ตอนที่ 2875 เป็นแค่มดไม่มีสิทธิ์ยอมแพ้

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2875 เป็นแค่มดไม่มีสิทธิ์ยอมแพ้!
หัวใจของคนทั้งหลายมันเต้นรัวขึ้นทันที!

เจ้าบ้านี่มันเร็วมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้ปากดีเช่นนั้น!

ดูท่าแล้วคำโม้ของมันจะไม่ได้กล่าวขึ้นลอยๆ

เพียงแค่ว่าพวกเขาไม่เข้าใจ ทำไมมาถึงก่อนแล้วไม่เข้าไปให้มันสิ้นเรื่องจะยังรออะไรอยู่?

คนที่ได้เข้าประตูไปคนแรกนั้นมันคือคนที่จะได้รับการยกย่องอย่างมาก!

แต่ว่าเฉียเจินเองก็ต้องถอนหายใจยาวออกมา

เกือบพลาดเพราะเรื่องง่ายๆ ไปแล้ว!

“รอจนเมื่อย? ฮ่าๆ ไอ้หนู เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?” เฉียวหยางนั้นหัวเราะกล่าวถามขึ้น

เย่หยวนยิ้มเย็นเยือกตอบกลับไป “ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่จะบอกพวกเจ้าว่านอกจากข้าแล้ว ห้ามใครผ่านเส้นทางนี้ไปทั้งสิ้น”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนกว่าร้อยที่มาใกล้ถึงประตูมันก็ต้องหัวเราะขึ้นมา

เจ้ามาเล่นตลกหรือ?

เฉียวหยางนั้นหัวเราะลั่นขึ้น “เฉียชิง สมองเจ้ามันพังไปแล้วหรือ? ในศึกคัดเลือกร้อยบุตรนี้มันไม่เคยมีใครที่ผ่านเส้นทางไปได้เพียงแค่คนเดียวมาก่อน! เจ้าจะบอกว่าตัวเจ้าคนเดียวนี้จะหยุดพวกเราทั้งแปดหมื่นไว้หรือ?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น!”

แต่ก่อนที่คนทั้งหลายจะได้หัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาเย่หยวนก็กล่าวขึ้นเสริม “ที่ข้าจะบอกคือ…ข้าจะสังหารจนกว่าจะไม่มีใครกล้าเข้าไป!”

หยุด?

เรื่องเช่นนั้นไม่จำเป็น!

ข้านั้นมาเพื่อสังหารเท่านั้น

คนทั้งหลายต้องผงะไปอีกครั้ง

เจ้านี่มันบ้า! กล่าวโม้อะไรให้มันน่าเชื่อถือหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร?

“ฮ่าๆๆ…ข้ากลัวนัก! ไอ้หนู มาฆ่าข้าทีเถอะ!”

“ใช่ๆ พวกเราเหล่าจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวนั้นอ่อนแอเกินไป ข้าขอร้องเจ้าล่ะ มาฆ่าพวกเราได้เลย!”

“มาเลย ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำอย่างไรให้เราไม่กล้าเข้าไป”

เย่หยวนนั้นกลายเป็นดั่งตัวตลก!

คำพูดของเขานั้นมันน่าขันจนถึงที่สุด

ในห้วงมิติเบื้องบนนั้นซู่มู่และเฉียเจียนเองก็ต้องเบิกตามองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อเช่นกัน

พวกเขานั้นไม่เคยจะเห็นเด็กหนุ่มคนใดโอหังได้ปานนี้

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะมีกฎแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำไปมาก แต่มันพอจะหยุดคนแปดหมื่นได้?

ไหนจะยังเรื่องที่ว่าความเร็วนั้นไม่ใช่กำลังอีก!

ไม่ว่าจะอย่างไรเสียเป้าหมายของทุกคนในที่นี้ต่างก็เป็นการผ่านประตูเส้นทางไป

ต่อให้เจ้าจะเร็วแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางหยุดคนนับหมื่นๆ ได้แน่

หากพวกเขาบุกเข้ามาพร้อมๆ กันแล้วเจ้าต้องมีกี่มือถึงจะหยุดพวกเขาได้หมด?

พูดไปเช่นนั้นมันก็ไม่ได้ต่างจากกำลังเล่นตลก

ตูม!

ท่ามกลางเสียงหัวเราะนั้นมันกลับเกิดเสียงระเบิดขึ้นมา หมัดของเย่หยวนถูกต่อยออกจนทำให้คนเบื้องหน้าเขานั้นตัวสลายหายไป!

เย่หยวนกล่าวขึ้น “ในเมื่อเจ้าขอข้าก็ต้องสงเคราะห์ให้แล้ว!”

สีหน้าของเฉียเจินนั้นซีดขาวลงทันที

หมัดนี้มันรุนแรงมาก!

คนที่กล่าวว่า ‘ข้าขอร้องเจ้าล่ะ มาฆ่าพวกเราสิ’ นั้นเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวแต่ว่าเขานั้นกลับไม่มีเวลาแม้แต่จะตั้งรับหมัดนี้

แม้ว่ามันจะเป็นการลอบโจมตีทีเผลอแต่มันก็แสดงถึงพลังของเย่หยวนได้อย่างดี!

เฉียเจินนั้นขมวดคิ้วแน่น “เอาล่ะเจ้าได้พิสูจน์ฝีมือแล้ว! เจ้าเข้าประตูเส้นทางไปได้! ไปเสียเราไม่คิดจะหยุดเจ้าหรอก!”

เขานั้นสัมผัสได้ว่าเย่หยวนคนนี้คงไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตัวเขาเลย

หากต้องสู้กันจริงๆ มันคงจบไม่สวยแน่ๆ

ตอนนี้เขายังไม่อยากจะต่อสู้แบบทุ่มสุดตัว

เขานั้นย่อมจะไม่อยากต่อสู้กับเย่หยวนจนหมดสภาพไปทั้งคู่ตั้งแต่รอบแรก

แต่เฉียวหยางนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นขึ้น “เฉียเจิน เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

เฉียเจินตอบกลับไป “มันไม่มีความหมายอะไร สู้กันในด่านนี้ไปมันไม่มีความหมายใด! คิดอยากสู้ก็ค่อยไปสู้กันข้างในเอาเถอะ!”

เฉียวหยางนั้นได้แต่ต้องยืนนิ่งแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าฝีมือของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเองเลย

การโจมตีก่อนหน้านั้นเขาลองถามใจตัวเองดูว่าจะโจมตีได้รุนแรงกว่าเย่หยวนไหมและคำตอบที่ได้ก็คือไม่

แม้ว่าเจ้าเด็กนี่มันจะปากดี แต่มันก็มีฝีมือจริง

คนอื่นๆ เองก็หยุดหัวเราะลงทันทีเห็นด้วยกับคำพูดของเฉียเจินอย่างมาก

แต่เย่หยวนกลับยิ้มตอบไป “พวกเจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ข้าไม่ได้มาอวดฝีมือเพื่อเอาชื่อเสียงใดๆ ข้านั้นแค่อยากสังหารคนเล่นเท่านั้น! พวกเจ้าจะไม่มีใครไปถึงระดับต่อไปได้แน่นอน!”

เฉียเจินนั้นหรี่ตาลงกล่าวขึ้น “เฉียชิง อย่าได้ไม่ไว้หน้ากันเช่นนี้!”

เขาเองก็คับแค้นใจเช่นกัน! เพราะเจ้าเด็กคนนี้มันจะอวดดีจนเกินไปแล้ว!

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรต่อเย่หยวนก็ขยับตัว!

หมัดที่สองของเย่หยวนถูกต่อยออกมาทำลายร่างของจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวอีกคนลงทันที

ตูม!

คนผู้นั้นไม่อาจจะต่อต้านใดๆ ได้แม้แต่น้อย!

คนทั้งหลายใจสั่นขึ้นมาอย่างหวาดกลัว

หากหมัดแรกมันบังเอิญหมัดที่สองมันก็คงไม่มีทางบังเอิญได้แล้ว ตอนนี้ทุกคนระวังตัวอย่างมากแต่ก็ยังตายลงด้วยหมัดเดียวอยู่ดี!

ครั้งนี้เย่หยวนก็ไม่คิดจะหยุดมือด้วย ต่อยหมัดที่สามสี่ห้าออกมาเรื่อย

ที่ใดที่เขาพุ่งตัวผ่านนั้นมันจะมีแต่เศษฝุ่นเลือดสิ้น!

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเก่งแค่ไหน มันก็ไม่อาจจะรับหมัดเดียวของเขาได้เลย!

หมัดที่เย่หยวนใช้ออกมานี้ย่อมจะเป็นวรยุทธเผ่ามังกรที่หมี่เทียนดัดแปลงมาจากหมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์

หมี่เทียนนั้นเป็นถึงอดีตเจ้าโลก แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนหมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์เช่นนี้มันย่อมจะไม่ยากเกินมือ

หลังจากปรับและเปลี่ยนอยู่ไม่นานเขาก็ได้ปรับให้มันเข้ากับสภาพของโอสถเลียนโลหิตทำให้หมัดของเย่หยวนนั้นมันแฝงไปด้วยคลื่นพลังเลือดที่ชั่วร้ายเหมือนเป็นวรยุทธเผ่าเลือดไม่มีผิด

ก่อนนั้นตอนที่สายเลือดของเย่หยวนเพิ่งพัฒนาเย่หยวนสามารถต่อยหมัดเดียวสังหารสามร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนลงไปได้

ตอนนี้เมื่อพลังบ่มเพาะของเขาพัฒนาขึ้นมาแล้วการจะสังหารผู้เข้าคัดเลือกเป็นร้อยบุตรนี้ย่อมจะไม่ถือว่ายากเย็นใดๆ

ได้เห็นเย่หยวนออกอาละวาดเช่นนั้นเฉียเจินก็หน้าซีดลง

เพราะว่าพลังของเขาคนนี้มันบ้าคลั่งเกินไป!

“พวกเราร่วมมือกันสังหารไอ้เด็กเวรนี่ลงก่อน!” เฉียเจินสั่งขึ้นมา

แน่นอนว่าวินาทีนี้พวกเขาย่อมจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องร่วมมือกันต้านเย่หยวน

ตอนนี้จักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวกว่าร้อยคนได้เข้ามาล้อมเย่หยวนไว้รอบด้านและในหมู่พวกเขานั้นมันก็มียอดฝีมือติดอันดับอยู่ด้วย

แต่มันก็เปล่าประโยชน์!

เฉียวหยางนั้นได้แต่ต้องมองดูไกลๆ อย่างกลัวๆ

ยอดฝีมือที่เขามองว่าเป็นคู่แข่งนั้นกลับรับหมัดเย่หยวนไม่ได้แม้แต่หมัดเดียว!

ตัวเฉียวหยางในตอนนี้กลัวจนขาสั่นไม่เหลือความกล้าใดๆ อีกต่อไป

เขานั้นค่อยๆ พุ่งตัวถอยออกมาอย่างเนียนๆ หวังว่าเย่หยวนจะลืมๆ เรื่องของตนไป

ใครจะไปคิดว่าเจ้าบ้านี่มันเก่งกาจปานนี้?

ซวย!

คำนวณพลาด!

เขานั้นได้เข้าใจแล้วว่าทำไมเย่หยวนถึงไม่สนใจตัวเขาเลย มันมิใช่เพราะความอวดดีแต่เพราะว่าตัวเขานั้นไร้ค่าใดต่อหน้าเย่หยวน!

เมื่อออกมาจากระยะของสนามรบเขาก็อดถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้

โชคยังดีที่คนอื่นๆ ถ่วงเวลาเย่หยวนไว้!

เขานั้นไม่นึกว่าเฉียเจินจะซ่อนฝีมือไว้ปานนั้น

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นมีเพียงเขาแค่คนเดียวที่รับหมัดของเย่หยวนไว้ได้โดยไม่ตายไปก่อน

แต่ก็โชคดีที่มันปิดบังฝีมือไว้

ไม่เช่นนั้นครั้งนี้เขาคงได้ตายแล้วแน่

“อ่าว? ไหนว่าเจ้าไม่ใช่ขยะไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่มาพิสูจน์หน่อยเล่า? ทำไม? ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสเจ้าแล้ว จะไปไหนเสียเล่า?” จู่ๆ มันก็เกิดเสียงเย็นเยือกขึ้นรอบตัวเขา

เฉียวหยางนั้นสั่นจนแทบยืนไม่ไหวหันมองดูแปดทิศรอบตัวแม้แต่ด้านบนด้านล่างก็มองหา

แต่กลับไม่เจอแม้แต่เงาของเย่หยวน

ราวกับว่าพื้นที่รอบๆ ตัวเขานี้คือเย่หยวนทั้งสิ้น!

“จ…เจ้าอยู่ที่ไหนกัน?” เฉียวหยางถามขึ้นมาพร้อมตั้งท่ารับเต็มตัว

“ข้าอยู่ตรงหน้าเจ้า ไม่เห็นหรือ?”

เฉียวหยางต้องเบิกตากว้างแต่ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง “ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่ดูท่า…เจ้ามันจะเป็นได้แค่ขยะจริงๆ!”

ตูม!

หมัดเดียวนี้ได้สังหารเฉียวหยางลงทันที!

แน่นอนว่าเย่หยวนสามารถสังหารเฉียวหยางลงได้ง่ายๆ

แต่ที่เขาไม่ทำตั้งแต่แรกก็เพื่อให้เขาได้สัมผัสถึงความหวาดกลัว

ในหมู่ยอดฝีมือนับพันๆ นั้นเวลานี้มันเหมือนอยู่เพียงแค่ไม่ถึงสามสี่คนแล้ว

คนส่วนมากได้ตายลงไปสิ้น

แต่ความตายของเฉียวหยางนั้นได้ทำให้ขนของผู้คนลุกตั้ง

เฉียวหยางนั้นเป็นยอดฝีมือที่อยู่ระดับต้นๆ ของคนที่เข้ามาวันนี้

แต่เขานั้นกลับตายอย่างไม่ทันได้รู้ตัว ไม่มีการต่อสู้ใดๆ ทั้งสิ้น

“เราไม่เข้าไปแล้ว! พวกเราจะไม่มีใครเข้าไปแล้ว! อย่าได้สังหารข้าเลย!” เฮ่อหมิงกล่าวขึ้นมาพร้อมคุกเข่าลง

เฉียเจินเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “เฉียชิงเจ้าชนะแล้ว! เราไม่เข้าไปแล้ว!”

เขานั้นคิดว่าเย่หยวนคงไม่กล้าสังหารเขาเพราะว่าเขานั้นคือทายาทของเจ้าเมืองเฉียเจียน!

การท้าทายอำนาจมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นมันเกินกว่าที่จักรพรรดิเซียนจะรับได้!

ตูม!

หมัดหนึ่งถูกต่อยออกมาทำลายร่างของเฮ่อหมิงลงเป็นแค่ฝุ่นเลือด

เฉียเจินนั้นเบิกตากว้างขึ้นมามองเย่หยวนก่อนจะได้ยินเสียงเย็นเยือกของปีศาจดังขึ้นมาจากปากนั้น “ขอโทษที ข้าไม่ได้บอกสักครั้งว่าหากพวกเจ้าร้องขอชีวิตแล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป! เป็นแค่มดไม่มีสิทธิ์ยอมแพ้!”

…………………………