หลังจากล้มป่วย กู้เย้นจงนึกถึงตัวเองในเวลานั้นมานับครั้งไม่ถ้วน

ตัวเองในตอนนั้น ไม่ยอมแพ้เลยจริงๆ! อายุ45แล้ว แต่ยังอยากเป็นหนุ่มวัย 30 อยู่

อันที่จริง ร่างกายของตนในตอนนั้น ดีกว่าคนทั่วไปในวัยเดียวกันจริงๆ แม้ว่าการยกโลงศพขึ้นในครั้งนั้น มันยากมาก แต่ตนก็ทนมาได้!

และตอนนี้ช่วงที่สูงสุดนั้นกลับมาแล้ว!

กู้เย้นจงนั่งบนเก้าอี้ น้ำตาไหลทันที!

เขารู้สึกว่าทั้งหมดนี้ มันต้องเป็นของขวัญจากสวรรค์! ตอนที่ตนกำลังจะตาย แค่หวังว่าจะอยู่รอด ก็ไม่กล้าที่จะหวังว่าชีวิตของตนจะกลับสู่สภาวะสูงสุดนี้!

แต่ว่า ตอนนี้ สิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้นกับตนอยู่!

ในเวลานี้ ปาฏิหาริย์ไม่เพียงเกิดขึ้นกับกู้เย้นจงเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับตาของหลินหว่านชิวและกู้ชิวอี๋อีกด้วย!

ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ได้เห็นใบหน้าขาวซีดของกู้เย้นจง เริ่มกลับไปเป็นสีแดงก่ำอย่างรวดเร็ว

เบ้าตาที่ยุบลงและรอยคล้ำซึ่งเป็นเฉพาะผู้ป่วยระยะสุดท้ายกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว และผมหงอกของเขากลายเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว! แม้แต่รอยย่นบนใบหน้าก็ดูเรียบเนียนด้วยเหมือนกับถูกเตารีดกาลเวลาที่มองไม่เห็นรีดจนเรียบ!

โอ้พระเจ้า! ฉันเห็นอะไร? ฉันเห็นจุดเปลี่ยนของเวลาจริงๆ!หลังจากหลั่งน้ำตาแห่งความเศร้ามากเกินไป น้ำตาแห่งความตื่นเต้นก็ออกมาเป็นครั้งแรก

เช่นเดียวกับกู้ชิวอี๋ น้ำตาของเธอได้ระเบิดออกมาตั้งนานแล้ว แต่เธอไม่กล้าที่จะทำเสียงใด ๆ เพราะกลัวว่ามันจะรบกวนความต่อเนื่องของปาฏิหาริย์

ในช่วงเวลาที่พ่อของเธอป่วย เธอแอบบูชาเทพเจ้าทั้งหมดในโลกที่เธอรู้จัก ขอให้พระเจ้าปรากฏตัว และนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาได้

แต่ว่า หลังจากการสวดขอพรทุกครั้ง กลับแลกความผิดหวังไม่รู้จบ ถึงขั้นสิ้นหวังกลับมา

แต่ใครจะไปคิดว่า พระเจ้าไม่สามารถรักษาพ่อได้ แต่คู่หมั้นที่เธอคิดถึงมานานกว่าสิบปี พี่เย่เฉินที่ตนไล่ตามหลังของเขาในวัยเด็ก ได้พาปาฏิหาริย์ที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลกมาให้พ่อได้!

ร่างกายของกู้เย้นจงยังคงย้อนเวลากลับไป

ในเวลานี้ เขาสัมผัสได้ถึงสภาพวัยสี่สิบปีของเขาแล้ว

ปีนั้น เขาได้ยินคนอื่นพูดว่า มีคนเห็นหนุ่มชาวจีน ในอาร์เจนตินาที่ห่างไกล ชายหนุ่มชาวจีนคนนั้น อยู่ในบัวโนสไอเรสเมืองหลวงของอาร์เจนตินา ทำงานเป็นมัคคุเทศก์รับจ้างให้นักท่องเที่ยวชาวจีน และหาเลี้ยงชีพจากสิ่งนี้ หน้าตาเหมือนพี่ใหญ่ที่เขาเคยสาบานเป็นพี่น้องกันในสมัยนั้น

เมื่อกู้เย้นจงได้ยินข่าวนี้ ก็ตื่นเต้นมาก

เขาจองตั๋วเครื่องบินไปอาร์เจนตินาทันที

อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่ห่างไกลจากจีนมากที่สุด

ไม่ว่าจะเริ่มจากตะวันออกหรือตะวันตก ก็ต้องมีระยะทางเป็นเส้นตรงอย่างน้อย 20,000 กิโลเมตรเพื่อไปที่นั่น

ไม่มีสายการบินพลเรือนที่สามารถบินได้ 20,000 กิโลเมตรโดยไม่หยุด ดังนั้นจึงไม่มีเที่ยวบินตรงจากเย่นจิงไปยังบัวโนสไอเรส

ในตอนนั้น เครื่องบินส่วนตัวของกู้เย้นจงมีพิสัยไกลสุด น้อยกว่า 8,000 กิโลเมตร

แต่ว่า เพื่อที่จะตามหาเย่เฉิน เขาก็รีบออกเดินทางในคืนนั้นโดยไม่ลังเล

เครื่องบินเริ่มออกเดินทางจากเย่นจิง หลังจากหยุดเติมน้ำมันครั้งแรก ก็บินไปยังเมืองแดลดัสของสหรัฐอเมริกาก่อน จากนั้นจึงหยุดแวะเติมน้ำมันอีกครั้งในแดลลัส จากนั้นจึงบินตรงไปยังบัวโนสไอเรสโดยไม่แวะพัก

เวลาบินทั้งหมด ใช้เวลาเกือบสามสิบชั่วโมง

ในช่วงสามสิบชั่วโมงนี้ กู้เย้นจงไม่เคยหลับตาเลย

เขาคิดว่าเขาจะสามารถหาที่อยู่ของเย่เฉินได้ในเวลานั้น ดังนั้นเขาจึงตื่นเต้นมาก จนไม่สามารถพักผ่อนได้เลย

นอกจากนี้ เขาไม่ได้พักผ่อนเกิน 10 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก ดังนั้นเขาทนมา 48 ชั่วโมง แต่ว่า เขาในตอนนั้น ไม่รู้สึกเมื่อยล้าเลย

จนกระทั่งเขาพบชายหนุ่มที่ดูเหมือนพ่อของเย่เฉินจริงๆ และถามว่าเขาไม่ใช่เย่เฉินที่เขากำลังมองหาแล้ว ก็ผ่านไป50กว่าชั่วโมงแล้ว

จนถึงนาทีนั้น เขาถึงรู้สึกไม่มีพลัง และเหนื่อยล้า

และตอนนี้ เขาสัมผัสได้ว่า ร่างกายของเขาย้อนกลับไปในเวลานั้นจริงๆ……

โลกทัศน์หลายสิบปีของเขาถูกล้มล้างในทันที

เขาไม่เข้าใจ ยาศักดิ์สิทธิ์อะไรกันแน่? ที่เย่เฉินให้เขากิน? หรือว่าคือยาวิเศษของไท้เสียงเหล่ากุงในตำนาน? มิฉะนั้น มันจะวิเศษแบบนี้ได้อย่างไร?

ในเวลานี้ กู้เย้นจงที่อายุน้อยลงอย่างน้อยสิบปี ก็ร้องไห้ สะอึกสะอื้นเงียบๆ