หลายวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในส่วนลึกของทะเลทรายแห้งแล้งที่ไม่มีหญ้าขึ้นสักนิดเดียวแห่งหนึ่ง หลินสวินกับอาหูทะยานไปในห้วงอากาศลึกเข้าไปไม่หยุดหย่อน
“เหตุใดข้ารู้สึกว่ายิ่งเข้าไปลึกไอมรรคหลอมสมบัติที่เจอก็ยิ่งน้อยลงล่ะ”
หลินสวินนิ่วหน้า
หลายวันมานี้ เขากับอาหูเคลื่อนไหวด้วยกัน และเก็บเกี่ยวไอมรรคหลอมสมบัติมาได้บ้าง แต่แทบจะเป็นของที่มีคุณลักษณะธรรมดาทั้งนั้น เพิ่มพูนพลังให้ดาบหักได้น้อยนิด
ส่วนไอมรรคหลอมสมบัติที่แปลงเป็นของล้ำค่าอย่าง ‘ดอกบัวหิมะน้ำแข็ง’ กับ ‘นกเพลิง’ ก็ไม่พบอีกสักอัน
พอเห็นว่าเวลาเคลื่อนผ่านไปทีละนิด หลินสวินก็ออกจะจนคำพูดอย่างห้ามไม่อยู่เสียแล้ว
ควรรู้ว่าแดนหลอมสมบัติเป็นเพียงรอบนอกของแหล่งสถานคุนหลุน ตามคำพูดของอาหู อย่างมากที่สุดครึ่งเดือนก็ต้องจากไปแล้ว
มิเช่นนั้นก็จะพลาดโอกาสเข้าไปในส่วนลึกของแหล่งสถานคุนหลุน
“นี่เป็นเรื่องธรรมดา แดนหลอมสมบัติแห่งนี้เปรียบดั่งโลกใบเล็กแห่งหนึ่ง ดูเหมือนกว้างใหญ่ไพศาลหาใดเทียบ แต่ผู้แข็งแกร่งที่มาคราวนี้มีมากมายยิ่งนัก แต่ปริมาณของไอมรรคหลอมสมบัติมีจำกัด ถ้าเป็นเช่นนี้ของก็จะน้อยกว่าความต้องการ คิดจะเก็บเอาไอมรรคหลอมสมบัติที่ถูกใจก็ย่อมยากลำบากอยู่บ้าง”
อาหูอธิบายประโยคหนึ่ง
หลินสวินพยักหน้า
หลายวันมานี้พวกเขาก็ได้พบกับเงาร่างของผู้แข็งแกร่งไม่น้อยอยู่ตลอดทาง แต่ส่วนมากหลังจากพบเงาร่างของทั้งสอง ต่างก็หลีกหนีไปไกลด้วยเกรงว่าจะหลบไปไม่ทัน
ทั้งสองย่อมไม่มีทางออกตัวท้าทาย
แต่ก็ด้วยเรื่องนี้ที่ทำให้พวกเขารู้ว่าเพราะเว่ยจื่อหยากับเยี่ยนฉุนจวินถูกฆ่า เหล่าผู้แข็งแกร่งที่เข้ามาในแหล่งสถานคุนหลุนคราวนี้จึงรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของทั้งคู่ไปแล้ว
โดยทั่วไปผู้แข็งแกร่งที่ศักยภาพไม่พอเหล่านั้นย่อมไม่กล้ามาหาเรื่องเอง
“เอ๊ะ!”
ดวงตาดำของหลินสวินหดเกร็งในทันใด
ในจิตรับรู้ของเขา ส่วนลึกสุดของทะเลทรายแห่งนี้มีโกรกธารมหึมาราวเหวลึกแห่งหนึ่ง
ในโกรกธารหมอกดำถั่งโถม มีเปลวเพลิงสีสันสดใสงดงามตระการตาลูกแล้วลูกเล่าไหววูบแล้วหายไปเป็นพักๆ มีทั้งสีแดง สีฟ้า สีเขียว สีดำ สีเงิน สีทอง… สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ในขณะเดียวกันอาหูก็ชะงักไป แววประหลาดปะทุออกมาจากดวงตางาม
“ไป ไปดูหน่อย”
หลินสวินพุ่งไปหาก่อน
ในโกรกธารแห่งนั้นอบอวลไปด้วยหมอกดำ แผ่กระจายกลิ่นอายอึมครึมน่าหวาดผวาออกมา มองไม่เห็นก้นบึ้ง ตัดการเสาะหาของจิตรับรู้
ทันทีที่มาถึงใกล้ๆ บริเวณนี้ ร่างของหลินสวินพลันชะงัก ขนลุกซู่ไปทั้งตัว สังเกตได้ถึงอันตรายที่ไม่อาจล่วงรู้
เขาชะงักทันที ยืนอยู่กลางอากาศมองลงไปยังโกรกธาร
“ไอมรรคหลอมสมบัติมากมายนัก!”
อาหูก็มาแล้ว เอ่ยปากอย่างตกตะลึง
ก็เห็นว่ากลางหมอกดำที่โกรกธารนั้น ไอมรรคหลอมสมบัติวับวามคล้ายดาวสายแล้วสายเล่าเปล่งแสงเทพน่าดึงดูด
ในนั้นยังมีปรากฏการณ์ประหลาดลึกลับบางอย่างแสดงขึ้นไม่ขาด
ทั้งต้นไม้น้อยเขียวชอุ่มวูบไหวพลิ้วนุ่มนวล ใบไม้แต่ละใบกระจ่างใส พลิกตลบดังซู่ซ่าคล้ายสิ่งมีชีวิต
ทั้งนกสีทองกระพือปีกร้องเสียงใสอยู่ภายในเป็นท่วงทำนองเสนาะหู
ทั้งสายฟ้าสีชาดกลายสภาพเป็นรูปร่างคล้ายอักขระต่างๆ วูบไหวไม่ว่างเว้น…
พอเห็นภาพนี้เข้าอาหูก็ตาแข็งทื่อ ปรากฏการณ์ประหลาดแต่ละอย่างนั้น เป็นสิ่งที่ไอมรรคหลอมสมบัติที่มีคุณลักษณะไม่ธรรมดาถึงที่สุดแต่ละสายแสดงออกมา!
“ดูท่าสวรรค์จะเอาใจใส่พวกเรามากนะ”
อาหูยิ้มหวาน แม้หน้าของนางจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะยิ้มแย้มหรือบูดบึ้งก็ยังมีความเย้ายวนและเสน่ห์ตามธรรมชาติอยู่
หลินสวินก็ยิ้ม ตาลุกวาวเอ่ยว่า “เจ้ามาคุ้มครองขาที ข้าจะเก็บสมบัติพวกนี้”
พูดจบเขาก็ยื่นมือออกไปคว้า
ครืน!
หุบเหวคล้ายเตาหลอมหุบเหวหนึ่งรวมตัวออกมา กฎเกณฑ์ถักทอเจิดจ้าส่องประกายปกคลุมไอมรรคหลอมสมบัติกลางหมอกดำในโกรกธารสายนั้น
ภาพแปลกประหลาดปรากฏขึ้น หมอกดำนั้นปั่นป่วนรุนแรง เงาร่างราวเทพผีร่างแล้วร่างเล่ากระโจนออกมา ร่างกายต่างรวมตัวจากหมอกดำ แผ่ไอพิฆาตน่าหวาดหวั่นคับฟ้าออกมา
ปึงๆๆ!
เสียงระเบิดดังลั่นจนหูแทบดับระลอกหนึ่งดังขึ้น พลังของเงาร่างหมอกดำเหล่านั้นน่ากลัวถึงที่สุด จู่โจมแรงคว้านี้ของหลินสวินจนระเบิดกระจุยสะเทือนเลื่อนลั่นทันที
นัยน์ตาหลินสวินหดรัด ลงมืออีกครั้งโดยไม่ลังเล
โครม!
คราวนี้เขาโคจรพลังทั้งหมด เงามายาของหุบเหวเหมือนจริงราวจับต้องได้ปรากฏขึ้น ก่อให้เกิดพลานุภาพอหังการชนิดกลืนกินฟ้าดิน
พริบตาเดียวเงาร่างหมอกดำเหล่านั้นระเบิดออกทีละร่าง
ก็เห็นว่าฝ่ามือนี้ของหลินสวินกำลังจะดูดซับไอมรรคหลอมสมบัติที่แปลงเป็นรูปลักษณ์ต้นไม้น้อยเขียวชอุ่มไป
เพลิงเทพบริสุทธิ์ดั่งเมฆเขียวดวงหนึ่งเคลื่อนออกมากวาดเบาๆ การโจมตีนี้ของหลินสวินถูกเผาจนหมดเหมือนเศษกระดาษในพริบตา
“ระวัง! สีทองอ่อนเป็นริ้วๆ ที่แฝงอยู่ในเพลิงเทพคุนหลุนดวงนี้มีพลังทำร้ายน่ากลัวอย่าง ‘เพลิงวายุดับวิญญาณ’!”
หว่างคิ้วของอาหูปรากฏแววเคร่งเครียด
ในแดนหลอมสมบัติมีเพลิงเทพคุณหลุนที่น่ากลัวที่สุดอยู่สองชนิด หนึ่งคือสีทอง อีกหนึ่งคือสีม่วง ถูกขนานนามว่า ‘เพลิงวายุดับวิญญาณ’
อานุภาพของเพลิงเทพระดับนี้สามารถสังหารมกุฎมหาอริยะได้อย่างง่ายดาย!
เพลิงเทพสีเขียวบริสุทธิ์ตรงหน้านี้เจือสีทองอ่อนๆ นี่แสดงให้เห็นว่าพลังทำร้ายเหนือธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ต้องให้อาหูเตือนสักนิดหลินสวินก็รับรู้ได้ว่าสถานการณ์อันตราย เขาสีหน้าเรียบเฉย เพียงรอให้เพลิงเทพเขียวบริสุทธิ์ดวงนั้นเคลื่อนมาโจมตีตน
เพลิงมรรคอัศจรรย์เหมือนกระถางใหญ่ดวงหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือศีรษะเขา
ทันใดนั้นเพลิงเทพเขียวบริสุทธิ์ส่งเสียงคำรามแหลมราวกับมนุษย์ มาได้ครึ่งทางก็หนีไปอย่างลุกลี้ลุกลน
แต่น่าเสียดายที่ช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว เพลิงมรรคอัศจรรย์กวาดเบาๆ ในห้วงอากาศราวกับเป็นนายเหนือหัวสูงสุดในหมู่เปลวเพลิง
ละอองแสงโฉบพุ่งกลายเป็นเส้นยาวกลางอากาศ ผูกมัดเพลิงเทพสีเขียวบริสุทธิ์นั้นไว้อย่างรวดเร็วแล้วดูดซับกลับมา
ปึง!
เพลิงเทพสีเขียวนั้นถูกเพลิงมรรคอัศจรรย์กลืนกินจนสิ้นเหมือนอาหารอันโอชา
ในขณะเดียวกันหลินสวินก็ลงมือทันที จับไอมรรคหลอมสมบัติที่แปลงสภาพเป็นต้นไม้น้อยสีเขียวขจีมาไว้ในมือ
สำเร็จแล้ว!
หลินสวินยกยิ้มมุมปาก
เพียงแต่ครู่เดียวเขาก็อึ้งไป
ในโกรกธารมหึมานั้น หมอกดำปั่นป่วน ไอมรรคหลอมสมบัติที่เริงระบำภายในนั้น แต่ละสายหายลับไปในส่วนลึกของหมอกดำเหมือนหมู่มัจฉาที่ถูกทำให้ตื่นตกใจ
หลินสวินกับอาหูมองหน้ากัน
“ข้าลองอีกที”
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วลงมืออีกครั้ง
โครม!
หมอกดำปั่นป่วน พลังฝ่ามือของหลินสวินน่ากลัวปานไหน แต่ทันทีที่เข้าไปในโกรกธารก็ถูกสลายกระเจิงอย่างเงียบเชียบ
หลินสวินนัยน์ตาหดรัดลง เขาครุ่นคิดเล็กน้อย เรียกกระสวยบินสีฟ้าเข้มเล่มหนึ่งออกมา แล้วพุ่งเข้าไปในหมอกดำโกรกธารนั้นอย่างรวดเร็ว
ภาพอันน่ากลัวปรากฏขึ้น พอกระสวยบินสีฟ้าเข้มเข้าไปข้างในนั้นก็ถูกพลังประหลาดไร้รูปปกคลุม ละลายหายไปทุกกระเบียด!
ควรรู้ว่านี่เป็นถึงสมบัติอริยะชิ้นหนึ่ง แต่ชั่วพริบตาก็ถูกกำจัดเสียแล้ว!
หลินสวินเอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “ในโกรกธารนี้เต็มไปด้วยพลังประหลาด ไม่เพียงขจัดการโจมตีจากภายนอกทั้งหมดได้ ข้าสงสัยว่าหากเข้าไปใกล้ เป็นไปได้สูงที่จะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้”
อาหูก็ดูออก กล่าวว่า “ไอมรรคหลอมสมบัติพวกนั้นน่าจะแทรกอยู่ในส่วนลึกของโกรกธารเหมือนฝูงปลาที่ถูกทำให้แตกตื่น พวกเราก็ไม่มีทางเข้าไปข้างในได้ ดูท่าจะทำได้แค่คอยเสียแล้ว”
หลินสวินพยักหน้า
กาลเวลาไหลเคลื่อนไป หมอกดำในโกรกธารปั่นป่วน
หลินสวินหลอมไอมรรคหลอมสมบัติที่ได้มาเข้าไปในดาบหัก มองเห็นได้ว่าพื้นผิวของดาบหักมีลายสมบัติบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เพียงแต่กลับคลุมเครืออย่างยิ่ง ไม่ได้เด่นชัด
‘เมื่อรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ได้ลายหนึ่ง ก็จะทำให้พลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณเพิ่มสูงขึ้นราวหนึ่งในร้อยส่วน แต่ถ้าดาบหักจะแปรสภาพคราวหน้า ต้องใช้ลายสมบัติบริสุทธิ์สิบลาย…’
หลินสวินกำลังอนุมาน ‘ด้วยความเร็วเช่นนี้ อย่างน้อยต้องได้รับไอมรรคหลอมสมบัติสิบสายขึ้นไป หนำซ้ำคุณลักษณะจะอ่อนด้อยกว่าไอมรรคหลอมสมบัติที่เปลี่ยนเป็นต้นไม้น้อยเขียวขจีไม่ได้ด้วย…’
จวบจนผ่านไปหนึ่งก้านธูปเต็มๆ สายฟ้าสีชาดสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในส่วนลึกของหมอกดำนั้น ยามมันฉายวาบ แสงของสายฟ้าเป็นริ้วๆ ก็กลายสภาพเป็นอักขระซับซ้อนปลิวไหว ลึกลับเป็นอย่างยิ่ง
หลินสวินดวงตาเปล่งประกาย
เขาไม่ได้รีบลงมือ รอคอยอย่างอดทน
สายฟ้าสีชาดสายนั้นค่อยๆ เริงระบำกลางโกรกธารราวกับปลาที่แหวกว่ายเริงร่าตัวหนึ่ง
ฉึบ!
หลินสวินหาจังหวะเหมาะแล้วลงมืออย่างไม่ลังเล รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
ภาพอันคุ้นตาแต่ละภาพปรากฏขึ้น เงาร่างราวเทพผีแต่ละร่างผุดออกมากลางหมอกดำในโกรกธารนั้น ไอพิฆาตคับฟ้า
แต่ไม่นานนักก็ถูกหลินสวินตีพ่ายจนหมด
สวบ!
เพลิงเทพสีชาดดวงหนึ่งพุ่งออกไปขวางการจู่โจมของหลินสวิน มันมีแสงสีทองอ่อนๆ พลานุภาพก็น่ากลัวหาใดเทียบ
แต่พอเพลิงมรรคอัศจรรย์เคลื่อนออกมา เพลิงเทพที่สามารถทำให้มกุฎมหาอริยะคนใดก็ตามอกสั่นขวัญแขวนดวงนี้ กลับถูกกลืนกินหมดสิ้นเหมือนหนอนที่ถูกจับกิน
ด้านหลินสวินก็ถือโอกาสดูดซับไอมรรคหลอมสมบัตินั้นไป!
“รับไว้”
หลินสวินขว้างไอมรรคหลอมสมบัติที่กำราบได้ให้อาหู
อาหูออกจะประหลาดใจ ถามอย่างอดไม่ได้ว่า “เจ้าจำเป็นต้องใช้มันมากกว่าข้า”
“ในเมื่อเคลื่อนไหวด้วยกัน วาสนาที่ได้รับย่อมต้องแบ่งกันอย่างเท่าเทียม”
หลินสวินยิ้มให้
อาหูจึงไม่บอกปัดอีก
ทั้งสองเริ่มรอต่อ
ส่วนลึกของหมอกดำในโกรกธารแห่งนี้มีไอมรรคหลอมสมบัติประหนึ่งฝูงปลาจำศีลอยู่ไม่รู้เท่าไร ส่วนพวกหลินสวินก็เหมือนคนตกปลา ทำเพียงอดทนรอคอยให้ปลาติดเบ็ด
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม
สวบ!
ไอมรรคหลอมสมบัติปรากฏขึ้นกลางหมอกดำ และถูกหลินสวินใช้วิธีเดิมราวกับสูตรสำเร็จ
ที่น่าเสียดายก็คือคุณลักษณะของไอมรรคหลอมสมบัตินี้ถือได้ว่าธรรมดา อย่างมากก็ทำให้ลายสมบัติบริสุทธิ์ลายที่สองของดาบหักควบรวมออกมาได้โดยสมบูรณ์
หลินสวินไม่ท้อใจ รอคอยต่อไป
สองชั่วยามผ่านไป
หลินสวินเก็บเกี่ยวได้อีกครั้ง มอบไอมรรคหลอมสมบัติที่กำราบได้ให้อาหู
ห้าชั่วยามผ่านไป
…จนกระทั่งผ่านไปสองวัน หลินสวินกำราบไอมรรคหลอมสมบัติได้ทั้งสิ้นสิบสองสาย ครึ่งหนึ่งมอบให้อาหู อีกครึ่งหนึ่งใช้กับดาบหัก
ดาบหักในตอนนี้มีลายสมบัติบริสุทธิ์จับตัวกันได้สี่ลาย แต่ละลายต่างเจิดจรัสราวกับมังกรใหญ่สีทองจำศีลอยู่ภายใน
ละม้ายกับที่อาหูพูดไว้ว่า ‘รัศมีดั่งมรรค จิตดั่งมังกร’ หายากถึงที่สุด!
และหลินสวินก็จับสังเกตได้อย่างฉับไว ว่าคุณลักษณะกับอานุภาพของดาบหักกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
ตอนนี้หลินสวินเล็งเป้าหมายอีกครั้งหนึ่ง
คราวนี้เป็นไอมรรคหลอมสมบัติที่แปลงเป็นปรากฏประหลาด ‘ขวานศึกสีทอง’ ความล้ำเลิศของคุณลักษณะเรียกได้ว่าชั้นยอดอย่างแน่นอน ไม่ธรรมดากว่าที่ได้มาก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด
ทว่าพอหลินสวินกำลังจะลงมือด้วยวิธีเดิม ทันใดนั้นอาหูที่อยู่ไม่ไกลก็หันหน้ากะทันหัน แววเย็นเยียบฉายวาบในดวงตางาม
“ทำอะไรลับๆ ล่อๆ ไสหัวออกมาให้หมด!”
อาหูตะคอกชัดเจน ปราณกระบี่ทรงพลังราวเมฆสีม่วงทะลวงอากาศ ฟันออกไปนอกพันจั้งพร้อมๆ กับเสียง