เย่หยวนนั้นมีวิญญาณสองอย่างมาตั้งแต่ต้นแล้ว
หนึ่งนั้นคือวิญญาณมังกรอีกหนึ่งนั้นคือวิญญาณมนุษย์
เมื่อได้กำเนิดเทพมานั้นวิญญาณทั้งสองของเย่หยวนมันจึงถูกบ่มเพาะขึ้นมาพร้อมๆ กันจนกลายเป็นวิญญาณที่ทรงพลังทั้งคู่
ตอนนี้พวกมันแต่ละอย่างนั้นมีพลังไม่แพ้ยอดฝีมือในระดับเดียวกัน
เมื่อทั้งสองวิญญาณผสานเข้าด้วยกันนั้นมันย่อมจะทรงพลังมากไปกว่าเก่า
เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นง้างธนูปล่อยพลังวิญญาณออกไปอย่างรุนแรง!
เหยียนยูเจินหน้าซีดขาวลงทันที!
เขานั้นคุ้นเคยกับวิชานี้ดี!
“ธนูเทพล้าง!”
เพียงแค่ว่าตอนที่เย่หยวนปล่อยมันออกมานั้นพลังของมันย่อมจะไม่อาจเอาพลังในตอนนั้นมาเทียบได้
“ยังเป็นวิชานี้ มันคิดจะย้ำความทรงจำข้าจริงๆ แล้ว!”
เย่หยวนยิ้มและปล่อยศรพุ่งแหวกอากาศมา
เหยียนยูเจินนั้นขนลุกตั้งพร้อมปล่อยพลังวิญญาณรุนแรงล้ำออกมาห่อล้อมตัวเองไว้
วิชานี้มันคือวิชาที่เขาได้รับสืบทอดมาจากมหาจักรพรรดิมีนามว่าโล่นรกเป็นวิชาการป้องกันที่สุดแสนแข็งแกร่ง!
ตูม!
โล่นรกแตกสลายลงทันที
เหยียนยูเจินนั้นรู้สึกมึนงงเหมือนโลกหมุนตรงหน้า ร่างวิญญาณของเขานั้นมันได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อยแล้ว
แข็งแกร่งเกินไป!
ความเปลี่ยนแปลงนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของธนูเทพล้างในตอนนี้เหยียนยูเจินก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา!
โล่นรกของเขานั้นมันอ่อนแอเหมือนเป็นแค่มดปลวกต่อหน้าพลังของธนูเทพล้างนี้
“ข้าแค่ปล่อยพลังไปสามในสิบเจ้าก็เสียท่าแล้ว? ไหนลองสี่ในสิบหน่อย!”
เหยียนยูเจินแทบจะร้องไห้ออกมา
แค่สามในสิบมันก็เป็นพลังที่โล่นรกเขาไม่อาจต้านแล้ว สี่ในสิบยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เหยียนยูเจินนั้นกัดฟันแน่นร้องลั่นขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ “เย่หยวน เจ้าบังคับข้าแล้ว! จงออกมาดาบสวรรค์ทลายล้าง!”
แหวนในมือของเขานั้นมันเปล่งประกายออกมาพร้อมด้วยพลังวิญญาณของเหยียนยูเจินที่พุ่งทะยานขึ้นไปอีกหลายเท่า!
และในตอนนั้นเองที่พลังวิญญาณของเขามันเริ่มเบลอขึ้นมาก่อนจะเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นดาบยาวสีแดงเลือด
สมบัติสืบทอดจากมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นย่อมจะไม่ธรรมดา
แหวนนี้มันคือไม้ตายของเหยียนยูเจิน!
แหวนนี้มีนามว่าแหวนคืนวิญญาณเป็นถึงสมบัติยอดหมอกระดับสาม!
หากมันถูกใช้งานขึ้นมาแล้วมันจะช่วยเสริมพลังวิญญาณได้หลายเท่า
และดาบสวรรค์ทลายล้างนี้มันก็คือไม้ตายของมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ผู้นั้น
เมื่อมันปรากฏขึ้นมาแล้วสีหน้าของคนทั้งหลายย่อมจะขาวซีดลงไปทันที
หวังจุนนั้นสัมผัสได้ถึงพลังรุนแรงของคลื่นวิญญาณนั้น ดาบนี้มันเป็นพลังที่แม้แต่มหาจักรพรรดิคลื่นกำเนิดก็คงไม่อาจจะรับไว้ได้ง่ายๆ!
“บรรพบุรุษเย่ ระวัง!” หวังจุนร้องลั่นขึ้นมา
ตูม!
ระหว่างที่หันไปพูดนั้นหวังจุนก็ถูกฝ่ามือของจางจั่วซานกระแทกเข้าพร้อมเสียงหัวเราะของอีกฝ่าย “ตัวเองยังไม่รอดเจ้าคิดไปห่วงคนอื่นหรือ? เจ้าคิดว่าท่านทูตวิญญาณนั้นจะแพ้ให้กับเจ้าเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างมัน? มันได้ตายแน่แล้วครั้งนี้!”
ตอนนี้แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ยังต้องเบิกตากว้าง
แต่ไม่นานเขาก็กลับมามีสีหน้าปกติอีกครั้งพร้อมยิ้มกล่าวขึ้น “ค่อยน่าสนใจขึ้นมาหน่อย!”
พริบตาต่อมานั้นพลังวิญญาณของเขามันก็พุ่งทะยานขึ้นบ้าง!
พริบตาเดียวกันนี้พลังวิญญาณของเย่หยวนมันก็เริ่มแตกสลายลง
ทั้งธนูวิญญาณและลูกศรวิญญาณนั้นมันต่างติดไฟขึ้นมา!
วรยุทธกำเนิดเทพ ลุกจากเถ้า!
ฟุบ!
ดาบสวรรค์ทลายล้างและธนูเทพล้างนั้นปะทะกันเข้ากลางอากาศ
เหยียนยูเจินนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองโดนฟ้าผ่าลงกลางหัวจนร่างเริ่มแตกสลายลงมา
ร่างกายของเขานั้นมันจางลงไปอย่างมาก
ดูท่าแล้วร่างวิญญาณของเขามันก็คงบาดเจ็บหนักไม่น้อย
จางจั่วซานนั้นต้องอ้าปากค้างขึ้นเมื่อได้เห็นผลลัพธ์นี้
เขานั้นเคยได้เห็นมากับตาว่าทูตวิญญาณคนนี้ใช้ดาบสวรรค์ทลายล้างสังหารมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวจนตายลงในกระบวนท่าเดียว
แต่จะบอกว่าเขาพ่ายให้กับวิญญาณของมนุษย์คนนี้หรือ?
นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!
หวังจุนและพวกเองก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างดีใจ!
บรรพบุรุษเย่เก่งกาจจริง!
“ฮ่าๆ จางจั่วซาน เมื่อกี้เจ้าว่าอะไรนะ?” หวังจุนนั้นหัวเราะลั่นเย้ยหยันขึ้นมา
จางจั่วซานหน้าดำมืดลงทันที นี่มันจะไม่ถูกตบหน้าเร็วไปหน่อยหรือ?
ตอนนั้นเองที่เย่หยวนได้เข้าไปใกล้ตัวเหยียนยูเจินที่นอนกองอยู่กับพื้นและก้มลงไปหยิบเอาแหวนออกมาจากร่างของเหยียนยูเจินและมองดูมันอย่างสนใจ
“นี่หรือคือสมบัติวิญญาณ? มันช่าง…น่าสนใจจริงๆ! เหยียนยูเจิน ข้าขอนะ?” เย่หยวนหันไปบอกเหยียนยูเจิน
เหยียนยูเจินกัดฟันร้องขึ้นมา “ฝันไปเถอะโว้ย! ตอนนี้ข้าเป็นถึงทูตวิญญาณแล้ว! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้าจริงเผ่าวิญญาณย่อมจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่! และนิกายโอสถประเสริฐใดนี้มันก็คงต้องตายลงเพราะเจ้าแล้ว!”
เขานั้นมั่นใจว่าเย่หยวนจะไม่ตัดสินใจทิ้งคนที่ช่วยเหลือตัวเองอย่างเด็ดขาด ย่อมจะไม่มีทางปล่อยให้นิกายโอสถประเสริฐเผชิญหายนะแน่
แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มและปล่อยลำแสงออกมาจากปลายนิ้วพุ่งเข้าร่างเหยียนยูเจิน
“โอ้ย!”
เหยียนยูเจินร้องลั่นขึ้นมาพร้อมลงไปนอนกลิ้งบนพื้น
เขานั้นรู้สึกเหมือนมีมดนับล้านตัวกำลังกัดกินร่างวิญญาณของเขาอยู่
ความทรมานนี้มันทำให้เขาแทบอยากตายลง
ได้ยินเสียงกรีดร้องของเหยียนยูเจินนั้นเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายก็ต้องสั่นสะท้านขึ้นมา
“ข้ายอมแล้ว! เอาไปก็เอาไป พอใจไหม?” เหยียนยูเจินร้องออกมา
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากเจ้ายอมเสียแต่แรกมีหรือที่จะต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้?”
พูดไปมือของเขาก็ดึงลำแสงนั้นกลับเข้ามา
เหยียนยูเจินมองหน้าเย่หยวนอย่างหวาดกลัว
เขานั้นคิดไปว่าตัวเองที่ได้รับสมบัติสืบทอดจากมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์จนกวาดล้างทั้งโถงวิญญาณนิพพานได้นี้มันย่อมจะสามารถแก้แค้นเย่หยวนได้แน่นอนหากได้เจอกันอีก
แต่ใครจะไปคิดว่ากลับเป็นตัวเขาเองที่พ่ายแพ้ลง
นอกจากจะแพ้แล้วเขานั้นยังต้องเสียสมบัติยอดหมอกระดับสามนั้นให้แก่เย่หยวนไปด้วย!
น่าคับแค้นใจนัก!
เมื่อไม่มีทางเลือกเหยียนยูเจินจึงได้แต่ต้องลบล้างตราประทับวิญญาณของตัวเองออก
ไม่นานเย่หยวนก็ลงตราประทับของตัวเองบนแหวนคืนวิญญาณสำเร็จ
หลังจากได้ลองใช้แหวนคืนวิญญาณแล้วเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ปะทุขึ้นในร่าง เรียกได้ว่าเขานั้นสามารถเทียบเคียงกับจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดได้ทีเดียว!
ของดีจริงๆ!
กอปรกับพลังของกำเนิดเทพแล้วเย่หยวนมั่นใจเลยว่าเขาสามารถสังหารมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวชาววิญญาณได้อย่างง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ
หลังจากเทพเจ้าแฝดกำเนิดโกลาหลทั้งสองอย่างของเย่หยวนมันบ่มเพาะไปถึงจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้ว ไม่แน่ว่าเขานั้นอาจจะพอรับมือมหาจักรพรรดิได้บ้าง
ได้เห็นหน้ายิ้มของเย่หยวนเหยียนยูเจินก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก
เย่หยวนมองหน้าเหยียนยูเจินและยิ้มกว้างขึ้นมา “ท่านทูตวิญญาณ เรื่องการเกณฑ์กำลังนั้นท่านคงเข้าใจใช่หรือไม่?”
เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกพยักหน้ารับ “รู้แล้ว!”
เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมาก่อนจะหันไปสั่งจางจั่วซาน “จางจั่วซาน นิกายเมฆาผงาดตั้งแต่หัวจรดหาง คนที่มีพลังเหนือจักรพรรดิเซียนขึ้นไปทั้งหมดจงมุ่งหน้าไปยังสนามรบเจาะชาดเสีย!”
จางจั่วซานหน้าซีดขาวลงทันที ‘นี่มัน…เรื่องบ้าอะไรกัน?’
มิใช่ว่ามาเกณฑ์กำลังจากนิกายโอสถประเสริฐหรือ?
ทำไมมันกลายเป็นการเกณฑ์กำลังจากนิกายเมฆาผงาดไปได้?
ที่สำคัญไปกว่านั้นเหยียนยูเจินยังคิดส่งคนทั้งนิกายเมฆาผงาดไปทั้งสิ้นในคราเดียว!
“ท…ท่านทูตวิญญาณ!”
เหยียนยูเจินหรี่ตาลงกล่าวอย่างเย็นเยือก “ทำไม? คำพูดทูตคนนี้มันไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว? เจ้าต้องให้ข้าส่งข้อความไปบอกอาจารย์ท่านให้ลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง?”
ได้ยินเช่นนั้นจางจั่วซานก็หน้าซีดลงทันที
เพราะว่าเหยียนยูเจินนั้นได้กราบมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ผู้หนึ่งเป็นอาจารย์ตอนที่เข้าโถงวิญญาณนิพพานไป!
อาจารย์ของเขานั้นคือผู้อาวุโสแห่งโถงวิญญาณนิพพาน นอกจากว่าจะเก่งกาจล้ำแล้วอำนาจของเขายังยิ่งใหญ่
หากเขาลงมาจัดการเรื่องเองแล้วนิกายเมฆาผงาดนั้นมันคงไม่เหลือแม้แต่มดสักตัวแน่นอน
“ศ…ศักดิ์สิทธิ์ขอรับ! จางจั่วซานรับทราบแล้ว!” จางจั่วซานร้องตอบกลับไปด้วยจิตใจที่สั่นกลัว
ได้ยินว่าทูตวิญญาณจะมาเกณฑ์กำลังจากนิกายโอสถประเสริฐนั้นตัวจางจั่วซานก็อาสาออกมาด้วยทันที
เพราะการได้เย้ยนิกายโอสถประเสริฐนั้นมันช่างน่าสะใจ
แต่ใครจะไปคิดว่านี่กลับเป็นหายนะของนิกายเมฆาผงาดแทน!
สภาพของจางจั่วซานในตอนนี้เขามีแต่ความเสียใจอยู่เต็มอก
“ไปรายงานตัวที่สนามรบเจาะชาดในสิบวัน! ไม่เช่นนั้นก็เตรียมรับผลของการขัดคำสั่งได้เลย!” เหยียนยูเจินสั่งจางจั่วซานออกมา