บทที่ 1546 เป็นหออีเหยียนถัง

The king of War

คำพูดของซ่านกวนจื่อฉินเสียงดังฟังชัด ทำให้ทุกคนตะลึง แต่ไม่ได้ทำให้กษัตริย์ซ่านกวนรู้สึกตกตะลึกเลยสักนิด

ในขณะนี้ ใบหน้าของกษัตริย์ซ่านกวนดูมืดมนอย่างยิ่ง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ซ่านกวนจื่อฉิน และความโกรธรุนแรงก็ฉายขึ้นในดวงตาที่แคบของเขา

กษัตริย์ซ่านกวนเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า: “ฉันไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่าวันหนึ่ง ฉันจะถูกลูกชายบังคับให้ออกจากบัลลังก์!”

หลังจากฟังคำพูดของกษัตริย์ซ่านกวนแล้ว ซ่านกวนจื่อฉินก็เปิดปากของเขาและพูดว่า: “เสด็จพ่อครับ ท่านเข้าใจผมผิดแล้วครับ ผมไม่ได้ต้องการบังคับเลยครับ แค่วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างแม่นยำที่สุด จากมุมมองของท่าน มันควรจะชัดเจนมาก สิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปก็เพื่อราชวงศ์หมดเลยนะครับ”

“ฮ่าฮ่า!”

ในเวลานี้ ทันใดนั้นเสียงเยาะเย้ยก็ดังขึ้น และซ่านกวนจื่อจื้อพูดดอย่างเฉยเมย: “ซ่านกวนจื่อฉิน คิดไม่ถึงเลยว่านายพูดเก่งขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้อย่างชัดว่านายโลภบัลลังก์ของฝ่าบาท แต่กลับมาบอกว่าเพื่อราชวงศ์นั้นเหรอ?”

“ซ่านกวนโหรวเป็นลูกสาวของนาย ถ้าเธอสืบทอดบัลลังก์จริง ๆ นายก็จะกลายเป็นฝ่าบาททันทีใช่ไหมล่ะ?”

ซ่านกวนจื่อฉิน เหลือบมองซ่านกวนจื่อจื้ออย่างเฉยเมยและพูดอย่างเฉยเมย: “ซ่านกวนจื่อจื้อ ฉันรู้เพราะโหรวเอ๋อร์คุกคามสถานะของนายในราชวงศ์ ดังนั้นนายเลยอยากหาทุกวิทีกำจัดโหรวเอ๋อร์ แต่ตอนนี้ฉันอยากให้นายปล่อยวางเรื่องพวกนนี้ก่อน ละทิ้งอคติที่มีต่อโหรวเอ๋อร์ หันมาสนับสนุน โหรวเอ๋อร์ ตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่เป็นทายาทที่เหมาะสมที่สุดในการครองบัลลังก์”

ซ่านกวนจื่อโม่พูดขึ้น: “ซ่านกวนจื่อฉิน นายไร้ความอายหรือไง? ซ่านกวนโหรวเป็นผู้หญิง เธอมีคุณสมบัติอะไรบ้างที่จะสืบทอดบัลลังก์ได้? เสด็จพ่อตกลงแล้วหรือยัง?หรือนี่คือสิ่งที่พ่อและลูกสาวสองคนที่คิดเอง?”

“หรือว่า พวกนายสมรู้ร่วมคิดกับหยางเฉินแต่แรกแล้ว นายกำลังรอวันที่จะบังคับของเสด็จพ่อถอนตัวลง ฉันจะบอกให้นะ ถ้ายังมีฉันซ่านกวนจื่อโม่อยู่ที่นี่ จะไม่มีใครมาทำอะไรหรือบังคับเสด็จพ่อฉันได้”

พูดจบ เขามองไปที่กษัตริย์ซ่านกวน และพูดอย่างจริงจังว่า: “เสด็จพ่อ ไม่ต้องห่วงครับ ไม่มีใครบังคับท่านให้ทำสิ่งต่างๆ ได้ เว้นแต่ผมตาย!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ซ่านกวนจื่อจื้อก็รีบแสดงจุดยืนของเขาอย่างรวดเร็ว: “ผมอีกคนครับ ไม่มีใครบังคับเสด็จพ่อได้ครับ ถ้าซ่านกวนจื่อฉินกล้าจริง ผมจะสู้เขาจนกว่าจะสิ้นชีวิตครับ ผมจะไม่ปล่อยให้เขาประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้ครับ”

ซ่านกวนจื่อฉินเยาะเย้ยทันที มองไปที่ทั้งสองแล้วพูดว่า: “พวกนายไม่จำเป็นต้องแสดงจุดยืนของตัวเองย่างรีบร้อยขนาดนี้ ในเมื่อคุณหยางกลับมาแล้ว และเขาก็ทำให้ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ออกมาได้ เขาต้องมีความมั่นใจในการรับมือ พวกนายมันไร้เดียงสาจริงๆ คิดว่า คุณหยางจะปล่อยราชวงศ์ซ่านกวนไปได้อย่างง่ายดายหรือไง?”

“ถึงตอนนั้น เฉพาะลูกสาวของฉันซ่านกวนโหรวคนเดียวที่จะสามารถช่วยราชวงศ์ซ่านกวนได้ แต่ตอนนี้ เธอยังถูกกักขังไว้ ถ้าคุณหยางพบว่าผู้หญิงของเขาถูกปฏิบัติเช่นนี้ พวกนายคิดว่าเขา จะปล่อยราชวงศ์ซ่านกวนไปได้อย่างง่ายดายหรือไม่ ?”

“นอกจากนี้ พวกนายควบคุมโหรวเอ๋อร์อยู่กับมือไว้ได้ พวกนายก็คิดว่าคุณหยางทำอะไรพวกนายไม่ได้แล้วหรือไง?ฉันแนะนำให้พวกนายไปทำความรู้จักคุณหยางอีกครั้ง แล้วพวกนายจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่เห็นความเป็นธรรมมากขนาดไหน อีกอย่างนะ สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือถูกชข่มขู่”

หลังจากพูดจบ เขามองไปที่กษัตริย์ซ่านกวนและพูดว่า “เสด็จพ่อครับ ผมไม่ได้โลภบัลลังก์ครับ ผมรับรองได้ว่าถ้าท่านส่งบัลลังก์ให้โหรวเอ๋อร์ ผมจะไม่เข้าไปยุ่งในการตัดสินใจของเธอและผมก็เต็มใจที่จะถอนตัวออกจากศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์”

“ที่ผมพูดไปทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่จากใจผมจริงๆครับ เพื่อประโยชน์ของราชวงศ์ซ่านกวนจริงครับหากเสด็จพ่อคิดว่าผมโลภในราชบัลลังก์และจงใจพูดเช่นนี้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี แล้วแต่เสด็จพ่อจะคิดแล้วกันครับ”

“แน่นอน สุดท้ายจะเป็นอย่างไรล้วนอยู่ที่คำตัดสินของท่าน ผมเองก็จะทำตามคำสั่งที่ท่านสั่งครับ แม้ว่าผมจะไม่อยากทำก็ตาม เพราะท่านเป็นเสด็จพ่อที่ให้กำเนิดผมและเลี้ยงดูผมมา นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหัวหน้าของราชวงศ์ ผมต้องเชื่อฟังคำสั่งทุกอย่างที่ผ่านว่ามาครับ”

กษัตริย์ซ่านกวนซึ่งยังคงโกรธเล็กน้อยในตอนแรก หลังจากได้ยินสิ่งที่ซ่านกวนจื่อฉินพูด การแสดงออกของเขาอ่อนลงเล็กน้อย และเขามองไปที่ซ่านกวนจื่อฉิน และพูดว่า “อย่างไรก็ตาม ผลการต่อสู้ระหว่างหยางเฉินและผู้พิทักษ์ยังไม่ออก ฉันก็จะไม่สัญญาเงื่อนไขใด ๆ กับนาย”

ซ่านกวนจื่อฉิน ถอนหายใจอย่างลับๆ แล้วพยักหน้า: “ผมเข้าใจครับ!”

ซ่านกวนจื่อจื้อและซ่านกวนจื่อโม่ต่างก็ดีใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของกษัตริย์ซ่านกวน

คำตอบของกษัตริย์ซ่านกวนหมายความว่าถ้าหยางเฉินพ่ายแพ้ในมือขอผู้พิทักษ์ราชวงศ์ ซ่านกวนโหรวจะสูญเสียบัลลังก์ และในเวลานั้นบัลลังก์จะตกไปอยู่ในมือของระหว่างพี่น้องของพวกเขาเท่านั้น

ซ่านกวนจื่อฉินหัวเราะเยาะตัวเอง มองไปที่กษัตริย์ซ่านกวน แล้วพูดว่า “เสด็จพ่อ หวังว่าท่านจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไป”

พูดจบ เขาหันหลังและเดินจากไป

บรรดาผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ต่างก็ผิดหวัง ผิดหวังในตัวกษัตริย์ซ่านกวน

ในบรรดาผู้แข็งแกร่งพวกเขาที่มีอยู่ ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากหยางเฉิน ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงสนับสนุนหยางเฉิน ซ่านกวนโหรวมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหยางเฉิน ดังนั้นพวกเขาเองก็จะสนับสนุนซ่านกวนโหรวด้วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการสนับสนุนของพวกเขา จะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะนี่คือราชวงศ์ซ่านกวน เป็นหออีเหยียนถังของกษัตริย์ซ่านกวน

“ฝ่าบาท คิดก่อนนะครับ! การปล่อยองค์หญิงโหรวเท่านั้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ซ่านกวนกับคุณหยางจะผ่อนคลายลง ถ้าองค์หญิงโหรวถูกใช้เป็นเครื่องต่อรองเพื่อข่มขู่คุณหยาง มันจะมีแต่การต่อต้านนะครับ”

ผู้แข็งแกร่งราชวงศ์จู่ๆก็พูดชักชวน

กษัตริย์ซ่านกวนเลิกคิ้ว มองไปที่อีกฝ่ายด้วยท่าทางไม่พอใจและพูดว่า “ใครกล้าพูดเกี่ยวกับอย่างที่ว่าอีก ฆ่าเสียเลย!”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา บรรดามผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นก็ปิดปากเงียบ และใบหน้าก็ดูไม่พอใจเท่าไหร่นัก

พวกเขารู้ว่าถ้าพวกเขากล้าพูดแทนหยางเฉินอีก กษัตริย์ซ่านกวนก็กล้าที่จะฆ่าพวกเขาจริงๆ

พวกเขายังรู้ด้วยว่าเหตุผลที่กษัตริย์ซ่านกวนยังคงจับซ่านกวนโหรวกักขังไว้ เป็นเพราะเขาต้องการใช้ซ่านกวนโหรวเป็นตัวต่อรองเพื่อข่มขู่หยางเฉิน

ในเวลานี้ หลายคนรู้สึกผิดหวังอย่างกะทันหัน ผิดหวังกับกษัตริย์ซ่านกวน

ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนทำให้พวกเขาผิดหวังอย่างมากแล้ว ตอนนี้พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่การติดสินใจของกษัตริย์ซ่านกวนจะทำให้พวกเขาผิดหวังด้วยเช่นกัน

“เลิกประชุม!”

กษัตริย์ซ่านกวนส่ายมือและจากไปทันที

สายตาของซ่านกวนจื่อจื้อกวาดสายตาไปทั่วและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันหวังว่าพวกนายจะวางตำแหน่งของพวกนายได้ถูก อย่าทำอะไรที่เกินกฎ ไม่เช่นนั้นพวกนายจะต้องเสียใจทีหลังแน่นอน”

ซ่านกวนจื่อจื้อทิ้งประโยคที่รุนแรงไว้ แล้วหันหลังกลับ ทิ้งกลุ่มผู้แข็งแกร่งมองหน้ากันไปมาด้วยความตกใจ

ซ่านกวนจื่อโม่ออกเสียงหื้ออย่างเย็นชา และจากไป

“แม่งเลย!”

ผ่านไปนาน ผู้แข็งแกร่งก็อดไม่ได้ที่จะดุว่า: “องค์ชายใหญ่และองค์ชายสองเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว พวกเขาไม่ได้สืบทอดบัลลังก์ ดังนั้นพวกเขาจึงรอไม่ไหวที่จะแสดงอำนาจกับพวกเรา?”

“ในราชวงศ์ซ่านกวน ฉันยอมรับแค่องค์หญิงโหรวเป็นทายาทของฝ่าบาทเท่านั้น!”

ในช่วงเวลาหนึ่ง เหล่าผู้แข็งแกร่งขอวราชวงศ์พูดอย่างโกรธเคือง

ในเวลาเดียวกัน บนยอดเขาเขียวขจีของราชวงศ์ซ่านกวน มีร่างชายชราและชายหนุ่มสองร่างยืนอยู่ตรงข้ามกัน ออร่าศิลปะการต่อสู้ที่ออกมา รู้สึกเลยคือผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนแน่นอน

อีกด้านหนึ่ง มีร่างของอายุยน้อยคือหยางเฉิน

ในเวลานี้ ทั้งสองเต็มไปด้วยออร่าศิลปะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้ต่อสู้ ออร่าขศิลปะการต่อสู้ได้ชนกัน และมีคลื่นของรัศมีของศิลปะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งที่แผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทางไป