ตอนที่ 1820 : การเคลื่อนไหวของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1820 : การเคลื่อนไหวของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า (2)

“ได้ตามที่ท่านต้องการ ! ” หลิงโม่เจียนตอบกลับอย่างสุภาพก่อนจะตัดการบทสนทนากับหลิงเฮ่ากง

หลิงโม่เจียนออกจากห้องอย่างระวังตัว ก่อนจะกลับไปที่ห้องที่เขาได้เก็บเครื่องรางของเจี้ยนเฉินเอาไว้

หลิงโม่เจียนได้เก็บเครื่องรางจากเจี้ยนเฉินไว้ในกล่องหยกที่มีค่ายกลคอยปกป้องอยู่และเขาก็ได้เก็บมันไว้ที่ใจกลางห้อง

ก่อนที่เขาจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเจี้ยนเฉิน เขากลัวว่าเจี้ยนเฉินจะใช้เครื่องรางตรวจจับการเคลื่อนไหวของเขา ผลก็คือเขาไม่ได้เอาเครื่องรางติดตัวไปด้วยตอนที่ติดต่อกับ หลิงเฮ่ากง

แต่เมื่อรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นคนเชื่อใจได้จากหลิงเฮ่ากงแล้ว เขาก็ลดความระวังตัวไป

เขาได้ไปที่ห้องลับ ก้มตัวลงและหยิบกล่องหยกขึ้นมา เขาถอนค่ายกลออกก่อนจะเก็บมันไว้ในแหวนมิติของตน เขาเก็บมันไว้เพื่อที่เขาจะได้รักษามันให้ปลอดภัยจากความเสียหายใด ๆ

ในเวลาเดียวกัน หลิงเฮ่ากงที่อยู่บนยอดเขาภายในโลกแยกเดี่ยว เขาสะพายกระบี่อยู่บนหลังของเขา เขามองไปยังค่ายกลที่หายไปก่อนจะถอนหายใจออกมา “ข้าไม่คิดว่าสหายสนิทของข้าทั้งหมดจะตัดสัมพันธ์กับตระกูลหลิงไปง่ายเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่ตระกูลหลิงกำลังเผชิญหน้ากับปัญหา แต่เจี้ยนเฉินคือคนที่ยอมเสี่ยงที่จะพบกับปัญหาเมื่อเผชิญหน้ากับลัทธิปีศาจชั้นฟ้า น้องเจี้ยนเฉิน ข้าจะจดจำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจ แม้ว่าจะไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใด ๆ แต่แค่ความคิดของเจ้าเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว” หลิงเฮ่ากงถอนหายใจออกมา

“ฮึ่ม ช่วยเหลือกันดีเหลือเกิน เฒ่าหลิง เจ้าแก่แล้วแต่เจ้าก็ยังโหยหาการสนับสนุนและความรัก ทำไมเจ้าไม่ฝึกฝนกระบี่เพื่อเป๋าเป๋ากัน ! ” ตอนนั้นมีกระบี่ทองเล่มหนึ่งบินเข้ามา มันเปลี่ยนเป็นร่างของสาวน้อย นางเหมือนกับรูปสลักที่สมบูรณ์แบบที่น่ารักอย่างมาก แต่นางกลับเท้าสะเอวและด่าหลิงเฮ่ากงราวกับคนแก่

เส้นเลือดบนหน้าผากของหลิงเฮ่ากงปูดขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของจิตวิญญาณกระบี่ เขาตอบกลับทันที “เจ้าพูดจาไร้สาระ ! การสนับสนุนก็คือการสนับสนุน มันเกี่ยวข้องอะไรกับความรักกัน ? ยิ่งกว่านั้นข้าก็เกินวัยที่จะมาคิดถึงเรื่องรักใคร่มานานแล้ว เจ้าที่จะเป็นจิตวิญญาณกระบี่จะมาเข้าใจได้ยังไง ? ”

แก้มของจิตวิญญาณกระบี่แดงขึ้นเพราะความโกรธ นางชี้นิ้วไปที่หลิงเฮ่ากง แล้วตะโกนออกมา “เจ้ากล้าดียังไง เฒ่าหลิง ? เจ้ากล้าบอกว่าเป๋าเป๋าไม่เข้าใจได้ยังไง ? เจ้ากล้าดียังไง ? เป๋าเป๋าจะแสดงให้เจ้าดูว่า เป๋าเป๋าจะสั่งสอนบทเรียนเจ้ายังไงเมื่อดูถูกเป๋าเป๋า ! ” จิตวิญญาณกระบี่ได้ควบคุมกระบี่แทงไปที่หลิงเฮ่ากง

ปราณกระบี่เริ่มแผ่ออกมาและแสงสีทองก็ครอบคลุมโดยรอบ แม้ว่ากระบี่ทองนั้นจะไม่ได้มีเจ้าของ แต่จิตวิญญาณกระบี่ก็ยังสร้างพลังที่ไม่ได้อ่อนแอกว่าขั้นเหนือเทพขึ้นมาได้

อันที่จริงมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าขั้นเหนือเทพหลายคน

หลิงเฮ่ากงเครียดขึ้นมา เขาเข้าใจพลังของจิตวิญญาณกระบี่ดี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าจะประมาท เขารีบชักกระบี่ที่หลังออกมาและตะโกน “ทักษะกระบี่สวรรค์บรรพกาล ! ” แสงสว่างจ้าออกมาจากกระบี่ของหลินเฮ่ากงและพุ่งเข้าใส่จิตวิญญาณกระบี่

หากเจี้ยนเฉินอยู่ด้วย เขาคงพบว่าหลิงเฮ่ากงนั้นแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ใช่แค่ก้าวหน้าเป็นขั้นเหนือเทพช่วงกลางได้สำเร็จ แต่ความเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกระบี่ก็ก้าวหน้าไปด้วย

แค่ทักษะกระบี่สวรรค์บรรพากาลก็ทำให้หลิงเฮ่ากงเหนือกว่าขั้นเหนือเทพช่วงกลางส่วนมากได้แล้ว เขาถึงกับสามารถสู้กับขั้นเหนือเทพช่วงปลายได้ด้วยซ้ำ

“ฮึ่ม นี่คือทักษะกระบี่สวรรค์บรรพกาลของเจ้ารึ เฒ่าหลิง ? ” เจ้าบอกชื่อท่ากระบี่ตอนที่เจ้าใช้มัน เป๋าเป๋าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าทักษะกระบี่สวรรค์บรรพกาลของจริงมันเป็นยังไง” จิตวิญญาณกระบี่พูดขึ้นมา ทันใดนั้นปราณกระบี่ที่ทรงพลังและบริสุทธิ์มากกว่าเดิมก็พุ่งออกมาจากกระบี่ทอง

ตอนที่ปราณกระบี่พุ่งออกมานั้น รอบข้างดูจะมืดมนลงไป ปราณกระบี่ส่องแสงซะจนบดบังดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์และดวงดาวได้ แม้แต่ทั้งโลกนี้ก็ดูซีดเซียวไปเมื่อเทียบกับมัน

ตอนนั้นปราณกระบี่เหมือนจะเป็นตัวตนเพียงอย่างเดียวในโลก

ตอนที่การโจมตีทั้งสองปะทะกัน ปราณกระบี่ของหลิงเฮ่ากงเหมือนจะเปราะบาง มันได้แตกสลายและการโจมตีของจิตวิญญาณกระบี่ก็ยังเดินหน้าต่อโดยไม่อาจจะหยุดยั้งได้ มันได้พุ่งเข้าใส่หลิงเฮ่ากงโดยตรง

พรืด !

ปราณกระบี่บินผ่านหัวหลินเฮ่ากงไป แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บ แต่มันก็ตัดเส้นผมของเขาไปได้

หลิงเฮ่ากงราวกับโดนโกนหัว เขาอยู่ในสภาพน่าสงสารจนภาพลักษณ์ปราชญ์ก่อนหน้านี้หายไปในพริบตา

“ผมข้า ! จะ จะ จะ เจ้าน่าชังจริง ๆ ! เจ้าทำเกินไปแล้ว ! ” หลิงเฮ่ากงสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด ตอนนี้เขาอารมณ์เสียอย่างมาก

เมื่อคิดว่าเขา หลิงเฮ่ากง ที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนซึ่งไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องเขานั้น จะต้องมีสภาพเช่นนี้โดยฝีมือของจิตวิญญาณกระบี่

“เจ้าเห็นหรือไม่ ? นี่คือทักษะกระบี่สวรรค์บรรพกาลที่แท้จริง เฒ่าหลิง เจ้ากล้าบอกอีกหรือไม่ว่าเป๋าเป๋าไม่เข้าใจ ! ฮึ่ม” จิตวิญญาณกระบี่ปรากฏตัวขึ้นมา มือของนางยังคงเท้าสะเอวตามเดิมพร้อมกับเม้มปากทำท่าเยาะเย้ย

“จะ จะ เจ้ามันไร้เหตุผล ! ที่เจ้ารู้ก็แค่การก่อกวนเท่านั้น ! ” หลิงเฮ่ากงพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

สีหน้าเยาะเย้ยของจิตวิญญาณกระบี่หายไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของนางหม่นลงและมองมาที่หลิงเฮ่ากง ด้วยตาคู่โตอันงดงามซึ่งแสดงความหงุดหงิดออกมาก่อนจะด่าขึ้น“เจ้ากล้าดียังไงมาบอกว่าเจ้าเหนือกว่า ? เจ้าพูดถึงเป๋าเป๋าในแง่ไม่ดีและกล้าบอกว่าเป๋าเป๋าไร้เหตุผลและรู้จักแต่การก่อกวน เป๋าเป๋าเป็นคนเช่นนั้นรึไงกัน ? เฒ่าหลิง ดูเหมือนว่าเป๋าเป๋าผู้นี้จะไม่ได้ทำให้เจ้าประทับใจได้มากพอ ฮึ่ม เป๋าเป๋าจะสั่งสอนบทเรียนหนัก ๆ ให้กับเจ้าเ พื่อที่เจ้าจะได้รู้ถึงพลังของข้า….”

“ครั้งนี้ เป๋าเป๋าจะทำให้เจ้าตะลึงเพียงพอที่จะทำให้เจ้าจดจำเอาไว้ได้ เจ้าจะต้องตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อเจอกับเป๋าเป๋าในครั้งหน้า….”

….

อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามหม้อยาคือองค์กรที่คล้ายกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน มันมีอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นวดาราคั่นกลางระหว่างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามหม้อยาเอาไว้ แต่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามหม้อยานั้นเสียเกียรติและความยิ่งใหญ่ที่เคยมีไป มีควันลอยออกมาจากหลายที่ในอาณาเขตและมีไฟไหม้อยู่ไปทั่ว เมืองหลักทั้งหมดกลายเป็นซากพร้อมกับเลือดที่ไหลเป็นแม่น้ำ พื้นดินถูกย้อมเป็นสีแดงไปทั่ว

หลายปีก่อนกองทัพที่เก้าของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าได้เข้าโจมตีอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามหม้อยา แค่ไม่กี่สิบปีกองทัพที่เก้าก็ได้ทำลายเมืองหลักทั้งหมดได้สำเร็จ กองทัพของพวกนั้นได้มุ่งหน้ามาที่เมืองหลวงและบริเวณโดยรอบทั้งหมด

ตอนนี้อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามหม้อยานั้นเหลือเพียงเมืองหลวงแค่เมืองเดียว

กองทัพที่เก้าของลัทธิปีศาจชั้นฟ้ามีคนแค่ไม่กี่แสนคน จำนวนนี้ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับกองทัพอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามหม้อยาที่มีคนหลายร้อยล้านคน

แต่มันคือกองทัพที่บดขยี้กองทัพขนาดใหญ่ของอาณาจักรสรวรรค์ได้ กองทัพที่เก้าได้ทำลายเมืองหลวงได้อย่างง่ายดายราวกับมีดร้อนตัดผ่านก้อนเนย