ตอนที่ 2874 ข้ามารอจนเมื่อยแล้ว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2874 ข้ามารอจนเมื่อยแล้ว!
หลังจากเฉียวหยางเข้าเส้นทางหมายเลขหนึ่งไปนั้นสายตาของพวกเฉียเจินที่อยู่ภายในก็ต้องเบิกค้าง

ศัตรูร้ายได้เพิ่มขึ้นมาคนแล้ว!

“เฉียวหยาง เจ้ามากับเขาด้วยหรือนี่!” เฮ่อหมิงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก

“ทำไมเล่า? เจ้าเข้ามาได้หรือว่าข้าจะเข้ามาไม่ได้?” เฉียวหยางกล่าวขึ้นมาถาม

“ฮ่าๆ แน่นอนว่าเจ้าเข้ามาได้แต่ด้วยนิสัยของเจ้านั้นข้าก็คิดไปเสียว่าเจ้าจะหนีไปเส้นทางอื่น” เฮ่อหมิงหัวเราะตอบกลับไป

“เฮอะ! เส้นทางนี้มันจะต้องเป็นของข้าแน่นอน!” เฉียวหยางนั้นยืดอกกล่าวขึ้น

เขานั้นมั่นใจในฝีมือของตนเอง

แต่ว่าเมื่อสายตาของเขามันเหลือบเห็นเย่หยวนเข้าเขาก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้นด้วยจิตสังหารที่รุนแรง

ตอนนี้เส้นทางมันยังไม่เปิดพวกเขาจึงยังไม่อาจจะลงมือต่อกันได้

ไม่เช่นนั้นเขาคงสังหารเย่หยวนลงไปแล้ว

ได้เห็นสายตานั้นของเฉียวหยางมันก็ย่อมจะทำให้ยอดฝีมือคนอื่นๆ ต้องหันมามองที่เย่หยวนเป็นตาเดียว

หรือว่าเฉียวหยางนั้นจะเข้าเส้นทางที่หนึ่งมาเพื่อแค่ตามล่าจักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนนี้?

ไม่น่ามั้ง?

แต่แม้จะถูกสายตาของคนทั้งหลายนั้นจ้องมอง มันย่อมจะไม่ทำให้เย่หยวนคิดสนใจใดๆ

“เขามีความแค้นกับเจ้า?” เฮ่อหมิงถามขึ้นมา

เฉียวหยางตอบกลับไป “หากพวกเจ้าได้ยินว่ามันพูดอะไรเจ้าก็จะมีความแค้นกับมันเหมือนกัน!”

คำพูดนี้มันย่อมจะดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือหลายคน

เฮ่อหมิงจึงเลิกคิ้วขึ้นถาม “หือ? มันกล่าวว่าอะไรเล่า?”

เฉียวหยางนั้นค่อยๆ เล่าย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจนทำให้คนทั้งหลายหันมามองเย่หยวนด้วยความรุ่มร้อนสุดใจ

มีใครในนี้บ้างที่ไม่เก่งกาจล้นฟ้า?

พวกเขาคนใดบ้างที่จะยอมให้คนมาเย้ยหยามหน้าได้?

พวกเขานั้นกล้าที่จะพูดว่าตำแหน่งของกลุ่มนี้เป็นของตัวเองทั้งสิ้น!

แต่มันไม่มีใครที่จะอวดอ้างตัวได้ถึงขั้นบอกว่าสิบตำแหน่งของเมืองนั้นจะเป็นของเขาแค่คนเดียว!

คำพูดเช่นนั้นมันโอหังและย่อมจะทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นรอบทิศ!

เหล่ายอดฝีมือสวรรค์เลือกทั้งหลายนั้นสุดแสนเก่งกาจ เก่งกาจจนทำให้ประชาชนคนทั้งหลายต้องอิจฉา

อย่าว่าแต่จักรพรรดิเซียน แม้แต่จักรพรรดิเที่ยงเองก็ยังไม่กล้าจะพูดเช่นนั้นออกมา!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางหมายเลขหนึ่งนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นมันไม่ได้ด้อยไปกว่าจักรพรรดิเที่ยงทั่วๆ ไปเลย!

หากถูกยอดฝีมือมากมายเช่นนั้นไล่สังหารแล้ว ใครจะทนรับได้?

“ช่างเป็นคำพูดที่หลงตัวเองเสียจริง! เฮอะๆ ตอนนี้เส้นทางมันก็ใกล้จะเปิดเต็มที ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าน้องชายคนนี้จะเก่งกาจได้แค่ไหน! จริงด้วย! เฉียเจินดูท่าวันนี้เจ้าคงจะเอาชนะไปไม่ได้แล้วมั้ง!” เฮ่อหมิงพูดยุขึ้นมา

เฉียเจินนั้นแข็งแกร่งกว่าใครๆ ในที่นี้

เพราะฉะนั้นมันจึงไม่แปลกหากเขานั้นจะได้ตำแหน่งไป

แน่นอนว่าเรื่องนั้นมันก็แค่พูดถึงความเป็นไปได้

เพราะในยอดฝีมือทั้งหลายนั้นมันมีคนที่ถนัดวิชามากมายแตกต่างกันไป มีใครกล้าพูดบ้างว่าจะไม่เจอยอดฝีมือที่ตัวเองแพ้ทาง?

หากเป็นตัวต่อตัวนั้นมันยังพอว่า

เฉียเจินนั้นไม่คิดแม้แต่จะหันไปมองเย่หยวน “แค่คนโง่ เจ้าจะลดตัวไปเล่นกับมันเพื่อ?”

“ฮ่าๆๆ ก็จริงของเจ้า! คนโง่ เจ้าจะไม่เห่าอะไรตอบมาหน่อยหรือ?” เฮ่อหมิงนั้นหันไปหัวเราะเย้ยหยันเย่หยวน

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและหลับตาพักต่อไป

เขานั้นไม่ได้ว่างมากถึงขนาดที่จะเอาเวลาบ่มเพาะอันมีค่าไปคุยต่อปากต่อคำกับศัตรูอย่างไร้ประโยชน์ เขานั้นสามารถใช้เวลานี้ทบทวนและฝึกฝนเต๋าโอสถเต๋าค่ายกลไปได้มากมาย เหตุใดต้องไปเสียเวลาด้วย?

แต่ว่าการเมินเฉยของเขานั้นมันกลับทำให้คนทั้งหลายมองเห็นเป็นความหวาดกลัว

“ฮ่าๆ ไอ้เด็กนี่มันคงกลัวจนลืมภาษาแล้ว? ไม่พูดอะไรเลย!”

“ขอร้องเถอะ! ยอดฝีมือกว่ายี่สิบคนยืนล้อมรอบด้านเช่นนี้หากเป็นเจ้าแล้วเจ้าจะกล้าพูดเถียง? หากพูดโม้ด้านนอกมันยังพอว่าแต่เข้ามาในเส้นทางแล้วมันย่อมมีแต่ต้องก้มหัว!”

“ก็จริง ถูกยอดฝีมือมากมายหมายหัวเช่นนี้มันย่อมจะมีแต่ตายกับตาย! ไม่นานข้าคงได้เห็นคนร้องไห้แน่แล้ว ฮ่าๆๆ!”

มิติแห่งนี้มันยิ่งใหญ่มากจนสามารถจุคนแปดหมื่นไว้ได้อย่างไม่เบียดเสียดใดๆ โดยพวกเขาต่างถูกล้อมไว้ด้วยม่านแสง

ก่อนที่จะเปิดเส้นทางนั้นพวกเขาจะไม่อาจขยับตัวผ่านม่านแสงนี้ไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะมีแต่ต้องตาย

ตอนนี้มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์สองคนแห่งเมืองข่ายยักษ์ เฉียเจียนและซู่มู่นั้นกำลังมองดูเส้นทางที่หนึ่งด้วยความสนใจ

เพราะว่าที่แห่งนี้มันคือแหล่งรวมดาวอย่างแท้จริง

“เฉียเจินนั้นคงได้ที่หนึ่งแน่นอนแล้ว ไอ้เด็กคนนี้มันไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเลย!” ซู่มู่ยิ้มกล่าวขึ้น

เฉียเจินนั้นเป็นทายาทของเฉียเจียน มีฝีมือเก่งกาจกว่าจักรพรรดิเซียนคนใดๆ

เขานั้นคือความภาคภูมิใจของเฉียเจียน

เรื่องทายาทคนนี้เขาย่อมจะดูแลอย่างสุดกำลัง

ได้ยินเช่นนั้นเฉียเจียนก็ต้องยิ้มขึ้นตอบ “ข้าว่าฝีมือของเฉียเจินในตอนนี้คงสามารถติดยี่สิบอันดับแรกของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนได้แน่! ศึกครั้งนี้มันก็แค่การเล่นสำหรับเขา”

ซู่มู่เบิกตากว้างขึ้น “มันซ่อนฝีมือไว้ปานนั้น? เจ้าบ้านี่ซ่อนไว้ได้แนบเนียนนัก!”

เฉียเจียนนั้นยิ้มตอบกลับไป “หากมันไม่ซ่อนไว้บ้างแล้วมันจะไปสู้ศึกร้อยบุตรได้อย่างไร? หึ คนที่ได้ไปถึงเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันมีแต่ยอดอัจฉริยะทั้งสิ้น!”

ซู่มู่พยักหน้ารับ “หากเขาติดยี่สิบอันดับได้จริงแล้วข้าเองก็คงได้หน้ามาบ้างเช่นกัน!”

เฉียเจียนยิ้มตอบกลับไป “เลิกวางท่าเสียทีเถอะ! ซู่หยุนมันนั้นเองก็เก่งกาจในหมู่จักรพรรดิเที่ยง! สุดท้ายตำแหน่งร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนมันก็ยังไม่อาจเทียบร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงได้อยู่ดี!”

ซู่หยุนนั้นย่อมจะเป็นทายาทของซู่มู่

พวกเขานั้นเป็นทายาทของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ แน่นอนว่าย่อมจะมีทรัพยากรที่เหนือล้ำกว่าคนทั่วไปนัก

ซู่มู่ยิ้มตอบกลับไป “การแข่งขันของจักรพรรดิเที่ยงนั้นมันดุเดือดกว่าทางจักรพรรดิเซียนมาก ซู่หยุนมันจะได้ที่หนึ่งมาหรือไม่นั้นบอกไม่ได้เลยจริงๆ! เอาล่ะ มันได้เวลาเปิดเส้นทางแล้ว!”

ปัง!

ม่านแสงรอบๆ ตัวคนทั้งหลายนั้นระเบิดออกหายไปทันที

ในเวลาเดียวกันนั้นมันก็ปรากฏเส้นทางขึ้นมาตรงหน้าคนทั้งหลาย

แต่แน่นอนว่าเป้าหมายนั้นมันยังอยู่ห่างไกลจากจุดที่พวกเขาอยู่นัก

ระยะทางนี้มันคือสิ่งที่พวกเขาจะต้องแข่งกัน

แต่ว่าต่อให้จะไปถึงประตูเส้นทางก่อนใครเพื่อนมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะชนะ

เพราะว่าประตูนั้นมันถูกผนึกไว้

บนประตูมันมีกลไกตั้งอยู่ พวกเขานั้นต้องใช้งานกลไกนั้นต่อเนื่องกันสามครั้งถึงจะสามารถเปิดผนึกประตูเส้นทางออกได้

และหลังจากที่มีคนผ่านประตูไปได้แล้ว มันก็จะถูกผนึกขึ้นอีกครั้งและต้องทำการเปิดใหม่ด้วยวิธีเดิม

นี่เองที่ทำให้ศึกนี้มันนองเลือดนัก

พริบตาหลังจากม่านแสงหายไปนั้นเฉียวหยางก็หันมามองเย่หยวนในทันที

เขานั้นคิดจะสังหารเจ้าเด็กอวดดีนี่ลงเสีย!

และมิใช่แค่เฉียวหยางเท่านั้น ตอนนี้จักรพรรดิเซียนหลายคนต่างหันมามองจุดที่เย่หยวนอยู่เป็นตาเดียว

แต่ว่าตัวเย่หยวนนั้นมันกลับหายไปในวินาทีเดียวกับที่ม่านแสงแตกออก

“มันไปไหนแล้ว? มันยังนั่งอยู่ตรงนี้ชัดๆ!”

“ไอ้เวร อย่างน้อยๆ ความเร็วก็ถือว่าไม่เลว! อย่าให้พ่อเจ้าได้เจอ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้ตายดีแน่!”

“ไอ้เด็กนี่มันเร็วนัก!” เฉียวหยางนั้นได้แต่ต้องกัดฟันร้องขึ้นอย่างคับแค้นใจ

คนกว่าแปดหมื่นนี้หากปกปิดคลื่นพลังฝูงไปกับผู้คนมันย่อมจะยากที่จะหาได้

และในเวลานี้คนทั้งแปดหมื่นนั้นได้ปะทะกันอย่างรุนแรงจนเลือดสาดเซ็นไปทั่วบริเวณ

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นต่างเลือกเป้าหมายของตัวเอง แต่ละกลุ่มนั้นจะมียอดฝีมือราวยี่สิบคนปะทะกันอย่างรุนแรง

แต่ว่าพวกเขานั้นย่อมจะยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมาในการต่อสู้นี้ เพราะของจริงมันต้องไปสู้กันหลังประตู

เพราะมันไม่มีความจำเป็นต้องออกแรงสุดตัวในรอบแรกนี้

การสังหารจริงๆ มันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้!

ถึงตอนนั้นมันก็จะเป็นช่วงที่ต้องตายกันไปข้าง

เพราะหากออกแรงมากไปในรอบแรกนี้ รอบสองก็จะกลายเป็นว่าเสียเปรียบคนอื่นแทน

เฉียเจินนั้นมีฝีมือเหนือล้ำคนอื่นและฝ่าวงล้อมออกมาถึงประตูเส้นทางได้เป็นคนแรก

แต่ว่าเขาก็ยังสลัดคนทั้งหลายไม่หลุด

เพราะในที่นี้มันไม่มีคนอ่อนแออยู่

“ที่หนึ่งนั้นคือของพ่อเจ้านี้! เฉียเจิน เจ้าอย่าได้คิดนำหน้าข้าไป!” เฉียวหยางนั้นร้องลั่นพร้อมฟันดาบเข้าใส่เฉียเจิน

ฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก ต่อให้จะเป็นเฉียเจินเองก็จะประมาทไม่ได้

แต่ว่าเมื่อยังไม่ได้เข้าถึงประตูเส้นทางไปมันก็ไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าสังหารกันลงจริงๆ

เพราะประตูเส้นทางนั้นต่างหากคือจุดตัดสินกันจริงๆ

ไม่นานนักยอดฝีมือยี่สิบคนแรกก็ได้มาถึงประตูในที่สุด

แต่เมื่อมาถึงพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้าง!

เพราะว่าเงาร่างหนึ่งมันกำลังยืนเอนหลังพิงประตูรอพวกเขาทั้งหลายอยู่

แล้วมันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?

ที่แท้เขานั้นมาถึงประตูเส้นทางก่อนใครๆ แล้ว!

เมื่อได้เห็นคนทั้งหลายมาถึงกันเย่หยวนก็ต้องยิ้มกว้างขึ้น “เพิ่งมาถึงกันหรือ? ข้ามารอจนเมื่อยแล้ว!”

…………………………