ณ ตอนนี้เวลานี้ หลินหว่านชิวกับกู้ชิวอี๋ร้องจนไม่ไหวแล้ว

ทั้งสองคน จับมืออุ่นของเย่เฉินคนละข้าง ตื้นตันใจจนพูดไม่ออก

แม้ว่า กู้เย้นจงไม่ได้รับการทดสอบทางการแพทย์ใดๆ พวกเธอสองแม่ลูกก็ยังไม่ได้รับรายงานที่เชื่อถือได้ว่ากู้เย้นจงได้รับการรักษาหรือไม่ แต่พวกเธอเชื่อในสายตาของตนเอง เชื่อในการวิเคราะห์ของตนเอง และเชื่อว่าตอนนี้เขาหายเป็นปกติแล้ว!

ในฐานะที่กู้เย้นจงเป็นผู้ทดลองผลของยาอายุวัฒนะ เขารู้สถานการณ์ของตัวเองดี ตอนนี้เขามั่นใจ 10,000% ว่าเขาไม่เพียงรักษาหาย แต่ร่างกายของเขายังกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่ออายุสี่สิบปีมาแล้ว…..

สิ่งนี้ทำให้เขาปลาบปลื้มใจ

เขาใช้เวลานาน กว่าจะดึงอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้กลับมาได้ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองเย่เฉิน ในดวงตาของเขา เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

หลังจากนั้น เขาก็ผลักภรรยาและลูกสาวที่อยู่ข้างๆเบาๆ งอขา และคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฉิน

เย่เฉินไม่นึกเลยว่ากู้เย้นจงจะคุกเข่าให้ตัวเอง รีบยื่นมือออกไปพยุง ทำให้เขาไม่สามารถคุกเข่าได้

แต่กู้เย้นจงพยายามดันมือของเขาออกไปตลอด และพูดอย่างเคร่งขรึมและจริงใจว่า:”เฉินเอ๋อ นายสร้างชีวิตใหม่ให้ลุง กราบนี้ ไม่ว่ายังไงนายก็อย่ามาห้ามลุง!”

เย่เฉินโพล่งออกมาว่า:”ลุงกู้ ลุงเป็นพี่น้องร่วมสาบานของพ่อผม เทียบเท่ากับลุงแท้ๆของผม ผมจะรับของชิ้นใหญ่แบบนี้ได้อย่างไร นี่มันทำให้ผมอายุสั้น…..”

กู้เย้นจงส่ายหัวและพูดว่า:”เฉินเอ๋อ นายมีบุญคุณกับลุงมาก แม้ว่าลุงจะมอบทรัพย์สินส่วนใหญ่ของลุงให้นาย ก็เทียบไม่ได้กับบุญคุณนี้เลยสักนิด ดังนั้นไม่ว่ายังไงนายก็ต้องยอมรับกราบของลุง……”

เย่เฉินยังไม่ทันพูด หลินหว่านชิวที่อยู่ข้างๆก็คุกเข่าลงแล้ว กู้ชิวอี๋ก็คุกเข่าลงบนพื้นโดยไม่คิด

หลิวหว่านชิวพูดอย่างสะอื้นว่า:”เฉินเอ๋อ นายมีบุญคุณต่อครอบครัวของเราอย่างมาก ป้าจะไม่มีทางลืมชั่วชีวิต…… ”

กู้ชิวอี๋ที่อยู่ข้างๆก็พยักหน้ารัวๆ:”พี่เย่เฉิน ขอบคุณพี่มากจริงๆ…… ”

ขณะนี้ กู้เย้นจง ยังคงใช้ร่างกายสู้กับเย่เฉิน ยืนกรานที่จะคุกเข่าลงบนพื้น

เมื่อเย่เฉินเห็นแบบนี้ ก็ถอนหายใจ แล้วปล่อยกู้เย้นจง ยืนตัวตรง และพูดอย่างจริงจังว่า:”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมจะไม่หยุดพวกคุณแล้ว แต่หลังจากขอบคุณผมแล้ว พวกเราห้ามพูดเรื่องนี้กันอีก จนตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย พวกไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนดีไหม?”

กู้เย้นจงคุกเข่าลงพื้นทันที และยกกำปั้นขึ้นบนหัวของเขา พูดอย่างจริงใจว่า:”เฉินเอ๋อ ลุงไม่ได้โง่ ลุงมองออกว่านายต้องเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมาก ลุงขอบคุณที่นายให้โอกาสดีๆกับลุง ลุงจะจำไว้ทั้งชีวิต! ถ้าต่อไปมีอะไรที่ต้องการลุง ไม่ว่ายากลำบากแค่ไหน ลุงก็ไม่ขัดขืน!”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย ช่วยพยุงเขาขึ้นมา และพูดว่า:”ลุงกู้ ขอบคุณเสร็จแล้ว กินข้าวได้ยังครับ?”

กู้เย้นจงรีบยิ้มพูดว่า:”มาๆๆ ไปกินข้าวกันต่อเถอะ!”

พูดเสร็จ เขาก็มองไปที่หลินหว่านชิวอย่างตื่นเต้น และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:”คุณ! ไปที่ห้องเก็บของบ้านเรา เอาเหล้าหมาวถายชั้นดีที่ฉันเก็บไว้มา วันนี้ฉันจะดื่มกับเฉินเอ๋อ! ไม่ได้แตะเหล้ามานานกว่าหนึ่งปีแล้ว! ฉันอยากมานานแล้ว!”

หลินหว่านชิวเช็ดน้ำตาไป และยิ้มพูดว่า:”โอเค!พวกคุณนั่งกินข้าวก่อน ฉันจะเอามาเดี๋ยวนี้!”