พวกกู้เย้นเจิ้งมองหน้ากันทันที ไม่รู้จะทำอะไรดี

แม้ว่าเย่เฉินจะให้พวกเขาไป พวกเขาก็อยากหลบหนีไปอย่างรวดเร็วจริงๆ แต่ว่า ดูเหมือนเย่เฉินจะยังพูดไม่จบ พวกเขาก็ไม่ค่อยกล้าออกไป

เพราะพวกเขายังไม่เข้าใจว่า ที่เย่เฉินพูดนั้นหมายถึงอะไร

เย่เฉินก็ไม่คิดจะให้พวกเขาเข้าใจ

เรื่องแบบนี้ก็เหมือนกับเซียวอี้เชียน ต้องให้พวกเขาลองเองถึงจะดี

ดังนั้น พวกเย่เฉินยังคงอยู่ที่นั่น ยืนบื้อมองไปมองมา และพูดกับฝูงชนโดยตรงว่า:”ภายในสามวินาที ถ้าไม่ไปก็อยู่นี้แหละ!”

กู้เย้นเจิ้งโล่งอกมาก รีบกวักมือเรียกทุกคน:”ไปกันเถอะ!”

คนนามสกุลกู้ไปกันแล้ว เหลือเทพเจ้าสงครามและเจ้าถิ่นที่ยังคุกเข่าอยู่

ทั้งสองคนอยากไปด้วย แต่ขาของพวกเขาไม่มีแรงเลย

เดิมทีขาของพวกเขายังมีแรงเหลืออยู่เล็กน้อย อย่างน้อยก็ฝืนยืนขึ้น และเดินโซเซไปข้างหน้าได้

แต่เนื่องจากคุกเข่านานไป ขาทั้งสองข้างชาสุดๆ ดังนั้นตอนนี้ จึงไม่สามารถลุกขึ้นได้

เมื่อเห็นว่าทุกคนไปกันแล้ว ทั้งสองคนก็กังวลมากจนน้ำตาไหล และเทพสงครามก็พูดสะอึกสะอื้นว่า:”ท่านรอง โปรดพาพวกเราไปด้วยเถอะ ท่านรอง!”

กู้เย้นเจิ้งด่าอย่างโกรธเคือง:”พวกแกมันไร้ประโยชน์! ฆ่าคนก็ฆ่าไม่ได้ เดินก็เดินไม่เป็นแล้วเหรอ?”

เทพสงครามพูดสะอึกสะอื้นว่า:”ท่านรอง ขามันออกแรงไม่ได้จริงๆ……ถ้าผมสามารถยืนขึ้นได้ ผมไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากท่านหรอก…..!”

“เยสเข้……”กู้เย้นเจิ้งสูดลมหายใจ

จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเย่เฉิน และคิดกับตัวเองว่า:”วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หมอนี้มีความสามารถอะไรกันแน่?ทำไมถึงทำให้ลูกน้องทั้งสองคนที่เป็นยอดฝีมือกลายเป็นสภาพแบบนี้ไปได้?”

ต้องรู้ว่า ปกติสองคนนี้เป็นนักฆ่าโดยไม่กะพริบตา พอเคลื่อนไหวฝ่ามือจะเหมือนมีด นิ้วหัวแม่มือแข็งจนสับแท่งเหล็กหนาให้หักได้ด้วยฝ่ามือเดียว ทำไมตอนนี้ถึงยืนขึ้นไม่ได้ล่ะ ?

แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าคิดมาก เรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องจัดการก็คือหนีจากที่นี่ให้ไว หลังจากกลับไปค่อยวางแผนระยะยาว

ดังนั้นเขาจึงพูดกับกู้เหว่ยเลี่ยงและกู้เหว่ยกวงอย่างหงุดหงิดว่า:”เหว่ยเลี่ยง เหว่ยกวง พวกนายทั้งสองพยุงพวกเขาหน่อย!”

ทั้งสองได้แต่ทำตาม เดินไปหาเทพสงครามและเจ้าถิ่น พยุงทั้งสองขึ้นมา และเดินกะเผลกออกไป

กู้เย้นเจิ้งไม่กล้าขู่เย่เฉินอีก แต่เขาคิดรู้เรื่องในใจแล้ว เรื่องในวันนี้ไม่มีทางจบแน่นอน เขาต้องหาทางสับเขาซะ จากนั้นค่อยเอาทรัพย์สินกับครอบครัวพี่ใหญ่

พี่ใหญ่คนเดียวก็มีทรัพย์สินเกือบล้านล้าน ถ้ามันตกไปอยู่ในมือของภรรยาและลูกสาวของเขาจริงๆ ตระกูลกู้จะต้องขาดทุนหนักมาก!

ดังนั้น เขาจงใจพูดกับกู้เย้นจงด้วยสีหน้าบึ้ง:”พี่ใหญ่ พรุ่งนี้บริษัทจะเรียกประชุมคณะกรรมการ ในฐานะที่พี่เป็นประธาน ไม่ว่ายังไงพี่ก็ต้องเข้าร่วม ตอนนั้นจะมีสื่อมวลชนเข้าร่วมด้วย รายละเอียดของคณะกรรมการ ต้องรายงานก.ล.ต. และผู้ถือหุ้น เรื่องนี้สำคัญมาก พี่อย่าลืมเรื่องนี้ล่ะ!”

มีบริษัทและกลุ่มต่างๆ มากมายภายใต้ตระกูลกู้ แค่บริษัทมหาชนจำกัดก็มีหลายแห่งแล้ว มีบริษัทมหาชนในแผ่นดินใหญ่บ้าง มีบริษัทมหาชนในฮ่องกงบ้าง และมีบริษัทมหาชนในสหรัฐอเมริกาบ้าง

แต่ว่า บริษัทหลักที่อยู่เบื้องหลังบริษัทเหล่านี้ก็คือกู้ซื่อกรุ๊ป

มูลค่าตลาดรวมของกู้ซื่อกรุ๊ปรวมกันอย่างน้อย 2 ล้านล้านหยวน แต่หุ้นของกู้ซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่เป็นของเฉพาะของตระกูลกู้ หุ้นบางส่วนอยู่ในมือของผู้ถือหุ้นรายอื่น และหุ้นบางส่วน เป็นหุ้นที่บริษัทมหาชนจำกัดจัดจำหน่าย อยู่ในมือผู้ถือหุ้น

ตระกูลกู้ถือหุ้น 51% ของกู้ซื่อกรุ๊ป ซึ่งมีมูลค่าประมาณหนึ่งล้านล้านหยวน

ภายใน 51% นี้ มี50% อยู่ภายใต้ชื่อกู้เย้นจง กู้เย้นเจิ้งและกู้เย้นกาง ได้คนละ25%