ตอนที่ 1871: เกราะที่ทรงพลัง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1871: เกราะที่ทรงพลัง

เหตุการณ์ที่เกิดขี้นอย่างฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนในแคว้นนทีครามตกใจ

ในเวลานี้ในเมืองหลักทุกคนได้หยุดสิ่งที่พวกเขาทำโดยไม่มีข้อยกเว้น พวกเขายืนอยู่บนถนนหรือบนหลังคาอาคาร ขณะที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พวกเขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความประหลาดใจ

“เขาเป็นใคร ? เขาถึงได้ถามหาบรรพชนครอบครัวโม่ทันทีที่เขามาถึง เขาอาจจะเป็นศัตรูของครอบครัวโม่…”

ค่ายกลป้องกันในเมืองหลักได้มาถึงขั้นเหนือเทพแล้ว แม้ว่าขั้นเหนือเทพจะต้องการที่จะทำลายมัน พวกเขาก็ยังต้องใช้ความพยายามอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามค่ายกลจะถูกทำลายได้ง่าย ๆ ต่อหน้าผู้อาวุโสผู้นี้ เขาทรงพลังมาก…”

“เขาเป็นขั้นเหนือเทพ เขาต้องเป็นขั้นเหนือเทพและเป็นขั้นเหนือเทพที่ทรงพลัง สวรรค์ ข้าได้เห็นขั้นเหนือเทพแบบใกล้ ๆ จริง ๆ…”

“ยิ่งเขาแข็งแกร่งเท่าไร มันก็ยิ่งดีเท่านั้น ครอบครัวโม่ได้อวดดีอย่างมากภายในเมือง มีหญิงสาวมากมายภายในเมืองที่หายไปเสมอ ๆ ใครจะรู้ว่ามีหญิงสาวกี่คนที่ถูกกระทำทราม ๆ แบบนี้ตลอดปี ข้าหวังว่าผู้อาวุโสคนนี้จะมาทำลายครอบครัวโม่….”

คนนับไม่ถ้วนพูดคุยกันภายในเมือง พวกเขาพูดเบา ๆ หรือใช้ทักษะสื่อสารโดยตรง

ทุกคนในครอบครัวโม่ได้มารวมตัวกันแล้ว พวกเขาจ้องมองไปที่บนฟ้าอย่างโหดเหี้ยม หลายคนหน้าซีดและร่างกายก็เต็มไปด้วยเลือด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาบาดเจ็บ

ไม่เพียงแค่นั้น แต่มีปราณกระบี่ที่ได้ทำลายค่ายกลป้องกันของครอบครัวโม่ก่อนหน้านี้ แต่พลังอัดกระแทกยังคงมีอยู่และทำให้หลายคนได้บาดเจ็บรวมถึงคนของครอบครัวโม่เช่นกัน แม้แต่ค่ายกลป้องกันเมืองทั้งเมืองก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ จากปราณกระบี่

ปราณกระบี่ที่น่าสำพรึงกลัวได้ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ในจิตใจของครอบครัวโม่ หลายคนรู้สึกไม่สบายใจและจ้องมองที่เจี้ยนเฉินก็เต็มไปด้วยความกลัวและตกใจ

“เจี้ยนเฉิน สุดท้ายเจ้าก็มา ข้ารอเจ้ามานานแล้ว”

ในเวลาเดียวกัน มีเสียงโบราณดังออกมาจากครอบครัวโม่ มันสงบและใจเย็นอย่างมาก พร้อมกับไม่ได้อ่อนแอไปกว่าการปรากฏตัวเจี้ยนเฉิน

ชายชราเสื้อดำปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ เหนือครอบครัวโม่ เขาดูสงบ เสื้อคลุมสีดำของเขาพริ้วไหวโดยไม่ต้องแรงลมด้วยพลังของขั้นเหนือเทพที่แผ่ออกมาจากตัวเขา

นอกจากเจี้ยนเฉินแล้วยังไม่มีใครเห็นการปรากฏตัสของชายชรา

“บรรพชนของครอบครัวโม่เราไม่เคยมีความสัมพันธ์ใด ๆ เลย แต่เจ้าก็ไม่ควรจะเอาของของข้าไปเช่นนี้” เจี้ยนเฉินยืนกอดอกอยู่ตรงข้ามเขา เขาจ้องไปที่ชายชราอย่างใจเย็นและพูดว่า “เจ้าจะมอบมันคืนด้วยตัวเองหรือจะให้ข้าเอามันมาเอง ? ”

บรรพชนของครอบครัวโม่หัวเราะดัง ๆ เขาพูดว่า “เจี้ยนเฉิน ข้าประเมิณเจ้าต่ำไปจริง ๆ ข้าไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของเจ้ามาถึงระดับนี้ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ามีพลังมากกว่านี้ล่ะ ? นั่นก็ยังไม่ได้หมายความเจ้าจะเอาชนะข้าได้ หากเจ้าต้องการเอาสิ่งนั้นกลับ เจ้าฝันเฟื่องเกินไปแล้ว”

“มันอยู่กับเจ้ามานานแล้ว ตอนนี้มันเป็นของข้า หากเจ้ามีความสามารถ เจ้าก็เข้ามาได้เลย”

บรรพชนของครอบครัวโม่ใจเย็นอย่างมากราวกับกว่าเขาไม่กลัว แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินในตอนนี้ได้กลายเป็นขั้นเหนือเทพช่วงปลาย เขาก็ไม่แสดงความหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย

“If that’s the case, allow me to witness just what trump card you have hidden that makes you so confident,” Jian Chen’s eyes turned cold. The Startling Rainbow sword appeared in his hands in an instance. He directly stabbed it at the ancestor of the Mo family.

“หากเป็นอย่างนั้น ให้ข้าเป็นพยายามเห็นไพ่ลับของเจ้า ที่เจ้ามั่นใจนักหนา” สายตาของเจี้ยนเฉินเย็นชา กระบี่สายรุ้งที่น่าตกใจปรากฏตัวในมือของเขา เขาแทงมันไปยังบรรพชนของครอบครัวโม่

การโจมตีนั้นรวดเร็วดั่งสายลมและเร็วเหมือนสายฟ้าผ่า มันส่องสว่างสภาพแวดล้อมของบรรพชนครอบครัวโม่

สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวจากการโจมตีของเจี้ยนเฉิน บรรพชนครอบครัวโม่ไม่อาจสงบนิ่งและระงับอารมณ์ได้เหมือนเก่า เขาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

ในสายตาของเขา การโจมตีที่เรียบง่ายของเจี้ยนเฉินประกอบด้วยกฏที่ลึกซึ้งและลึกลับ กระบี่ของเขาดูเหมือนจะผ่ากฏในเขตแดนและมิติ ทำให้ทุกอย่างในโลกเงียบลง มีเพียงกฏของกระบี่ที่ยังคงอยู่

การโจมตีนั้นได้ปิดกั้นทุกสิ่งที่ปรากฏ เขาปิดมิติรอบ ๆ ตัวของเขา ทำให้เขาไม่อาจหลบหนีมันได้

“เขามีพลังขนาดนี้ได้อย่างไร ? เขาเป็นคนที่มีพลังกลับชาติมาเกิดงั้นหรือ ? ” หัวใจของบรรพชนตกต่ำ ในขั้นต้นเขาคิดว่าแม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นขั้นเหนือเทพช่วงปลาย เขาก็ไม่อาจเอาชนะได้ด้วยการป้องกันของเกราะระดับเทพ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจี้ยนได้โจมตีเขาจริง ๆ ทันใดนั้นเขาก็ยังประเมิณเจี้ยนเฉินต่ำไป

บรรพชนของตระกูลโม่ตะลึง ร่างของเขาให้แสงสีรุ้งสลัวทันที มันทำให้เขาตาพร่ามัว

เกราะปรากฏบนร่างกายของเขา มันครอบคลุมเขาอย่างสมบูรณ์ เหลือเพียงดวงตาของเขาเท่านั้นที่เห็นได้

ตูม !

หลังสิ้นเสียง เจี้ยนเฉินใช้กระบี่สายรุ้งที่น่ากลัวฟันเกราะที่บรรพชนครอบครัวโม่สวมใส่

การโจมตีนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก มันยิ่งกว่าพลังของขั้นเหนือเทพช่วงปลายขึ้นไปอีก ด้วยความแข็งแกร่งของบรรพชนในฐานะที่เป็นขั้นเหนือเทพช่วงกลาง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะป้องกันมันได้ ร่างของเขาพุ่งออกไปไกลราวกับลูกกระสุน

ห่างออกไปหลายกิโลเมตร บรรพชนของครอบครัวโม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกครั้งหลังจากที่รู้สึกลำบาก เขารู้สึกว่าอวัยวะภายในของเขาปั่นป่วนขณะที่เขาซวนเซอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามเขาไม่มีบาดแผลเลย

เกราะนั้นป้องกันการโจมตีของเจี้ยนเฉินได้อย่างสมบูรณ์

“เป็นไปได้อย่างไร ? ” สายตาของเจี้ยนเฉินจับจ้องไปที่เกราะตามร่างกายของบรรพจากระยะไกล ดวงตาของเขาหรี่ลง

เขาสามารถบอกได้ถึงที่มาของชุดเกราะนั้น มันเป็นวัตถุเทพที่เสียหายที่บรรพชนครอบครัวโม่ได้เอาจากเขาไปตอนแรก

อย่างไรก็ตามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ บรรพชนตระกูลโม่ได้พยายามซ่อมแซมเกราะที่เสียหายอันนี้

แม้ว่ามันจะเป็นแค่ผิวของเกราะที่ได้รับการซ่อมแซม แต่มันก็ยังทำให้เจี้ยนเฉินตกใจ

มันเป็นวัตถุเทพและมีคุณภาพสูงเช่นกัน มันเสียหายมากจนเกือบจะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง การซ่อมมันเป็นเรื่องยากมาก แม้ว่าจะมีเวลาไม่มีสิ้นสุดก็ยังไม่อาจซ่อมแซมมันได้ด้วยพลังของขั้นเหนือเทพเพียงอย่างเดียว

“แม่เจ้าโว้ย บรรพชนครอบครัวโม่ปลิวออกไปจากการโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียว ตาของข้าไม่ได้ฝาดใช่หรือไม่….”

“คนผู้นี้ทรงพลังอย่างมาก มีการกล่าวกันว่าบรรพชนของครอบครัวโม่เป็นขั้นเหนือเทพช่วงกลาง แต่ต่อหน้าเขา เขาก็ยังไม่อาจหยุดการโจมตีได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว”

ภายในเมืองหลัก กระบวนท่าของเจี้ยนเฉินที่โจมตีใส่บรรพชนครอบครัวโม่ออกไปเพียงครั้งเดียว ทำให้คนทั้งหมดอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ ขณะที่ใบหน้าของเขานั้นแสดงออกถึงความไม่อยากจะเชื่อ

ในสายตาของพวกเขา บรรพชนครอบครัวโม่นั้นอยู่ในจุดสูงสุด เขาเป็นผู้ปกครองคนเดียวในแคว้นนทีคราม เขาทรงพลังมากแม้ว่าจะเทียบกับผู้คนในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด เขาติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของคนเหล่านั้น เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาทำได้เพียงแค่จ้องมองเท่านั้น

อย่างไรก็ตามบรรพบุรุษครอบครัวโม่ไม่อาจรับการโจมตีของเจี้ยนเฉินได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ความแตกต่างนี้ทำให้คนในเมืองต่างตกใจเป็นอย่างมาก

ที่ไกลออกไป ใบหน้าของบรรพชนครอบครัวโม่นั้นเย็นชาทันที จิตสังหารที่ทรงพลังแว่บผ่านดวงตาของเขา ขณะที่เขาคิด “ในเมื่อเจี้ยนเฉินรับรู้ว่าเกราะนี้ถูกข้าซ่อมแซม ข้าจะต้องฆ่าเขาในวันนี้ ไม่อย่างนั้นเขาจะกระจายข่าวออกไป หากว่าไม่อาจรักษาเกราะของเขาไว้ได้” พร้อมกันนั้นบรรพชนครอบครัวโม่หยุดลังเลทันที เขาหันกลับหลังและบินหนีออกไปไกล

“เจี้ยนเฉิน ข้ายังไม่ยุ่งกับเจ้า ด้วยสิ่งนี้ข้าจะสามารถเป็นราชาเทพได้อีกไม่นานนี้ เมื่อข้าเป็นราชาเทพแล้ว ข้าจะกลับมาคิดบัญชีและทำลายตระกูลเจ้า” เสียงของบรรพชนดังขึ้นมาจากระยะไกล เขากระตุ้นเจี้ยนเฉินให้ตามล่าเขา

“และเจ้ายังต้องการเป็นราชาเทพ ? เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น” เจี้ยนเฉินกล่าวอย่างเย็นชา จิตสังหารของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก