงปราณเทวะออกไปไม่รู้กี่เส้นต่อกี่เส้นแล้ว
จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วขึ้นฟ้าทำให้มหาค่ายกลนั้นเปล่งแสงขึ้นทันที!
มันทำให้จุดพลังงานธาตุสว่างขึ้นมาเหมือนดั่งมือวิเศษ!
เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ทั้งหลายนั้นได้เห็นว่าเหล่าจุดพลังงานทั้งหลายมันเชื่อมต่อกันไปไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด! จากนั้นพลังงานของพวกมันก็ทำงานขึ้นมาพร้อมๆ กัน ทำให้ฐานของมหาค่ายกลแข็งแรงขึ้นในพริบตาจนสุดท้ายการซ่อมแซมมหาค่ายกลก็สำเร็จลงไปอย่างงดงาม!
สวยงามเกินไป!
นี่มันเหมือนการเล่นหมากรุกก็ไม่ปาน
มันราวกับว่าเวลาสี่สิบกว่านาทีก่อนหน้านี้เย่หยวนกำลังวางแผนที่จะขยับหมากอยู่
เมื่อเขาลงมือแล้วมันก็เหมือนประสานทุกอย่างเข้าด้วยกันจนทำให้มันทำงานขึ้นมาพร้อมๆ กัน!
วิธีการเช่นนี้มันเหนือล้ำคาดฝันเกินไป!
หากเป็นจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้าทำเช่นนี้ พวกเขาย่อมจะยอมรับได้ไม่ยาก
แต่เย่หยวนนั้นเป็นแค่จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับห้า!
เขานั้นไม่เข้าใจมหาค่ายกลอย่างถ่องแท้ด้วยซ้ำ เช่นนั้นเขาทำได้อย่างไร?
ในตอนนี้เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์นับพันนั้นต่างอ้าปากค้างแทบลืมหายใจ
พวกเขานั้นได้พบว่าจุดที่เย่หยวนซ่อมแซมนั้นมันกินพื้นที่กว้างกว่าที่เขาบอกไปเสียด้วยซ้ำ! หรือก็คือเขาคนเดียวนั้นใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงทำงานที่มากกว่าหนึ่งร้อยคนจะทำได้ทั้งวัน!
ความรวดเร็วของเขานี้มันไม่อาจเอาอะไรมาเทียบ!
หรือว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้าที่แฝงตัวเข้ามา?
ไม่มีทาง!
เพราะเรื่องเช่นนี้ต่อให้จะเป็นจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้ามันก็ใช่ว่าจะทำได้!
ต่อให้จะเป็นจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้า มันก็คงต้องค่อยๆ ศึกษาไปทีละน้อยเช่นกัน
แน่นอนว่าความเร็วมันย่อมจะแตกต่างจากคนระดับล่าง
หยางชิงนั้นได้แต่ต้องยิ้มขึ้นเมื่อได้เห็นภาพนี้ “ไอ้บ้านี่มันไปชิงความเด่นมาอีกแล้ว! อ้า! เมื่อไหร่หยางชิงผู้นี้จะได้เด่นกับเขาบ้างเนี่ย!”