ตอนที่ 2920 เจ้าโกง!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เมื่อเข้าป่าสุวิมลมาเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงเต๋ารอบกาย

เย่หยวนนั้นมองดูไปรอบด้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เขาจึงได้หยุดเท้าลงศึกษาเต๋าที่ลอยวนเวียนตรงหน้าทั้งหลายนี้

สิ่งที่เขาบ่มเพาะนั้นมันคือสุดยอดวรยุทธของเผ่าวิญญาณ

ทำให้ความเข้าใจต่อเต๋าวิญญาณของเขามันย่อมจะลึกล้ำอย่างมาก

และเต๋าที่วนเวียนอยู่ทั้งหลายนี้เย่หยวนแค่มองมันครั้งเดียวก็เข้าใจ

แต่หลังจากศึกษาไปได้พักใหญ่ๆ เย่หยวนก็รู้สึกว่ามันช่างน่าเบื่อ…

เต๋าทั้งหลายนี้มันช่างตื้นเขินจนทำให้เขาไม่อาจจะเรียนรู้อะไรได้เลย

แน่นอนว่าที่เขาคิดเช่นนี้ได้มันก็เพราะว่ากำเนิดเทพนั้นเป็นวรยุทธที่สูงส่งล้ำ

ยิ่งเขาบ่มเพาะมันไปเท่าไหร่เย่หยวนก็ยิ่งเข้าใจว่าเส้นทางของเขานั้นมันชี้ตรงไปยังต้นกำเนิดแห่งเต๋าวิญญาณ

เป็นเวลานั้นเองที่เขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในการทดสอบ

แต่ตอนนี้รอบๆ ตัวเขามันย่อมจะไม่มีใครอยู่อีกแล้ว

เย่หยวนจึงก้าวเท้าออกไปสุดแรง

พร้อมกับที่เต๋ารอบๆ ตัวเขานั้นมันหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆ

ราวกับว่ามันจะสามารถให้คนเอื้อมมือออกไปจับมาใช้งานได้

ป่าสุวิมลนั้นมันคือแหล่งที่ทำให้คนรู้จักจิตเต๋าของตัวเอง

ยิ่งได้เห็นเต๋ามากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้ไม่มั่นใจในเต๋าของตัวเองเท่านั้น

ในป่าสุวิมลนี้คนเราไม่มีทางจะหลบหนีไปจากเต๋าได้เลย

ถึงแม้จะไม่ได้มอง มันก็จะเข้ามาสัมผัสกับร่างวิญญาณของคนอยู่ดี

แต่สำหรับเย่หยวนแล้วมันไม่มีเป็นปัญหาใดๆ เลย

เพราะนอกจากเขาจะบ่มเพาะวรยุทธสุดล้ำอย่างกำเนิดเทพแล้ว

เขานั้นยังเป็นคนที่มีจิตเต๋าหนักแน่นไม่มีวันสงสัยในตัวเองเด็ดขาด!

เขานั้นคือคนที่กล้าชี้ดาบขึ้นท้าทายสวรรค์!

เพราะฉะนั้นความเร็วของเขามันจึงเหนือล้ำมาก

ระยะสิบกิโลเมตรนั้นมันเป็นระยะชั่วพริบตาสำหรับจักรพรรดิเที่ยง

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงออกมาได้ในเวลาไม่กี่อึดใจ

ด้านนอกป่าสุวิมลนั้นพวกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางทั้งสามกำลังพูดคุยถึงศิษย์ของตน

“ฉินซื่อเถียนมันไม่ทำให้เฒ่าคนนี้ผิดหวังจริงๆ! ในคนทั้งสามนั้นเขามีฝีมือเหนือกว่าคนอื่นชัดเจน!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินกล่าวขึ้นมาตาม “มันจะเร็วไปหรือไม่ที่พี่ตงหยางจะตัดสิน? ในป่าสุวิมลนั้นมันมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นตัวฉินซื่อเถียนเองก็นำมาได้ไม่มากนัก แถมโจวหยูนั้นก็ชอบเก็บแรงไว้ตอนท้าย ไม่แน่หรอกว่ามันจะแพ้ในด่านป่าสุวิมลนี้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางกล่าวขึ้นตอบ “เช่นนั้นเราก็มารอดู…”

จู่ๆ ดวงตาของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก็เบิกกว้างและพูดตะกุกตะกักไป

เพราะว่าจุดแสงหนึ่งมันพุ่งผ่านหน้าพวกฉินซื่อเถียนทั้งสามมาจนถึงขอบจอแสงอย่างรวดเร็ว

มหาจักรพรรดิซีเฉินนั้นยิ้มขึ้นเมื่อได้เห็น “พี่ตงหยาง มันก็แค่การแข่งกันของเด็กๆ จะจริงจังอะไรขนาดนั้นกัน?”

‘จริงจังพ่อเจ้าสิ!’

‘เจ้า…ตาบอดหรือ?’

‘อ่อ มันไม่ได้ดูหน้าจออยู่’

เมื่อปรับลมหายใจได้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก็กล่าวขึ้น “มีคนจะออกมาแล้ว!”

“ค…คนจะออกมา?” มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินนั้นผงะไปคิดว่านี่กำลังโดนหลอกอยู่หรือไม่?

แต่ในเวลานั้นเองที่มันได้เกิดเสียงโห่ร้องดังขึ้นมา

“นี่มันจะไม่เร็วไปหรือ? เมื่อกี้ข้ายังดูพวกฉินซื่อเถียนทั้งสามอยู่เลย ไม่เห็นเลยว่าใครที่ผ่านหน้ามา!”

“ข้าด้วย! นี่…มันคงมิใช่ว่าจอแสงมีปัญหาหรอกนะ?”

“มันต้องมีอะไรผิดพลาดในจอแสงแน่ๆ! เพราะสถิติของป่าสุวิมลดั้งเดิมนั้นคือหกชั่วโมงสิบห้านาที

ต่อให้จะมีใครทำลายสถิติได้มันก็คงไม่เร็วปานนี้หรอกใช่ไหม?”

พวกเขานั้นทันเห็นแค่จุดแสงพุ่งผ่านและหายไป

ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นใครนั้นพวกเขามองไม่ทันจริงๆ

เพราะว่าช่วงแรกๆ นั้นคนทั้งหลายยังคงจับจ้องอยู่แต่กลุ่มของสามบุตรเจาะชาดนั้น

เพราะพวกเขานั้นคือตัวเต็งของงานคัดเลือกครั้งนี้

แต่ไม่นานมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งออกมาจากทางออกป่า

ที่น่าตกตะลึงก็คือร่างนี้คือเย่หยวน!

ผู้ดูแลป่านั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างเพราะเขาเองก็เอาแต่สนใจพวกฉินซื่อเถียนทั้งสามคนอยู่

กว่าเขาจะรู้ตัวมันก็มีคนออกมาเสียแล้ว

เย่หยวนมองหน้าผู้ดูแลและถามขึ้น “ผู้อาวุโส ข้าถือว่าผ่านแล้วหรือไม่?”

ผู้ดูแลนั้นอ้าปากค้างขึ้น พร้อมพยักหน้ารับ

ทว่าต่อมาเขาก็ต้องส่ายหัวรุนแรงออกมา “จ…เจ้าเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”

เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วถามกลับไป “มันแค่สิบกิโลเมตร เพียงวิ่งพริบตาเดียวก็พอแล้วมิใช่หรือ?”

ผู้ดูแลนั้นผงะไปและร้องลั่นขึ้นมา “เดี๋ยวนะ! เจ้า…เจ้าหยุดอยู่ตรงทางเข้าป่ามิใช่หรือ ทำไมเจ้าออกมาได้เร็วปานนี้? เจ้าโกงแล้ว!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินเช่นนั้นก็ต้องถอนหายใจยาวออกมา

ที่แท้มันโกง!

แน่นอนล่ะว่าหากไม่โกงคงทำไม่ได้!

ผู้ดูแลคนนั้นทำงานดูแลป่าสุวิมลมานานหลายต่อหลายปี

ยอดอัจฉริยะที่เขาได้พบเจอนั้นมันมีมากมายมหาศาล

แต่ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะแค่ไหนมันก็ไม่มีทางผ่านป่าสุวิมลได้เร็วปานนี้

เพราะฉะนั้นมันต้องโกงแน่แล้ว

หากจะโกงก็โกงไป แต่นี่กลับโกงเกินหน้าสามบุตรเจาะชาดมันจะไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าเจ้าโถงทั้งสามหรือ?

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ต้องหัวเราะขึ้นในลำคอ “เมื่อผู้อาวุโสบอกว่าข้าโกง! เช่นนั้นข้าน้อยจะเข้าป่าไปอีกรอบ

แต่ครั้งนี้ท่านตามข้าเข้าไปด้วย หากท่านเห็นว่าข้าเล่นลูกไม้อะไรท่านก็สังหารข้าได้เลย ท่านคิดว่าอย่างไร?”

ผู้ดูแลป่านั้นหน้าแดงก่ำขึ้นมาด้วยความอับอายเพราะความเร็วของเย่หยวนนั้นแม้แต่เขาก็คงตามไม่ทัน!

แม้ว่าเขานั้นจะเป็นมหาจักรพรรดิแต่ว่าเขาเองก็ไม่ได้หนักแน่นต่อหน้าเต๋ามากมายในป่าสุวิมลขนาดนั้น

“ข้าไปเอง!” ตอนนั้นเองที่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางลุกขึ้นกล่าว

เขาเองก็ไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะผ่านป่าสุวิมลมาได้อย่างรวดเร็วปานนี้

เรื่องราวเช่นนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันแปลกจนเกินรับ

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก่อนจะบุกตัววนกลับไปยังทางเข้าป่าสุวิมลอีกครั้ง

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางตามลงมาและเข้าไปในป่าสุวิมลตามหลังเย่หยวน

เมื่อเข้ามาถึงในป่านั้นมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางก็ต้องเบิกตากว้าง

เพราะว่าเย่หยวนนั้นเดินผ่านป่าไปเหมือนมันเป็นแค่ป่าไม้ธรรมดาทั่วไป

วิญญาณเต๋ามากมายนั้นมันไม่ส่งผลใดๆ ต่อเย่หยวนแม้แต่น้อย

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพุ่งตัวตามออกไปด้วยความตกตะลึง

วิญญาณเต๋าระดับต่ำทั้งหลายนี้มันไม่อาจจะทำอะไรเขาได้มากมาย

แต่มันย่อมจะทำให้เขาช้าลงได้บ้าง

เขานั้นใช้ความเร็วทั้งหมดที่มีตามหลังเย่หยวนมาแทบจะไม่ทัน

ไม่กี่อึดใจต่อมาตั้งแต่ต้นจนจบคนทั้งสองก็ผ่านป่าสุวิมลกลับออกมาที่เส้นชัยอีกครั้ง

คนทั้งหลายนั้นแทบลืมหายใจรอฟังคำตัดสินของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเองก็กำลังสั่นสะท้านไปทั้งใจ

ช่างเป็นจิตเต๋าที่มั่นคงนัก!

เขานั้นส่ายหัวออกมาเมื่อเห็นสายตาของพวกซีเฉิน “เด็กคนนี้ไม่ได้โกง!”

ตูม!

นอกป่าสุวิมลนั้นมันเกิดความแตกตื่นขึ้นทันที

“เป็นไปได้อย่างไรกัน? นี่มันแค่ห้าอึดใจเลยนะ!”

“ผลลัพธ์เช่นนี้จะยังมีใครมาแข่งด้วยอีก?”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่สนใจสามบุตรเจาะชาดเลย ที่แท้…นี่มันมิใช่การแข่งขันใดๆ แล้ว!”

ผลลัพธ์นั้นมันน่าตกตะลึงจนเกินไป

ตกตะลึงจนคนทั้งหลายแทบเสียสติ

เจียงห่าวนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมาถึงที่สุด

แน่นอนว่าเหยียนยูเจินย่อมจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป “ฮ่าๆ ที่พี่เจียงว่ามานั้นมันไม่มีผิดเลย ข้าสายตาไม่ดีจริงๆ

ข้ากลับมองไม่ออกว่าน้องเย่นั้นจะเก่งกาจได้ถึงปานนี้! แต่สายตาพี่เจียงห่าวคงแย่เสียยิ่งกว่าข้าแล้ว ผลลัพธ์ที่เย่หยวนแสดงออกมานี้มันคงทำให้สามบุตรเจาะชาดใดๆ นั้นกลายเป็นแค่ตัวประกอบเลยมั้ง?”

มันยิ่งกว่าการตบหน้าเพราะมันคือการฉีกหน้า!

ในป่าสุวิมลนั้นยิ่งเร็วเท่าไหร่มันยิ่งยากเท่านั้น

หลังจากหลายต่อปลายปีที่ทำการทดสอบมานี้วิญญาณที่ตายลงไปเพิ่มมันยิ่งทำให้ความยากของป่าสุวิมลเพิ่มพูน

แต่ตอนนี้สถิติใดๆ มันไม่สำคัญอีกแล้ว

เพราะว่าสถิติของเย่หยวนนี้มันย่อมจะไม่มีใครสามารถทำลายลงได้เป็นอันขาดแล้วแน่นอน