ตอนที่ 2914 โลกมันกลม!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ศิษย์แต่ละคนในนิกายโอสถประเสริฐนั้นต่างเกลียดชังศัตรูคนเดียวกันและหวังว่าจะแลกชีวิตกันไปให้จบสิ้น

รังแกผู้คนหนักเกินไป!

ทูตวิญญาณคนนี้ไม่เปิดช่องให้นิกายโอสถประเสริฐได้หายใจ!

“ยอมตายอย่างภาคภูมิดีกว่ายอมอยู่อย่างหมูหมา!”

“ใช่แล้ว เราไม่เคยกลัวตาย! อย่างมากก็แค่ตายเร็วขึ้นไม่กี่เดือน!”

“ท่านเจ้านิกาย เราหมดความอดทนมานานแล้ว! หลายปีมานี้เราอยู่อย่างสิ้นหวังยิ่งกว่าสุนัข! สู้กับมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเถอะ!” พูดไปเหล่ามหาจักรพรรดิหน้าใหม่ทั้งสามก็ไม่คิดละสายตาจากตัวจางจั่วซาน

ความคับแค้นที่สะสมมากกว่าพันปีนี้มันปะทุขึ้นแล้ว

เผ่าวิญญาณนั้นไม่เปิดช่องให้พวกเขาได้หายใจแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าคิดกวาดล้างจักรพรรดิเที่ยงทั้งหมดของพวกเขาลงสิ้น

หากไม่มีจักรพรรดิเที่ยงแล้วมันจะยังเรียกว่ามีนิกายโอสถประเสริฐใดๆ อีกหรือ?

จางจั่วซานนั้นยืนยิ้มอยู่หลังทูตวิญญาณอย่างพอใจ

นิกายโอสถประเสริฐนั้นคิดทำลายตัวเองตัวเขาย่อมจะพร้อมดูมัน

คิดย้อนกลับไปนั้นแต่ก่อนเขาเป็นได้แค่สุนัขต่อหน้านิกายโอสถประเสริฐ

ตอนนี้เขากลับมายืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาอย่างยิ่งใหญ่

“พวกเจ้าหุบปากให้หมด!” หวังจุนนั้นร้องด่าขึ้นมากลบเสียงคนทั้งหลายไป

ในนิกายโอสถประเสริฐนั้นคำพูดของหวังจุนมันคือกฎ

เขานั้นกดความคับแค้นในใจลงและกล่าวขึ้น “ยอมแลกชีวิตไปแล้วมันจะได้อะไร? นิกายโอสถประเสริฐเรานั้นสืบทอดกันมายาวนานกว่าหมื่นๆ ปีจะให้มันพังทลายลงเช่นนี้ไม่ได้! เราแค่…ต้องไปก็พอ!”

หวังจุนนั้นใช้กำลังทั้งหมดที่เหลือฝืนพูดคำว่าต้องไปออกมา

เขานั้นรู้ดีว่าหากไปแล้วนิกายโอสถประเสริฐมันคงไม่เหลือซากแน่

แต่เขาไม่มีทางเลือก!

ต่อต้านไปตอนนี้จะได้อะไร?

เพราะต่อให้จะเป็นมหาจักรพรรดิทั้งสี่คนนี้มันก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะจางจั่วซานคนนี้ลงได้!

แทนที่จะเสี่ยงลงมืออย่างที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลอะไรหรือไม่ สู้ให้นิกายโอสถประเสริฐทิ้งคำสอนไว้ด้านหลังบ้างจะดีกว่า!

หากจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายตายลงหมดสิ้นแล้วเผ่าวิญญาณก็ย่อมจะไม่ถึงขั้นมาเกณฑ์จักรพรรดิเซียนทั้งหลายไป

เพราะคนทั้งหลายนั้นต่อให้จะไปก็เป็นได้แค่หน่วยกล้าตายเท่านั้น

“หลิวซิน จากวันนี้ไปเจ้านั้นคือเจ้านิกายโอสถประเสริฐ!” หวังจุนหันมากล่าวกับจักรพรรดิเซียนขั้นสุดคนหนึ่งด้านหลัง

หลิวซินนั้นต้องเบิกตากว้างพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาพร้อมโขกหัวลงพื้น

แยกจากด้วยความตาย

ทูตวิญญาณคนนั้นยิ้มตอบกลับมา “ใช่แล้ว นี่แหละถึงจะเรียกว่าฉลาด! ที่สำคัญแค่ไปสนามรบเจาะชาดมันก็ใช่จะหมายถึงความตาย บางทีเจ้านั้นอาจจะโชคดีก็ได้! เจ้าก็รู้ดีว่ามันมียอดคนมากมายแค่ไหนที่แจ้งเกิดขึ้นบนสนามรบเจาะชาดนั้นและบรรลุกลายเป็นเจ้าคนปกครองสวรรค์! พวกเจ้าอย่าเพิ่งมองโลกแง่ร้ายไปก่อน เอาล่ะ มีของอะไรก็ไปเก็บกันมาให้หมด รีบๆ ออกเดินทางไปกันได้แล้ว!”

ครึ่งวันต่อมาทูตวิญญาณคนนั้นก็พาคนนิกายโอสถประเสริฐทั้งหลายมารวมตัวเตรียมตัวออกเดินทาง

ตอนนี้ในนิกายโอสถประเสริฐนั้นมันมีแต่เสียงร้องไห้และน้ำตา

ตอนนี้หวังจุนกลับมาตั้งสติได้หันกล่าวสั่งหลิวซิน “หลิวซิน ข้ามีเรื่องจะขอเจ้าแค่อย่างเดียว ไม่ว่าจะยากแค่ไหนเจ้าก็ต้องทำให้นิกายโอสถประเสริฐนี้อยู่รอดไปให้ได้!”

ระหว่างที่พูดไปนั้นเขาก็นึกไปถึงหน้าเย่หยวนขึ้นมา

มีท่านผู้นั้นอยู่ด้วยแล้วนิกายโอสถประเสริฐย่อมจะไม่มีวันตาย!

ไม่มีจักรพรรดิเที่ยงแล้วทำไม?

มีท่านผู้นั้นอยู่ด้วยนิกายโอสถประเสริฐคงสามารถสร้างจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาใหม่อีกนับร้อยๆ ได้ในพริบตา!

มหาจักรพรรดิเองก็ใช่เรื่องยากเกินมือเช่นกัน!

เย่หยวนในตอนนี้กำลังเก็บตัวอยู่ในถ้ำเดิมและจนถึงตอนนี้คนทั้งนิกายโอสถประเสริฐนั้นก็ต่างไม่มีใครพูดถึงตัวเย่หยวน

อย่างแรกเลยคือพวกเขานั้นซาบซึ้งในคุณของเย่หยวนจึงไม่คิดจะลากเขามาเกี่ยวข้องด้วย

อย่างที่สองคือพวกเขานั้นเข้าใจกันดีว่าหากบรรพบุรุษเย่หยวนยังอยู่แล้วนิกายโอสถประเสริฐจะไม่มีวันตาย!

แน่นอนว่าหวังจุนนั้นย่อมจะไม่คิดว่าเย่หยวนจะมาเปลี่ยนอะไรได้

ก็จริงที่ว่าเขานั้นคืออัจฉริยะที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

แต่ต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริงแล้วนั้นยอดอัจฉริยะมันยังไม่พอจะทำอะไรได้

บรรพบุรุษหางหยางนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แต่ก็ยังไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มีหรือที่เย่หยวน จักรพรรดิเที่ยงคนเดียวนั้นจะทำได้?

เมื่อหลิวซินได้ยินเขานั้นก็ต้องคุกเข่าลงอีกครั้งด้วยน้ำตา “หลิวซินจะจำคำสอนของท่านเจ้านิกายให้ขึ้นใจ! ท่านเจ้านิกาย…ดูแลตัวเองด้วย!”

จางจั่วซานนั้นยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “ช่างเป็นภาพที่น่าซึ้งใจนัก! ท่านทูตวิญญาณนิกายโอสถประเสริฐนั้นมันไม่รู้จักดีชอบ ท่านจะช่วยส่งมันไปยังแนวหน้าสงบสวรรค์ได้หรือไม่?”

ทูตวิญญาณคนนั้นพยักหน้ารับ “อ่า? แนวหน้าสงบสวรรค์มันกำลังขาดคนอยู่จริงๆ”

คำพูดเดียวนี้มันทำให้สีหน้าของพวกหวังจุนนั้นซีดขาวลง

แนวหน้าสงบสวรรค์นั้นมันคือจุดที่อันตรายที่สุดในสนามรบเจาะชาด

มันไม่ได้ด้อยไปกว่ามหานครฉีใต้เลย!

ไปที่นั่นมันเท่ากับไปตาย!

บรรพบุรุษหางหยางนั้นเองก็ตายลงที่แนวหน้าสงบสวรรค์นี้

หากสายตาสามารถฆ่าคนได้จางจั่วซานคงได้ถูกฆ่าตายไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

ทูตวิญญาณคนนั้นไม่คิดสนใจสายตาใดๆ และกล่าวขึ้นมา “เอาล่ะ ออกเดินทางกันได้แล้ว!”

คนทั้งหลายนั้นกำลังเตรียมตัวจะออกเดินทางทั้งน้ำตาแต่กลับปรากฏสองเงาร่างเดินมาขวางขบวนไว้

เมื่อได้เห็นผู้มาถึงนั้นหวังจุนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น

เขานั้นจ้องหน้าหลี่เจี้ยนเซินด้วยตาแดงก่ำ “หลี่เจี้ยนเซิน! บรรพบุรุษเย่ท่านอุตส่าห์เอ็นดูเจ้า! แต่เจ้ากลับคิดทำร้ายท่านอย่างนั้นหรือ!”

ผู้มาถึงนั้นมันคือเย่หยวน

ข้างกายของเย่หยวนนั้นมีศิษย์จักรพรรดิเซียนอีกคนหนึ่งนามว่าหลี่เจี้ยนเซิน

หลี่เจี้ยนเซินนั้นมีพรสวรรค์ด้านโอสถที่โดดเด่นจนเย่หยวนชอบเขาอย่างมาก

หลายปีที่ผ่านมานี้เขามักจะสั่งสอนเรื่องราวต่างๆ ให้แก่หลี่เจี้ยนเซินไปทำให้เขาคนนี้พัฒนาตัวไปอย่างมาก

ตอนนี้เขานับได้ว่าเป็นจักรพรรดิเซียนที่เก่งกาจที่สุดเป็นรองแค่หลิวซิน

หวังจุนนั้นไม่คิดฝันว่าเจ้าหมอนี่กลับจะเอาเรื่องไปบอกเย่หยวน!

เมื่อเย่หยวนปรากฏตัวขึ้นมันก็ย่อมจะไม่มีทางหลีกหนีไปได้อีก!

เพราะฉะนั้นเมื่อได้เห็นหน้าเย่หยวนหวังจุนจึงคับแค้นใจขึ้นอย่างมาก

เมื่อจางจั่วซานได้เห็นหน้าเย่หยวนเขาก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้ “อ่าว? ที่แท้มันยังมีจักรพรรดิเที่ยงอยู่อีกคนหรือนี่! หวังจุน เจ้ามันกล้า! ท่านทูตวิญญาณดูท่าหากเราไม่สั่งสอนมันเสียหน่อยแล้วพวกมันจะไม่จดจำแล้ว! หือ? ท่านทูตวิญญาณ?”

ทูตวิญญาณนั้นไม่สนใจคำพูดของจางจั่วซานใดๆ และจ้องมองเย่หยวนไม่วางตา

เย่หยวนนั้นเองก็ทำหน้าตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน จ้องมองดูทูตวิญญาณคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

“ฮ่าๆ โลกเรามันกลมจริงๆ! ไม่นึกเลยว่าข้ากลับจะได้มาเจอสหายเก่าที่สวรรค์โมฆะเกินดุลเช่นนี้! เหยียนยูเจิน เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือไม่?” เย่หยวนถามขึ้น

ใช่แล้ว ทูตวิญญาณคนนี้มันมิใช่ใครอื่นนอกจากตัวเหยียนยูเจินแห่งนิกายสวรรค์หยกแท้คนนั้น!

ผู้วางแผนลับหลังเย่หยวนไว้อย่างยาวนานแต่สุดท้ายกลับถูกเย่หยวนตอกหน้าจนต้องหนีไป!

หลังจากที่แยกกันคราวนั้นแล้วเย่หยวนก็ไม่ได้เจอเหยียนยูเจินอีกเลย

เขาไม่นึกฝันว่าอีกฝ่ายนั้นกลับจะสามารถเดินทางข้ามสวรรค์มายังสวรรค์โมฆะเกินดุลได้เช่นนี้

ที่สำคัญเขายังกลายเป็นทูตวิญญาณไปแล้วด้วย!

หากจะพูดถึงเหยียนยูเจินคนนี้แล้ว ชะตาของเขามันรุนแรงไม่น้อย

เดิมทีตัวเขาที่บาดเจ็บจากแผนของเย่หยวนนั้นถูกพิษวิญญาณเข้าจนแทบไม่อาจจะกลับไปสมบูรณ์ได้อีก

ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพของเขานั้นเขาย่อมจะไม่เหลือแรงข้ามทะเลไปยังทวีปสวรรค์แรกใดๆ ได้เลย

ในทะเลนั้นเขาก็ถูกไล่ล่าไม่ต่างจากเย่หยวน

แต่ใครจะไปคิดว่าที่ใต้ทะเลนั้นเขากลับไปเจอเข้ากับทางเจ้ามิติวิเศษเข้า

มิติวิเศษนี้มันเป็นสิ่งที่มหาจักรพรรดิชาววิญญาณทิ้งไว้

นอกจากเหยียนยูเจินจะได้สมบัติสืบทอดของมหาจักรพรรดิคนนั้นมาแล้วเขายังพบเส้นทางเชื่อมต่อสวรรค์ในมิติวิเศษที่ติดต่อระหว่างสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและสวรรค์โมฆะเกินดุลทำให้สุดท้ายแล้วเขาสามารถโผล่ขึ้นมาในสวรรค์โมฆะเกินดุลได้!

จากนั้นเขาก็ใช้สมบัติสืบทอดจากมหาจักรพรรดิคนนั้นและความฉลาดของตัวเองเข้าสู่เผ่าวิญญาณและกลายเป็นทูตวิญญาณได้ในที่สุด

เพียงแค่ว่าเขาเองก็ไม่คิดฝันว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาพบศัตรูแค้นอย่างเย่หยวนบนสวรรค์โมฆะเกินดุลนี้!

หลังยืนนิ่งอยู่อีกพักใหญ่เหยียนยูเจินก็กลับมาตั้งสติได้และตอบกลับเย่หยวนไปด้วยรอยยิ้ม “ข้านั้นสบายดีมาก ดีที่สุด! เย่หยวนในเมื่อเจ้ามาปรากฏตัวในเขตนิกายโอสถประเสริฐเช่นนี้แล้วเจ้าก็ไปยังสนามรบเจาะชาดกับพวกมันด้วยเถอะ!”