เมื่อเข้าป่าสุวิมลมาเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงเต๋ารอบกาย
เย่หยวนนั้นมองดูไปรอบด้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เขาจึงได้หยุดเท้าลงศึกษาเต๋าที่ลอยวนเวียนตรงหน้าทั้งหลายนี้
สิ่งที่เขาบ่มเพาะนั้นมันคือสุดยอดวรยุทธของเผ่าวิญญาณ
ทำให้ความเข้าใจต่อเต๋าวิญญาณของเขามันย่อมจะลึกล้ำอย่างมาก
และเต๋าที่วนเวียนอยู่ทั้งหลายนี้เย่หยวนแค่มองมันครั้งเดียวก็เข้าใจ
แต่หลังจากศึกษาไปได้พักใหญ่ๆ เย่หยวนก็รู้สึกว่ามันช่างน่าเบื่อ…
เต๋าทั้งหลายนี้มันช่างตื้นเขินจนทำให้เขาไม่อาจจะเรียนรู้อะไรได้เลย
แน่นอนว่าที่เขาคิดเช่นนี้ได้มันก็เพราะว่ากำเนิดเทพนั้นเป็นวรยุทธที่สูงส่งล้ำ
ยิ่งเขาบ่มเพาะมันไปเท่าไหร่เย่หยวนก็ยิ่งเข้าใจว่าเส้นทางของเขานั้นมันชี้ตรงไปยังต้นกำเนิดแห่งเต๋าวิญญาณ
เป็นเวลานั้นเองที่เขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในการทดสอบ
แต่ตอนนี้รอบๆ ตัวเขามันย่อมจะไม่มีใครอยู่อีกแล้ว
เย่หยวนจึงก้าวเท้าออกไปสุดแรง
พร้อมกับที่เต๋ารอบๆ ตัวเขานั้นมันหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับว่ามันจะสามารถให้คนเอื้อมมือออกไปจับมาใช้งานได้
ป่าสุวิมลนั้นมันคือแหล่งที่ทำให้คนรู้จักจิตเต๋าของตัวเอง
ยิ่งได้เห็นเต๋ามากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้ไม่มั่นใจในเต๋าของตัวเองเท่านั้น
ในป่าสุวิมลนี้คนเราไม่มีทางจะหลบหนีไปจากเต๋าได้เลย
ถึงแม้จะไม่ได้มอง มันก็จะเข้ามาสัมผัสกับร่างวิญญาณของคนอยู่ดี
แต่สำหรับเย่หยวนแล้วมันไม่มีเป็นปัญหาใดๆ เลย
เพราะนอกจากเขาจะบ่มเพาะวรยุทธสุดล้ำอย่างกำเนิดเทพแล้ว
เขานั้นยังเป็นคนที่มีจิตเต๋าหนักแน่นไม่มีวันสงสัยในตัวเองเด็ดขาด!
เขานั้นคือคนที่กล้าชี้ดาบขึ้นท้าทายสวรรค์!
เพราะฉะนั้นความเร็วของเขามันจึงเหนือล้ำมาก
ระยะสิบกิโลเมตรนั้นมันเป็นระยะชั่วพริบตาสำหรับจักรพรรดิเที่ยง
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงออกมาได้ในเวลาไม่กี่อึดใจ
…
ด้านนอกป่าสุวิมลนั้นพวกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางทั้งสามกำลังพูดคุยถึงศิษย์ของตน
“ฉินซื่อเถียนมันไม่ทำให้เฒ่าคนนี้ผิดหวังจริงๆ! ในคนทั้งสามนั้นเขามีฝีมือเหนือกว่าคนอื่นชัดเจน!”
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินกล่าวขึ้นมาตาม “มันจะเร็วไปหรือไม่ที่พี่ตงหยางจะตัดสิน? ในป่าสุวิมลนั้นมันมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นตัวฉินซื่อเถียนเองก็นำมาได้ไม่มากนัก แถมโจวหยูนั้นก็ชอบเก็บแรงไว้ตอนท้าย ไม่แน่หรอกว่ามันจะแพ้ในด่านป่าสุวิมลนี้!”
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางกล่าวขึ้นตอบ “เช่นนั้นเราก็มารอดู…”
จู่ๆ ดวงตาของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก็เบิกกว้างและพูดตะกุกตะกักไป
เพราะว่าจุดแสงหนึ่งมันพุ่งผ่านหน้าพวกฉินซื่อเถียนทั้งสามมาจนถึงขอบจอแสงอย่างรวดเร็ว
มหาจักรพรรดิซีเฉินนั้นยิ้มขึ้นเมื่อได้เห็น “พี่ตงหยาง มันก็แค่การแข่งกันของเด็กๆ จะจริงจังอะไรขนาดนั้นกัน?”
‘จริงจังพ่อเจ้าสิ!’
‘เจ้า…ตาบอดหรือ?’
‘อ่อ มันไม่ได้ดูหน้าจออยู่’
เมื่อปรับลมหายใจได้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก็กล่าวขึ้น “มีคนจะออกมาแล้ว!”
“ค…คนจะออกมา?” มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินนั้นผงะไปคิดว่านี่กำลังโดนหลอกอยู่หรือไม่?
แต่ในเวลานั้นเองที่มันได้เกิดเสียงโห่ร้องดังขึ้นมา
“นี่มันจะไม่เร็วไปหรือ? เมื่อกี้ข้ายังดูพวกฉินซื่อเถียนทั้งสามอยู่เลย ไม่เห็นเลยว่าใครที่ผ่านหน้ามา!”
“ข้าด้วย! นี่…มันคงมิใช่ว่าจอแสงมีปัญหาหรอกนะ?”
“มันต้องมีอะไรผิดพลาดในจอแสงแน่ๆ! เพราะสถิติของป่าสุวิมลดั้งเดิมนั้นคือหกชั่วโมงสิบห้านาที
ต่อให้จะมีใครทำลายสถิติได้มันก็คงไม่เร็วปานนี้หรอกใช่ไหม?”
…
พวกเขานั้นทันเห็นแค่จุดแสงพุ่งผ่านและหายไป
ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นใครนั้นพวกเขามองไม่ทันจริงๆ
เพราะว่าช่วงแรกๆ นั้นคนทั้งหลายยังคงจับจ้องอยู่แต่กลุ่มของสามบุตรเจาะชาดนั้น
เพราะพวกเขานั้นคือตัวเต็งของงานคัดเลือกครั้งนี้
แต่ไม่นานมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งออกมาจากทางออกป่า
ที่น่าตกตะลึงก็คือร่างนี้คือเย่หยวน!
ผู้ดูแลป่านั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างเพราะเขาเองก็เอาแต่สนใจพวกฉินซื่อเถียนทั้งสามคนอยู่
กว่าเขาจะรู้ตัวมันก็มีคนออกมาเสียแล้ว
เย่หยวนมองหน้าผู้ดูแลและถามขึ้น “ผู้อาวุโส ข้าถือว่าผ่านแล้วหรือไม่?”
ผู้ดูแลนั้นอ้าปากค้างขึ้น พร้อมพยักหน้ารับ
ทว่าต่อมาเขาก็ต้องส่ายหัวรุนแรงออกมา “จ…เจ้าเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”
เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วถามกลับไป “มันแค่สิบกิโลเมตร เพียงวิ่งพริบตาเดียวก็พอแล้วมิใช่หรือ?”
ผู้ดูแลนั้นผงะไปและร้องลั่นขึ้นมา “เดี๋ยวนะ! เจ้า…เจ้าหยุดอยู่ตรงทางเข้าป่ามิใช่หรือ ทำไมเจ้าออกมาได้เร็วปานนี้? เจ้าโกงแล้ว!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินเช่นนั้นก็ต้องถอนหายใจยาวออกมา
ที่แท้มันโกง!
แน่นอนล่ะว่าหากไม่โกงคงทำไม่ได้!
ผู้ดูแลคนนั้นทำงานดูแลป่าสุวิมลมานานหลายต่อหลายปี
ยอดอัจฉริยะที่เขาได้พบเจอนั้นมันมีมากมายมหาศาล
แต่ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะแค่ไหนมันก็ไม่มีทางผ่านป่าสุวิมลได้เร็วปานนี้
เพราะฉะนั้นมันต้องโกงแน่แล้ว
หากจะโกงก็โกงไป แต่นี่กลับโกงเกินหน้าสามบุตรเจาะชาดมันจะไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าเจ้าโถงทั้งสามหรือ?
เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ต้องหัวเราะขึ้นในลำคอ “เมื่อผู้อาวุโสบอกว่าข้าโกง! เช่นนั้นข้าน้อยจะเข้าป่าไปอีกรอบ
แต่ครั้งนี้ท่านตามข้าเข้าไปด้วย หากท่านเห็นว่าข้าเล่นลูกไม้อะไรท่านก็สังหารข้าได้เลย ท่านคิดว่าอย่างไร?”
ผู้ดูแลป่านั้นหน้าแดงก่ำขึ้นมาด้วยความอับอายเพราะความเร็วของเย่หยวนนั้นแม้แต่เขาก็คงตามไม่ทัน!
แม้ว่าเขานั้นจะเป็นมหาจักรพรรดิแต่ว่าเขาเองก็ไม่ได้หนักแน่นต่อหน้าเต๋ามากมายในป่าสุวิมลขนาดนั้น
“ข้าไปเอง!” ตอนนั้นเองที่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางลุกขึ้นกล่าว
เขาเองก็ไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะผ่านป่าสุวิมลมาได้อย่างรวดเร็วปานนี้
เรื่องราวเช่นนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันแปลกจนเกินรับ
เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก่อนจะบุกตัววนกลับไปยังทางเข้าป่าสุวิมลอีกครั้ง
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางตามลงมาและเข้าไปในป่าสุวิมลตามหลังเย่หยวน
เมื่อเข้ามาถึงในป่านั้นมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก็ต้องเบิกตากว้าง
เพราะว่าเย่หยวนนั้นเดินผ่านป่าไปเหมือนมันเป็นแค่ป่าไม้ธรรมดาทั่วไป
วิญญาณเต๋ามากมายนั้นมันไม่ส่งผลใดๆ ต่อเย่หยวนแม้แต่น้อย
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพุ่งตัวตามออกไปด้วยความตกตะลึง
วิญญาณเต๋าระดับต่ำทั้งหลายนี้มันไม่อาจจะทำอะไรเขาได้มากมาย
แต่มันย่อมจะทำให้เขาช้าลงได้บ้าง
เขานั้นใช้ความเร็วทั้งหมดที่มีตามหลังเย่หยวนมาแทบจะไม่ทัน
ไม่กี่อึดใจต่อมาตั้งแต่ต้นจนจบคนทั้งสองก็ผ่านป่าสุวิมลกลับออกมาที่เส้นชัยอีกครั้ง
คนทั้งหลายนั้นแทบลืมหายใจรอฟังคำตัดสินของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเองก็กำลังสั่นสะท้านไปทั้งใจ
ช่างเป็นจิตเต๋าที่มั่นคงนัก!
เขานั้นส่ายหัวออกมาเมื่อเห็นสายตาของพวกซีเฉิน “เด็กคนนี้ไม่ได้โกง!”
ตูม!
นอกป่าสุวิมลนั้นมันเกิดความแตกตื่นขึ้นทันที
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? นี่มันแค่ห้าอึดใจเลยนะ!”
“ผลลัพธ์เช่นนี้จะยังมีใครมาแข่งด้วยอีก?”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่สนใจสามบุตรเจาะชาดเลย ที่แท้…นี่มันมิใช่การแข่งขันใดๆ แล้ว!”
…
ผลลัพธ์นั้นมันน่าตกตะลึงจนเกินไป
ตกตะลึงจนคนทั้งหลายแทบเสียสติ
เจียงห่าวนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาถึงที่สุด
แน่นอนว่าเหยียนยูเจินย่อมจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป “ฮ่าๆ ที่พี่เจียงว่ามานั้นมันไม่มีผิดเลย ข้าสายตาไม่ดีจริงๆ
ข้ากลับมองไม่ออกว่าน้องเย่นั้นจะเก่งกาจได้ถึงปานนี้! แต่สายตาพี่เจียงห่าวคงแย่เสียยิ่งกว่าข้าแล้ว ผลลัพธ์ที่เย่หยวนแสดงออกมานี้มันคงทำให้สามบุตรเจาะชาดใดๆ นั้นกลายเป็นแค่ตัวประกอบเลยมั้ง?”
มันยิ่งกว่าการตบหน้าเพราะมันคือการฉีกหน้า!
ในป่าสุวิมลนั้นยิ่งเร็วเท่าไหร่มันยิ่งยากเท่านั้น
หลังจากหลายต่อปลายปีที่ทำการทดสอบมานี้วิญญาณที่ตายลงไปเพิ่มมันยิ่งทำให้ความยากของป่าสุวิมลเพิ่มพูน
แต่ตอนนี้สถิติใดๆ มันไม่สำคัญอีกแล้ว
เพราะว่าสถิติของเย่หยวนนี้มันย่อมจะไม่มีใครสามารถทำลายลงได้เป็นอันขาดแล้วแน่นอน