เป็นตามเช่นนี้ สถานการณ์ของคนหนึ่งแย่ลงคนหนึ่งดีขึ้น ขั้นตอนการหลอมรวมยาน้ำของหลัวซิวก็ค่อย ๆ ไล่ตามความเร็วของตวนมู่ชางได้แล้ว!

หาจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามก่อน แล้วค่อยบุคโจมตีศัตรู!

เมื่อสัมผัสได้ว่าความเร็วในการกลั่นยาของหลัวซิวไล่ตามตัวเองทันแล้ว จิตใจของตวนมู่ชางก็ตกถึงระดับที่ต่ำสุดทันที

“ข้าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลตวนมู่ และยิ่งเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในวิถียาของมหาโลกายอดอัมพร ข้าจักมีทางแพ้ได้อย่างไร?”

ใบหน้าของตวนมู่ชางดูบูดเบี้ยว จู่ ๆ เขาก็กัดลิ้นตัวเอง แล้วพ่นพลังและเลือดออกมาจากปากทันที

แผดเผาพลังและเลือด!

พลังและเลือดเป็นคือบ่อเกิดการฝึกยุทธ์และชีวิตของนักยุทธ์ ทันทีที่สูญเสียไปแล้ว การที่จะฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาวะปกตินั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ๆ

แต่ทว่าวิธีการแผดเผาพลังและเลือดกลับสามารถทำให้นักยุทธ์ได้รับการพลังที่เกะกะระรานภายในระยะเวลาสั้น ๆ

ณ บัดนี้วินาทีนี้ เพื่อเป็นการคว้าชัยชนะ ตวนมู่ชางไม่เสียดายที่จะแผดเผาพลังและเลือดของตน ต่อให้ต้องทำให้รากฐานของตัวเองเสียหาย เขาก็จำเป็นต้องชนะการดวลวิถียาในครั้งนี้ให้ได้!

การที่จะชนะอย่างสวยงามนั้นมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ขอเพียงสามารถชนะ ไม่ว่าราคาที่ต้องแลกคืออะไรมันก็คุ้มค่า!

กลุ่มคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เงียบกริบ ทุกคนล้วนติดตามดูการเปลี่ยนแปลงบนสนามอย่างตื่นเต้น โดยเฉพาะผู้คนในตระกูลตวนมู่ สีหน้าอารมณ์ที่ดูมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในตอนแรก วินาทีนี้ก็ล้วนดูเคร่งขรึมขึ้นมาเช่นกัน

อั่ก!

พลังและเลือดหยดหนึ่งหยดลงบนเตายา เตายาของตวนมู่ชางจึงเปล่งแสงแวววาวจับตาออกมาภายในพริบตา ราวกับเตายากลายเป็นพระอาทิตย์ที่กำลังลุกไหม้ดวงหนึ่งยังไงอย่างนั้น

จากผลการฝึกตนกึ่งมกุฎเทพของเขา บวกกับพรสวรรค์ที่เป็นเลิศของเขา ภายใต้การแผดเผาพลังและเลือดโดยไม่นึกเสียดาย ถึงกับทำให้ตวนมู่ชางได้รับพลังที่เทียบทัดมกุฎเทพภายในพริบตา!

ดังนั้นจู่ ๆ ระดับความเร็วในการหลอมรวมยาน้ำก็เร็วขึ้นหลายเท่าตัว ควบคู่กับวิชายาที่ตวนมู่ชางปล่อยออกไป ยาน้ำของยาเซียนหลายสิบชนิดผสมหลอมรวมเข้าด้วยกัน และค่อย ๆ ประกอบเป็นเค้าโครงของยาหนึ่งเม็ด

หลัวซิวก็ต้องมองเห็นกิริยาท่าทางฝั่งตวนมู่ชางเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เห็นเพียงตรงมุมปากของเขามีรอยยิ้มที่มีเลศนัยเล็กน้อยปรากฏ

“แผดเผาพลังและเลือดหรือ? ข้าก็ทำได้เช่นกัน!”

แตกต่างจากวิธีการกัดลิ้นแล้วพ่นพลังและเลือดออกมาอย่างตวนมู่ชาง หลัวซิวใช้เคล็ดวิชาแผดเผาพลังและเลือดที่อยู่ในร่างกายโดยตรง ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ออร่าผลการฝึกตนของเขาก็เริ่มค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้นเป็นจังหวะ

เริ่มด้วยราชาเทพขั้น 8 ตามมาด้วยขั้น 9 แล้วก็กึ่งมกุฎเทพ ตลอดจนเลื่อนขึ้นถึงมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิ!

“พระเจ้า เขาแผดเผาพลังและเลือดภายในร่างกายมากขนาดนี้ในทีเดียวเลยอย่างนั้นหรือ?”

กลุ่มคนเบิกตากว้างในทันที ทุกคนล้วนรู้สึกตะลึงต่อพฤติกรรมที่แทบจะใกล้เคียงกับคำว่าบ้าคลั่งนี้ของหลัวซิว

ตวนมู่ชางนั่นทุ่มสุดชีวิตแต่ก็แผดเผาพลังและเลือดเพียงหยดเดียวเท่านั้น แต่หลัวซิวผู้นี้กลับเจ๋งเป้งกว่า แผดเผาพลังและเลือดที่อยู่ภายในร่างกายเกือบสี่ส่วนเลย!

ทันทีที่สูญเสียแผดเผาพลังและเลือดเกินสามส่วน ก็แทบจะไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติได้แล้ว!

“ข้าคิดว่าทุกท่านน่าจะลืมไปแล้วว่าอาจารย์เสวียนคงเชี่ยวชาญกฎอะไรมากที่สุด”

ทันใดนั้นเอง ก็มีผู้อาวุโสที่เป็นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพคนหนึ่งหรี่ตาลง แล้วพูดคำพูดดังกล่าวออกมา

กฎที่อาจารย์เสวียนคงเชี่ยวชาญ?

จักรพรรดิเทพคนอื่น ๆ ที่เหลือต่างผงะไป เนื่องจากฐานะตัวตนของจีเสวียนคงพิเศษ ดังนั้นนอกเหนือจากการกลั่นยาแล้ว ผู้อื่นจึงไม่เคยเห็นเขาเข่นฆ่าประมือกับผู้อื่นมาก่อน จึงส่งผลให้มองข้ามกฎที่เขาเชี่ยวชาญไป

แต่ทว่าการมองข้ามเพียงชั่วขณะ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ทราบ สิ่งที่จีเสวียนคงเชี่ยวชาญนั้นก็คือหนึ่งในกฎชั้นยอดอย่างกฎชีวิต!

และหลัวซิวผู้นี้เป็นลูกศิษย์ของเขา เช่นนั้นก็มีโอกาสสูงมาก ๆ ที่กฎที่เขาฝึกก็เป็นกฎเช่นเดียวกัน!

ซึ่งกฎชีวิตมีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่ง นั่นก็คือหลังจากที่แผดเผาพลังและเลือดแล้ว สามารถใช้กฎชีวิตฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้รากฐานของตัวนักยุทธ์เองจะไม่ได้รับความเสียหาย!