ปราณกระบี่ทรงพลังราวกับแสงม่วงบรรพกาล
จู่ๆ เงาร่างหนึ่งก็พุ่งออกมากลางห้วงอากาศไกลออกไป ฝ่ามือตบฟาดทันใด
ปัง!
ปราณกระบี่ระเบิดกระจุย
แต่เงาร่างนั้นก็ไม่ดีไปกว่ากัน ถอยออกไปกลางอากาศตึงๆๆ หลายก้าว หน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่ได้
คนผู้นี้เป็นชายหนุ่มชุดเทาคนหนึ่ง มีคิ้วสีขาวทั้งสองข้าง ดวงตาเฉียบคม
“เป็นนางมารที่ร้ายกาจนัก เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร…”
ชายหนุ่มชุดเทาเอ่ยเสียงต่ำ
ฟึ่บ!
ไม่ทันรอให้พูดจบอาหูก็ลงมืออีกครั้งแล้ว เงาร่างพร่าเลือน เรียกกระบี่บินสีม่วงที่แวววาวเจิดจ้าเล่มหนึ่งออกมา โจมตีไปอย่างรุนแรง
เสียงของชายหนุ่มชุดเทาหยุดลงกะทันหัน ทวนศึกสีเลือดเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือเขา กวาดสังหารออกมา พลังต่อสู้แข็งแกร่งถึงที่สุด
เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นก็ประมือกับอาหูไปแล้วหลายสิบครั้ง
ควรรู้ว่าอาหูไม่ใช่คนธรรมดา ตัวคนเดียวสามารถพัวพันมกุฎมหาอริยะสองคนอย่างเว่ยจื่อหยากับคุนจิ่วหลินไว้ได้
แต่ตอนนี้กลับจัดการชายหนุ่มชุดเทาผู้นี้ไม่ได้ในทันที
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนผู้นี้ก็เป็นพวกร้ายกาจเกินระดับเดียวกันคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้ที่อยู่บนกระดานมหาอริยะฟ้าดารา
ชิ้ง!
ดาบหักขาวเปล่งปลั่งราวหิมะวูบไหวในห้วงอากาศ โฉบพุ่งมาอย่างรวดเร็ว คมประกายช่วงโชติจนทำให้ฟ้าดินหม่นหมอง
เป็นหลินสวินลงมือแล้ว
ฟุ่บ!
ด้วยไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มชุดเทาถูกดาบหักปาดโดน และระเบิดออกเป็นหมอกเลือดทันตา กระดูกสะบักถูกตัดออก ไหล่แทบขาดลงมา
ชายหนุ่มชุดเทาส่งเสียงอู้อี้ สุดท้ายก็กัดฟัน ยันต์หยกสีเลือดชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือและบีบแหลกในทันใด จากนั้นเงาร่างก็พลันหายลับไปกลางอากาศ ว่องไวจนน่าเหลือเชื่อ
“ยันต์โลหิตท่องอนันต์! นี่เป็นสมบัติเฉพาะของ ‘เผ่านักรบผีสวรรค์’ หนึ่งในสิบเผ่านักรบใหญ่ ลึกลับเกินคาดเดา มีค่าควรเมือง”
อาหูจำได้ เนตรกระจ่างวูบไหว “สันนิษฐานเช่นนี้ เจ้าคนเมื่อกี้ต้องเป็นทายาทเลือดบริสุทธิ์ของเผ่านักรบผีสวรรค์แน่”
นางพูดพลางนิ่วหน้า “พี่หลิน ต่อไปอาจจะยุ่งยากสักพัก ในโกรกธารนี้มีไอมรรคหลอมสมบัติซ่อนอยู่ไม่น้อยราวกับแดนสมบัติวาสนาที่ทุกคนหมายปอง หลังเจ้าคนเมื่อกี้หนีไปจะต้องมีข่าวกระจายออกไปแน่”
ดวงตาดั่งหุบเหวดำทะมึนทั้งสองข้างของหลินสวินมีประกายน่าหวาดหวั่น “เช่นนั้นก็ต้องดูว่าพวกเขาจะสามารถชิงวาสนาเหล่านี้ไปได้หรือไม่แล้ว
ต่อมาทั้งสองก็เฝ้าอยู่ใกล้โกรกธารอันแปลกประหลาดแห่งนี้ จดจ่อกับการเก็บไอมรรคหลอมสมบัติ แต่ทั้งสองต่างรู้ดี ไม่แน่ว่าอีกไม่นานที่นี่ก็จะกลายเป็นสถานที่โกลาหล
……
“บัดซบ ถึงกับทำให้ข้าเสียยันต์โลหิตท่องอนันต์ไปแผ่นหนึ่ง”
บริเวณไกลออกไป ชายหนุ่มชุดเทาสีหน้าโกรธเคืองและดุร้าย หัวใจกำลังหลั่งเลือด
ยันต์โลหิตท่องอนันต์สูงค่าเหนือธรรมดา หายากหาใดเทียบ ถูกเขามองเป็นเครื่องมือรักษาชีวิต แต่กลับคิดไม่ถึงว่าแค่รอบนอกของแหล่งสถานคุนหลุนเท่านั้นก็ต้องใช้ไปแล้ว
“เหยียนซิว เจ้าถึงกับได้รับบาดเจ็บเลยหรือ”
ในบริเวณนี้ยังมีคนหลายคน แต่ละคนกลิ่นอายน่ากลัวเหนือธรรมดากันทั้งนั้น
คนที่เอ่ยปากเป็นหญิงสาวผมเขียวที่มีริมฝีปากสีแดงสด ใบหน้าเย้ายวนทรงเสน่ห์ผู้หนึ่ง นางมองดูชายหนุ่มชุดเทาที่ไหล่มีเลือดไหลรินอย่างออกจะตกตะลึง
ความแข็งแกร่งของเหยียนซิว พวกเขาล้วนประจักษ์ ในทางเดินโบราณฟ้าดาราก็เรียกได้ว่าเป็นคนเลือดเหล็กที่โหดร้ายป่าเถื่อนในพื้นที่แถบหนึ่ง
เขากำเนิดมาในเผ่านักรบผีสวรรค์ ครอบครองพลังพรสวรรค์พิเศษ ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนก็อยู่บนร้อยอันดับแรกของกระดานมหาอริยะฟ้าดาราได้แล้ว!
ชายหนุ่มชุดเทาที่ถูกเรียกขานว่าเหยียนซิวสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เอ่ยสีหน้าอึมครึมว่า “เป็นหลินสวินคนนั้น ข่าวลือเป็นความจริง พลังต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งจริงๆ ถ้าสู้คนเดียวต้องมีวิชาก้นกรุเท่านั้น หาไม่แล้วแม้แต่ข้ายังไม่แน่ใจว่าจะชนะคนผู้นี้ได้”
พวกหญิงสาวผมเขียวที่งามเย้ายวนต่างหวั่นใจ
“แต่ข้ารู้แล้วว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เชื่อว่าพวกเจ้าก็ต้องสนใจแน่นอน”
ฉับพลันทันใดเหยียนซิวก็เปลี่ยนเรื่องพูด ในดวงตาฉายแววประหลาด เขาเล่าเรื่องที่ได้พบเห็นที่โกรกธารประหลาดแห่งนั้นให้ฟังโดยละเอียด
“อะไรนะ ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือนี่”
“ซุกซ่อนไอมรรคหลอมสมบัติมากมายหรือ”
“หลินสวินนั่นจะโชคดีเกินไปแล้วกระมัง…”
ชั่วขณะเดียวทุกคนต่างใจเต้นแล้ว คุณประโยชน์ของไอมรรคหลอมสมบัติพวกเขาต่างรู้ดี
โกรกธารที่มีไอมรรคหลอมสมบัติซุกซ่อนอยู่มากมายก็เหมือนคลังสมบัติธรรมชาติแห่งหนึ่ง สามารถทำให้ไม่ว่าผู้ใดต่างอิจฉาตาร้อนและหมายปอง
หญิงสาวผมเขียวงามเย้ายวนเอ่ยว่า “พวกเราบุกไปฆ่าชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นด้วยกัน ขอเพียงครอบครองโกรกธารนั้นได้ ไอมรรคหลอมสมบัติเหล่านั้นก็จะเป็นของในกรุของเรา!”
“ไม่ อาศัยแค่พวกเรา ต่อให้ฆ่าหลินสวินกับผู้หญิงคนนั้นก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อย”
เหยียนซิวส่ายหัว ปฏิเสธข้อเสนอนี้
เขาเคยประมือกับหลินสวินและอาหู แม้เป็นเวลาสั้นๆ แต่กลับทำให้เขารู้สึกตื่นตกใจและเสียขวัญ
หากไม่เป็นเช่นนี้ เขาคงไม่ใช้ยันต์โลหิตท่องอนันต์ที่มีค่าควรเมืองแผ่นหนึ่งหลบหนีโดยไม่ลังเลเช่นนั้น
“เหยียนซิว เจ้าว่าทำอย่างไรดี”
มีคนถาม
เหล่าคนที่อยู่ในที่นี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งเหมือนเหยียนซิว มาจากขุมอำนาจต่างกันไป แต่ละคนต่างมีพลังต่อสู้พอๆ กับเหยียนซิว
“ไล่เสือไปกินหมาป่า!”
เหยียนซิวเอ่ยคำพูดนี้ออกมาเบาๆ
ทุกคนสายตาวาววาบ เข้าใจทันใด
ขอเพียงกระจายข่าวที่โกรกธารลึกลับแห่งนั้นออกไป จะต้องดึงดูดผู้แข็งแกร่งที่ไม่กลัวตายมากมายไปที่นั่นแน่!
……
“อะไรนะ ในส่วนลึกของทะเลทรายมีโกรกธารที่ซุกซ่อนไอมรรคหลอมสมบัติมากมายอยู่หรือ”
“เร็ว ไปดูหน่อย!”
“ข่าวเป็นเรื่องจริง มีคนได้เห็นกับตาตัวเอง พวกเราก็รีบไปกัน”
ในแดนหลอมสมบัติ พอพวกเหยียนซิวเติมเชื้อไฟ ข่าวโกรกธารหมอกดำนั้นก็แพร่ระจายอย่างรวดเร็วไปด้วย
ชั่วขณะเดียวก็ดึงดูดความสนใจของผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไร พากันเคลื่อนตัวรุดหน้าไป
ในกลุ่มนี้ไม่ขาดผู้สืบทอดสายตรงที่มาจากสำนักเก่าแก่บางคน รวมถึงผู้มีความสามารถล้ำเลิศและแกร่งกล้าที่ลือชื่อในแถบหนึ่งบางส่วน
ควรรู้ว่าในแดนหลอมสมบัติแห่งนี้ อาณาเขตดูเหมือนกว้างใหญ่ไพศาลหาใดเทียบ แต่ปริมาณไอมรรคหลอมสมบัติก็มีจำกัด หมาป่ามีมากเนื้อมีน้อย เมื่อได้ยินว่ามี ‘แดนสมบัติ’ เช่นนี้ปรากฏขึ้น ใครจะไม่ใจเต้นได้
ลมพายุก็ก่อตัวขึ้นมาด้วยเหตุนี้
ส่วนพวกเหยียนซิวที่มีฐานะเป็นผู้ชักใยหลังม่านก็จับตามองความเคลื่อนไหวของสถานการณ์มาโดยตลอด ยามสังเกตเห็นสถานการณ์เป็นไปดังนี้ ต่างก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้
แผนไล่เสือไปกินหมาป่ากำลังจะสำเร็จ!
ต่อจากนี้ก็ดูกันว่าใครจะได้เป็นตาอยู่ เด็ดเอาลูกท้อผลนี้ไปได้
……
วิ้ง!
ข้างๆ โกรกธารหมอกดำคลอด้วยเสียงร้องเสนาะหูที่ตื่นเต้นรื่นเริงระลอกหนึ่ง บนพื้นผิวดาบหักควบรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ดุจมังกรเจินหลงสีทองลายหนึ่ง
นี่เป็นลายสมบัติบริสุทธิ์ลายที่เจ็ดที่ดาบหักรวมขึ้นแล้ว!
แต่ตอนนี้ผ่านไปสองวันแล้วนับจากการเอาชนะเหยียนซิวเมื่อคราวก่อน
“น่าเสียดายในโกรกธารนี้เต็มไปด้วยพลังน่ากลัว มิเช่นนั้นหากเข้าไปในนั้นได้ ด้วยพลังเพลิงมรรคอัศจรรย์ของพี่หลิน จะต้องฉวยผลประโยชน์ที่ใหญ่ยิ่งกว่านี้ได้แน่”
อาหูทอดถอนใจ
หลินสวินยิ้มให้ ขณะที่กำลังจะพูดอะไร อสังหารพลันฉายวาบในดวงตา
“เร็ว หาเจอแล้ว ที่นี่นี่เอง!”
แทบจะในขณะเดียวกัน เสียงร้องดังลั่นที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นเสียงหนึ่งดังอยู่ไกลออกไป เงาร่างของเหล่าผู้ฝึกปราณปรากฏตัวขึ้นแล้ว มีทั้งชายหญิงหลายสิบคน ควบคุมแสงเคลื่อนไหวงดงามทะยานมาด้วยท่าทางฮึกเหิม
“มาแล้วตามคาด”
แววเย็นชาฉายวาบในดวงตางดงามทั้งสองข้างของอาหู
“เอ๊ะ นั่นมันหลินสวินไม่ใช่หรือ”
“เขาดันล่วงหน้ามาก่อนแล้ว ดูท่าพวกเขาจะได้ประโยชน์ไปไม่น้อยแล้ว”
ในขณะเดียวกันผู้ฝึกปราณเหล่านั้นต่างก็เห็นหลินสวินกลับอาหู สีหน้าล้วนปรากฏแววระแวดระวังและเป็นอริอย่างอดไม่ได้
“ให้โอกาสพวกเจ้าครั้งหนึ่ง ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็จะรอด มิเช่นนั้นเกรงว่าจะหนีไม่ได้แล้ว”
หลินสวินสีหน้าเฉยชา แต่กลับเผยความเย็นเยียบเสียดกระดูกออกมา
ประโยคเดียวทำเอาผู้ฝึกปราณสิบกว่าคนนั้นล้วนนิ่วหน้า ไม่พอใจยิ่งนัก
“วาสนาไร้เจ้าของ ผู้มีวาสนาจึงได้ไป หลินสวิน เจ้าเป็นใครกันถึงได้คิดจะยึดครองแดนสมบัติเช่นนี้ จะเหิมเกริมไปแล้วกระมัง”
“คิดจริงๆ หรือว่าฆ่าเยี่ยนฉุนจวินแล้วก็จะทำเหมือนไม่มีขื่อมีแปได้”
“ทุกท่าน เจ้าหมอนี่มันสติฟั่นเฟือน พวกเราร่วมกันลงมือสังหารเขาดีกว่า!”
เสียงตะคอกหลากหลายดังขึ้น ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ไอสังหารพุ่งทะยาน
ถ้าสู้หนึ่งต่อหนึ่ง พวกเขาย่อมไม่กล้าไปต่อกรกับหลินสวิน แต่ตอนนี้พวกเขามีกำลังคนมาก อีกทั้งยังไม่ขาดพวกร้ายกาจที่เก่งกล้าจำนวนหนึ่ง จะยอมรามือไปเท่านี้ได้อย่างไร
“เช่นนั้นก็มาดูกันว่าพวกเจ้าจะมีบุญได้ชิงวาสนานี้หรือไม่แล้ว…”
หลินสวินลงมืออย่างไม่ลังเลภายใต้เสียงพูดต่ำลึก เงาร่างเขาเคลื่อนย้าย ดาบหักทะยานออกมาพร้อมเสียงเสนาะหู
ฟุ่บ!
ประกายเย็นเยียบฉายวาบ ศีรษะของผู้ฝึกปราณคนหนึ่งถูกฟัน ดับสลายทั้งกายจิต
ภาพการตายอันนองเลือดที่เกิดขึ้นกะทันหันนั้น ทำเอาผู้ฝึกปราณเหล่านั้นหน้าเปลี่ยนสีกันหมด ต่างลงมือไปตามจิตใต้สำนึก
ตูม โครม!
กลางห้วงอากาศ แสงสมบัติตัดสลับ กฎเกณฑ์ไหลพุ่ง ฟ้าดินสั่นสะเทือนเพราะสิ่งนี้
หลินสวินสีหน้าเย็นชา ร่างกายมีแสงมรรคเจิดจ้าหลั่งไหล ดุจดั่งเซียนจุติ พลานุภาพดั่งเทพมาร ควบคุมดาบหักกวาดโจมตีในที่นั้น
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ผู้ฝึกปราณเหล่านี้หากอยู่ในโลกภายนอกอาจเรียกได้ว่าเป็นพวกมีอิทธิพลชั้นเลิศ แต่ละคนต่างมีพลังต่อสู้ไม่ธรรมดา
แต่ด้วยการสังหารของหลินสวินก็ล้วนไม่มีพิษภัยเลยสักนิด ถูกฟันตายคนแล้วคนเล่าเหมือนกระดาษเปื่อย ฝนเลือดสาดกระเซ็น ร้องโหยหวนไม่ว่างเว้น
แววประหลาดฉายขึ้นในดวงตาหลินสวินอย่างอดไม่ได้ ดาบหักแปรสภาพมาจนตอนนี้ เพิ่งรวมลายสมบัติบริสุทธิ๋ได้เจ็ดลาย แต่อานุภาพที่สร้างขึ้นแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงแล้ว
สมบัติอริยะทั่วไปต่างถูกมันฟันขาด บดขยี้ ระเบิดออกอย่างง่ายดาย!
คมประกายดุดันหาใดเทียบนั้นทำให้หลินสวินยังประหลาดใจ
เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าหลังจากรวมลายสมบัติบริสุทธิ์ได้สิบลาย คุณลักษณะของดาบหักแปรสภาพโดยสมบูรณ์แล้ว อานุภาพของมันจะแกร่งกล้าถึงขั้นไหน
“คนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะกิน ไยโง่เขลาปานนี้”
อาหูถอนใจเบาๆ แล้วลงมือเช่นกัน
กระบี่บินแวววาวสีม่วงเจิดจรัสเล่มหนึ่งโฉบออกมา ทะยานไปในห้วงอากาศ สังหารไปทั่วทิศ ปราณกระบี่ทะลวงสังหารกลางจักรวาลดุจแสงม่วงบรรพกาลทรงพลัง
แทบจะในเวลาสั้นๆ เพียงสิบลมหายใจ ผู้ฝึกปราณกลุ่มนี้ล้วนถูกฆ่าตาย ไม่มีใครโชคดีรอดพ้น ฝนเลือดสาดไปทั่วฟ้าคราม ต่างหลบหนีไม่ทัน
ชิ้ง!
หลินสวินเก็บดาบหัก จัดระเบียบเสื้อผ้า ไม่บาดเจ็บแม้สักนิด
“นี่เรียกว่าบาปที่ตนก่อย่อมหนีไม่พ้น”
อาหูวิจารณ์หนึ่งประโยค
หลินสวินถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “นี่แค่กลุ่มเดียว เกรงว่าต่อไปจะมีพวกแมลงเม่าบินเข้ากองไฟไม่รู้ที่ตายพุ่งเข้ามามากยิ่งขึ้น”
ความจริงก็เป็นเช่นนี้จริงๆ
ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็มีเงาร่างผู้ฝึกปราณกระโจนเข้ามาอีกครั้ง นั่นเป็นผู้สืบทอดที่มาจากสำนักใหญ่ตระกูลมีชื่อกลุ่มหนึ่ง แต่ละคนบุคลิกลักษะไม่ธรรมดา
ทันทีที่มาถึงก็ตะคอกเสียงดังว่าต้องการให้หลินสวินกับอาหูรีบจากไป มิเช่นนั้นต้องรับผลที่ตามมาเอง!