ศิษย์แต่ละคนในนิกายโอสถประเสริฐนั้นต่างเกลียดชังศัตรูคนเดียวกันและหวังว่าจะแลกชีวิตกันไปให้จบสิ้น
รังแกผู้คนหนักเกินไป!
ทูตวิญญาณคนนี้ไม่เปิดช่องให้นิกายโอสถประเสริฐได้หายใจ!
“ยอมตายอย่างภาคภูมิดีกว่ายอมอยู่อย่างหมูหมา!”
“ใช่แล้ว เราไม่เคยกลัวตาย! อย่างมากก็แค่ตายเร็วขึ้นไม่กี่เดือน!”
“ท่านเจ้านิกาย เราหมดความอดทนมานานแล้ว! หลายปีมานี้เราอยู่อย่างสิ้นหวังยิ่งกว่าสุนัข! สู้กับมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเถอะ!” พูดไปเหล่ามหาจักรพรรดิหน้าใหม่ทั้งสามก็ไม่คิดละสายตาจากตัวจางจั่วซาน
…
ความคับแค้นที่สะสมมากกว่าพันปีนี้มันปะทุขึ้นแล้ว
เผ่าวิญญาณนั้นไม่เปิดช่องให้พวกเขาได้หายใจแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าคิดกวาดล้างจักรพรรดิเที่ยงทั้งหมดของพวกเขาลงสิ้น
หากไม่มีจักรพรรดิเที่ยงแล้วมันจะยังเรียกว่ามีนิกายโอสถประเสริฐใดๆ อีกหรือ?
จางจั่วซานนั้นยืนยิ้มอยู่หลังทูตวิญญาณอย่างพอใจ
นิกายโอสถประเสริฐนั้นคิดทำลายตัวเองตัวเขาย่อมจะพร้อมดูมัน
คิดย้อนกลับไปนั้นแต่ก่อนเขาเป็นได้แค่สุนัขต่อหน้านิกายโอสถประเสริฐ
ตอนนี้เขากลับมายืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาอย่างยิ่งใหญ่
“พวกเจ้าหุบปากให้หมด!” หวังจุนนั้นร้องด่าขึ้นมากลบเสียงคนทั้งหลายไป
ในนิกายโอสถประเสริฐนั้นคำพูดของหวังจุนมันคือกฎ
เขานั้นกดความคับแค้นในใจลงและกล่าวขึ้น “ยอมแลกชีวิตไปแล้วมันจะได้อะไร? นิกายโอสถประเสริฐเรานั้นสืบทอดกันมายาวนานกว่าหมื่นๆ ปีจะให้มันพังทลายลงเช่นนี้ไม่ได้! เราแค่…ต้องไปก็พอ!”
หวังจุนนั้นใช้กำลังทั้งหมดที่เหลือฝืนพูดคำว่าต้องไปออกมา
เขานั้นรู้ดีว่าหากไปแล้วนิกายโอสถประเสริฐมันคงไม่เหลือซากแน่
แต่เขาไม่มีทางเลือก!
ต่อต้านไปตอนนี้จะได้อะไร?
เพราะต่อให้จะเป็นมหาจักรพรรดิทั้งสี่คนนี้มันก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะจางจั่วซานคนนี้ลงได้!
แทนที่จะเสี่ยงลงมืออย่างที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลอะไรหรือไม่ สู้ให้นิกายโอสถประเสริฐทิ้งคำสอนไว้ด้านหลังบ้างจะดีกว่า!
หากจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายตายลงหมดสิ้นแล้วเผ่าวิญญาณก็ย่อมจะไม่ถึงขั้นมาเกณฑ์จักรพรรดิเซียนทั้งหลายไป
เพราะคนทั้งหลายนั้นต่อให้จะไปก็เป็นได้แค่หน่วยกล้าตายเท่านั้น
“หลิวซิน จากวันนี้ไปเจ้านั้นคือเจ้านิกายโอสถประเสริฐ!” หวังจุนหันมากล่าวกับจักรพรรดิเซียนขั้นสุดคนหนึ่งด้านหลัง
หลิวซินนั้นต้องเบิกตากว้างพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาพร้อมโขกหัวลงพื้น
แยกจากด้วยความตาย
ทูตวิญญาณคนนั้นยิ้มตอบกลับมา “ใช่แล้ว นี่แหละถึงจะเรียกว่าฉลาด! ที่สำคัญแค่ไปสนามรบเจาะชาดมันก็ใช่จะหมายถึงความตาย บางทีเจ้านั้นอาจจะโชคดีก็ได้! เจ้าก็รู้ดีว่ามันมียอดคนมากมายแค่ไหนที่แจ้งเกิดขึ้นบนสนามรบเจาะชาดนั้นและบรรลุกลายเป็นเจ้าคนปกครองสวรรค์! พวกเจ้าอย่าเพิ่งมองโลกแง่ร้ายไปก่อน เอาล่ะ มีของอะไรก็ไปเก็บกันมาให้หมด รีบๆ ออกเดินทางไปกันได้แล้ว!”
…
ครึ่งวันต่อมาทูตวิญญาณคนนั้นก็พาคนนิกายโอสถประเสริฐทั้งหลายมารวมตัวเตรียมตัวออกเดินทาง
ตอนนี้ในนิกายโอสถประเสริฐนั้นมันมีแต่เสียงร้องไห้และน้ำตา
ตอนนี้หวังจุนกลับมาตั้งสติได้หันกล่าวสั่งหลิวซิน “หลิวซิน ข้ามีเรื่องจะขอเจ้าแค่อย่างเดียว ไม่ว่าจะยากแค่ไหนเจ้าก็ต้องทำให้นิกายโอสถประเสริฐนี้อยู่รอดไปให้ได้!”
ระหว่างที่พูดไปนั้นเขาก็นึกไปถึงหน้าเย่หยวนขึ้นมา
มีท่านผู้นั้นอยู่ด้วยแล้วนิกายโอสถประเสริฐย่อมจะไม่มีวันตาย!
ไม่มีจักรพรรดิเที่ยงแล้วทำไม?
มีท่านผู้นั้นอยู่ด้วยนิกายโอสถประเสริฐคงสามารถสร้างจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาใหม่อีกนับร้อยๆ ได้ในพริบตา!
มหาจักรพรรดิเองก็ใช่เรื่องยากเกินมือเช่นกัน!
เย่หยวนในตอนนี้กำลังเก็บตัวอยู่ในถ้ำเดิมและจนถึงตอนนี้คนทั้งนิกายโอสถประเสริฐนั้นก็ต่างไม่มีใครพูดถึงตัวเย่หยวน
อย่างแรกเลยคือพวกเขานั้นซาบซึ้งในคุณของเย่หยวนจึงไม่คิดจะลากเขามาเกี่ยวข้องด้วย
อย่างที่สองคือพวกเขานั้นเข้าใจกันดีว่าหากบรรพบุรุษเย่หยวนยังอยู่แล้วนิกายโอสถประเสริฐจะไม่มีวันตาย!
แน่นอนว่าหวังจุนนั้นย่อมจะไม่คิดว่าเย่หยวนจะมาเปลี่ยนอะไรได้
ก็จริงที่ว่าเขานั้นคืออัจฉริยะที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
แต่ต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริงแล้วนั้นยอดอัจฉริยะมันยังไม่พอจะทำอะไรได้
บรรพบุรุษหางหยางนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แต่ก็ยังไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มีหรือที่เย่หยวน จักรพรรดิเที่ยงคนเดียวนั้นจะทำได้?
เมื่อหลิวซินได้ยินเขานั้นก็ต้องคุกเข่าลงอีกครั้งด้วยน้ำตา “หลิวซินจะจำคำสอนของท่านเจ้านิกายให้ขึ้นใจ! ท่านเจ้านิกาย…ดูแลตัวเองด้วย!”
จางจั่วซานนั้นยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “ช่างเป็นภาพที่น่าซึ้งใจนัก! ท่านทูตวิญญาณนิกายโอสถประเสริฐนั้นมันไม่รู้จักดีชอบ ท่านจะช่วยส่งมันไปยังแนวหน้าสงบสวรรค์ได้หรือไม่?”
ทูตวิญญาณคนนั้นพยักหน้ารับ “อ่า? แนวหน้าสงบสวรรค์มันกำลังขาดคนอยู่จริงๆ”
คำพูดเดียวนี้มันทำให้สีหน้าของพวกหวังจุนนั้นซีดขาวลง
แนวหน้าสงบสวรรค์นั้นมันคือจุดที่อันตรายที่สุดในสนามรบเจาะชาด
มันไม่ได้ด้อยไปกว่ามหานครฉีใต้เลย!
ไปที่นั่นมันเท่ากับไปตาย!
บรรพบุรุษหางหยางนั้นเองก็ตายลงที่แนวหน้าสงบสวรรค์นี้
หากสายตาสามารถฆ่าคนได้จางจั่วซานคงได้ถูกฆ่าตายไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
ทูตวิญญาณคนนั้นไม่คิดสนใจสายตาใดๆ และกล่าวขึ้นมา “เอาล่ะ ออกเดินทางกันได้แล้ว!”
คนทั้งหลายนั้นกำลังเตรียมตัวจะออกเดินทางทั้งน้ำตาแต่กลับปรากฏสองเงาร่างเดินมาขวางขบวนไว้
เมื่อได้เห็นผู้มาถึงนั้นหวังจุนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น
เขานั้นจ้องหน้าหลี่เจี้ยนเซินด้วยตาแดงก่ำ “หลี่เจี้ยนเซิน! บรรพบุรุษเย่ท่านอุตส่าห์เอ็นดูเจ้า! แต่เจ้ากลับคิดทำร้ายท่านอย่างนั้นหรือ!”
ผู้มาถึงนั้นมันคือเย่หยวน
ข้างกายของเย่หยวนนั้นมีศิษย์จักรพรรดิเซียนอีกคนหนึ่งนามว่าหลี่เจี้ยนเซิน
หลี่เจี้ยนเซินนั้นมีพรสวรรค์ด้านโอสถที่โดดเด่นจนเย่หยวนชอบเขาอย่างมาก
หลายปีที่ผ่านมานี้เขามักจะสั่งสอนเรื่องราวต่างๆ ให้แก่หลี่เจี้ยนเซินไปทำให้เขาคนนี้พัฒนาตัวไปอย่างมาก
ตอนนี้เขานับได้ว่าเป็นจักรพรรดิเซียนที่เก่งกาจที่สุดเป็นรองแค่หลิวซิน
หวังจุนนั้นไม่คิดฝันว่าเจ้าหมอนี่กลับจะเอาเรื่องไปบอกเย่หยวน!
เมื่อเย่หยวนปรากฏตัวขึ้นมันก็ย่อมจะไม่มีทางหลีกหนีไปได้อีก!
เพราะฉะนั้นเมื่อได้เห็นหน้าเย่หยวนหวังจุนจึงคับแค้นใจขึ้นอย่างมาก
เมื่อจางจั่วซานได้เห็นหน้าเย่หยวนเขาก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้ “อ่าว? ที่แท้มันยังมีจักรพรรดิเที่ยงอยู่อีกคนหรือนี่! หวังจุน เจ้ามันกล้า! ท่านทูตวิญญาณดูท่าหากเราไม่สั่งสอนมันเสียหน่อยแล้วพวกมันจะไม่จดจำแล้ว! หือ? ท่านทูตวิญญาณ?”
ทูตวิญญาณนั้นไม่สนใจคำพูดของจางจั่วซานใดๆ และจ้องมองเย่หยวนไม่วางตา
เย่หยวนนั้นเองก็ทำหน้าตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน จ้องมองดูทูตวิญญาณคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก
“ฮ่าๆ โลกเรามันกลมจริงๆ! ไม่นึกเลยว่าข้ากลับจะได้มาเจอสหายเก่าที่สวรรค์โมฆะเกินดุลเช่นนี้! เหยียนยูเจิน เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือไม่?” เย่หยวนถามขึ้น
ใช่แล้ว ทูตวิญญาณคนนี้มันมิใช่ใครอื่นนอกจากตัวเหยียนยูเจินแห่งนิกายสวรรค์หยกแท้คนนั้น!
ผู้วางแผนลับหลังเย่หยวนไว้อย่างยาวนานแต่สุดท้ายกลับถูกเย่หยวนตอกหน้าจนต้องหนีไป!
หลังจากที่แยกกันคราวนั้นแล้วเย่หยวนก็ไม่ได้เจอเหยียนยูเจินอีกเลย
เขาไม่นึกฝันว่าอีกฝ่ายนั้นกลับจะสามารถเดินทางข้ามสวรรค์มายังสวรรค์โมฆะเกินดุลได้เช่นนี้
ที่สำคัญเขายังกลายเป็นทูตวิญญาณไปแล้วด้วย!
หากจะพูดถึงเหยียนยูเจินคนนี้แล้ว ชะตาของเขามันรุนแรงไม่น้อย
เดิมทีตัวเขาที่บาดเจ็บจากแผนของเย่หยวนนั้นถูกพิษวิญญาณเข้าจนแทบไม่อาจจะกลับไปสมบูรณ์ได้อีก
ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพของเขานั้นเขาย่อมจะไม่เหลือแรงข้ามทะเลไปยังทวีปสวรรค์แรกใดๆ ได้เลย
ในทะเลนั้นเขาก็ถูกไล่ล่าไม่ต่างจากเย่หยวน
แต่ใครจะไปคิดว่าที่ใต้ทะเลนั้นเขากลับไปเจอเข้ากับทางเจ้ามิติวิเศษเข้า
มิติวิเศษนี้มันเป็นสิ่งที่มหาจักรพรรดิชาววิญญาณทิ้งไว้
นอกจากเหยียนยูเจินจะได้สมบัติสืบทอดของมหาจักรพรรดิคนนั้นมาแล้วเขายังพบเส้นทางเชื่อมต่อสวรรค์ในมิติวิเศษที่ติดต่อระหว่างสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและสวรรค์โมฆะเกินดุลทำให้สุดท้ายแล้วเขาสามารถโผล่ขึ้นมาในสวรรค์โมฆะเกินดุลได้!
จากนั้นเขาก็ใช้สมบัติสืบทอดจากมหาจักรพรรดิคนนั้นและความฉลาดของตัวเองเข้าสู่เผ่าวิญญาณและกลายเป็นทูตวิญญาณได้ในที่สุด
เพียงแค่ว่าเขาเองก็ไม่คิดฝันว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาพบศัตรูแค้นอย่างเย่หยวนบนสวรรค์โมฆะเกินดุลนี้!
หลังยืนนิ่งอยู่อีกพักใหญ่เหยียนยูเจินก็กลับมาตั้งสติได้และตอบกลับเย่หยวนไปด้วยรอยยิ้ม “ข้านั้นสบายดีมาก ดีที่สุด! เย่หยวนในเมื่อเจ้ามาปรากฏตัวในเขตนิกายโอสถประเสริฐเช่นนี้แล้วเจ้าก็ไปยังสนามรบเจาะชาดกับพวกมันด้วยเถอะ!”