ตอนที่ 2902 สร้างอีกชัยชนะอันเป็นปาฏิหาริย์!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“หลี่ชิงหยุน? เจ้ากลับยังไม่ตายด้วยเต๋าทุกข์ไปหรือนี่! ฮ่าๆ แค่ขยะอย่างเจ้านั้นก็คิดมาสังหารข้าได้?” โหยวจินมองหน้าผู้มาถึงนั้นด้วยความเย้ยหยัน

เขานั้นย่อมจะรู้จักหลี่ชิงหยุน คนทั้งสองนั้นเคยปะทะกันมาหลายครั้ง

แต่สุดท้ายมันก็เป็นโหยวจินที่มีโอกาสบรรลุเจ้าโลกขึ้นไปก่อน

หลี่ชิงหยุนนั้นติดอยู่หน้าอาณาจักรเจ้าโลกมานานแสนนาน

เรื่องของหลี่ชิงหยุนนั้นโหยวจินจึงคิดดูถูกเขามาตลอด

หลี่ชิงหยุนร้องตอบกลับไป “หากเจ้าสมบูรณ์พร้อมข้าย่อมจะไม่เข้ามาสู้กับเจ้าแน่ แต่…ในเมื่อเจ้าบาดเจ็บสาหัสปานนี้แล้วด้วยพลังของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ข้าจะยังต้องกลัวอะไร?”

โหยวจินยิ้มเย้ยตอบกลับไป “ไม่ว่าข้าจะบาดเจ็บแค่ไหนข้าก็ยังมีพลังของเจ้าโลกในมือ! เจ้าขยะที่บรรลุเจ้าโลกไม่ได้นั้นมันจะทำอะไรข้าได้?”

หลี่ชิงหยุนยิ้มตอบกลับไป “ไม่ลองดูจะรู้ได้อย่างไร?”

พูดจบหลี่ชิงหยุนก็ชี้นิ้วออกมาด้วยพลังของคลื่นกำเนิดที่รุนแรง!

คลื่นพลังจากปลายนิ้วนั้นมันทำให้สีหน้าของทุกผู้ทุกคนเปลี่ยนสีไป

นั่นรวมไปถึงตัวโหยวจินด้วย!

เขานั้นอ้าปากค้างร้องขึ้น “เก้ากำเนิด! เจ้า…เจ้ากลับบรรลุเก้ากำเนิดแล้ว!”

หลี่ชิงหยุนไม่คิดสนใจโหยวจินและปล่อยพลังที่สะสมไว้ออกมาจากปลายนิ้วทันที

วิถีศักดิ์สิทธิ์ ดัชนีเก้าล้ำกลืนชีวา!

โหยวจินนั้นต้องผงะไปพร้อมปล่อยคลื่นพลังเลือดรุนแรงสุดชีวิตออกมาเพื่อหวังปัดป้องดัชนีนี้

ความใจเย็นเย้ยหยันใดๆ ก่อนหน้าได้จางหายไปอย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่เข้ามาแทนที่ตอนนี้มันคือความกลัวอย่างสุดชีวิต

ตูม!

คลื่นพลังเลือดจากร่างของโหยวจินนั้นถูกแทงทะลุไปพร้อมสร้างรูโหว่ขึ้นมากลางอก

ดัชนีนี้มันรุนแรงจนไม่อาจต้านทานได้

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้เห็นหลี่ชิงหยุนโจมตีและเขาก็แทบจะลืมหายใจไปเช่นกัน

มันถือว่าเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจที่สุดในเจ้าโลกจริงๆ!

“นี่หรือคือวิถีศักดิ์สิทธิ์? ช่างทรงพลังล้ำ! ตอนนี้ข้าเองก็มีพลังกำเนิดในตัวแล้วข้าจะพอเรียนรู้มันได้บ้างหรือไม่กัน?!”

เย่หยวนมองดูหลี่ชิงหยุนนั้นด้วยสีหน้าชื่นชม พลังของดัชนีนี้มันรุนแรงทะลุฟ้า จนทำให้เขาอดนึกภาพตัวเองขึ้นมาแทนที่ไม่ได้

วิถีศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นวรยุทธของเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายมีพลังที่รุนแรงล้ำอย่างไม่อาจอธิบาย

แม้ว่าหลี่ชิงหยุนจะยังไม่บรรลุเจ้าโลกแต่ว่าเขานั้นก็บรรลุเก้ากำเนิดและมีพลังฝีมือเทียบเคียงได้กับเจ้าโลก ที่อ่อนแอ

ที่เย่หยวนกล้าเสนอแผนออกมาสังหารเจ้าโลกเช่นนี้มันก็เพราะว่าเขามีหลี่ชิงหยุนอยู่ด้วย

แต่ว่าเจ้าโลกทั้งหลายก็ไม่ได้จะสำเร็จวิถีศักดิ์สิทธิ์ทุกคน

วิธีศักดิ์สิทธิ์นั้นหากจะเทียบมันคงคล้ายกับทักษะเทวะภายในของเผ่าภูตแท้

เพียงแค่ว่ายอดฝีมือคลื่นกำเนิดนั้นต้องใช้โชคมหาศาลกว่าที่จะสำเร็จวิถีศักดิ์สิทธิ์ได้ เจ้าโลกคนใดที่มีวิถีศักดิ์สิทธิ์นั้นย่อมจะนับว่าเป็นเจ้าโลกที่แข็งแกร่งเหนือล้ำกว่าเจ้าโลกที่ไม่มีวิถีศักดิ์สิทธิ์ติดตัว

หลี่ชิงหยุนนั้นสามารถสำเร็จวิถีศักดิ์สิทธิ์ได้ตั้งแต่ยังอยู่ในระดับคลื่นกำเนิดมันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายตกตะลึง

เมื่อเฟิงเสี่ยวเถียนเห็นเช่นนี้เขาก็อดร้องกล่าวขึ้นไม่ได้ “นั่นมันวิถีศักดิ์สิทธิ์ของจริงแท้แน่นอน! หากพี่ชิงหยุนบรรลุเจ้าโลกไปได้ เขาคงได้กลายเป็นเจ้าโลกสุดแกร่งแน่ๆ! เก่งกาจนัก! เก่งกาจจริงๆ!”

“นั่นหรือคือวิถีศักดิ์สิทธิ์? แข็งแกร่งนัก!”

“ทะลวงร่างเจ้าโลกด้วยดัชนีเดียว มันจะรุนแรงเกินไปแล้ว!”

“ฮ่าๆ ศึกวันนี้คงทำให้คนทั้งโลกต้องอ้าปากค้างอีกแน่แล้ว!”

ฟุบ!

คลื่นพลังเลือดรุนแรงปะทุขึ้นก่อนที่ร่างของโหยวจินจะพุ่งหนีไป!

หลี่ชิงหยุนนั้นหัวเราะลั่นพุ่งตัวตามออกไปทันที

เสียงการปะทะของยอดคนระดับเจ้าโลกนั้น รุนแรงจนทำให้คนทั้งหลายต้องขาสั่นอย่างไม่อาจห้าม

ส่วนอีกด้านนั้นมันก็เป็นแค่การสังหารหมู่เช่นกัน!

พลังเลือดในร่างของเย่หยวนปะทุขึ้นอย่างรุนแรงพุ่งตัวเข้าไปในกองทัพศัตรูอย่างไม่สนว่าใครจะขวางหน้า

ตอนที่เขาบรรลุนั้นเขาได้ปล่อยให้การเก็บกักทั้งหมดคลายออกมันทำให้ตอนนี้เขาอยู่ในชั้นบรรยากาศสวรรค์ จักรพรรดิเที่ยงขั้นต้นสุด

แต่ว่าแม้แต่จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดเองก็ยังไม่อาจจะเอาชนะเขาได้

ตอนที่เย่หยวนยังเป็นแค่จักรพรรดิเซียนขั้นปลายนั้นเขาก็เรียกได้ว่ามีฝีมือเทียบเคียงจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้ว

ตอนนี้เขายิ่งทรงพลังไปยิ่งกว่านั้น

นอกจากนั้นเขายังดูดซับพลังของสระโลหิตมาถึงสองสระทำให้สายเลือดของเขาพัฒนาไปอย่างมากด้วยเช่นกัน

หมัดของเขาในตอนนี้ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเที่ยงมันก็ไม่อาจรอดชีวิตไปได้

เมื่อมีเย่หยวนอยู่ด้วยแล้วศึกระดับจักรพรรดิทั้งหลายมันจึงง่ายดายขึ้นมาก ไหนจะยังเรื่องที่ว่ากองทัพหนึ่งแสนในวันนี้มันล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์หัวกะทิของแต่ละนิกายน้อยใหญ่ในสวรรค์แรกอีกด้วย!

ที่ใดที่กองทัพเข้าโจมตี มันก็จะไม่เหลือเผ่าเลือดรอดกลับไปแม้สักคน

แต่เป็นทางด้านมหาจักรพรรดิที่น่ากังวล

แต่ในตอนนี้เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นก็ยังคงแสดงฝีมือไร้ต้านออกมาทำให้ตัวเฉียนั้วนั้นกำลังถอยร่นไปเรื่อยๆ

อย่างที่เย่หยวนคาดเดาไว้ หลังจากที่พ่ายแพ้ติดต่อกันมานานมหาจักรพรรดิของเผ่าเลือดก็ต้องเสียกำลังไปมาก

ส่วนด้านสวรรค์แรกนั้นพวกเขาเพิ่งจะได้กำลังเสริมมา!

มหาจักรพรรดิทั้งหลายต่อสู้กันอย่างสูสีแต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นฝ่ายสวรรค์แรกที่ได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ

ผลลัพธ์ของศึกนี้มันคงจะชัดเจนในอีกไม่ช้าแล้ว!

ส่วนอีกด้านบนเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายต่างนั่งไม่ติด!

เพราะว่าพวกเขานั้นได้รับรายงานจากมหานครฉีใต้ทำให้เจ้าโลกหยุนซานนั้นแทบลมจับ

“เจ้าเด็กบ้านี่มันเสียสติไปแล้วหรือ? พลังของแสงเนตรโลหิตนั้นแม้แต่มหาจักรพรรดิทั้งหลายเองก็ไม่อาจจะต้านทานได้! มันกลับเอากำลังหนึ่งแสนเข้าไปบุกเช่นนี้จะไม่เท่าหาที่ตายหรือ? ที่สำคัญไปกว่านั้นไม่ว่าเจ้าโลกจะบาดเจ็บแค่ไหนมันก็ยังเป็นเจ้าโลก! หลี่ชิงหยุนเจ้าบ้านี่กลับไม่ห้ามน้องแล้วดันไปช่วยศิษย์น้องออกอาละวาดอีก! ข…ข้าจะบ้าตายแล้ว!” เจ้าโลกหยุนซานนั้นร้องลั่นขึ้นมา

เพราะตอนนี้การออกรบของคนทั้งหลายนั้นมันทำให้เขาปวดหัวอย่างมาก!

ชัยชนะที่ได้มาก่อนหน้าทั้งหลายนั้นมันได้มาเพราะว่าพวกเขาใช้พลังของค่ายกลป้องกันเมืองช่วยสิ้น

เจ้าบ้าพวกนี้มันชนะแล้วเหลิงคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานหรืออย่างไร?

“เฮอะ! เฒ่าหยุนซาน ศิษย์ของเจ้ามันดีจริงๆ! ไปตายเองยังไม่เท่าไหร่แต่กลับเอากองทัพนับแสนไปตายด้วย วันนี้นิกายยาสุดล้ำของเจ้าคงได้กลายเป็นคนบาปของสวรรค์แรกแล้ว!” เจ้าโลกเฮยหยางกล่าวขึ้น

เจ้าโลกหยุนซานนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแต่ก็ไม่กล้าเถียงอะไรออกไป

เทพศักดิ์สิทธิ์กล่าวขึ้นเสริม “ศึกครั้งนี้ต่อให้เราจะชนะมันก็คงเป็นชัยชนะที่เสียหายหนักแน่นอน! คนทั้งหลายนั้นไม่เคยสัมผัสถึงพลังของแสงเนตรโลหิต ด้วยพลังเสริมจากแสงเนตรโลหิตนั้นกองทัพข่ายยักษ์นับแสนๆ มันคงจะยิ่งโหดร้ายแข็งแกร่งขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว! ครั้งนี้เฟิงเสี่ยวเถียนและเย่หยวนมันเสียสติไปแล้วจริงๆ!”

หลังนั่งลังเลอยู่นานแต่ในที่สุดเจ้าโลกโจวซ่งฉวนก็กล่าวขึ้น “ท่านอาจารย์ ศิษย์น้องเล็กมันเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือดมา บางทีศิษย์น้องมันอาจจะมีวิธีรับมือกับแสงเนตรโลหิตก็ได้มิใช่หรือ?”

“ฮ่าๆ แสงเนตรโลหิตนั้นแม้แต่เจ้าโลกอย่างเราๆ ยังแทบทำอะไรไม่ได้ และมีแต่ต้องเอาแรงเข้าสู้มีหรือที่มันคนเดียวจะสะกดพลังนั้นไว้ได้? เจ้าคิดว่าจักรพรรดิเที่ยงตัวน้อยคนหนึ่งจะเปลี่ยนแปลงฟ้าดินได้หรือ?” เจ้าโลกเฮยหยางถือโอกาสแก้แค้นเรื่องก่อนๆ มา

“ที่พี่เฮยหยางว่ามามันไม่มีผิด! เย่หยวนนั้นสร้างปาฏิหาริย์ไว้มากจริง แต่ครั้งนี้มันคงบ้าบิ่นเกินไป! ข้าได้ยินมาว่าคนที่รบเร้าให้ออกทัพครั้งนี้มันก็คือเขา ช่างน่าคับแค้นใจนัก!” เจ้าโลกอีกคนกล่าวขึ้นเสริม

“ในความคิดข้านั้นเย่หยวนมันคงเหลิงที่ทำความสำเร็จมากมายได้อย่างไม่เคยพ่ายแพ้! ตอนนี้มันคงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร! บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์เรอะ ทำงานได้สมชื่อมันจริงๆ!”

เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างแสดงความไม่พอใจออกมาตามๆ กัน

มหานครฉีใต้นั้นไปโจมตีอย่างไม่รอคำสั่งจากพวกเขา

มันเท่ากับว่าคนที่นั่นไม่เห็นหัวพวกเขาทั้งหลายนี้เลย!

กองทัพหัวกะทิกว่าหนึ่งแสน!

หากไปตายที่เมืองข่ายยักษ์จนสิ้นแล้ว พันธมิตรสวรรค์แรกคงได้แตกลงแน่!

เจอเรื่องเช่นนี้แม้แต่ตัวหยุนซานเองก็ยังต้องนั่งเงียบ

หลายวันมานี้เขาอวดอ้างเย่หยวนไปมากจริงๆ

ใครจะไปคิดว่าพริบตาเดียวนี้เย่หยวนกลับขายเขาทิ้งเสียอย่างนั้น!

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลี่ชิงหยุนเองก็กลับคิดไปกับเย่หยวนด้วยไม่คิดห้ามปรามกัน!

แต่ในเวลานั้นเองที่มันมีเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวขึ้นเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มา

“ชัยชนะจากเมืองข่ายยักษ์! ชัยชนะอันยิ่งใหญ่จากเมืองข่ายยักษ์! เจ้าโลกโหยวจินตายลงแล้ว! ชัยชนะยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์!”

………………………..