เมื่อเห็นชายชราที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน ทุกคนต่างตกตะลึง มีแต่หยางเฉินคนเดียวมองไปยังเขาอย่างเฉยเมย
นอกจากจะเป็นผู้พิทักษ์ราชวงศ์แล้ว จะเป็นใครได้ล่ะ?
หยางเฉินเยาะเย้ย จ้องมองไปที่ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม และพูดว่า “กล้าดียังไงงั้นเหรอ? ตอนที่ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่านกวนเกือบจะถูกฆ่าหมด แล้วนายที่เป็นผู้พิทักษ์ราชวงศ์ไปอยู่ที่ไหนห้ะ?”
“ตอนนี้ เพียงเพราะฉันบอกให้นายออกมา นายก็ออกมาจริงๆด้วย แต่ผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์ซ่านกวนถูกหลี่จ้งที่เสียความควบคุมฆ่าเกือบหมด นายทำไมถึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ”
“ผู้พิทักษ์ราชวงศ์อย่างนาย ศักดิ์ศรีของนายเองมีค่ามากกว่าชีวิตของผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่านกวนหรือไง?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกไป คนของราชวงศ์ซ่านกวนซึ่งยังอยู่ในสภาพเฉื่อยชาก็ตระหนักว่าชายชราผมขาวคนนี้เป็นผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวน
ใบหน้าของผู้พิทักษ์ดูมืดมนอย่างยิ่งและออร่าศิลปะการต่อสู้ที่จาง ๆ ค่อย ๆ แผ่ออกมาจากตัวเขา ในทันทีนั้น ราชวงศ์ซ่านกวนทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยแรงกดดันของศิลปะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว
หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจอย่างลับๆ ในใจ แรงผลักดันของศิลปะการต่อสู้ที่อีกฝ่ายปล่อยออกมาได้มาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดแล้ว หากต่อสู้จริงจังขึ้นมา จะสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดหรือไม่?
และถึงแม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหยางเฉินเพิ่งเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า แต่ด้วยความสามารถของเขา เขายังสามารถระเบิดพลังเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดได้
หากทั้งสองต้องต่อสู้จนกว่าอีกฝ่ายจะสิ้นชีวิต ใครจะเป็นคนที่แพ้ก็ยังเป็นเรื่องที่เดายาก
จู่ๆผู้พิทักษ์ก็พูดขึ้น “อายุน้อยๆ เช่นนี้ แต่ปากนิคมจัง แต่ไม่รู้ว่าพลังของนายจะดีเท่ากับทักษะปากของนายหรือเปล่า?”
หยางเฉินเยาะเย้ย: “ทำไมหรอ? นายอยากที่จะจัดการฉันหรือไง?”
ผู้พิทักษ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “มันเป็นแค่การประลองศิลปะการต่อสู้ นายกล้าที่จะรับไหมล่ะ?”
หยางเฉินพูด “ทำไมฉันถึงไม่กล้าล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามฉันมา!”
เสียงของผู้พิทักษ์สิ้นลง ร่างของเขาก็หายไปกับเสียงทันที ร่างของหยางเฉินก็หายไปเช่นกัน
ร่างทั้งสองหายไปพร้อมกัน คนของราชวงศ์ซ่านกวนถึงกล้าที่จะหายใจสักที
“ชายชราผมขาวผู้นั้นเป็นผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนเราจริงหรือ?”
“คุณหยางก็พูดไปแล้ว คงไม่น่าจะมีปัญหา”
“หรือว่า ด้วยความแข็งแกร่งของคุณหยางสามารถต่อสู้กับผู้พิทักษ์ราชวงศ์ได้แล้วหรอ?”
ในช่วงเวลาหนึ่ง เหล่าผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่านกวนต่างตกตะลึง
สายตาของกษัตริย์ซ่านกวนดูมืดมนอย่างน่ากลัว เขารู้ว่าตอนนี้หยางเฉินมีฐานะที่สูงมากในราชวงศ์ซ่านกวน ผู้แข็งแกร่งหลายคนในราชวงศ์ต่างก็เคารพในคำพูดของเขา
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับเขา ตอนนี้ เขาทำได้เพียงอธิษฐานขอให้ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ที่ปรากฏตัวสามารถฆ่าหยางเฉินได้ ถึงจะฆ่าไม่ได้ ก็ต้องล้มเลิกศิลปะการต่อสู้ของเขาให้ได้
นอกจากกษัตริย์ซ่านกวนที่ไม่สบายใจแล้ว ยังมีอีกสองคนก้เหมือนกัน ก็คือองค์ชายใหญ่ซ่านกวนจื่อจื้อ องค์ชายสองซ่านกวนจื่อโม่
กษัตริย์ซ่านกวนมีลูกชายทั้งหมด 3 คน นอกจากพวกเขาแล้วยังมีซ่านกวนจื่อฉินอีกด้วย แต่ปัญหาที่สำคัญคือ หยางเฉินมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับซ่านกวนโหรว ซึ่งเป็นลูกสาวของซ่านกวนจื่อฉิน แม้แต่ซ่านกวนโหรวก็กลายเป็นผู้หญิงของหยางเฉินแล้ว
ตอนนี้ศิลปะการต่อสู้ของหยางเฉินฟื้นแล้ว แม้จะเผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์ราชวงศ์ เขาก็ไม่กลัวเลยสักนิด เมื่อหยางเฉินสามารถรอดมาจากเงื้อมมือของผู้พิทักษ์ราชวงศ์ได้ สถานะของพวกเขาในราชวงศ์ก็จะลดฮวบลงทันที
ถึงจะเป็นกษัตริย์ซ่านกวนก็ตาม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ได้
ซ่านกวนจื่อจื้ออยู่ๆก็พูดขึ้น “เสด็จพ่อครับ หยางเฉินมาที่นี่ครั้งนี้ ผมเกรงว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเราครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กษัตริย์ซ่านกวนก็ขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา “นายหมายความว่าไง?”
ซ่านกวนจื่อจื้อรีบพูด: “ลองคิดดูนะครับ หลังจากที่เรารู้ว่าศิลปะการต่อสู้ของเขาถูกล้มล้าง เราไล่ฆ่าหยางเฉินไปทั่วทั้งเมืองพร้อมกับผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่ ตอนนี้ศิลปะการต่อสู้ของเขาฟื้นแล้ว ขาก็มาถึงราชวงศ์ซ่านกวน มันต้องไม่เป็นผลดีกับท่านแน่ๆ ครับ”
เมื่อซ่านกวนจื่อโม่ได้ยินเช่นนี้ เขาก็รีบพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อครับ ผมคิดว่าสิ่งที่พี่ชายพูดนั้นสมเหตุสมผลมากครับ หยางเฉินมีเรื่องคับข้องใจกับราชวงศ์ของเราแล้ว คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยเราไปง่ายๆ แน่ครับ เราต้องตามหาวิธีจัดการกับมันครับ”
หลังจากฟังคำพูดของทั้งสองแล้ว บรรดาผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์ก็มีสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก
“องค์ชายใหญ่และองค์ชายสองพูดเกินจริงไปหรือเปล่าครับ? พวกเราไล่ฆ่าคุณหยางก็จริงครับ แต่เขาไม่เพียงแต่ไม่เอาเรื่องพวกเรา และยังตอบแทนบุญคุณช่วยพวกเราจากหลี่จ้งไว้”
“นอกจากนี้ ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างคุณหยางและองค์หญิงโหรว เขาจะต่อต้านฝ่าบาทได้อย่างไรครับ”
“ใช่ครับ คุณหยางไม่อาจเป็นอันตรายต่อราชวงศ์ครับ”
ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งก็พูดขึ้นทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้ สีหน้าของซ่านกวนจื่อจื้อ และซ่านกวนจื่อโม่ก็ดูไม่ดีขึ้นไปอีก เห็นได้ชัดว่า ตอนนี้ในราชวงศ์ซ่านกวนเพียงคำเดียวจากหยางเฉินก็สามารถให้ซ่านกวนโหรวสืบทอดบัลลังก์ได้
“ฝ่าบาทครับ องค์หญิงโหรวถูกท่านกักขังไว้แล้วไม่ใช้เหรอครับ?รีบปล่อยเธอเลยครับ มิฉะนั้น คุณหยางหาเรื่องขึ้นมา เราไม่สามารถสู้ได้นะครับ!”
“ใช่ครับท่าน คุณหยางเป็นคนที่เห็นคุณค่าของความรู้สึกและเห็นความเป็นธรรม หากเขารู้ว่าองค์หญิงโหรวถูกกักขังเพื่อช่วยเขา เขาจะไม่ยอมเรื่องผ่านไปง่ายๆแน่นอนครับ”
“ฝ่าบาท โปรดออกคำสั่ง ปล่อยองค์หญิงโหรวครับ!”
ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่านกวนก็พูดขึ้นอีกครั้ง
แต่ว่า ใบหน้าของกษัตริย์ซ่านกวนดูมืดมนยิ่งขึ้นไปอีก
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงส่งบัลลังก์ให้ซ่านกวนโหรวโดยไม่ต้องมีใครบอก แต่ดูจากทัศนคติของผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์แล้ว เขาก็เปลี่ยนใจแล้ว
“เสด็จพ่อ อย่าปล่อยให้ซ่านกวนโหรวไป! คราวนี้ที่หยางเฉินที่มา เขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อย่างแน่นอน ตอนนี้มีเพียงซ่านกวนโหรวเท่านั้นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา หยางเฉินไม่กล้าทำอะไรแน่นอน”
ซ่านกวนจื่อจื้อรีบพูดขึ้น และหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ใช้สายตาส่งสัญญาณให้ซ่านกวนจื่อโม่
ซ่านกวนจื่อโม่ เข้าใจทันทีว่าจากสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาทั้งสองเป็นแค่ตั๊กแตนผูกเชือกไว้ เมื่อซ่านกวนโหรวได้รับการสนับสนุนจากหยางเฉิน แม้แต่กษัตริย์ซ่านกวนก็เปลี่ยนความจริงที่ว่า ซ่านกวนโหรวคือผู้สืบทอดบัลลังก์ไม่ได้
ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงต้องหาวิธีหยุดยั้งซ่านกวนโหรวได้สืบราชบัลลังก์ มิฉะนั้น ไม่งั้นพวกเขาจะไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ
ในเวลานี้ ซ่านกวนจื่อฉินซึ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็พูดขึ้น: “เสด็จพ่อ ท่านควรปล่อยโหรวเอ๋อร์ไปครับ! ในเมื่อคุณหยางมาแล้ว แถมยังทำให้ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ออกมา ผมว่าเขามีความมั่นใจและเตรียมตัวเต็มที่ เขาเป็นคนที่เห็นแก่ความเป็นธรรมอยู่แล้ว ถ้าเขารู้ว่าโหรวเอ๋อร์ถูกกักขังไว้ เขาจะไม่ปล่อยท่านไปง่ายๆแน่นอนครับ”
ออร่าศิลปะการต่อสู้ที่รุนแรงเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของกษัตริย์ซ่านกวน เขาจ้องไปที่ซ่านกวนจื่อฉิน ด้วยสายตาที่จ้องเขม็งและกัดฟันและพูดว่า “นายกำลังบังคับฉันอยู่ใช่ไหม?”
ซ่านกวนจื่อฉินพูดอย่างใจเย็น: “เสด็จพ่อ ผมแค่พูดความจริงครับ อีกอย่างนะครับ โหรวเอ๋อร์เป็นทายาทที่ท่านตั้งใจตั้งไว้แล้ว และตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณหยางใกล้ชิดกันมากครับ นี่เป็นโอกาสสำหรับราชวงศ์ของเรา หากท่านต้องการบัลลังก์แก่โหรวเอ๋อร์ ในอนาคตคุณหยางก็จะเป็นผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนของเรา เป็นผู้พิทักษ์ที่แท้จริงครับ”