ตอนที่ 2915 ย้ำความทรงจำ!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ได้เห็นเย่หยวนทักทายทูตวิญญาณนั้นหวังจุนก็ต้องยิ้มอย่างมีความหวังขึ้นมา

แต่คำพูดต่อมาของเหยียนยูเจินนั้นได้ดึงสติของเขากลับมาทันที

ที่แท้คนทั้งสองนั้นเป็นศัตรูเก่ากัน!

เท่านี้มันก็จบสิ้นแล้ว!

เย่หยวนนั้นไม่คิดกังวลอะไรและยิ้มตอบกลับไป “ดูท่าเจ้าจะลืมบทเรียนที่ข้าสอนไปคราวก่อนแล้ว!”

เหยียนยูเจินหัวเราะลั่นขึ้นมา “ลืม? ฮ่าๆ มีหรือที่ข้าจะลืมมันลงได้? เจ้าคิดว่าข้านั้นยังเป็นไอ้เด็กที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรบนโลกอย่างเมื่อก่อนหรือ? ก่อนนั้นเหตุผลที่แผนการของข้ามันพลาดลงมันก็เพราะว่าข้านั้นมีแค่ร่างวิญญาณดั่งเดิมเท่านั้น! ตอนนี้ข้ามีโชคได้รับสมบัติสืบทอดมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นชาวเผ่าวิญญาณอย่างแท้จริง รู้ถึงวิชาวิญญาณที่แท้จริงแล้ว! เผ่าวิญญาณนั้นคือสถานที่ที่ช่วยให้ข้าได้เกิดขึ้นเป็นคนใหม่! สังหารเจ้าลงนั้นมันง่ายดายยิ่งกว่าขยับมือ!”

“เย่หยวน เจ้าคงไม่รู้แต่ว่าหลายปีมานี้ข้าได้คิดลังเลหลายต่อหลายครั้งว่าจะกลับไปยังสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดดีหรือไม่เพื่อล้าง แค้นที่เคยมีกัน! ไม่นึกเลยว่าสวรรค์จะมีตาส่งเจ้ามาหาข้าเองเช่นนี้! ฮ่าๆๆ…”

พูดไปเหยียนยูเจินก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้

เขานั้นสะใจจริงๆ!

เพราะก่อนหน้านั้นเหยียนยูเจินพ่ายลงให้แก่เย่หยวนและเรียกได้ว่าหมดความหวังในชีวิต

แต่เมื่อเขาได้รับสมบัติสืบทอดของเผ่าวิญญาณนั้นมาแล้วเขาจึงเข้าใจว่าทำไมตนถึงได้พ่ายลง!

ร่างวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันนับเป็นเผ่าวิญญาณหรือไม่?

ใช่และไม่!

มันเหมือนเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน

เพียงแค่ว่าวิญญาณดั่งเดิมของมนุษย์นั้นมันจะเชื่อมต่อกับร่างกายและโลกใบน้อยอย่างมาก

แต่เผ่าวิญญาณมิใช่!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่ามนุษย์ยังไม่มีวิชาวิญญาณมากมายต่อให้จะมีใครสร้างวิชาอะไรขึ้นมาได้มันก็ย่อมจะอยู่ คนละชั้นกับวิชาวิญญาณของเผ่าวิญญาณ

เพราะฉะนั้นวิญญาณดั่งเดิมของมนุษย์มันจึงอ่อนแอกว่าเผ่าวิญญาณอย่างไม่อาจเอามันมาเทียบกันได้

บนสวรรค์นี้มันไม่ใช่แค่เผ่ามนุษย์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเผ่าใดแต่หากพวกเขาเสียร่างกายไปแล้ว วิญญาณของพวกเขาก็จะดับสูญไปด้วย

แต่ว่าร่างวิญญาณของเผ่าวิญญาณนั้นต่างไป

การบ่มเพาะของเผ่าวิญญาณนั้นมันเป็นยอดเต๋าอีกสายหนึ่ง!

มันคือคลื่นกำเนิดวิญญาณ!

มันเหมือนคลื่นกำเนิดเลือดของเผ่าเลือดนั้นที่ทรงพลังอย่างมากเช่นกัน

เผ่าเลือดนั้นสามารถสังหารชีวิตเผ่าอื่นได้ด้วยแค่ความคิด!

ร่างวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันต้องได้ใช้วรยุทธบ่มเพาะของเผ่าวิญญาณถึงจะสามารถปลดภาวะวิญญาณดั่งเดิม ออกมาได้ค่อยๆ เดินทางสู่เต๋าวิญญาณและถึงจะเรียกตัวเองว่าเป็นชาวเผ่าวิญญาณจริงๆ ได้

ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาย่อมจะอ่อนแอจนไม่อาจต่อสู้ใดๆ!

ดูท่าแล้วเย่หยวนนั้นคงได้วรยุทธบ่มเพาะของเผ่าวิญญาณมาจากที่ไหนสักแห่ง

ทำให้ตอนนั้นเย่หยวนขับไล่เขาจนต้องหนีหางจุกตูดออกมา

แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว!

เหยียนยูเจินในตอนนี้ได้กลายเป็นชาวเผ่าวิญญาณอย่างเต็มตัวแล้ว พลังฝีมือของเขาในตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะเอาไปเทียบกับตัวเขาตอนยังมีร่างกายมาก!

เมื่อจางจั่วซานได้ยินเขาก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาทันที

เขานั้นรู้ดีว่าคนตรงหน้าของเขานี้คือยอดอัจฉริยะดาวรุ่งจากโถงวิญญาณนิพพาน

เขานั้นพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็วล้ำ!

ตอนนี้เขานั้นอยู่ห่างจากอาณาจักรมหาจักรพรรดิไปแค่เอื้อมมือแล้ว!

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาใจเหยียนยูเจินจนมีวันนี้มาได้

“เหอะ ข้าก็นึกว่าจะเป็นยอดคนที่ไหนที่ทำให้ท่านทูตวิญญาณคิดติดใจมาตลอด! ที่แท้มันเป็นแค่เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า! ไอ้หนู มันมีคำพูดหนึ่งอยู่นะ สิ่งเดียวที่แน่นอนที่สุดในชีวิต คือความเปลี่ยนแปลง เจ้าเคยได้ยินหรือไม่? เพราะตอนนี้ท่านทูตวิญญาณนั้นสามารถจัดการเจ้าลงได้ง่ายดายเหมือนขยี้มดปลวก!” จางจั่วซานกล่าวขึ้นมา

เหยียนยูเจินนั้นยิ้มตอบ “ใช่แล้ว!”

ช่างสะใจดีจริง!

สิ่งที่เดียวที่แน่นอนนั่นคือการเปลี่ยนแปลง!

เขาและเย่หยวนนั้นก็เป็นเช่นนี้มิใช่หรือ?

สวรรค์ช่างมีตาส่งเย่หยวนมาหาเขาเช่นนี้!

หวังจุนและคนทั้งหลายในนิกายนั้นต่างหน้าซีดลงเพราะเขานั้นเองก็รู้ดีว่าทูตวิญญาณคนนี้คือดาวรุ่ง แห่งโถงวิญญาณนิพพาน!

มนุษย์ในระดับเดียวกันนั้นไม่อาจจะสู้กับเขาได้

พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนเก่งกาจแต่การสู้กับเผ่าวิญญาณนั้นมันแตกต่างจากการสู้กับเผ่าอื่น!

เพราะพวกเขานั้นตัดสินเป็นตายกันด้วยความคิด!

“บรรพบุรุษเย่ เราจะหยุดพวกมันไว้ ท่านรีบไปเถอะ!” หวังจุนก้าวขึ้นมาขวางหน้าเย่หยวนไว้

ลู่หยานและพวกเองก็ไม่รอคำเรียกใดๆ เดินขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่หวังจุนทันที

เพราะเดิมทีพวกเขานั้นก็พร้อมที่จะปะทะกับเหยียนยูเจินอยู่แล้วแต่ถูกห้ามไว้

ตอนนี้เพื่อช่วยเย่หยวน พวกเขาจึงไม่คิดสนใจรักษานิกายใดๆ ไว้อีกแล้ว!

ความภักดีของพวกหวังจุนนั้นคงไม่ต้องถามถึงเลย

จางจั่วซานนั้นหัวเราะขึ้น “แค่มดปลวกไร้ค่ากลับกล้ามาลบหลู่ทูตวิญญาณหรือ?! ฮ่าๆ เจ้าคงเบื่อชีวิตแล้วจริงๆ!”

แต่เย่หยวนที่อยู่ไม่ไกลพวกหวังจุนนั้นกลับยิ้มตอบกลับไป “ดูท่าเจ้าจะมีความแค้นกับข้ามาก! เช่นนั้นเจ้าลองเจ้ามาสังหารข้าสิ!”

รอยยิ้มนั้นมันทำให้เหยียนยูเจินเกลียดชัง!

สองตาของเขาหรี่ลงรู้สึกได้ถึงแผนร้ายของเย่หยวนทันที

เจ้าเด็กนี่มันมากเล่ห์!

ก่อนหน้านั้นเขาระวังตัวแค่ไหนแล้วแต่สุดท้ายผลออกมาเป็นอย่างไร?

เขานั้นเข้าใจเย่หยวนดี!

แต่ยิ่งเข้าใจเขาก็ยิ่งกลัวเย่หยวนจนไม่อาจห้ามตัว

“จางจั่วซาน ไปฆ่ามัน!” หลังลังเลอยู่พักหนึ่งสุดท้ายเหยียนยูเจินก็สั่งออกมา

จางจั่วซานผงะไปทันที ‘นี่ท่านทูตวิญญาณกลัวเจ้าเด็กนี่?’

มันเป็นไปได้อย่างไร?

ในโถงวิญญาณนิพพานนั้นทูตวิญญาณคนนี้เก่งกาจจนเรียกได้ว่าไม่มีใครต้านทาน

หากไม่ใช่มหาจักรพรรดิแล้วมันย่อมจะไม่มีใครเอาชนะเขาได้

ตอนนี้เขากลับมากลัวจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางชาวมนุษย์คนหนึ่ง?

เจ้าเด็กนี่เก่งกาจปานนั้น?

แต่เขานั้นก็ไม่คิดปฏิเสธคำสั่งของเหยียนยูเจินใดๆ!

“ขอรับท่านทูตวิญญาณ!”

เมื่อจางจั่วซานมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลางเตรียมลงมือนั้นแรงกดดันมันก็ย่อมจะทำให้สีหน้าของคน ทั้งหลายเปลี่ยนสีไป

“เจ้าคิดทำร้ายบรรพบุรุษเย่หรือ?! เจ้านิกายผู้นี้จะสู้กับเจ้าเอง!”

พวกหวังจุนทั้งสี่นั้นเข้าล้อมตัวจางจั่วซานอย่างไม่ลังเลทันที

สี่ต่อหนึ่ง!

โชคยังดีที่หวังจุนนั้นใกล้จะบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลางแล้วเช่นกัน

ทำให้คนทั้งสี่นั้นยังพอสามารถต้านทานจางจั่วซานไว้ได้

พลาด!

เหยียนยูเจินนั้นคิดว่านิกายโอสถประเสริฐนั้นมีมหาจักรพรรดิแค่หวังจุนคนเดียว

จึงได้พามหาจักรพรรดิอย่างจางจั่วซานมาแค่คนเดียว…

ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายกลับมีมหาจักรพรรดิเพิ่มขึ้นมาอีกถึงสามคน!

เย่หยวนนั้นไม่สนใจศึกของคนทั้งห้านั้นและหันไปยิ้มให้เหยียนยูเจิน “ทำไมเล่า? ไม่กล้าหรือ? หากเจ้าไม่ลงมือ…ข้าจะลงมือก่อนแล้ว!”

เหยียนยูเจินนั้นหรี่ตาลงพร้อมใช้การโจมตีระยะไกลเข้าใส่ทะเลจิตของเย่หยวนในทันที!

ความคิดเดียวนี้สามารถสังหารกันได้!

แต่วินาทีที่พลังวิญญาณของเขาปะทะเข้ากับทะเลจิตของเย่หยวนนั้นมันกลับเหมือนชนเข้ากับแผ่นเหล็ก!

“อึก!”

เหยียนยูเจินนั้นร้องขึ้นมาพร้อมถอยหลังไปไกล!

แข็งแกร่ง!

เย่หยวนไม่ต้องเล่นลูกไม้ใดๆ!

ทำไมวิญญาณดั่งเดิมของเขาถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?

การโจมตีวิญญาณดั่งเดิมนี้เย่หยวนไม่คิดแม้แต่จะป้องกันแต่เหยียนยูเจินก็ยังรู้สึกเหมือนต่อยโดนแผ่นเหล็กเข้า!

เป็นการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นที่สะท้อนกลับออกมาอย่างรุนแรง

เขามองหน้าเย่หยวนอย่างหวาดกลัว “ม…มันเป็นไปได้อย่างไร? ทำไมวิญญาณดั่งเดิมของเจ้า…ถึงได้ทรงพลังนัก?”

ก่อนนั้นวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันมีพลังแค่จักรพรรดิเซียน!

แล้วนี่ผ่านไปได้กี่ปี?

วิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นกลับพัฒนาขึ้นไปถึงจักรพรรดิเที่ยงขั้นปลายแล้ว?

ที่สำคัญไปกว่านั้นวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนยังแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิเที่ยงขั้นปลายทั่วๆ ไปนับร้อยเท่า!

เจ้าบ้านี่มันใช้วรยุทธใดในการบ่มเพาะวิญญาณกัน?

น่าอาย!

น่าอับอายเสียจริง!

เขานั้นได้รับสมบัติสืบทอดจากมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์!

หลังจากบ่มเพาะมาอย่างยาวนานเขาก็เรียกได้ว่าไร้เทียมทานในโถงวิญญาณนิพพานไปแล้ว แต่กลับมาแพ้ให้มนุษย์?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “ดูท่าบทเรียนจากคราวก่อนมันจะเลือนหายไปจากความคิดเข้าแล้วจริง เช่นนั้นข้าคงต้องย้ำความทรงจำให้หน่อยแล้ว!”

วินาทีเดียวกันนั้นวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันก็แยกขึ้นมาเป็นสอง

ก่อนจะรวมกันเป็นหนึ่ง!

เหยียนยูเจินนั้นต้องอ้าปากค้างร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัว “เทพเจ้าแฝดกำเนิดโกลาหล!”