ท้องฟ้าเหนือเมืองราชวงศ์ซ่านกวนเต็มไปด้วยเมฆสีดำที่ร่วงหล่น และในเมฆที่มืดมิด มีความรู้สึกที่รุนแรงอย่างมากของการบีบบังคับของศิลปะการต่อสู้ ซึ่งทำให้ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในเมืองราชวงศ์ซ่านกวนหวาดกลัว
หยางเฉินและผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนยืนตรงข้ามกัน และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อสู้ในสายตาของทุกคน
ผู้พิทักษ์ที่ดูถูกหยางเฉินในตอนแรก ตอนนี้ดวงตาของเขาดูเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย มันเป็นเพียงมิตรภาพที่ทำให้เขารู้สึกกดดันจากหยางเฉิน
หยางเฉินก็มองไปที่อีกฝ่ายด้วยท่าทางขี้เล่นและพูดว่า “ผู้อาวุโส ท่านอยากจะต่อสู้กับผมไม่ใช่เหรอครับ ทำไมจึงไม่มีการเคลื่อนไหวเลยล่ะครับ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของผู้พิทักษ์ก็ยิ่งมืดมนยิ่งขึ้น และเขาเหล่มองที่หยางเฉินและพูดว่า “ไอ้หนู นายเย่อหยิ่งเกินไปไหม?นายคิดว่านายมีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้หน่อยหนึ่ง นายก็เจ๋งมากแล้วหรือไง?”
หยางเฉินพูดอย่างเฉยเมย: “ผมไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น แต่เป็นผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนต่างหาก แสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยตอนที่ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ประสบภัยพิบัติ ตอนนี้ใช้คำพูดเช่นนี้มาแท่งใจผม ผมเย่อหยิ่งตรงไหนครับ?”
“ในเมื่อนายอยากตาย งั้นฉันจะทำเพื่อนายเอง!”
ผู้พิทักษ์พูดอย่างเฉียบขาด และทันทีที่เสียงนั้นตกลง ร่างนั้นก็หายไปในทันที
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาขยับ หยางเฉินก็ขยับ พลังเขากระแทกกับพื้นเสียงดัง หินที่เขายืนอยู่ตอนนี้ก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที
“ปัง!”
ในวินาทีถัดมา ร่างกายของพวกเขาชนกันด้วยความเร็วราวสายฟ้า ทำให้เกิดเสียงปะทะอย่างรุนแรง จากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากการต่อสู้พร้อมกัน
ตำแหน่งที่ทั้งสองยืนอยู่ในขณะนี้คือตำแหน่งที่อีกฝ่ายยืนอยู่เมื่อกี้ จากการปะทะเมื่อกี้ ใบหน้าของผู้พิทักษ์ราชวงศ์ซ่านกวนเกิดความตกใจเล็กน้อย
สิ่งที่ไม่มีใครรู้ก็คือ การชนในเมื่อขณะนั้นเป็นแค่พริบตาเดียว แต่พวกเขาสองคนสู้กันใช้กระบวนท่าไปหลายท่าแล้ว เพียงแต่ความเร็วนั้นเร็วเกินไป ดังนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาจะถอยกลับด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในใจ เขามาที่ราชวงศ์ซ่านกวนในครั้งนี้ นอกเหนือจากการขอคำอธิบายจากกษัตริย์ซ่านกวนแล้ว เขายังต้องการลองใช้พลังความแข็งแกร่งของเขาหลังจากการฟื้นตัวศิลปะการต่อสู้
เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มสูงขึ้นสองแดน แต่เขาคิดไม่ถึงว่าด้วยความแข็งแกร่งของแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า กลับไม่ได้เข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง เพียงแค่ใช้คัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานก็สามารถระเบิดพลัง แดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นหกอกมาได้ ก็ไม่ค่อยห่างจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด
เห็นได้ชัดว่าผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนเองก็ไม่ได้ออกแรงเยอะเช่นกัน ถือว่าเป็นการระเบิดความแข็งแกร่งทั่วไป แต่ก็มาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดได้
ดูเหมือนว่าเขาจะถูกกดขี่ แต่จริงๆ แล้วเขาชนะแล้ว เมื่อเขาเข้าสู่สายเลือดคลั่ง เว้นแต่ความแข็งแกร่งขอผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนจะบุกเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดได้ ไม่งั้นก็จะเป็นการยากที่จะเอาชนะหยางเฉินได้
หากหยางเฉินจริงจังเต็มร้อยเขาสามารถพุ่งทะยานเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ดได้ ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนก็เช่นกัน
ดังนั้นหากทั้งสองจะสู้กันจนตายจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในตอนสุดท้าย
แม้จะรู้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะไม่มีโอกาสชนะผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวน แต่หยางเฉินก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ เพราะไม่นานมานี้ เขายังเป็นคนไร้ประโยชน์อยู่เลย
คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ฟื้นฟูการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของเขาเท่านั้น แต่ยังทะลุสองแดนอีกด้วย
จู่ๆผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนก็พูดขึ้นว่า “ถ้านายมีกำลังแค่นี้ ฉันขอแนะนำว่าอย่าเสียเวลาและยอมรับความพ่ายแพ้ซะ”
หยางเฉินเยาะเย้ย: “นายแย่งคำพูดของฉันไปแล้ว เรานำความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเองออกมาสู้กันอย่างจริงจังกันเถอะ!”
เมื่อเสียงสิ้นลง เห็นเพียงดวงตาของเขาค่อยๆ เปื้อนด้วยสีแดงเลือด ออร่าศิลปะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับทำให้เกิดทะเลที่มีพายุกวาดไปทุกทิศทุกทาง
“ปังปังปัง!”
เห็นก้อนหินรอบๆ ตัวเขาแตกเป็นเสี่ยงๆหมด
เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกระตุ้นที่น่าสะพรึงกลัวนี้ สีหน้าของผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนก็เปลี่ยนไปทันที และเขาพูดอย่างเหลือเชื่อ: “นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
“นายมีความแข็งแกร่งเพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าเท่านั้น นายจะระเบิดพลังเทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดได้อย่างไร?”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ แม้ว่าเขาเองก็เป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดเหมือนกัน แต่เขาฝึกฝนมาทั้งชีวิตนับไม่ถ้วน เขาถึงจะประสบความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้เช่นนี้ในปัจจุบันได้
แต่หยางเฉิน ชายหนุ่มที่ดูเหมือนอายุไม่ถึง 30 ปี สามารถระเบิดพลังเหนือสองแดนของเขาได้ในทันที ซึ่งช่างเหลือเชื่อจริงๆ
หยางเฉินเยาะเย้ย: “เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ยังมีอีกหลายสิ่งหลายเรื่องที่นายยังไม่รู้ มาต่อกัน!”
สิ้นเสียงลง ร่างของเขาก็เหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่ที่พุ่งออกไป และพุ่งตรงไปยังผู้พิทักษ์โดยตรง
ใบหน้าของผู้พิทักษ์ตกตะลึง พลังทั้งหมดของเขาระเบิดออกมาในทันที เขายกมือขึ้น และตบด้วยฝ่ามือลงอย่างหนักไปทางหยางเฉิน
“ปัง!”
วินาทีถัดมา หมัดและฝ่ามือของทั้งสองชนกัน ทันใดนั้น ก็มีแรงผลักดันของศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ราวกับก้อนหินที่ตกลงสู่ทะเล ทำให้เกิดคลื่นพายุซึ่งปกคลุมบริเวณโดยรอบ
“ปังปังปัง!”
เห็นเพียงเศษก้อนหินที่แตกกระจายอยู่รอบๆ ทั้งสองคน และพวกเขาก็สั่นสะเทือนทันทีด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ ถึงจะถูกทำร้ายแล้วก็ตาม
ดูเหมือนภูเขาสีเขียวทั้งหมดจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ร่างกายของภูเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
หินนับไม่ถ้วนกลิ้งลงมาจากยอดเขา
พลังต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวได้ปกคลุมทั่วทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน การต่อสู้ของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดนั้นน่ากลัวถึงขั้นนี้นี่เอง
แม้แต่ภายในราชวงศ์ซ่านกวน กษัตริย์ซ่านกวนก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังศิลปะการต่อสู้อันทรงพลัง ใบหน้าของเขาซีดทันที เขาพูดอย่างเหลือเชื่อ: “นี่คือผลกระทบของพลังต่อสู้ของทั้งสองปะทะกัน หยางสู้กับผู้พิทักษ์ราชวงศ์ซ่านกวนจริงๆด้วยงั้นเหรอ? หยางเฉินมีศิลปะการต่อสู้ที่สามารถสู้กับผู้พิทักษ์ได้งั้นเหรอ?”
แน่นอน เขารู้ว่าในราชวงศ์ซ่านกวน ผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวที่สามารถเปล่งออร่าที่น่าสะพรึงกลัวออกมาได้คือผู้พิทักษ์และหยางเฉิน
ใบหน้าผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ก็เปลี่ยนไปอย่างมากโดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ที่ได้รับการช่วยเหลือจากหยางเฉิน ในเวลานี้ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความกังวล
เพราะพวกเขารู้ดีว่า ตราบใดผลของการต่อสู้ของหยางเฉินและผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านยังไม่ออกมา ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนจะไม่มีวันปล่อยซ่านกวนโหรวแน่นอน
ยิ่งกษัตริย์ซ่านกวนกักขังซ่านกวนโหรวไว้นานเท่าไหร่ ราชวงศ์ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
ในเวลานี้ กษัตริย์ซ่านกวนก็ลังเลในใจ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้อันตรายที่ซ่อนอยู่คุกคามราชวงศ์ซ่านกวน ถ้าเกิดหยางเฉินมีชีวิตอยู่ มันจะกลายเป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่ภายในและเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของราชวงศ์ซ่านกวน
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงฝากความหวังทั้งหมดไว้กับผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวน หยางเฉินต้องพ่ายแพ้เท่านั้น ราชวงศ์ซ่านกวนถึงจะตัดอันตรายนี้ไปได้
แต่ว่า สิ่งที่เขาเองก็คิดไม่ถึงก้คือ แม้ซ่านกวนโหรวอยู่ในมือของเขา เขาก็ไม่สามารถข่มขู่หยางเฉินได้ แต่กลับจะทำให้หยางเฉินโกรธ ซึ่งจะทำให้เกิดภัยครั้งใหญ่ให้ราชวงศ์ได้
ยอดภูเขาสีเขียว หยางเฉินระเบิดพละกำลังออกมาทั้งหมด ก็พอดีเลยที่ใช้ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนเพื่อทำความคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งที่พุ่งสูงขึ้นอย่างกะทันหันนี้ได้
ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนไม่มีที่ซ่อนอีกต่อไป ความแข็งแกร่งของแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ดก็ระเบิดในทันที
ทั้งสองพุ่งชนกันอย่างบ้าคลั่ง การปะทะของทุกครั้ง ราวกับว่าทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้เนินภูเขาสีเขียวสั่นสะเทือนไปหมด