ดูหน้าเจ้าเวลาหลอกคนไปขายสิ มันหล่อเสียจริง!
หยางชิงนั้นแทบจะอยากร้องลั่นขึ้นมาว่าเจ้าพวกโง่โดนหลอกขายแล้ว!
ใบหน้ามึนงงนั้นมันเป็นสิ่งที่เขารอดูอย่างใจจดใจจ่อ!
แต่ว่าเย่หยวนนั้นก็ยังคงขายคนต่อเนื่องไปไม่คิดหยุด
อีกด้านทางตัวเฉียนั้วกับเฟิงเสี่ยวเถียนที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้นเมื่อได้ยินคำของเย่หยวนพวกเขาต่างคิดกันไป คนละแบบ
เฉียนั้วนั้นเดิมทีก็คิดสงสัยวิธีของเย่หยวนแต่เมื่อได้ยินคำอธิบายของเย่หยวนนั้นเขาก็ต้องคิดยอมรับขึ้นมา อย่างทันที!
ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะขึ้นเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ได้
ส่วนตัวเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเองก็ประหลาดใจอย่างมาก การออกคำสั่งแบบนี้กลับสามารถสังหารเผ่าเลือดได้ง่ายๆ เช่นนี้?
เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะคิดใช้วิธีการเช่นนี้ออกมา
ปกตินั้นต้องเสียยอดฝีมือไปเท่าไหร่กว่าจะสังหารเผ่าเลือดได้สักคน แต่เย่หยวนนั้นกลับส่งเผ่าเลือดมาตายเป็นหมื่นในพริบตา!
ก่อนหน้านั้นเย่หยวนได้หลอกสังหารเผ่าเลือดหนึ่งแสนไปในศึกเดียว
แต่วันนี้พริบตาเดียวเขาได้สังหารเผ่าเลือดไปเป็นหมื่นแล้ว
แต่มันก็ช่าง…สะใจดีจริงๆ!
หากเผ่าเลือดมันตายลงง่ายๆ เช่นนี้สงครามจะยังต้องต่อสู้อะไรกันอีก?
พี่น้องทั้งหลายนั้นยังจะจำเป็นต้องไปตายในสนามรบอีกหรือ?
แต่ว่าเขานั้นย่อมจะเข้าใจว่าเรื่องเช่นนี้มันเกิดขึ้นซ้ำๆ ไม่ได้
หลังจากนั้นเย่หยวนก็ยังคงสั่งคนออกไปตายเรื่อยๆ ด้วยท่าทางเคร่งเครียดจริงจังในทิศต่างๆ ของมหานคร
แต่ทุกทิศที่เขาชี้ไปนั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นทิศที่มีพลังค่ายกลรุนแรงล้ำ
ตอนแรกๆ นั้นคนทั้งหลายยังคิดว่าเย่หยวนฉลาดเก่งกาจช่างคิด
แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ความคิดนั้นมันก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ
ในพริบตาเดียวนี้คนกว่าสี่หมื่นก็ได้ตายลงไปแล้ว!
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเขาทั้งหลายคงได้ตายลงสิ้นแน่ ถึงตอนนั้นต่อให้จะรู้จุดอ่อนของค่ายกลมันก็ไม่ได้ประโยชน์แล้ว
“นายท่าน ข้าเกรงว่าทำเช่นนี้มันคงไม่เหมาะหรือไม่? ตอนนี้คนตายไปกว่าสี่หมื่นแล้วแต่มันกลับไม่เจอจุดอ่อนใดๆ เลย! ทำเช่นนี้เราคงได้ตายกันหมดเสียก่อนแล้วมิใช่หรือ?”
คนที่พูดขึ้นมานั้นคือมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว ร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงอันดับหนึ่งนามว่าเฉียอี้!
เขานั้นย่อมจะมีสิทธิ์ทักท้วงเย่หยวนแน่นอน
“นายท่าน เราทำเช่นนี้ต่อไปมันคงไม่ได้การแล้ว!”
“ใช่แล้วนายท่าน บุกตรงๆ กันเถอะ!”
…
เมื่อเฉียอี้กล่าวขึ้นมามันย่อมจะมีอีกหลายคนที่แสดงความเห็นด้วยออกมา
พวกเขานั้นไม่อาจจะทนดูได้อีกต่อไปแล้ว
ทหารกว่าหนึ่งแสนแปดหมื่นนั้นตอนนี้มันเหลือเพียงแค่หนึ่งแสนสี่หมื่นแล้ว!
คนถึงสี่หมื่นนั้นหากรบกันตามปกติแล้วมันคงพอจะสังหารทหารของมหานครฉีใต้ได้หลายพันมิใช่หรือ?
แต่ตอนนี้พวกเขานั้นกลับตายไปอย่างไร้ค่า!
“เจ้าสงสัยในวิธีการของข้า? หรือ…เจ้าสงสัยในเจตนาของข้ากัน? วิธีการของข้านั้นมันจำเป็นต้องให้เจ้ามาสอนด้วยหรือ?”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกทำให้คนทั้งหลายเงียบปากลงทันที
ช่วงหลังๆ มานี้ชื่อเสียงของเย่หยวนมันทะลุฟ้าดินก็เพื่อเวลานี้นี่เอง
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าเขาคงทำเช่นนี้ได้อีกไม่นาน!
“ใช่แล้ว นายท่านต้องมีแผนการลึกล้ำใดๆ แน่ ข้าขอสนับสนุนนายท่านต่อไป!” หยางชิงรีบกล่าวขึ้นมาเสริมทันทีอย่างได้เวลา
คำพูดนี้มันทำให้อีกหลายคนต้องพยักหน้าตาม
เย่หยวนนั้นยังได้รับความเชื่อใจอยู่มาก
แน่นอนว่าคำพูดนี้มันย่อมจะทำให้คนที่คิดสงสัยเงียบปากลงไป
“เจ้าพาทหารสามพันไปโจมตีจุดนั้น!” เย่หยวนชี้หน้าเฉียอี้
เฉียอี้ผงะไปเมื่อได้ยิน จ้องมองดูเย่หยวนด้วยสายตาที่เย็นเยือก
เพราะจักรพรรดิเที่ยงที่ตายๆ ไปก่อนนั้นมันเป็นแค่ทหารทั่วไป หากตายก็ปล่อยตายไปไม่มีค่ามากมาย
แต่ร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงอันดับหนึ่งนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเอาไปเทียบกับทหารเลวทั่วไปได้
“อะไร? เจ้าคิดขัดคำสั่งหรือ? หรือว่าเจ้าไม่ได้คิดถวายชีวิตให้แก่เผ่าพันธุ์?” เย่หยวนถามขึ้น
เฉียอี้นั้นต้องกัดฟันแน่นจ้องมองกลับมาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
เขานั้นกลับพาตัวเองมาฉิบหาย
ไปตาย!
ไม่ไปก็ยังตาย!
สองทางเลือกของเขาตอนนี้คือไปสู้กับศัตรูที่เหนือกำลังหรือว่าขัดคำสั่งของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์และถูกลงโทษ ภายหลัง
“ก็ได้ ข้าจะไป! แต่ข้าหวังว่าตัวข้านี้จะเป็นคนสุดท้ายที่ได้ไป! หากข้ายังตายเพราะพลังของค่ายกล นายท่านโปรดนำทัพเข้าโจมตีเมืองด้วยเถอะ! ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเราคงไม่อาจตีมหานครฉีใต้ลงได้อีกแล้ว!” เฉียอี้กล่าวขึ้น
“ไปเถอะ! ข้านั้นมีแผนในใจอยู่แล้ว! ข้านั้นคือบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ผู้สืบทอดตำแหน่งท่านหวังจั่ว มีหรือที่ข้าจะคิดช่วยเหลือพันธมิตรสวรรค์แรกมัน?” เย่หยวนถามกลับไป
ตอนนี้เย่หยวนได้ใช้ฐานะของเขาด้วยความเป็นผู้สืบทอดหวังจั่ว แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เฉียอี้เงียบปากลงทันที
ใช่แล้ว มีหรือที่ผู้สืบทอดของท่านหวังจั่วนั้นจะโง่จนยึดเมืองใกล้แตกนี้ไม่ได้?
เพราะหากพ่ายแพ้ขึ้นมาครั้งนี้ชื่อเสียงของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์มันต้องแปดเปื้อน!
ไม่ว่าจะอย่างไรเสียตำแหน่งบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นี้มันก็ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ!
เฉียอี้ออกไป!
และก็ตายลง!
พร้อมๆ กับทหารสามพันที่ตามเขาไป
เฉียอี้นั้นย่อมเก่งกาจล้ำ!
แต่ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนเขาก็ไม่อาจจะสู้จำนวนขนาดนั้นได้อย่างแน่นอน
ต้องเจอทั้งพลังของค่ายกลป้องกันและกองทัพสวรรค์แรกมันย่อมจะมีแต่ความตายรอเขาอยู่
หยางชิงนั้นได้แต่ต้องยิ้มมุมปากขึ้น ในที่สุดเจ้าเฉียอี้ศัตรูแค้นของเขานั้นก็ได้ถูกเย่หยวนหลอกไปฆ่าจนได้!
‘ฮ่าๆๆ!’
ในศึกร้อยบุตรนั้นเฉียอี้นั้นคือคนที่เอาชนะหยางชิงลง!
สะใจ!
‘ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนสุดท้ายก็ยังไม่เก่งเท่าน้องพ่อเจ้านี้!’
‘น้องของพ่อเจ้านี้สังหารเจ้าได้ด้วยคำพูด!’
‘แต่เจ้ากลับตอบโต้อะไรมาไม่ได้!’
“เจ้าไปลองทิศนั้น!” เย่หยวนชี้หน้าสั่งร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงอีกคน
เขาคนนี้เองก็พูดขึ้นมาช่วยเฉียอี้ไว้มาก มีหรือที่เย่หยวนจะปล่อยไว้?
ร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงคนนั้นต้องผงะไป
นี่เจ้า…ยังไม่พอใจอีกหรือ?!’
ครั้งนี้เสียงแห่งความสงสัยมันย่อมจะดังขึ้น!
คำพูดของเฉียอี้นั้นมันยังดังก้องอยู่ในหูใครหลายๆ คน
ศึกนี้ยังไม่ทันได้เริ่มแต่พวกเขานั้นกลับเสียกำลังไปหลายหมื่นแล้ว
หากไม่คิดสงสัยสิถึงจะแปลก
หากมิใช่เพราะว่าเย่หยวนนั้นคือบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงส่งแล้ว ทหารทั้งหลายคงจะก่อจลาจลไปแล้ว
แต่เพราะว่าชื่อเสียงของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นมันยิ่งใหญ่กอปรกับฝีมือที่เย่หยวนแสดงออกมาก่อนหน้ามันทำให้หลายคนยังคิดจะเชื่อเย่หยวนจนถึงตอนนี้
ร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงคนนั้นไป
และตายลง!
หลังจากนั้นร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงอีกหลายคนก็ถูกสั่งให้ออกไปตายเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เป็นตัวเฉียนั้วนั้นที่ทนไม่ได้
“เฉียชิง เจ้าทำอะไรอยู่ได้? คนตายไปกว่าห้าหมื่นแล้วเจ้ายังไม่เริ่มศึกอีกหรือ! วิธีการของเจ้ามันไม่ได้ผล รีบๆ บุกเข้าเมืองไปตรงๆ เถอะ!” เฉียนั้วร้องลั่นขึ้นมา
เย่หยวนตอบสวนกลับไป “ข้าคิดทำอะไรมันใช่หน้าที่เจ้าหรือที่ต้องมาสั่งสอนข้า?!”
เฉียนั้วตอบกลับไปอย่างคับแค้นใจ “เหลวไหล! ข้านั้นคือแม่ทัพของกองทัพนี้! ศึกครั้งนี้มันส่งผลใหญ่หลวงต่อเผ่าพันธุ์ ข้าจะไม่ยอมยืนมองดูอยู่เฉยๆ อีกต่อไปแล้ว!”
เย่หยวนนั้นถามกลับไปอย่างไม่คิดเกรงกลัว “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้ามาสั่งสอนข้าคนนี้เชียวหรือ?”
“นายท่าน ข้าน้อยรู้สึกว่าสิ่งที่ท่านเฉียนั้วกล่าวมานั้นมันถูกต้องแล้ว! เราต้องโจมตีเมืองกันตอนนี้!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนอันดับหนึ่งเฉียซวย
เมื่อมีคนนำมันก็ย่อมจะมีคนตาม เหล่าร้อยบุตรทั้งหลายนั้นต่างแสดงความไม่เห็นด้วยออก
“นายท่าน เราควรจะบุกเมืองกันได้แล้ว!”
“นายท่าน ทำเช่นนี้ต่อไปมันจะมีแต่เสียกับเสีย!”
“นายท่าน หากเรายังไม่โจมตีเมืองกันตอนนี้เรื่องที่ทำมาทั้งหมดมันจะเสียเปล่าแล้ว!”
…
จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่กล้าจะตั้งคำถามกับเย่หยวนแต่เพียงแค่แนะนำให้เย่หยวนนั้นโจมตีเมืองตรงๆ แทน
ความหมายของคนทั้งหลายนั้นมันชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย
เย่หยวนชี้หน้าเฉียซวยและสั่ง “เจ้าไป!”
เฉียซวยนั้นหรี่ตาลงร้องตอบกลับไป “ข้าไม่ไป!”
เย่หยวนเบิกตาขึ้นถามอย่างไม่พอใจ “เจ้ากล้าขัดคำสั่ง?”
เฉียซวยนั้นตอบกลับไปอย่างจนใจ “นายท่าน เฉียซวย…ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขัดคำสั่งแล้ว! เพราะใครมันอยากจะไปตายเปล่ากัน?”
คนทั้งหลายนั้นเงียบปากลงทันที
ดูท่าตอนนี้อำนาจของเย่หยวนมันคงหมดลงสิ้นแล้ว
กองทัพนี้ไม่มีใครที่คิดเชื่อฟังเขาอีกแล้ว
แต่ว่าเขาไม่คิดสนใจอีกแล้ว
เพราะนี่มันคือสิ่งที่เขาคาดไว้ก่อนแล้ว
“นายท่านขออภัยที่เฉียซวยพูดจาไร้มารยาทแต่ตอนนี้…ข้าเริ่มจะสงสัยในเจตนาของท่านแล้ว!” เฉียซวยนั้นอดทนไม่ไหวอีกต่อไปต้องพูดความในใจออกมา
เหล่าร้อยบุตรนั้นไม่มีคนโง่
เพียงแค่ว่าด้วยตำแหน่งสถานะของเย่หยวนนั้นมันไม่มีใครกล้าจะออกมาซักถามเขาตรงๆ
แต่ตอนนี้เมื่อเรื่องราวมันดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเขาย่อมจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสงสัยเจตนาของเย่หยวน
คนทั้งหลายนั้นไม่ได้โง่ถึงขั้นที่ต้องรอให้เย่หยวนเอามีดฟันหลังก่อนถึงจะรู้ว่าถูกหลอก
สายตาของเย่หยวนที่จ้องมองเฉียซวยนั้นแรกมันก็เปี่ยมด้วยความคับแค้นใบหน้าแดงก่ำ แต่พอได้ยินคำถามนั้นเขาก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ “เจ้าไม่ต้องคิดสงสัยข้าหรอก เพราะเจ้าคิดถูกแล้ว! เจตนาของข้า มันไม่เคยบริสุทธิ์!”