บทที่ 2399 ถูกลักพาตัวไปแล้ว + ตอนที่ 2400 เด็กคนนี้ประหลาดจริงๆ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2399 ถูกลักพาตัวไปแล้ว

เหมยเหมยสะดุ้งตัวโยนรีบดึงมือเล่อเล่อกลับมา กล่าวขอโทษเดวิด “ขอโทษด้วยค่ะ…”

ลูกสาวของตนแรงเยอะใช่ย่อย แค่ตวัดฟาดเพียงครั้งเดียว ถ้ากระดูกไม่หักเนื้อหนังบนตัวก็คงเจ็บไม่น้อย

“ไม่เป็นไรครับ…ลูกสาวของคุณช่างซนจริง ๆ…”

เดวิดลูบแก้มข้างขวาและอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเย็น ๆเข้าไปในปอด เขามองเล่อเล่อที่จ้องมาทางเขาอย่างไม่วางตาด้วยความสงสัย เด็กน้อยเอเชียตะวันออกคนนี้แรงเยอะจริง ๆ นี่เป็นเด็กทารกแรกเกิดจริง ๆเหรอ?

ป้าฟางชี้ไปแล้วกล่าวขึ้นว่า “ห้องน้ำอยู่ทางนั้น คุณเดินตรงไปก็ถึงแล้ว”

เธอพูดพลางเดินก้าวไปข้างหน้าแล้วดันเหมยเหมยและเล่อเล่อไปอยู่ด้านหลังของเธอ หนุ่มฝรั่งคนนี้อาจไม่ได้มาดี เธอยังไม่กล้าประมาท

“ขอบคุณครับ…”

เดวิดขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า นัยน์ตามองป้าฟางราวกับมีนัยยะบางอย่าง หญิงชาวฮวาเซี่ยผู้นี้ไม่ธรรมดา เธอเหมือนยืนสบาย ๆแต่กลับคุ้มกันสองแม่ลูกนี้ไว้ในขอบเขตที่เธอสามารถปกป้องได้ซึ่งคนทั่วไปทำไม่ได้

แสดงว่าฝีมือของหญิงสาวผู้นี้เขาคงต่อกรด้วยได้ยาก

เดวิดซึ่งเดิมทีดูแคลนภารกิจครั้งนี้จำเป็นต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น เขาไม่กล้าที่จะประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไปอีก

เดวิดล้มเลิกแผนปฏิบัติการเดิมที่วางไว้แล้วเดินไปตามทางที่ป้าฟางชี้ จากนั้นก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปรวมตัวกับเพื่อนอีกสองคนที่เหลือ ทั้งสามกระซิบกระซาบกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็แยกย้ายกันไป

ป้าฟางไม่กล้าอยู่ต่อรีบบอกให้เหมยเหมยกลับบ้าน แต่ไม่ได้บอกถึงเหตุผลเพราะเกรงว่าจะทำให้เธอตกใจ

“อืม กลับบ้านกัน”

เหมยเหมยอุ้มเล่อเล่อแล้วเดินตรงไปประตูทางออกของโรงพยาบาลพร้อมกับป้าฟาง ชายหนุ่มทั้งสามคนเดินตามอยู่ด้านหลังไม่ไกลออกไป นี่เป็นการสะกดรอยตามที่มีชั้นเชิงสูง ต่อให้ป้าฟางจะตื่นตัวแค่ไหนก็ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกสะกดรอยตามอยู่ แถมเธอนึกว่าเมื่อครู่ตนตื่นตระหนกเกินไปเธอจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ป้าฟางไปขับรถมานะ ฉันกับเล่อเล่อจะรอตรงนี้”

ลานจอดรถอยู่ไกลพอสมควร เหมยเหมยไม่อยากเดินไปจึงให้ป้าฟางไปเอารถมารับ

ป้าฟางแลซ้ายมองขวา พอเห็นว่าไม่มีความผิดปกติใด ๆ หนุ่มฝรั่งเมื่อกี้ก็ไม่ได้เดินตามมาด้วย อีกอย่างทางเข้าออกของโรงพยาบาลมีคนสัญจรอยู่ตลอดจึงไม่น่าจะมีใครกล้าทำเรื่องไม่ดีตอนกลางวันแสก ๆหรอก

“ได้ คุณหนูอย่าเดินไปไหนนะคะ ป้าจะรีบมา”

ป้าฟางกำชับแล้วรีบเดินไปทางลานจอดรถ เดินไปได้สักระยะก็หันหน้ากลับมามองอีกครั้ง พอเห็นทุกอย่างปกติดี…เธอก็อดยิ้มไม่ได้และคิดว่าตนคงจะกังวลมากเกินไป

หลังจากป้าฟางเดินเลี้ยวหายไป ชายหนุ่มทั้งสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงประตูราวกับผี

“ลงมือ!” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าพูดเสียงขรึม

“คนเยอะขนาดนี้…แน่ใจเหรอว่าจะชิงตัวไปตอนนี้? ไปลักพาตัวตอนกลางคืนไม่ได้เหรอ?” อีกคนไม่ค่อยเต็มใจนัก เขาชอบลงมือตอนกลางคืนมากกว่า

“ไม่ ฉันคิดว่าตอนนี้ปลอดภัยกว่า ตอนกลางคืนเสี่ยงมากกว่า”

ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าเลียมุมปาก เผยรอยยิ้มอันเยือกเย็นออกมา

เขาชอบทำเรื่องเลว ๆตอนกลางวันแสก ๆมากที่สุด ความมืดมิดภายใต้แสงอาทิตย์…มันรู้สึกประสบความสำเร็จมากกว่า!

“แอ๊ะ…”

ทันใดนั้นเล่อเล่อก็ส่งเสียงร้องออกมา ดวงตาของเธอเบิกกว้าง หมัดเล็ก ๆกำแน่นพร้อมร่างกายที่เหยียดตรง

เจ้าหมาป่าตัวน้อยเสวี่ยเสวี่ยหูตั้งชันอย่างระแวดระวังพร้อมคำรามเสียงต่ำ

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ…เล่อเล่อหิวแล้วใช่ไหม?” เหมยเหมยถามด้วยเสียงอ่อนโยน

“แอ๊ะ…”

ตีคนเลว!

เล่อเล่อใช้แรงปัดป่ายมือไปมาด้วยท่าทีจริงจัง เหมยเหมยรู้สึกได้ถึงความผิดปกติจึงรีบกระชับอ้อมกอดตามสัญชาตญาณแล้วประเมินสถานการณ์โดยรอบ แต่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเงาดำก็วาบผ่านไปแล้ว…

เหมยเหมยรู้สึกแค่ว่าในมือว่างเปล่า เล่อเล่อหายไปแล้ว…

“เล่อเล่อ…”

ในขณะที่เหมยเหมยตื่นตระหนกก็รีบคว้าแส้หนังออกมา เธอฟาดแส้ไปที่เงาดำด้านหน้าสุดแรงแล้วรีบวิ่งตามไปอย่างไม่ลดละ แต่ทว่าด้านหลังกลับมีเงาดำโผล่มาอีก

หลังคอของเธอรู้สึกชาวาบ จากนั้นเธอก็ล้มลงพื้นแล้วหมดสติไป

………………………………………

ตอนที่ 2400 เด็กคนนี้ประหลาดจริงๆ

แสงสีขาวแวบผ่านไป เจ้าหมาป่าตัวน้อยเสวี่ยเสวี่ยรีบตามพวกโจรไปติด ๆ เหมยเหมยหมดสติล้มลงบนพื้น เพียงชั่วครู่ก็มีผู้คนเข้ามาห้อมล้อมเต็มไปหมด

“เกิดอะไรขึ้น? รีบเรียกหมอเร็วเข้า…”

การกระทำของโจรว่องไวมากจึงไม่มีใครเห็นว่าพวกเขาลักพาตัวเด็กไป กลับนึกว่าเหมยเหมยอาการกำเริบ คนจิตใจดีสองสามคนจึงรีบวิ่งไปตามคุณหมอมาให้

ไม่นานป้าฟางก็ขับรถมาถึง พอเธอเห็นกลุ่มคนที่มุงล้อมวงกันอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะใจหาย เธอรีบลงรถแล้ววิ่งไปทางนั้น

ครั้นเห็นเหมยเหมยนอนหมดสติบนพื้นเพียงลำพังไร้ซึ่งเงาของเล่อเล่อกับเสวี่ยเสวี่ย ป้าฟางก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว เธอพยายามควบคุมสติแล้วรีบโทรหาเหยียนหมิงซุ่น

“คุณชายหมิง เล่อเล่อถูกลักพาตัวไปแล้ว ตอนนี้ป้ากับคุณหนูอยู่ที่โรงพยาบาล”

 “ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย ป้าช่วยคุ้มกันเหมยเหมยไว้ก่อนยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”

สีหน้าของเหยียนหมิงซุ่นเย็นชาลง แม้แต่ลูกสาวของเขายังกล้าลักพาตัวไป ใครกันช่างใจกล้าขนาดนี้?

ชายทั้งสามคนกลับมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ชายคนหนึ่งอุ้มเล่อเล่อไว้พร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แผ่นหลังถูกแส้ของหญิงสาวหน้าตาสะสวยราวกับตุ๊กตาฟาดเข้าให้ ตอนนี้แผลแสบร้อนเหลือเกิน!

“บ้าเอ๊ย…แม้แต่ผู้หญิงที่นี่ยังมีวิชาติดตัวเลยเหรอเนี่ย!” ชายคนนั้นสบถเสียงต่ำ แผ่นหลังปวดแสบปวดร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆทำให้เขาแทบจะทนไม่ไหว

“รีบแยกย้าย…ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนัก!”

ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าไม่กล้าอยู่ต่อนาน คลุกตัวอยู่ในวงการนี้มากนานทำให้เขามีสัญชาตญาณที่ว่องไวราวกับสัตว์ป่า เขารู้สึกไม่สบายใจราวกับว่ากำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

“แล้วผู้หญิงคนนั้นจะจัดการอย่างไรต่อ?”

“ไม่ต้องไปสนใจ แค่เป็นเครื่องมือใช้งานเท่านั้น”

ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูถูกและไม่สนใจความเป็นความตายของโม่เฉียวหลิงเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นแค่เหยื่อล่อที่องค์กรจัดหามา เธอไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ต่อให้ถูกจับไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

“เด็กคนนี้อายุไม่ถึงหนึ่งเดือนจริงเหรอ?” เดวิดมองเล่อเล่อที่อยู่ในอ้อมแขนของเพื่อน เธอไม่ร้องไห้เลยสักนิดจนเขารู้สึกแปลกใจไม่น้อย

อ้วนขนาดนี้…แข็งแรงขนาดนี้…ต่อให้เป็นเด็กยุโรปหรืออเมริกาก็คงไม่ได้เจริญเติบโตได้ดีขนาดนี้มั้ง?

อีกอย่างปกติเวลาเด็กเจอคนแปลกหน้าจะกลัวจนร้องไห้ไม่ใช่เหรอ?

ทำไมเด็กคนนี้ถึงทำตัวราวกับไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?

“คิก ๆ…” อยู่ดี ๆเล่อเล่อก็หัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุข

เพราะว่าเธอสัมผัสได้ถึงเสวี่ยเสวี่ยคู่หูที่ดีของเธอ แบบนี้ก็เล่นได้เต็มที่แล้ว!

“อยู่ดี ๆก็หัวเราะ…บ้าไปแล้ว!” ชายหนุ่มที่อุ้มเล่อเล่ออยู่รู้สึกประหลาดใจ ตอนนี้เขาคิดว่าการร้องไห้งอแงถึงจะเป็นเรื่องที่ปกติที่สุด แล้วหัวเราะได้ไงเนี่ย?

“บางทีมีหมู่เลือดหายากก็คงเป็นแบบนี้ละมั้ง…ไปเถอะ…” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าไม่ได้สนใจเรื่องเติบโตเกินวัยของเล่อเล่อเลยแม้แต่น้อย เขาคิดแค่ว่าอยากทำภารกิจให้ลุล่วงเร็วขึ้นหน่อยแล้วรีบไปจากที่นี่สักที

ประเทศตะวันออกอันลึกลับอย่างฮวาเซี่ยมักทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจ เขาไม่อยากอยู่ต่อเลยสักนิด

เสวี่ยเอ๋อร์สะกดรอยตามอยู่ด้านหลังอย่างลับ ๆล่อ ๆราวกับวิญญาณที่ตามติดไม่ห่าง ชายหนุ่มทั้งสามคนไม่ทันสังเกตเห็น พวกเขาอุ้มเล่อเล่อที่ปิดปากเงียบกริบไปตามทางลัดแล้วขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว

แสงสีขาวกระโดดพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง เสวี่ยเอ๋อร์กระโดดขึ้นไปบนหลังคารถอย่างว่องไวราวกับสายฟ้า อุ้งเท้าเกาะหลังคารถไว้แน่นราวกับภูเขาไท่ซาน

รถเคลื่อนตัวออกจากเขตตัวเมืองไปไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ ความกระวนกระวายใจของชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าลดลงไปบ้าง เขามองเล่อเล่อที่กำลังเอนกายเป่าฟองอากาศอยู่ในอ้อมแขนเพื่อนและอดยิ้มออกมาไม่ได้

“เจ้าเด็กน้อยนี่ช่างน่ารักรู้ความดีจริง ๆ ฉันแอบตัดใจส่งตัวนังหนูนี้ไปไม่ได้เลยแฮะ!”

“จริงด้วย…ฉันไม่เคยเจอเด็กที่ไหนที่ว่านอนสอนง่ายแบบนี้มาก่อนเลย อยู่ดี ๆฉันก็รู้สึกรักเด็กเข้าแล้วสิ!” เดวิดพูดพลางกลั้วหัวเราะแล้วแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เล่อเล่อ

“แปะ!”

เล่อเล่อตวัดมือฟาดไปหนึ่งที หน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้ยังจะทำหน้าผีใส่อีก อยากโดนตบหรือไง?

“แปลกจัง…เด็กอายุหนึ่งเดือนทำไมแรงเยอะขนาดนี้นะ…วันนี้เจ้าเด็กนี่ตบฉันไปสองครั้งแล้ว…เจ็บนะโว้ย…”

เดวิดลูบแก้มขวาของตัวเองด้วยความโกรธ แสบไม่เบาเลย

………………………..