บทที่ 2405 มีเบาะแสแล้ว + ตอนที่ 2406 หัตถ์พระเจ้า

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2405 มีเบาะแสแล้ว

วันที่สี่แล้ว

ทางเหยียนหมิงซุ่นยังไม่ได้ข่าวความคืบหน้าใด ๆ เล่อเล่อเงียบหายไปดั่งก้อนหินที่จมหายไปกลางทะเล รวมถึงเสวี่ยเอ๋อร์ก็ด้วย

“จะตามหาไม่เจอได้อย่างไรกัน หรือว่ามุดลงไปใต้ดินเหมือนเจ้าตาแก่หนิงนั่น?” พอเฮ่อเหลียนชิงรู้ว่าเล่อเล่อถูกลักพาตัวไปก็รีบเดินทางมาด้วยความร้อนใจ

เขาไม่พอใจเหยียนหมิงซุ่นอย่างมากที่จนป่านนี้แล้วยังตามหายัยหนูอ้วนไม่เจออีก แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

เพราะคนที่หายตัวไปคือลูกสาวแท้ ๆของเขา ฉะนั้นเหยียนหมิงซุ่นร้อนใจยิ่งกว่าใครอยู่แล้ว

“หมาป่าตัวนั้นก็ตามไปด้วยไม่ใช่เหรอ? สัตว์ตัวนี้ฉลาดไม่เบา ทิ้งเบาะแสอะไรไว้บ้างไหม” เฮ่อเหลียนชิงตาเป็นประกายขึ้นมา

“ตอนนี้ยังไม่พบ บางทีเสวี่ยเอ๋อร์ก็อาจจะตามไม่ทัน”

เหยียนหมิงซุ่นนึกถึงจุดนี้ได้ตั้งนานแล้วเพียงแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบเบาะแสใด

เฮ่อเหลียนชิงขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดพึมพำกับตัวเอง “ให้ตายเถอะ ไอ้สารเลวหน้าไหนกล้าลักพาตัวหลานสาวฉันไป? ฉันจะฆ่าทิ้งให้หมด!”

เหยียนหมิงซุ่นครุ่นคิดอย่างหนักก็ไม่ได้คำตอบ แต่เดิมเขาสงสัยกลุ่มอิทธิพลนอกประเทศ แต่ประเทศรอบข้างสงบดีทุกอย่างจึงตัดข้อสันนิษฐานนี้ออกไปได้เลย ถ้าเช่นนั้นก็เหลือเพียงความแค้นส่วนตัวแล้ว!

แต่บรรดากลุ่มอิทธิพลในเมืองหลวงมีใครจะกล้าต่อกรกับเขากัน?

“คุณชายหมิง…เราได้ทำการตรวจสอบชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศในสัปดาห์นี้แล้ว เหลือเพียงคนกลุ่มนี้ที่น่าสงสัยที่สุด” ลูกน้องยื่นเอกสารปึกหนึ่งมาให้ซึ่งล้วนแต่เป็นรายชื่อผู้ต้องสงสัยหลังผ่านการตรวจสอบจากพวกเขาแล้ว มีราว ๆยี่สิบกว่าคน

เหยียนหมิงซุ่นยื่นรายชื่อให้ป้าฟางกับเหมยเหมยดู

“คนนี้คือคนถามทาง ฉันจำได้” เหมยเหมยกับป้าฟางพูดขึ้นพร้อมกัน

“แมทธิว…คนเยอรมัน…”

เหยียนหมิงซุ่นอ่านข้อมูลของหมอนี่ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นของปลอม เขาเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน

“ลองหาคนที่เข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกับหมอนี่ดูหน่อย” เหยียนหมิงซุ่นบอก

“เจอแล้ว สองคนนี้กับคนที่ชื่อแมทธิวเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงในเวลาไล่เลี่ยกัน อีกอย่างพวกเขาพักโรงแรมที่เดียวกันด้วย” ไม่นานลูกน้องก็หาอีกสองคนเจอ

“คนหนึ่งชาวฝรั่งเศส คนหนึ่งชาวฮอลแลนด์…หึ สถานะปลอมอย่างเห็นได้ชัดเลย กระจายคนออกไปตามหาร่องรอยสามคนนี้ เช็กดูว่าช่วงนี้พวกเขาได้ติดต่อกับใครบ้างหรือเปล่า”

เหยียนหมิงซุ่นเริ่มจับทางได้ ชาวต่างชาติสามคนนี้ไม่คุ้นเคยกับสถานที่และผู้คนในเมืองหลวง คงไม่พ้นต้องมีคนคอยเป็นตัวกลาง ไม่อย่างนั้นจะหนีไปจากโรงพยาบาลเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร?

สิ่งที่เขาคาดคะเนไว้ถูกต้องแต่คนที่มาส่งข่าวให้เขาไม่ใช่ลูกน้องแต่กลับเป็นเหยียนหมิงต๋า

“เล่อเล่อถูกลักพาตัวไปเหรอ?” เหยียนหมิงต๋าถามทันทีที่เข้าประตูมาด้วยสีหน้ากระวนกระวาย

“ใช่…ถูกพาตัวไปจากโรงพยาบาล…” เหมยเหมยพูดอยู่ดี ๆก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง สี่วันที่ผ่านมาใบหน้าเธอมีน้ำตาไหลอาบแก้มทุกวัน ตาบวมฉึ่งและเริ่มมองอะไรพร่ามัวขึ้นแล้ว

เหยียนหมิงซุ่นกลับสงสัยเลยย้อนถาม “นายรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”

ข่าวที่เล่อเล่อหายตัวไปเขาได้ปิดไว้อย่างดีแม้แต่พวกคุณย่าหยางกับเหยียนซินหย่ายังไม่รู้ด้วยซ้ำ แล้วเหยียนหมิงต๋ารู้ได้อย่างไร?

เหยียนหมิงต๋าไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับเป็นฝ่ายถามแทน “พี่สะใภ้ ฉีฉีเก๋อเป็นเพื่อนของพี่สินะ?”

“ใช่ เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง” เหมยเหมยพยักหน้าพลางรู้สึกว่าเหยียนหมิงต๋าดูแปลก ๆจัง ทำไมจู่ ๆมาถามถึงฉีฉีเก๋อล่ะ?

“วันนั้นพี่ไปเยี่ยมฉีฉีเก๋อที่โรงพยาบาลใช่ไหม?” เหยียนหมิงต๋าถามอีก

“ใช่” เหมยเหมยอดถามไม่ได้ “นายคิดจะถามอะไร? เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฉีฉีเก๋อ?”

เหยียนหมิงต๋ามีสีหน้าแปลก ๆพลางเอ่ยต่อเหยียนหมิงซุ่นว่า “ลูกสาวของฉีฉีเก๋อมีหมู่เลือดโอบอมเบย์ที่พบหาได้ยาก ทั้งโลกมีไม่ถึงพันคน”

เหยียนหมิงซุ่นใจกระตุกวูบ ในที่สุดเขาก็คิดได้สักทีหลังจากคิดไม่ตกมาหลายวัน

“นายหมายความว่าคนพวกนั้นคิดว่าเล่อเล่อเป็นลูกสาวของฉีฉีเก๋อเหรอ?”

“ใช่ พี่สะใภ้วางใจได้ เล่อเล่อจะไม่เป็นไรแน่นอน คนพวกนี้ไม่กล้าทำอะไรเล่อเล่อ ในทางกลับกันต้องดูแลประคบประหงมหลานเป็นอย่างดีอีกต่างหาก” เหยียนหมิงต๋าพูดปลอบใจเหมยเหมย

………………………

ตอนที่ 2406 หัตถ์พระเจ้า

เหมยเหมยฟังแล้วยังไม่เข้าใจ เธอรู้ว่าลูกสาวของฉีฉีเก๋อมีกลุ่มเลือดโอบอมเบย์ แต่เกี่ยวอะไรกับการลักพาตัวเล่อเล่อไปล่ะ?

“ต่อให้พวกเขาจำผิดคนแต่พวกเขาลักพาตัวลูกสาวของฉีฉีเก๋อไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร?”

เหยียนหมิงต๋าหัวเราะเสียงเย็นชาทีหนึ่ง เขาไม่อยากบอกความจริงให้เหมยเหมยสะเทือนใจจึงเอ่ยต่อเหยียนหมิงซุ่นว่า “อีกฝ่ายเป็นกลุ่มองค์กรหนึ่งที่ผงาดขึ้นมาในช่วงหลายปีนี้ ชื่อหัตถ์พระเจ้า คนที่ลักพาตัวเล่อเล่อไปก็คือคนจากองค์กรนี้”

“หัตถ์พระเจ้า? ชื่อนี้ฟังดูคุ้นหูจังแฮะ…” เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วครุ่นคิด

ลูกน้องข้าง ๆรีบเอ่ยเตือน “คุณชายหมิง มันก็คือองค์กรที่ลักลอบขายอวัยวะร่างกายที่ท่านให้เราตรวจสอบเมื่อช่วงก่อน มีชื่อองค์กรว่าหัตถ์พระเจ้า แถมก่อนหน้านี้มันเป็นองค์กรนักฆ่าชื่อดังด้วย”

เหมยเหมยสะดุ้งเฮือก ลักลอบขายอวัยวะร่างกายงั้นหรือ?

เธอฉุกนึกถึงหวงหนานเกาที่ถูกขโมยไตไปเมื่อช่วงก่อนในทันที รวมถึงพ่อหนุ่มผู้ไร้ความผิดนั่นจนรู้สึกใจหายวาบในฉับพลัน

“พวกเขาจะทำอะไรกับเล่อเล่อ? จะขโมยอวัยวะของเล่อเล่อเหมือนกันใช่ไหม…” เหมยเหมยกรีดร้องอย่างคลุ้มคลั่งจนสติแทบกระเจิง

เหยียนหมิงซุ่นรีบห้ามเธอไว้แล้วลูบหลังเธอเบา ๆพลางเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน “ไม่หรอก…เล่อเล่อจะไม่เป็นไร เป้าหมายของพวกมันคือเลือด เล่อเล่อจะไม่เป็นอะไรไปชั่วคราว”

“แต่เล่อเล่อไม่ได้อยู่ในกลุ่มเลือดโอบอมเบย์นี่…ถ้าเกิดพวกมันรู้ความจริงว่าเข้าใจผิดแล้วจะทำอะไรเล่อเล่อไหม…” เหมยเหมยกังวลใจยิ่งกว่าเดิม

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรหรอก เชื่อพี่สิ พี่จะช่วยเล่อเล่อกลับมาก่อนที่พวกมันจะรู้ความจริง…” เหยียนหมิงซุ่นรับปาก

เหยียนหมิงต๋าก็พูดเสริม “พี่สะใภ้วางใจได้ ฝั่งผมมีเบาะแสแล้ว ไม่นานคงช่วยเล่อเล่อกลับมาได้”

“เบาะแสอะไร นายรีบพูดมา…” เหมยเหมยรีบรบเร้า

“คนที่ชี้ตัวเล่อเล่อคือโม่เฉี่ยวหลิง หล่อนเป็นคนให้ข้อมูลที่ผิดพลาดกับสามคนนั้นถึงทำให้เล่อเล่อถูกลักพาตัวไป” เหยียนหมิงต๋ากล่าว

แม้เขาจะทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บริษัทของโม่ซิวหย่วนแต่ก็แอบเข้าร่วมทีมเสวี่ยอิงแบบลับ ๆมานานแล้ว อีกทั้งยังเป็นทีมปฏิบัติการแบบลับ ๆ  ช่วงก่อนหน้านี้เขาได้รับภารกิจลับให้ตรวจสอบคดีขโมยอวัยวะที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงอยู่บ่อยครั้ง

ฉะนั้นเขาถึงได้ตีสนิทกับโม่เฉี่ยวหลิงมากขนาดนั้น

เพราะเขาตามสืบแล้วพบว่าโม่เฉี่ยวหลิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เสียหายทั้งสามคนหลังในระดับที่ต่างกัน

เหยียนหมิงต๋าขุ่นเคืองอย่างมาก หลายวันก่อนเขากลับไปรายงานตัวที่ฐานบัญชาการใหญ่แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องกับหลานสาวเสียได้

“โม่เฉี่ยวหลิง…”

เหมยเหมยกัดฟันกรอด สีหน้าเยือกเย็น ลุกยืนเดินออกไปข้างนอก เธอจะฟาดนังแพศยานี่ให้ตาย!

“หล่อนอยู่บนรถฉัน”

เหยียนหมิงต๋าเดินไปหลังบ้านแล้วหิ้วโม่เฉี่ยวหลิงที่เป็นลมหมดสติจากช่องเก็บของด้านหลังรถออกมา เหมยเหมยตาแดงก่ำพุ่งไปเอาแส้ฟาดตัวโม่เฉี่ยวหลิงอย่างแรงชนิดที่ใช้เรี่ยวแรงที่เธอมีทั้งหมดเลยทีเดียว

โม่เฉี่ยวหลิงสะดุ้งตื่นเพราะความเจ็บปวด พอลืมตาขึ้นก็เห็นเหมยเหมยที่ทำหน้าเคียดแค้น ก่อนที่แส้จะถูกฟาดลงอีกครั้งจนร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด

“เธอเอาลูกสาวฉันไปไว้ที่ไหน? เธอคืนเล่อเล่อของฉันมานะ…”

เหมยเหมยฟาดแส้ติดต่อกันอีกหลายทีจนโม่เฉี่ยวหลิงผิวหนังถลอกปอกเปิก กระโปรงสีขาวสะอาดบนตัวเปรอะไปด้วยคราบเลือดสภาพดูอนาถอย่างมาก

“หมิงต๋า…ช่วยฉันที…”

โม่เฉี่ยวหลิงเห็นเหยียนหมิงต๋าก็ดีใจเลยขอความช่วยเหลือจากเขา

“ตอบคำถามพี่สะใภ้ฉัน หลานสาวฉันถูกพาตัวไปไหน?” เหยียนหมิงต๋าทำหน้าเย็นชาไม่มีท่าทีสงสารเลยสักนิด โม่เฉี่ยวหลิงใจหล่นวูบเพราะรู้ว่าความแตกแล้ว

“บอกมา…ลูกสาวฉันถูกพาไปไว้ที่ไหน?” เหมยเหมยถามเสียงดุแต่โม่เฉี่ยวหลิงกลับปิดปากแน่น เจ็บแค่ไหนก็ไม่ยอมบอก

เจ๊ใหญ่ที่พาเธอเข้ามาในสายงานนี้ได้ทำการตักเตือนเธอแต่แรกแล้วว่าหากสารภาพผิดก็จะถูกลงโทษอย่างหนัก หากไม่ยอมรับสารภาพอาจมีโอกาสรอด ถ้าถูกจับก็ห้ามสารภาพความจริงเด็ดขาด บางทีอาจจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้

แต่ว่า–

เหยียนหมิงซุ่นยื่นเท้ากดจุดตามร่างกายเธอหลายจุด ไม่นานโม่เฉี่ยวหลิงก็เจ็บจนกลิ้งเกลือกไปมาราวกับกำลังอยู่ในนรกภูมิ

“ฉันยอมบอกแล้ว…ฉันจะบอกทุกอย่างเลย…”

โม่เฉี่ยวหลิงทนไม่ไหวจึงเล่าทุกอย่างที่เธอรู้ไปทั้งหมด แต่อันที่จริงสิ่งที่เธอรู้ก็มีไม่มากนัก

……………………….